หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 369 สนใจในตัวเขามาก

บทที่ 369 สนใจในตัวเขามาก

บทที่ 369 สนใจในตัวเขามาก

“หึ! จากที่ข้าดู ยู่หลิวซูผู้นี้นะ! ก็เพียงใช้ความงามของตัวเองนิดหน่อย ดึงดูดสายตาของพวกคุณหนูครอบครัวขุนนาง นอกจากนี้อะไรก็ทำไม่เป็น อย่างนั้นไล่เขาออกจากตึกฟังงิ้วดีกว่า ไล่ออกจากเมืองหลวง”

“ถูกต้อง ไล่เขาออกไปจากเมืองหลวง”

“……”

ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้เริ่มเอ่ยปากก่อน

ค่อยๆเป็นไป คนที่ต้องการให้ยู่หลิวซูไสหัวออกไปจากเมืองหลวงมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นโยงของไปทางบนเวที

ที่พวกเขาโยนไม่ใช่ผักใบไม้ แต่เป็นถ้วยตะเกียบโต๊ะเก้าอี้……

สุดท้ายเซียวจิ่นหยูปรากฏตัวขึ้น ยังหยุดยั้งการโวยวายเสียงดังเหตุการณ์นี้ลง

เซียวจิ่นหยูไม่พูดอะไรมาก เมื่อมือใหญ่โบกขึ้น ทำให้เถ้าแก่คืนเงินเหรียญให้กับลูกค้า จากนั้นก็ไม่ให้เกียรติแม้แต่น้อย ก็ไล่พวกเขาออกจากร้านไปทั้งหมด

หลังจากที่ไล่ลูกค้าออกไป เซียวจิ่นหยูจึงให้คนพยุงยู่หลิวซูไปพักผ่อน

แน่นอน!

ในลูกค้าเหล่านั้นไม่มีหลานเยาเยา นางได้เหาะขึ้นไปนั่งมองดูอยู่บนหน้าต่างเตี้ยๆชั้นสองที่พันด้วยผ้าโปร่งบางตั้งนานแล้ว อยากดูว่าสถานการณ์จะเกิดขึ้นถึงขั้นไหน

คิดไม่ถึง……

เมื่อเซียวจิ่นหยูมา เพียงครู่เดียวก็แก้ไขแล้ว

ชั่งเป็นกลุ่มคนที่รังแกคนอ่อนแอกลัวคนแข็งแกร่งกว่าและชอบทำตามสถานการณ์ที่ได้เปรียบจริงๆ

เซียวจิ่นหยูมองดูตึกที่เลอะเทอะกระจัดกระจาย ขมวดคิ้ว จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาชั้นสองทันที

ได้เห็นเทพธิดาชุดแดงพอดี นั่งพิงอยู่บนหน้าต่าง ในมือยังมีขนมอยู่จานหนึ่ง กำลังกำลังกินอย่างเอร็ดอร่อยไปพลาง มองดูเขาอย่างดูละครสนุกๆไปพลาง

หลังจากที่โดนพบเห็น

หลานเยาเยาก็ถือจานขนมแล้วเหาะลงมาทันที ลงมาอยู่ด้านหน้าของเซียวจิ่นหยู ยังจะพูดประโยคที่ทำให้คนเหนื่อยอีก

“ท่านคิดไม่ถึงละสิว่ายังมีปลาที่อยู่ในแหที่ขาด!”

“……”

ว่าตัวเองแบบนี้ก็ได้หรือ?

เมื่อรู้ว่านางมาดูละคร เซียวจิ่นหยูก็ไม่มีแสดงอาการใดๆเพิ่ม

รู้อีกว่านางดูละครไม่สำเร็จ ก็ยังอยากจะดูยู่หลิวซูขณะนั้นอีก สีหน้าของเซียวจิ่นหยูก็กระตุกเล็กน้อย

ด้วยเหตุนี้!

แววตาที่แฝงไปด้วยการวิเคราะห์ เซียวจิ่นหยูพานางไปที่ห้องของยู่หลิวซู

ระหว่างทาง สองคนก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อยไม่หยุด

เมื่อถึงห้องของยู่หลิวซู หลานเยาเยากถามขึ้นทันที :

“ทั้งๆที่ท่านอยู่ในตึกฟังงิ้วมาตลอด ทำไมถึงได้เพิ่งออกมาตอนที่ทำลายสถานที่?”

เซียวจิ่นหยูเดินลงมาจากชั้นบน นี่ก็อธิบายได้ว่า ก่อนหน้านี้เขาอยู่ในตึกฟังงิ้วมาตลอด

ในเมื่ออยู่ในตึกฟังงิ้ว นางไม่เชื่อว่า เซียวจิ่นหยูจะไม่รู้คนเหล่านั้นทำให้ยู่หลิวซูตกที่นั่งลำบาก

เพียงแค่คิดไม่ตกว่าทำไมเขาไม่ออกมาหยุดยั้งให้เร็วกว่านี้?

“ให้เขาโดนสั่งสอนสักหน่อยก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้!”

การพูดจาของเซียวจิ่นหยูมีความคลุมเครือ แต่หลานเยาเยากลับฟังเข้าใจแล้ว

“สมควรโดนสั่งสอนสักหน่อยจริงๆ แต่ เขาเป็นใครกันแน่?”

วิทยายุทธกำลังภายในของยู่หลิวซูก็ล้วนไม่เลว ทางด้านการใช้ยาพิษก็มีความเชี่ยวชาญอยู่บ้าง หน้าตายิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง ท่าทางการระบำโดดเด่นดึงดูดผู้คน การร้องเพลงก็ยิ่งล้ำเลิศ

มากความสามารถมากพรสวรรค์เช่นนี้ เป็นเพียงแค่นักแสดงละครผู้ชายเท่านั้น?

พูดออกไปใครจะเชื่อล่ะ?

ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่เชื่อ

“บุคคลผู้หนึ่งที่ปีนออกมาจากในกองคนตาย”

เช่นนั้นก็เป็นบุคคลที่มีเรื่องราว

“ปีนออกมาจากในกองคนตายได้อย่างไร?”

หลานเยาเยาสงสัยมากในเรื่องนี้ วางแผงไว้ความจะถามให้ถึงที่สุด

“อ๋อ~~ท่านสนใจในตัวเขา?”

นี่ทำให้เซียวจิ่นหยูค่อนข้างสงสัย

“อืม!”

เพราะว่านางมีแผนการที่ชั่วร้ายแผนหนึ่งแล้ว

ได้ยินดังนั้น!

ทันใดนั้นเซียวจิ่นหยูก็หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้

“คำพูดนี้หากว่าให้อ๋องเย่ได้ยินเข้า เช่นนั้นคงเป็นเรื่อง? คาดว่าตึกฟังงิ้วของเขานี้คงไม่พอที่จะให้เขาทำลาย”

“……”

เชอะ!

นี่เหตุใดจึงได้ไปเกี่ยวข้องกับเย่แจ๋หยิ่งอีกแล้ว?

ยิ่งไปกว่านั้น

สนใจก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีใจกับคนอื่นเขา ก็แค่สนใจอย่างบริสุทธิ์ใจเท่านั้น

เห็นท่าทางของนาง เซียวจิ่นหยูก็ไม่ได้หยอกล้ออีก และก็พูดด้วยความจริงจัง:

“เดิมทีเขาเป็นคุณชายในครอบครัวขุนนาง บิดามารดากลับถูกคนในราชสำนักใส่ร้าย ถูกตราโทษว่าเป็นกบฏ คนทั้งเจ้านายข้าทาสทั้งจวนเจ็ดสิบกว่าคน ถูกฆ่าตายในสถานที่ตอนกลางวัน

วันนั้นเลือดไหลนองเป็นแม่น้ำ กลิ่นคาวเลือดคลุ้งไปถึงสวรรค์ เขาถูกบิดาปกป้องเอาไว้ในอ้อมกอด แม้ว่าได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังรอดชีวิตมาได้

หลังจากนั้น เพื่อการมีชีวิตรอด เพื่อแก้แค้น เขาร่อนเร่พเนจรไปทั่ว ฝึกซ้อมความสามารถที่มีติดตัว

ความจริง เขามาเมืองหลวงได้เพียงไม่ถึงปี ด้วยโฉมหน้าที่โดดเด่น เข้ามาอยู่ที่ตึกฟังงิ้วด้วยความสามารถเหนือคน มาจนถึงบัดนี้ก็เพิ่งมีระยะเวลาได้แค่ปีเดียว”

เป็นไปดังคาด!

ไม่เพียงแค่เป็นบุคคลที่มีเรื่องราว ทั้งยังเป็นผู้ชายที่มีเรื่องราวที่น่าเศร้าสลดอีกด้วย

สามารถงอได้สามารถยืดได้ สามารถด้านความรู้สามารถด้านการต่อสู้

หลานเยาเยายิ้มอ่อนๆ พูดด้วยความหมายลึกซึ้ง :

“เขาเป็นคนของท่าน?”

ไม่เช่นนั้น ทำไมเซียวจิ่นหยูถึงได้เข้าใจเขาขนาดนี้?

“ล้วนเป็นผู้ที่มีชีวิตลำบาก ให้ที่พักพิงแก่เขาก็เท่านั้น”

กล่าวอีกนัยหนึ่ง

เซียวจิ่นหยูไม่ได้ใช้งานยู่หลิวซู แต่สามารถมองออก เซียวจิ่นหยูยังคงให้ความสำคัญกับยู่หลิวซู

ในส่วนของทำไมเซียวจิ่นหยูไม่เอายู่หลิวซูไว้ใช้เอง

คาดว่าเกี่ยวข้องกับเบื้องหลังของยู่หลิวซู

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง!

เซียวจิ่นหยูมีความข้องเกี่ยวสัมพันธ์ซับซ้อนกับราชวงศ์เก่า และบิดามารดาของยู่หลิวซูก็ถูกคนในราชสำนักปัจจุบันนี้ใส่ร้าย

เหตุผลการใส่ร้าย อาจจะเป็นเพราะบิดามารดาของเขามีเรื่องการแลกเปลี่ยนบางอย่างกับคนในราชสำนัก หลังจากนั้นเกิดการขัดแย้งกัน ดังนั้นจึงทำให้เกิดการใส่ร้ายฆ่าปิดปาก

และก็อาจจะเป็นเพราะ คนในราชสำนักคิดอาจจะได้ของบางอย่างของบิดามารดาของยู่หลิวซู หลังจากถูกปฏิเสธ ก็ประสบกับการโดนท้าร้ายฆ่าปิดปาก

แต่ทว่า!

ข้อแรกมีความเป็นไปได้มากกว่า

ในไม่ช้าก็มาถึงห้องของยู่หลิวซู เซียวจิ่นหยูไม่คิดจะเข้าไป นำทางนางมาถึงประตูห้องก็เดินจากไป

“ก๊อกก๊อกก๊อก……”

หลานเยาเยาเคาะประตูห้องอย่างมีมารยาท

แต่ว่า!

ไม่มีเสียงดังออกมาจากด้านใน ดังนั้นนางจึงผลักประตูห้องเบาๆแล้วเข้าไป

ห้องของยู่หลิวซูมีขนาดเล็กใหญ่พอๆกับห้องส่วนตัวชั้นสอง เพียงแต่การตกแต่งไม่เหมือนกันเท่านั้น

ห้องส่วนตัวชั้นสองมีความงดงามและสุภาพเป็นหลัก แต่ห้องของเขากลับเป็นสีดำทึบเป็นหลัก ไม่เข้ากับการแต่งตัวของเขา

มาถึงในห้อง

กลิ่นฉุนแรงโชยเข้าเต็มจมูกของหลานเยาเยา

มีกลิ่นเครื่องประทินโฉมน้ำผง มีกลิ่นยาที่ไม่น่าดม ยังมีกลิ่นอื่นๆเต็มไปหมด

โดยสรุป!

ทั้งหมดผสมปนเปเข้าด้วยกัน กลิ่นแปลกมาก แต่ก็ถึงกับว่าเป็นกลิ่นที่ไม่น่าดมมาก

ยู่หลิวซูนั่งอยู่หน้ากระจกทองแดง ดวงตาสองข้างมือนิ้วมือที่บาดเจ็บ

แววตาไร้อารมณ์ความรู้สึก

ไม่จุดที่มาบรรจบ

และก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

โต๊ะเครื่องแป้งมีเครื่องประทินโฉมน้ำผงอยู่บ้าง ก่อนที่เขาจะขึ้นเวทีจำเป็นต้องแต่งหน้าอย่างละเอียดงดงาม นอกจากประทินโฉมน้ำผง ยังมีขวดตลับที่ไม่มีชื่ออีกมากมาย

“แฮ่มแฮ่ม!”

หลานเยาเยาจงใจกระแอมเสียงดังออกมา

ทำให้ยู่หลิวซูดึงสติกลับมาได้

เมื่อเห็นคนมาด้านหลัง เขาก็รีบยืนขึ้นจากนั้นคุกเข่ายกมือทำความเคารพ :

“คารวะเทพธิดา!”

การปฏิบัติตัวเหมาะสม สีหน้าท่าทางเป็นตามกฎระเบียบ และไม่มีสีหน้าตกใจ ราวกับว่าเขาคาดเดาการมาถึงของนางไว้แล้ว

หลังจากหลานเยาเยาให้เขาลุกขึ้น ก็หาเก้าอี้ตัวหนึ่งมานั่งเอง จากนั้นก็เอายาจากในแขนเสื้อขวดหนึ่งโยนไปให้เขา

“ทาวันนี้ พรุ่งนี้ก็หายดีแล้ว”

ยู่หลิวซูมองดูขวดเล็กที่แปลกประหลาดหายากที่ดูประณีตอย่างแท้จริง ไม่ได้สงสัยว่าเป็นยาคุณภาพต่ำอย่างแน่นอน

แต่ว่า!

ก็ไม่ได้เชื่อทั้งหมด คำไร้สาระที่ว่าวันนี้ทาพรุ่งนี้หายเป็นปลิดทิ้ง

“นี่คือ……”

เขารู้สึกงงมาก เขาไม่เข้าใจว่าเทพธิดาเอายาให้เขามีความหมายว่าอะไร

ทั้งๆที่รู้ว่านางมาอย่างไม่ประสงค์ดี แต่เมื่อมาถึงก็ให้ยาแก่เขา และยังไม่ใช่ยาพิษอีก นี่ทำให้เขาค่อนข้างงงงวย

“ยาที่ดีมากๆ หายากในโลกนี้ รีบทายา ทาเสร็จแล้วจะได้พูดเรื่องที่เป็นทางการ”

“……ได้ขอรับ!”

ทำไมฟังดูคล้ายๆกับ ‘รีบกิน กินเสร็จแล้วจะได้เดินทาง ’ ความรู้สึกนั่น?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท