หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 415 ถ้าเชื่อใจได้ก็ตามข้ามา

บทที่ 415 ถ้าเชื่อใจได้ก็ตามข้ามา

บทที่ 415 ถ้าเชื่อใจได้ก็ตามข้ามา

เทพธิดาที่อยู่เหนือมวลชน ที่ประชาชนมากมายเลื่อมใสศรัทธาในวันนั้น วันนี้กลับถูกตาเฒ่าคนหนึ่งไล่ตามจนวิ่งไปรอบตำหนัก ยอมแม้กระทั่งหลบซ่อนอยู่ในกองหญ้า แม้แต่ข้าวเย็นยังต้องให้เขาแอบส่งมาให้

พูดออกไปใครจะเชื่อ?

“ไม่ได้ถูกสะกดรอยตามใช่ไหม? ตาเฒ่าหนังเหนียวนั่นรับมือได้ยากจริงๆ”

เห็นสายตาระแวดระวังเล็กๆของคุณหนูตน จื่อเฟิงกระตุกมุมปากอย่างหาได้ยาก จากนั้นกระแอมไอเบาๆ

“คุณหนูวางใจได้”

พูดจบก็ยื่นอาหารที่อยู่ในมือให้กับนาง

“ยังดีที่เป็นเจ้า ถ้าเป็นจื่อซี คาดว่าคงถูกตาเฒ่าหนังเหนียวจับได้แล้ว” หลานเยาเยารับอาหารมาแล้วก็เริ่มกินขึ้นมา

ในช่องว่างที่ระบบรักษาไม่มีของเหลือแล้ว ไม่อย่างนั้นนางก็คงไม่หิวขนาดนี้ ที่สำคัญคือตาเฒ่าหนังเหนียวรู้นิสัยใจคอนางดีเกินไป

สถานที่ที่ซ่อนตัวเมื่อวานกับเมื่อวานก่อนไม่สามารถซ่อนตัวได้แล้ว ทำให้นางต้องหลบๆซ่อนๆไปทั่ว นี่เป็นตำหนักเทพธิดาของนางนะ!

กินข้าวไปครึ่งหนึ่ง เห็นว่าจื่อเฟิงมีอะไรจะพูด

เลยถาม: “มีข่าวร้ายอะไรใช่ไหม?”

“อืม!” จื่อเฟิงพยักหน้าอย่างจริงจัง

หลานเยาเยาเอามือก่ายหน้าผากทันที ถอนหายใจอย่างจนปัญญาเฮือกหนึ่ง: “เจ้าพูดเถอะ! ข้าเตรียมใจเอาไว้แล้ว”

“คุณหนู ค่อยพูดหลังกินข้าวเสร็จแล้วดีกว่า!”

เอ่อ……

ร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรือ?

นางมองดูจื่อเฟิงด้วยความสงสัย ถ้าเป็นจื่อซียังมีการล้อเล่นกับนางเป็นครั้งคราว แต่กับจื่อเฟิงแล้วไม่มีเลย ดังนั้นนางจึงรีบสวาปามข้าวไปสองสามคำ หลังจากที่กินอิ่มแล้ว

ก็ทำท่าทางพร้อมยอมรับชะตากรรม: “เจ้าพูดเถอะ!”

“พ่อบ้านสั่งให้คนเฝ้าห้องหนังสือ ห้องบรรทม ห้องยา ประตูหลัง แม้กระทั่งกำแพงก็ยังเฝ้าเอาไว้แล้ว ขอเพียงเห็นแค่เงาของท่าน พวกเขาก็จะส่งสัญญาณให้ซึ่งกันและกัน จะต้องบีบบังคับให้ท่านพูดถึงสาเหตุที่แตกหักกับอ๋องเย่อย่างสิ้นเชิงออกมาให้ได้”

ทีนี้หลานเยาเยาเบิกตากว้าง ท่าทางปวดหัวมาก

ตาเฒ่าหนังเหนียวคนนี้ร้ายมากจริงๆ นางเป็นเจ้าสำนักของพวกเขานะ! กล้าปฏิบัติต่อนางเช่นนี้ นี่จะก่อกบฏกันใช่ไหมเนี่ย?

ที่นี่ก็น่าจะไม่ปลอดภัยแล้ว นางจะต้องหาที่ที่ปลอดภัยกว่านี้ ดูท่า นางจะต้องซ่อนลงไปใต้ดินเหมือนยู่หลิวซูกับถิงเมี่ยนซะแล้ว

หลานเยาเยารู้สึกว่าวิธีนี้ใช้ได้

เวลานี้ จื่อเฟิงถามด้วยความสงสัย “คุณหนู ทำไมท่านไม่บอกความจริงกับพวกเขา”

“ยังไม่ใช่เวลา เมื่อพวกเขาไม่สามารถทำอะไรข้าได้แล้ว ก็จะเชิญตาเฒ่าเย่นมาคุมนางเอง”

ตาเฒ่าเย่นตาแก่เวร

ปัดความรับผิดชอบไปนานหลายปีขนาดนี้ ยังจะชักช้าไม่ยอมปรากฏตัว นางจะต้องบีบเขาไม่ใช่หรือ?

ทันใดนั้น!

“นังเด็กเวร ในที่สุดก็หาเจ้าเจอ ดูสิว่าครั้งนี้เจ้ายังจะหนีไปไหนได้?”

เสียงนี้ดังออกมา หลานเยาเยาก็รู้สึกหลอนแล้ว

แม่เจ้า!

เร็วขนาดนี้? !

นางมองไปที่จื่อเฟิงทันที สงสัยอย่างแรงว่าเขาเป็นคนแพร่งพรายความลับ

จื่อเฟิงรีบส่ายหน้าทันที

เขาระวังตัวอย่างมาก ไม่ถูกสะกดรอยตามอย่างแน่นอน พ่อบ้านจะต้องเป็นคนหาเจอเองแน่ๆ

หลานเยาเยาไม่มีเวลาสอบสวนจื่อเฟิงแล้ว เห็นตาเฒ่าหนังเหนียววิ่งมาทางพวกเขา นางขยิบตาให้จื่อซีอย่างรวดเร็ว ทั้งสองรีบวิ่งหนีไปอย่างเร็วมากทันที

สุดท้ายก็ไปซ่อนตัวอยู่ในคุกมืดถึงได้รอดพ้นจากการไล่ตามของตาเฒ่าหนังเหนียวได้

ทั้งสองวิ่งจนเหงื่อเต็มหน้าผาก ในที่สุดตอนนี้ก็สามารถพักหายใจได้เสียที

แต่ไม่ช้า พวกเขาก็พบสายตาที่แปลกประหลาด

ทั้งคู่มองไปทางประตูเหล็กพร้อมกัน พบว่านักฆ่าที่ถูกพวกเขาจับได้ก่อนหน้านั้นยังถูกขังอยู่ข้างใน อีกทั้งยังมองพวกเขาอย่างมึนงง

หลานเยาเยามองไปที่จื่อเฟิงอย่างสงสัย คล้ายกับกำลังถามว่า: เขายังไม่ตาย?

จื่อเฟิงช่วยนางไขข้อสงสัยทันที: “ตั้งแต่วันนั้นที่เขาบอกทุกอย่างออกมาแล้วจากนั้นก็ไม่มีใครสนใจเขาอีกเลย”

แน่นอนว่าไม่มีใครสนใจในที่นี้ หมายถึงการไม่ลงทัณฑ์ ข้าวยังส่งให้ตามปกติ ไม่อย่างนั้นศพของนักฆ่าคนนี้ตอนนี้คงจะเหม็นเน่าไปแล้ว

“เอาเขาไปขังที่อื่น”

ตอนนี้ตกอับจนถึงขั้นต้องแย่งชิงห้องขังกับนักโทษ นางก็จนใจมากเช่นกัน

จากนั้น จื่อเฟิงก็พาตัวนักฆ่าไป

หลังจากนั้นไม่นาน ในตอนที่เขากลับมาอีกครั้ง ในมือถือจดหมายกองหนาเอาไว้

นี่คือสิ่งที่หลานเยาเยาสั่งให้เขาไปเอามาจากห้องหนังสือ ก่อนที่จะพานักฆ่าออกไป

เยอะแยะขนาดนี้

ดูเหมือนหลายวันมานี้คนที่มาเยี่ยมทักทายถึงที่ คงใกล้จะเหยียบธรณีประตูพังแล้ว

“มีบัตรเชิญของจวนเฉิงเสี้ยงไหม?”

“เรียนคุณหนู มี ถังมู่หวั่นจากจวนเฉิงเสี้ยงสั่งให้คนส่งมา เชิญคุณหนูท่านไปชมดอกไม้ที่สวนว่างฮัว เพื่อเป็นการขออภัยและไถ่โทษ”

“สวนว่างฮัว? !”

ง่วงนอนก็มีคนส่งหมอนมาให้จริงๆ!

“จะตอบกลับไหม?”

“ยังไม่ตอบชั่วคราว รอให้นางเชิญเป็นครั้งที่สองค่อยตอบ”

หลังจากที่จื่อเฟิงไปแล้ว หลานเยาเยาจับปอยเส้นผมเล่นอยู่ในมือ

ยังมีเวลาสักพักก่อนจะไปทะเลทรายสั่งสอนฮ่องเต้ที่ใช้แผนยุให้แตกคอแล้ว ก็ควรจะต้องสั่งสอนคนที่ใช้แผนยุให้แตกคออีกคนแล้วเช่นกัน

เพื่อให้เทพธิดาคนที่สองสามารถออกไปข้างนอกได้

เวลากลางดึกหลานเยาเยาก็ออกจากตำหนักไปเงียบๆแล้ว

เดินอยู่บนถนนใหญ่อย่างไร้จุดหมาย

ตอนนี้ใกล้จะถึงยามจื่อ(ห้าทุ่มถึงตีหนึ่ง) บนถนนหนทางว่างเปล่าไม่มีคนอยู่เลย แม้แต่บ้านที่อยู่ข้างถนนทั้งสองฝั่งก็ดับไฟไปแล้ว

ท้องฟ้าในคืนนี้มีพระจันทร์แขวนอยู่ และแสงจันทร์ยังส่องสว่างไสวมาก แต่เดินไปเดินไปนางก็พบความผิดปกติ

มีคนกำลังสะกดรอยตามนางอยู่……

วรยุทธของคนคนนั้นต้องสูงมากแน่ หากไม่ใช่ว่าคนคนนั้นไม่ระวังตัว น่ากลัวว่าจนถึงตอนนี้นางจะยังไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ

นางกำลังคิดหาวิธี ดูสิว่าจะหลุดพ้นจากคนที่สะกดรอยตามอย่างไรดี จู่ๆก็เห็นข้างหน้ามีผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินมาทางนาง

คนคนนั้นสวมชุดสีขาว สูงและผอม ในมือถือเหล้าไว้ขวดหนึ่งเดินมาอย่างโซซัดโซเซ ดูเหมือนจะเมาเล็กน้อยแล้ว

แต่ว่า……

หลานเยาเยากลับรู้สึกคุ้นเคยกับคนนี้เล็กน้อย

รอให้เขาเดินเข้ามาใกล้แล้วมองดู นางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย นี่ไม่ใช่ซื่อจื่อเซียวจิ่นหยูของจวนเจ้าพระยาซื่อสัตย์หรอกหรือ?”

คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญขนาดนี้?

มาได้ดีไม่สู้มาได้ถูกจังหวะ ในเมื่อพบกันโดยบังเอิญแล้ว เช่นนั้นก็……

สายตาของหลานเยาเยาเป็นประกายเล็กน้อย เข็มเงินปรากฏขึ้นมาในมือในชั่วพริบตา จากนั้นไม่พูดพร่ำทำเพลงจู่โจมไปที่เซียวจิ่นหยูโดยตรง ด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก คนทั่วไปไม่สามารถหลบเลี่ยงออกไปได้

แต่เป็นเซียวจิ่นหยูก็ไม่แน่แล้ว

เขาเมาเล็กน้อยแล้ว แต่สัญชาตญาณการระวังตัวสูงมาก หลบหลีกเข็มเงินที่นางยิงออกไปได้อย่างง่ายดายมาก จากนั้นหมุนตัวแวบเดียวก็มาถึงตรงหน้านาง

เดิมอยากจะลงมือกับนาง หลังจากที่เห็นใบหน้านางชัดเจนแล้วก็หยุดชะงักไปทันที

“เจ้าเองหรือ”

เขาสงสัยมาก กลางดึกเช่นนี้ทำไมเทพธิดาถึงปรากฏตัวที่นี่? แถมยังลอบทำร้ายเขาด้วย

หลายวันก่อน เรื่องที่นางกับเย่แจ๋หยิ่งจากเพื่อนกลายเป็นศัตรูกันร่ำลือไปทั่ว หรือว่านางจะรู้ว่าเขากับเย่แจ๋หยิ่งแอบไปมาหาสู่กันอย่างลับๆ ดังนั้น……

“เซียวซื่อจื่อ ทำไมถึงเป็นท่าน?” หลานเยาเยาแสร้งทำประหลาดใจ กล่าวอย่างระมัดระวังตัวว่า “คิดว่าเป็นคนที่มาลอบสังหารข้าเสียอีก ไม่ทราบว่าดึกขนาดนี้แล้วทำไมเซียวซื่อจื่อถึงปรากฏตัวที่นี่ได้?”

เมื่อคำพูดนี้ออกมา

เซียวจิ่นหยูขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ “เจ้ากำลังสงสัยข้า”

เขายกขวดเหล้าในมือขึ้นมา ยกไปทางนาง กลิ่นเหล้าที่หอมกลมกล่อมก็วนเวียนอยู่ที่ปลายจมูกของหลานเยาเยา อย่างไรก็ลืมไม่ลง

“ถูกลอบสังหารจนชินแล้ว เห็นใครก็รู้สึกน่าสงสัยไปหมด ก่อนหน้านั้นถูกนักฆ่าลอบสังหาร ตอนนี้ก็ถูกคนสะกดรอยตาม และเซียวซื่อจื่อก็บังเอิญปรากฏตัวขึ้นพอดี จะไม่ให้คนสงสัยขึ้นมาได้อย่างไร แต่ว่า ตอนนี้ดูท่าจะเป็นการเข้าใจผิดกัน”

ลอบสังหาร?

สะกดรอย?

ครั้งนี้ สมองของเซียวจิ่นหยูปลอดโปร่งขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว ตาทั้งคู่ของเขามองสังเกตไปรอบๆๆอย่างระมัดระวัง ดูเหมือนจะพบความผิดปกติเช่นกัน

ดูท่าเทพธิดาไม่ได้หลอกเขา นางแค่คิดว่าเขาเป็นมือสังหาร ดังนั้นถึงลงมือกับเขา

“คนที่อยู่ในที่ลับน่าจะเก่งมาก ข้ารู้จักสถานที่ที่ปลอดภัยที่หนึ่ง หากเทพธิดารู้สึกว่าเชื่อใจข้าได้ ก็ตามมา”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท