บทที่ 385 ติดกับอีกแล้ว
เป็นเขาหรือ
จะเป็นไปได้อย่างไร
เขาได้ตายไปแล้วไม่ใช่หรือ
เขาถูกยู่หลิวซูรัดคอจนเสียชีวิต จื่อเฟิงและจื่อซีต่างก็เห็นกับตาตัวเอง ตอนนี้ทำไมเขาถึงยืนอยู่ต่อหน้านางได้อีก
“เป็นเจ้า!”
“ไม่ผิด ข้าเอง”
คนคนนั้นเหมือนจะพอใจกับปฏิกิริยาของนางเป็นอย่างยิ่ง ถึงกับส่งเสียงหัวเราะเยาะออกมา
“คิดไม่ถึงเลยว่าคนอย่างเจ้าจะแกล้งตาย ทำให้ข้าได้เปิดหูเปิดตา”
คนคนนี้ทำให้นางคาดไม่ถึงจริงๆ!
เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ!
ไม่สามารถดูหมิ่นใครได้เลย
หลานเยาเยาดึงเส้นไหมสีเงินกลับ จับดาบยาวที่แย่งมาจากในมือของชายคนนั้นไว้แน่น และมองไปยังคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยความสนใจ
“มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เทพธิดาคาดไม่ถึง! ต้องการให้ข้าพูดทีละเรื่องหรือไม่”
ไม่ผิดแน่
คนที่อยู่ตรงหน้านี้ ก็คือองค์ชายสี่ที่ได้ “ตาย” ไปแล้ว
“งั้นก็ดี ข้ากลับอยากรู้แล้วสิ ว่าเจ้าแอบเล็ดลอดหนีไปอย่างแยบยลได้อย่างไร”
หลานเยาเยามองไปที่เย่หลีเฉินในโลงศพทองคำ เย่หลีเฉินในขณะนี้ได้หมดสติไปแล้ว อีกทั้งเลือดในช่องท้องได้ไหลออกมา
ไม่ได้การแล้ว!
เมื่อกี้ยังไม่ได้กินยาถอนพิษเข้าไป ตอนนี้ก็ได้รับบาดเจ็บหนักอีก
หากรอให้นาง ‘พูดคุยอย่างอิสระ’ กับองค์ชายสี่จบ คาดว่าเลือดของเขาก็คงไหลจนแห้งหมดแล้วดังนั้น!
หลานเยาเยาโบกมือ และดึงเย่หลีเฉินออกจากด้านในโลงศพทันที
ทันใดนั้น
“ไปตายซะ!”
เจตนาของการฆ่าที่ดุดันได้พุ่งเข้ามาจากด้านหลัง มุ่งตรงไปหมายเอาชีวิตของหลานเยาเยา กำลังภายในมีความแข็งแกร่งและรุนแรง
อย่างไรก็ตาม
สิ่งเหล่านั้นที่อยู่ตรงหน้าของหลานเยาเยาก็ล้วนเป็นสิ่งเล็กๆ ที่ไม่ควรใส่ใจ
สำหรับคนที่ต้องการจะฆ่าตนเอง นางจะชะล่าใจได้อย่างไรอีก
รู้อยู่แล้วว่าองค์ชายสี่จะต้องแอบลงมือ ดังนั้นในขณะที่เขาลงมือ นางจึงพลิกมือทำการปัดป้องกำลังภายในขององค์ชายสี่ และใช้หมัดต่อยลงไปบนร่างกายของเขา
องค์ชายสี่ถูกตีจนลอยไปไกลมากทันที จากนั้นก็หล่นลงบนพื้นอย่างหนัก และกระอักเลือดออกมา
“เฮือก เฮือก เฮือก……”
หลานเยาเยาวางเย่หลีเฉินลงบนพื้นอย่างระมัดระวัง
จากนั้นทำความสะอาดบาดแผลให้เขา และได้นำสิ่งของจำพวกผ้าพันแผลและยาน้ำออกมาจากด้านในช่องว่างเพื่อพันแผลให้กับเย่หลีเฉินโดยไม่หลีกเลี่ยงเลยแม้แต่น้อย แล้วทำการถอนพิษ
ทุกอย่างล้วนเป็นไปอย่างราบรื่น
องค์ชายสี่ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน มองไปยังเทพธิดาที่สามารถหยิบสิ่งของออกมาจากกลางอากาศได้ และยังมีของจำนวนมากมายที่เขาล้วนแต่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ในตอนแรกเขาคิดว่าตนเองมองผิดไป
หลังจากขยี้ตาอย่างอดไม่ได้ ก็ยังเห็นเทพธิดาสามารถเสกของออกมาได้ตามอำเภอใจ จากนั้นก็ได้อ่อนแรงทรุดลงกับพื้นในพริบตา
ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว
“เจ้า……เจ้า……เจ้าเป็นใครกันแน่ เอาของออกมาจากอากาศได้อย่างไร”
นางเป็นเทพธิดาที่ไหนกัน
เห็นชัดๆ อยู่ว่าเป็นภูตผีที่สามารถเปลี่ยนสัตว์ประหลาดได้ ผู้คนบนโลกต่างก็ถูกนางทำให้ลุ่มหลง
หลานเยาเยาไม่ได้สนใจเขา และยังคงพันแผลให้เย่หลีเฉินต่อไป
กระทั่งหลังจากนางจัดการจนเสร็จอย่างรวดเร็ว
นางจึงลุกขึ้นยืน และเดินไปหาองค์ชายสี่ละก้าว
“รู้ไหมทำไมถึงให้เจ้าได้มองเห็นสิ่งเหล่านี้” นางงอมุมปาก และมองไปที่เขาอย่างแผ่วเบา
“เจ้าคิดจะทำอะไร”
องค์ชายสี่เอามือทาบอก ค่อยๆ ถอยหลัง สีหน้าตื่นตระหนกด้วยความหวาดกลัว
เขาไม่ได้โง่
การรู้ในสิ่งที่ไม่ควรรู้ จุดจบนั่นก็คือความตาย
“เจ้าออกแบบให้ข้ามาที่นี่ ไม่ลังเลที่จะวางยาพิษองค์ชายรัชทายาท ไม่ใช่เป็นเพราะคิดจะฆ่าข้ารึ!
ทำไมหรือ
เพียงอนุญาตให้เจ้าฆ่าข้า และยังไม่อนุญาตให้ข้าฆ่าเจ้าอย่างนั้นหรือ”
เพียงแต่
หลานเยาเยายังไม่เข้าใจอยู่เล็กน้อย
ตอนนี้นางเป็นที่เกรงใจ ทุกคนต่างต้องการพาตัวนางเข้าไปยังค่ายของพวกเขา ผนวกกับเรื่องของยาฉางตาน ไม่ต้องพูดถึงการฆ่านาง การปกป้องนางก็ยังสายเกินไป!
แต่เพราะเหตุใดองค์ชายสี่ถึงเลือกที่จะฆ่านางในเวลานี้
เรื่องนี้ค่อนข้างจะน่าเหลือเชื่ออยู่นิดเหน่อย
“ข้าคือองค์ชายสี่แห่งประเทศก่วงส้า เสด็จพ่อเป็นฮ่องเต้ เสด็จพี่เป็นองค์ชายรัชทายาท เสด็จอาคือ อ๋องเย่ แม้ว่าเจ้าจะไม่เกรงกลัวเสด็จพ่อและเสด็จพี่ อย่างนั้นเจ้าก็ควรที่จะเกรงกลัวอ๋องเย่บ้าง!
หากเจ้าสังหารข้า เสด็จอาคงจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่นอน”
แม้ว่าเสด็จอาจจะอย่เหนือผู้คน แต่ก็ไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตา
แต่!
ตั้งแต่โบราณมา เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ หากเขามีเหตุเป็นอะไรไป อ๋องเย่ก็ไม่อาจที่จะนิ่งเฉยได้
“จุ๊ๆ องค์ชายสี่นะองค์ชายสี่ เจ้าลืมไปหรือเปล่าว่าเจ้าได้กลายเป็นคนตายไปนานแล้ว ตอนนี้เพียงแต่จะทำให้เจ้าได้ตายอย่างสมบูรณ์สักหน่อย”
ตอนนี้
หลานเยาเยาได้มาถึงด้านหน้าขององค์ชายสี่ กำลังเตรียมจะลงมือ แต่กลับมองเห็นรอยยิ้มที่ประสบความสำเร็จขององค์ชายสี่ปรากฏออกมา
“เทพธิดา เจ้าติดกับแล้ว”
เพียงได้ยินเสียง “ฉ่า” องค์ชายสี่ก็รีบย้ายตัวออกไปในทันที
บนกำแพงทั้งสี่ด้านของห้องสุสานหลัก จู่ๆ ก็มีรูขนาดเล็กที่ถี่ยิบปรากฏขึ้น กลไกก็เปิดออกทันที กรวยเหล็กทรงกระบอกเรียวยาวหลายหมื่นหลายพันอันที่แหลมคม พุ่งเข้ามาจากทุกทิศทางราวกับพายุฝน
ความเร็วของกรวยเหล็กนั้นรวดเร็วมาก
แต่ความเร็วของหลานเยาเยานั้นเร็วกว่า
ชั่วพริบตาเดียว ก็ย้ายมาอยู่ข้างกายของเย่หลีเฉิน นำตัวเขาโยนเข้าไปในโลงศพทองคำโดยตรง
แต่นางไม่ทันจะกระโดดเข้าไปในโลงศพทองคำ ก็ใช้กำลังภายในเหวี่ยงอาวุธที่ซ่อนอยู่มาด้านหน้า
จากนั้นโบกแขนเสื้อสีแดง
เพื่อปัดป้องอาวุธที่ซ่อนอยู่ที่กำลังจะเข้ามายังโลงศพ
จากนั้นร่างก็ดูเหมือนจะกลายเป็นภาพติดตา ราวกับภูตผีทั่วไป ที่แวบไปรอบๆ โลงศพทองคำ
ในที่สุด
หลังจากแท่งน้ำแข็งแหลมซึ่งเป็นอาวุธลับเหล่านั้นได้โจมตีออกมาจนสิ้น หลานเยาเยาก็ล้มลงกับพื้นทันที
นางคุกเข่าลงข้างหนึ่ง มือข้างหนึ่งค้ำไว้ที่พื้น มืออีกข้างหนึ่งจับอาวุธลับที่องค์ชายสี่ถือโอกาสปล่อยออกมา แอบยิงเข็มพิษเข้ามาที่นาง
เส้นที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อย ก็ร่วงหล่นลงมาราวกับน้ำตก มาปกปิดใบหน้าของหลานเยาเยา
จากนั้น
นางค่อยๆ เงยหน้าขึ้น
ริมฝีปากเริ่มมีสีม่วงเล็กน้อย สีหน้าดูไม่ค่อยจะดีนัก มองไปยังองค์ชายสี่ที่ซ่อนตัวอยู่บนทางเดินที่ยื่นไปสู่ประตูของสุสานหลัก
“ต่ำทราม!”
“แปะแปะแปะ”
องค์ชายสี่ที่ประสบความสำเร็จตามแผนการได้ปรบมือ พลางเดินเข้ามาอย่างระแวดระวัง
“นึกไม่ถึงเลย! เทพธิดาผู้ที่สูงส่งเหนือใครๆ ไม่มีใครอยู่ในสายตา แม้แต่เสด็จอาก็ยังไม่กล้าวุ่นวาย ตอนนี้ต่อหน้าข้า กลับต้องจนตรอกแบบนี้ ช่างเป็นเรื่องที่น่าสะใจจริงๆ”
“พิษนี่……”
หลานเยาเยาทิ้งเข็มพิษที่อยู่ในมือออกไปแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ยืนพิงโลงศพทองคำ สายตามองไปยังบาดแผลบนฝ่ามือของตนเอง
แม้ว่าฝ่ามือของนางจะไม่มีบาดแผล เพียงแต่เข็มพิษสัมผัสถูกผิวหนัง
นางก็จะถูกพิษทันที
อีกทั้งเข็มพิษได้สัมผัสโดนบาดแผลที่ฝ่ามือของนาง พิษก็จะกระจายไปอย่างรวดเร็ว……
“ตัวพิษนี้ไม่ใช่ยาพิษที่จะคร่าชีวิตได้ในทันทีทันใด ผลที่ใหญ่ที่สุดของมันก็คือทำให้สูญเสียพลังไปในระยะเวลาอันสั้น ร่างกายอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง
ยิ่งเป็นคนที่มีวรยุทธกำลังภายในเก่งกล้ามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเห็นผลชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น
ทว่า หลังจากมันผสมกับหมอกที่ทำให้คนเกิดภาพลวงตาพวกนั้นที่ด้านนอก พิษก็จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า”
องค์ชายสี่กล่าวอย่างมั่นใจมาก
ราวกับว่าพิษที่เขาวางนั้นมีฤทธิ์ที่รุนแรงมากอย่างไรอย่างนั้น
สายตาเฉียบคมของหลานเยาเยาหันไปมององค์ชายสี่ในทันที กระตุกมุมปากยิ้มอย่างเยาะเย้ย
“รุนแรงมากอย่างนั้นหรือ”
เมื่อสัมผัสถึงสายตาอันเฉียบคมของเทพธิดา เห็นได้ชัดว่าองค์ชายสี่ที่รู้สึกว่าตนเองเป็นผู้ชนะ ทันใดนั้นภายในใจก็เกิดความกลัวขึ้นอีกครั้ง
เมื่อสังเกตท่าทีของเทพธิดาครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดก็หัวเราะลั่นขึ้นมา เพื่อปกปิดความวิตกกังวลภายในใจ
“รุนแรงหรือไม่รุนแรง ตอนนี้เทพธิดาก็ตัวแล้วไม่ใช่หรือ”
จากนั้น เขาก็หัวเราะเยาะ และกล่าวต่อไปว่า
“เทพธิดามีความห้าวหาญจริงๆ จนถึงเวลานี้แล้ว ยังกล้าเผชิญหน้าอย่างไม่หวั่นไหว
เพียงแต่เสียดายท่าทางที่มีเสน่ห์ของเจ้า และใบหน้าที่สง่างาม
หากไม่ใช่ว่าถูกวางยาพิษในตอนนี้ ข้าก็ไม่อาจจะสามารถอดกลั้นร่างกายของตัวเองไว้ได้”