หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 388 เศษซากของราชวงศ์เก่า

บทที่ 388 เศษซากของราชวงศ์เก่า

บทที่ 388 เศษซากของราชวงศ์เก่า

“บางทีนางอาจจะไม่ได้ต้องการคำขอโทษจากผู้ใด”

การขอโทษมีประโยชน์อะไรกัน

เจ้าของเดิมได้ตายไปแล้ว เจ็บปวดไปแล้วก็คือเจ็บปวดไปแล้ว การกล่าวคำขอโทษไม่สามารถชดเชยความผิดพลาดที่เขาทำลงไปได้

“ใช่นะสิ!”

หลังจากนั้นนางก็ไม่แม้แต่จะชายตามองเขา

เมื่อยืนยันแล้วว่าเย่หลีเฉินไม่ได้สงสัยสถานะของนาง และรู้สึกละอายใจกับตนเอง นางกระตุกริมฝีปากเบาๆ

“เจ้ายังเดินไหวไหม”

ยาที่ใช้พันแผลให้กับเย่หลีเฉิน ล้วนแต่เป็นตัวยาที่ดีที่สุดในช่องว่างที่ระบบรักษาของนาง แม้ว่าจะไม่อาจทำให้เขาแข็งแรงมีชีวิตชีวาได้ในพริบตา แต่เขาก็ยังจะพอเดินได้แล้ว!

“ก็น่าจะได้”

“ดูจากแบบแผนในการก่อสร้างสุสานหลวง ที่นี่ไม่ได้มีทางออกเพียงทางเดียว

ในเรื่องนี้หลานเยาเยามั่นใจมาก

ก็ตัวอย่างเช่นเสามังกรแกะสลักขนาดใหญ่พวกนั้น และยังมีโลงศพทองคำที่มีราคาแพงที่สุด ทั้งกว้างทั้งหนักอึ้ง คนเจ็ดแปดคนก็ไม่สามารถยกขึ้นได้

และเส้นทางก็ถูกปิดกั้นด้วยหินใหญ่น้ำหนักเป็นพันชั่ง และค่อนข้างแคบ ซึ่งดูแล้วไม่มีทางที่จะเคลื่อนย้ายเสามังกรแกะสลักและโลงศพทองคำเข้ามาได้เลย

ดังนั้น!

อย่างน้อยก็ต้องมีทางออกขนาดใหญ่สักทาง

เมื่อเห็นว่าเทพธิดากำลังมองไปรอบด้านเพื่อมองหาทางออกอื่น เย่หลีเฉินที่ค่อยๆ ออกมาจากในโลงศพก็ได้เตือนขึ้นทันที

“ที่นี่ทุกด้านล้วนเป็นกลไก เจ้าระวังด้วย”

“วางใจเถอะ” นางก็ไม่ใช่คนโง่

เมื่อมาถึงโครงกระดูกทั้งสามโครงอีกครั้ง หลานเยาเยาใช้สายตามองไปยังโครงกระดูกของเด็ก และถามอย่างสงสัย

“ทำไมในบรรดาคนเฝ้าสุสานถึงมีเด็กด้วย”

“พวกเขาไม่ใช่คนเฝ้าสุสาน น่าจะเป็นพวกเศษซากของราชวงศ์เก่า”

ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาเข้ามา ก็ได้เห็นโครงกระดูกทั้งสามโครงเช่นกัน

หื้ม

เศษซากของราชวงศ์เก่าหรือ

ทำไมพวกเขาถึงมาตายอยู่ในสุสานหลวงที่นี่

เมื่อเห็นว่านางกำลังมึนงง เย่หลีเฉินจึงพูดด้วยสีหน้าเศร้า

“เสด็จพ่อเป็นคนช่างสงสัย แม้ว่าความพินาศของราชวงศ์เก่าจะเป็นเพราะเกิดภัยไฟจากฟ้า แต่เขาก็ยังกลัวราชบัลลังก์จะไม่มั่นคงเพราะถูกพวกเศษซากของราชวงศ์เก่าโค่นล้ม

ไม่นานหลังจากที่ขึ้นสู่บัลลังก์ฮ่องเต้ เขาก็ได้ยินว่า ยังมีสายเลือดของราชวงศ์เก่าที่ยังมีชีวิตอยู่ จึงได้แอบตามหาอยู่สองสามปี และในที่สุดก็พบเบาะแสของพวกเขา

และได้แอบส่งคนไปตามฆ่าพวกเขา เขาหมดทางจึงได้หลบหนีมายังสุสานหลวง หลังจากนั้นเสด็จพ่อก็สั่งให้คนปิดประตูของห้องสุสานหลัก พวกเขาจึงต้องตายทั้งเป็นอยู่ในนี้”

องค์ชายของราชวงศ์เก่าตายแล้วหรือ

จะเป็นไปได้อย่างไรกัน

คนที่ตายไปนี้น่าจะเป็นเพียงตัวแทน

เย่หลีเฉินกุมหน้าท้องเดินมายังด้านข้างของหลานเยาเยา เพียงแค่มองไปยังโครงกระดูกทั้งสามโครง เสียงของเทพธิดากลับดังขึ้นมาข้างหู

เจ้าคิดว่าคนของราชวงศ์เก่าตายหมดแล้วหรือยัง”

“ยังหรอก เสด็จพ่อยังคิดจะใช้ราชลัญจกรหยกของราชวงศ์เก่าเพื่อกำจัดพวกเศษซากที่เหลืออยู่ซึ่งคอยสนับสนุนราชวงศ์เก่าไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว”

พูดจบ เย่หลีเฉินก็มองไปที่หลานเยาเยา

“ไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียวเลยหรือ”

“อืม!”

“เทพธิดา ขอถามอะไรเจ้าสักคำถามได้ไหม”

“เจ้าว่ามา”

หลานเยาเยามองไปยังเย่หลีเฉินอย่างแผ่วเบา มองไปที่สีหน้าของเขา ดูเหมือนจะรู้ว่าเขาต้องการถามอะไร

“เจ้ามายังเมืองหลวงเพื่ออะไรกันแน่”

เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาได้รับรายงาน เทพธิดาปรากฏตัวขึ้นที่ใด ทุกที่ก็จะเกิดการนองเลือดอย่างบ้าคลั่ง

เช่นกรณีของประเทศเชียนหลิง

กรณีของประเทศซีเม่า

หรือแม้แต่กรณีของประเทศผึงไหลก็เช่นเดียวกัน

ประเทศที่แข็งแกร่งทั้งสี่ ตอนนี้เหลือเพียงประเทศก่วงส้าของพวกเขาแล้ว

อีกทั้งเทพธิดาได้มาถึงเมืองหลวงประเทศก่วงส้าแล้ว เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ก็ได้เกิดเรื่องขึ้นมากมาย มีเรื่องไหนกันที่ไม่สะเทือนเมืองหลวง

แต่…

นอกจากเรื่องของยาฉางตานแล้ว

เรื่องอื่นที่เหลือก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับนางเลยแม้แต่น้อย มีบางครั้งที่นางต้องช่วยเขาด้วยซ้ำ

“เพื่ออวยพรให้ปวงประชานะสิ!”

เสียงของหลานเยาเยานั้นทอดยาวและมีเสน่ห์ ดูเหมือนจะเจือด้วยรอยยิ้ม

“ใช่สิ! เพื่ออวยพรปวงประชา”

ประเทศเชียนหลิงแห้งแล้งมาตลอดปี หลังจากเทพธิดาปรากฏตัว ฝนก็ตกไม่หยุด และยังนำน้ำจากแม่น้ำเข้ามายังพื้นที่แห้งแล้ง ระงับการจลาจล

สงครามกลางเมืองของประเทศซีเม่า ทำให้ราษฎรในประเทศซีเม่าได้รับความทุกข์ทรมาน และนางก็สามารถระงับสงครามกลางเมืองได้อย่างรวดเร็วที่สุด

สำหรับประเทศผึงไหล……

อันที่จริงเกิดอะไรขึ้นที่ในประเทศผึงไหล พวกเขาก็ไม่อาจจะสืบค้นได้ชัด พวกชนเผ่าภาคเหนือที่กระทำแต่ความชั่วช้าก็ถูกเทพธิดาเก็บกวาดจนเกลี้ยง

ทันใดนั้น!

สายตาเย่หลีเฉินก็ตกตะลึง ประหลาดใจเมื่อพบว่าที่พื้นดินเริ่มมีหมอกขึ้นมา

“เกิดอะไรขึ้นหรือนี่”

“น่าจะเป็นกลไกถูกเปิดแล้ว” นี่เป็นเพียงการคาดการณ์ของนาง

แต่มีบางสิ่งที่สามารถยืนยันได้ หมอกควันที่เกิดขึ้นมาที่นี่ ไม่ใช่เมฆหมอกพวกนั้นที่อยู่ด้านนอกห้องสุสานหลัก เพราะหมอกควันพวกนี้เกิดขึ้นมาจากพื้นดิน

“พวกเราเพียงแค่มาถึงที่นี่ ล้วนแต่ไม่ได้สัมผัสกับกลไกใดๆ”

“ตอนนี้ไม่มี ไม่ได้หมายความว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยมีมาก่อน น่าจะเป็นหลังจากที่ก้อนหินใหญ่พันชั่งตกลงมา ก็เลยไปสัมผัสถูกกลไกด้านในนี้ แต่เพียงมีเวลาแตกต่างกันเล็กน้อย”

คำพูดขององค์ชายสี่ก่อนเสียชีวิต ดังก้องขึ้นในหูอีกครั้ง “ในเมื่อข้าไม่อาจมีชีวิตออกไปได้ อย่างนั้นก็ให้พวกเจ้าถูกฝังไปพร้อมกับข้า”

องค์ชายสี่มีความคุ้นเคยกับสุสานหลวงแห่งนี้เป็นอย่างดี

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หากก่อนตายได้สัมผัสกับกลไก ในขณะเดียวกันกับตอนนี้หินใหญ่พันชั่งได้ตกลงมาก็น่าจะไปสัมผัสถูกกลไกอื่นๆ

หรือบางที……

กลไกที่องค์ชายสี่ไปสัมผัสจะเป็นกลไกการเปิดปิดห้องสุสานหลัก ซึ่งเหมือนกับระเบิดเวลา ที่มีการกำหนดเวลาไว้อย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลาก็จะสามารถกระตุ้นกลไกได้ตัวของมันเอง

“อย่างนั้นพวกเราจะต้องทำอย่างไร”

หมอกควันเหล่านั้นมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าจะมีพิษหรือไม่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอน พวกนี้ไม่ใช่หมอกควันธรรมดา หากไม่สามารถหาหนทางแก้ไขได้ พวกเขาก็อาจจะต้องตายอยู่ด้านในนี้

“หาทางออกอื่น”

ขณะนี้เหลือเพียงวิธีนี้เท่านั้น

“ได้”

ทั้งสองคนเริ่มแยกย้ายกันค้นหา หลานเยาเยามาถึงกำแพงที่องค์ชายสี่ใช้กระบี่สัมผัสกับระบบ และกดลงไปยังส่วนเว้าบริเวณนั้น

ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น

ในเวลานี้หมอกควันได้กระจายมาถึงครึ่งน่องแล้ว อีกทั้งยังกระจายไปอย่างรวดเร็ว หลานเยาเยาเริ่มมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี

ดังนั้น

นางเร่งค้นหาทางออกอย่างรวดเร็ว

แต่พวกเขาค้นหากลับไปมาหลายต่อหลายครั้ง แม้แต่เคลื่อนโลงศพออกไปพวกเขาก็ทำแล้ว แต่กลับไม่พบสถานที่ต้องสงสัยใดๆ

เมื่อสายตาของหลานเยาเยามองไปยังโลงศพทองคำ จากนั้นก็เคลื่อนสายตาไปมองบนฝาโลงศพของโลงศพทองคำ

สีหน้าวูบวาบเล็กน้อย

ฝาโลงศพถูกพิงไว้กับผนัง ห้องสุสานหลักนี้ นอกจากโลงศพทองคำที่พวกเขาเคลื่อนย้ายไม่ได้แล้ว ก็ยังมีฝาโลงศพทองคำที่พวกเขายังไม่ได้เคลื่อนย้ายอีกเช่นกัน

นางอาจจะได้พบทางออกอื่นก็เป็นได้……

ในขณะนี้!

“ฉึกฉึก……”

“แกรกแกรก……”

มีเสียงดังมาจากในสุสานดูเหมือนฝาโลงศพจะทับไว้ไม่ไหว จึงมีเสียงที่กำลังจะแตกดังขึ้นมา

นอกจากนี้ยังมีเสียงเหมือนการบิดข้อต่อกระดูกของมนุษย์

“เทพธิดาระวัง มีบางสิ่งบางอย่างกำลังออกมาจากพื้นดิน”

หลานเยาเยาได้ยินดังนั้นจึงมองไปยังพื้นดิน

ในตอนนี้หมอกควันได้แพร่กระจายไปจนถึงไหล่ของเขา หมอกควันนั้นไม่ได้หนามาก ยังสามารถมองเห็นพื้นได้อย่างขมุกขมัว

เห็นเพียงมีบางอย่างสั่นอยู่ที่เท้า จากนั้นจึงได้เห็น……

หนึ่งชิ้น…

สองชิ้น…

สามชิ้น…

……

จนกระทั่งถึงห้าชิ้น…

จู่ๆ โครงกระดูกนิ้วมือทั้งห้าชิ้นที่ขาวซีดได้โผล่ออกมาจากพื้นดิน จากนั้นก็มีนิ้วทั้งห้านิ้วก็โผล่ขึ้นมาจากพื้นอีก

ตามมาด้วยฝ่ามือ แขน ศีรษะ……

จนกระทั่งโครงกระดูกทั้งหมดคลานออกมาจากพื้นดินอย่างสมบูรณ์ ดวงตาที่กลวงโบ๋มีไฟลึกลับอยู่สองดวง เปล่งแสงสีฟ้า ท่าทางดูน่ากลัว

มันมีความสูงเจ็ดฟุต ยืนอยู่ตรงหน้าหลานเยาเยา ห่างกันเพียงแค่ครึ่งก้าว ทั่วทั้งร่างส่งกลิ่นเหม็นเน่า……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท