หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่372 สนใจได้แต่พวกเตี้ยน่าเกลียดอ้วน

บทที่372 สนใจได้แต่พวกเตี้ยน่าเกลียดอ้วน

บทที่372 สนใจได้แต่พวกเตี้ยน่าเกลียดอ้วน

ท่าที่สาม?!

ในสมองของหลานเยาเยา มีภาพประกอบท่าที่สามปรากฏขึ้นมาแทบจะทันที……

ตู้ม……

ทันใดนั้นหลานเยาเยาก็รู้สึกว่าเลือดลมพุ่งขึ้น เหมือนหัวจะระเบิดออกมา

ให้ตายเถอะ!

นางไม่ได้ว่างไม่มีอะไรทำจนไปหาหนังสือภาพลามกมาดูนะ!

ด้วยความสัตย์จริง นางดูถึงท่าที่เก้าสิบเก้าเอง แล้วก็ไม่ได้ดูอะไรมาก

พอถึงอาหารเย็นก็ทนความหิวไม่ไหว โยนหนังสือไปที่หัวเตียงแล้วไปกินข้าวเย็น

นางยังคิดอยู่เลยว่าคืนนี้จะดูท่าที่เหลือไว้ไม่กี่ท่าให้หมด!

คิดไม่ถึงว่าตอนนี้เย่แจ๋หยิ่งจะมาเห็น……

นางจะบ้าแล้ว!

จากที่เย่แจ๋หยิ่งเตือน หลานเยาเยาก็ดีดตัวขึ้นมาราวกับสปริง พูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มแดงก่ำว่า:

“เย่แจ๋หยิ่ง เจ้าออกไป”

ในตอนนี้นางคิดแค่อยากจะหารูมุดเข้าไป มันช่างน่าอาย

“เยาเยา พวกเรามาลองกันไหม?”

เสียงของเย่แจ๋หยิ่งทุ้มต่ำ น่าดึงดูด มีเสน่ห์ที่สุด

สายตาของหลานเยาเยาถลนออกมาแล้วก็รีบมองไปทางอื่น ปิดหูตัวเองทันที ไม่อยากได้ยินเขาพูดอีก

“ไม่ลอง ข้าไม่รู้จักเจ้า เจ้าอย่ามาพูดกับข้า”

“แต่ก็เห็นๆอยู่ว่าใบหน้าเจ้าเขียนว่าเต็ม……”

“ไม่มี ไม่มี ไม่ได้เขียนอะไรทั้งนั้น เย่แจ๋หยิ่งเจ้าอย่าเข้ามา ไม่……”

เมื่อเห็นว่าเย่แจ๋หยิ่งเดินเข้ามา ปฏิกิริยาโต้ตอบแรกของหลานเยาเยาก็คือหนี

แต่จะเร็วกว่าเย่แจ๋หยิ่งได้ที่ไหน?

เมื่อถูกจับได้ ก็ถูกปิดปากไว้

หลังจากถูกเย่แจ๋หยิ่งปล่อย

นางก็ทำได้เพียงทุบอกเขาด้วยความโมโห ที่จริงมันเหมือนกับการจั๊กจี้

“ยังจะหนีอยู่อีกหรือไม่?”

เย่แจ๋หยิ่งผ่อนลมหายใจ ถามเสียงแหบ

“หนีอะไรกัน ที่นี่คือห้องบรรทมของข้า คนที่ต้องไปก็คือเจ้า”

หลานเยาเยาที่คิดว่าตนเองพูดอย่างอารมณ์ไม่ดี แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อไปอยู่ที่หูเย่แจ๋หยิ่งจะกลายเป็นการออดอ้อน

เขาก็เกิดดีใจ ระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่อีกต่อไป

“อ้า ทำให้ข้าเหงานอนไม่หลับมาตั้งนาน คืนนี้ไม่ปล่อยไปง่ายๆแน่”

พูดจบ!

เย่แจ๋หยิ่งก็โบกแขนยาวๆ ผ้าม่านบางเบาสีแดงก็ลงมารวมกันทันที……

วันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าก็ปรากฏฟ้าสีขาวรุ่งอรุณ

ผ้าม่านบางที่สั่นไหวมาทั้งคืน ในที่สุดก็หยุดลง

เย่แจ๋หยิ่งเอาหลานเยาเยาเข้ามาไว้ในอ้อมแขน แล้วพูดเสียงเบาว่า:

“เยาเยา ของหมั้นข้าเก็บไว้สามโกดัง เจ้าหาฤกษ์ดีๆไปย้ายพวกมันเข้าตำหนักเทพธิดาเถอะ!”

ของหมั้นสามโกดัง?

ต้องคุยโวขนาดนั้นเลยหรือ?

หลานเยาเยาใจเต้นแรง แต่พอคิดถึงเรื่องราวที่ยังจัดการไม่เสร็จอีกมากมาย นางก็ถอนหายใจเบาๆ

“ตอนนี้แบบนี้ก็ดีแล้ว”

“ถ้าเจ้ากังวลไม่ย้ายมาก็ไม่เป็นไร คืนนี้ก็กลับจวนกับข้า ไปเอาของหมั้นทั้งหมดเก็บไว้ใน……”

เย่แจ๋หยิ่งหยุดไปชั่วขณะ

จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าสิ่งที่หลานเยาเยาเอาไว้เก็บของมากมายนั้นเรียกว่าอะไร

“พื้นที่การรักษาโรคภัยไข้เจ็บ!”

หลานเยาเยาก็คิดเช่นนั้น!

แต่พอคิดถึงความจุของพื้นที่การรักษาโรคภัยไข้เจ็บเหลือไม่มากแล้ว นางก็ถอนหายใจอีกครั้ง

“พื้นที่จะไม่พอแล้ว ของหมั้นเอาไว้ที่เจ้าชั่วคราวก่อน”

“งั้นพวกเรากราบไหว้ฟ้าดินก่อนไหม?”

เย่แจ๋หยิ่งรู้สึกว่า เวลานี้คือเวลาที่หลานเยาเยาพูดด้วยดีที่สุดก็ต้องรีบคว้าโอกาสไว้

“ไม่ใช่ว่ากราบไปแล้วหรอ?”

“เมื่อไหร่?” เย่แจ๋หยิ่งสงสัย

“สามปีก่อน” หลานเยาเยาพูดรวบกระชับ

“……”เย่แจ๋หยิ่งรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “เยาเยา นั่นไม่เหมือนกัน”

“เหมือนๆกัน ทุกคนก็คิดว่าข้าตายไปแล้ว แต่ข้าไม่ได้ตาย ข้ายังเป็นพระชายาเย่ของเจ้าอยู่”

“สามีภรรยาแยกกันอยู่มีที่ไหนกัน?”

“เจ้าสามารถมาอยู่ที่นี่ทุกคืนได้นี่!”

พูดจบ

หลานเยาเยาถึงเริ่มรู้สึกว่าผิดปกติ

จากนั้นดวงตาที่ปิดอยู่ก็ค่อยๆเปิดออก

ให้ตาย!

โดนหลอกเข้าแล้ว

เย่แจ๋หยิ่งนี้นี่ เห็นๆอยู่ว่านางเหนื่อยจนไม่อยากขยับ แล้วก็ไม่อยากคิดอะไรมาก เขากล้ามาหลอกนางได้ยังไง?

มีอย่างที่ไหนกัน

“เย่แจ๋หยิ่ง。”

“อื้ม ข้าน้อมรับคำสั่ง หลังจากนี้ทุกคืนจะมาอยู่กับเยาเยา” น้ำเสียงที่เขาพูดเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

หลานเยาเยารีบหันตัวกลับมาอยากจะชี้แจงเหตุผลกับเขา ก็ต้องเห็นเย่แจ๋หยิ่งตั้งใจแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน จึงไปรบกวนเขา

ทั้งสองทะเลาะกันอยู่สักพัก

เย่แจ๋หยิ่งถึงยกเรื่องนึงขึ้นมาพูดกับนาง

“สองวันมานี้ มีคนหนึ่งชื่อว่ายู่หลิวซูอยากมาขอพึ่งพาข้า ในทุกๆด้านของเขาก็พอใช้ได้ เจ้าคิดว่าข้าควรให้เขามาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งสำคัญหรือไม่?”

“เจ้ากล้าใช้ก็ลองดู? เขาถูกลิขิตให้มาเป็นคนของข้า”

สำหรับสิ่งนี้!

หลานเยาเยามุ่งมั่นว่าจะต้องได้

แต่เย่แจ๋หยิ่งเดิมทีมีรอยยิ้มอยู่ จู่ๆก็ไม่สบอารมณ์

“ดูท่าข้าจะต้องจับตาดูเจ้าตลอดเวลา ไม่อย่างนั้น ถ้าไม่จับตาดูแว็บเดียว เจ้าก็ไปสนใจชายอื่นแล้ว”

“……”

เอ่อ……

หึงรุนแรงจริงๆ

ไม่ใช่ว่าใช้คำผิดนะ!

“ไม่สนใจ ไม่สนใจก็แค่สำนักหงอีขาดผู้ใช้แรงงาน จึงขอเขาไปเป็นแรงงาน”

แบบนี้ก็คงได้แล้วแหล่ะ!

“ครั้งหน้าก็สนใจคนที่อ้วนเตี้ย”

ถ้าหน้าตาดี เขาต้องระมัดระวังตลอดเวลา งั้นวันหลังถ้าสำนักหงอีของนางกระจายไปทั่วแผ่นดินใหญ่ ไม่ใช่ว่าเขาต้องเอากำลังทหารทั้งหมดไปจับตาดูการกระทำคำพูดของพวกเขาหมดเลยรึไง?

“……”

——

คุกสิงปู้

“เต้ง เต้ง เต้ง……”

“เอาอาหารขึ้นโต๊ะ เอาอาหารขึ้นโต๊ะ รีบลุกเร็ว”

เมื่อถึงเวลาเอาอาหารขึ้นโต๊ะ ผู้คุมไม่กี่คนก็เดินเข้ามา

ผู้คุมสองคนต่างถือแท่งเหล็กคนละอัน แยกกันเดินสองด้าน แล้วถือเอาแท่งเหล็กเคาะประตูเหล็กของห้องขังตลอดทาง

ผู้คุมสี่คนที่ตามอยู่ด้านหลัง ก็ไม่ได้ต่างไปจากผู้คุมสองคนแรกนัก แบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายนึงเดินไปด้านนึง

ผู้คุมที่เดินนำหน้าถือถังไม้คอยตักข้าวให้แก่ทุกคนในห้องขัง ผู้คุมที่อยู่ด้านหลังก็ทำหน้าที่ตักกับข้าว

เพราะทุกวันทำงานเดิมซ้ำๆ และคนที่ควบคุมที่นี่แทบจะเป็นคนที่ดูชั่วร้ายทั้งนั้น ดังนั้นทัศนคติที่ผู้คุมมีต่อพวกเขานั้นนับว่าเลวร้าย

คนที่เอาถ้วยมารับข้าวรับกับข้าวไม่ทัน พวกเขาก็เอาอาหารเทไว้บนประตูเหล็ก

ดังนั้น!

ในสถานการณ์ปกติ

เมื่อถึงเวลากินข้าว เหล่านักโทษแย่งกันมาอยู่ตรงข้างประตูเหล็ก แล้วกลิ่นเหม็นก็ตลบอบอวลไปทั่วห้องขัง

เมื่อเหล่าผู้คุมเดินมาถึงห้องสุดท้าย ก็เห็นคนที่นอนนิ่งไม่ขยับอยู่บนกองฟาง พวกเขาจึงยื่นคอยาวแนบกับประตูเหล็กเพื่อดู

ชุดนักโทษสะอาดสะอ้านไม่มีรอยเลือด แม้จะไม่พอดีตัว แต่ก็สามารถเห็นสัดส่วนรูปร่างอ่อนช้อย

แล้วยังมีใบหน้าสวยงามกลมขาวรูปไข่ นอกจากมีรอยเปื้อนเล็กๆน้อยๆ ก็ยังคงสดใสงดงามอยู่

“น่าเสียดายคนที่งดงามขนาดนี้ ถ้าได้สัมผัสเสียหน่อย……”

“เจ้าอย่าแม้แต่จะคิด! นางคือหลานจิ่นเอ๋อ ไม่ใช่นักโทษธรรมดา ไม่ว่าจะอยากได้ขนาดไหนนางก็ไม่ขยับ”

“ถ้าจะให้ข้าพูดนะ! ก็ใช้โอกาสตอนที่ใต้เท้าช่างชูจัดการเรื่องงานศพของลูกสาวเขาอยู่ไม่มีเวลามาควบคุม พวกเราเหล่าพี่ชายก็มามีความสุขกันสักสองสามคืนสิ? ยังไงนางก็เหมือนคนกำลังจะตาย”

พวกเขาไม่กี่คนคุกเข่าอยู่ตรงประตูเหล็ก พลางมองคนด้านในพร้อมกับพูดจาหยาบคายอย่างไม่เกรงกลัว

คาดไม่ถึงว่า……

ด้านหลังของพวกเขา มีคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ สิงปู้ช่างชูก็อยู่ในนั้น โดยมีหญิงสาวสวมชุดคลุมสีแดงเลือดเป็นผู้นำ

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท