บทที่ 424 ยังไงซะแพ้แล้วก็ไม่ตาย
ชายอัปลักษณ์วัยกลางคนถูกทำให้ตกใจกลัวแล้ว จากนั้นเข้าก็ถ่มน้ำลายบนพื้น จากนั้นก็ดึงเข็มเงินออกจากตัวเอง โยนลงบนพื้นด้วยความโกรธแค้น
เช็ดคราบเลือดด้วยความเจ็บปวด หลังจากหายาผงหยุดเลือดนิดหน่อยโรยที่บาดแผล แล้วฉีกผ้าอย่างสุ่มสี่สุ่มห้ามาพันบนบาดแผล
หลังจากที่ทำเสร็จ ก็กล่าวอย่างโหดเหี้ยมว่า :
“แม้เจ้าเดายาที่ข้าปรุงออกมาได้ แต่นี่ก็เป็นเพียงความบังเอิญเท่านั้น เจ้าผู้หญิงสารเลวผู้นี้ ยังสามารถปรุงยาที่แม้แต่ข้าก็ดมไม่ออกได้เชียวหรือ?
แม่สาวงามตัวน้อย เจ้าก็อดทนๆก่อนเถอะ รอพี่ชายเดายานี้ของเจ้าออกมา จะต้องเอ็นดูเจ้าอย่างดีแน่นอน”
ในปากพูดจาด้วยคำพูดที่น่าเกลียด แต่ในใจกลับแอบคิด กล้าใช้เข็มแทงมือเขา รอหลังจากเขามีความสุขสบายใจดีแล้ว จะต้องให้นางตายทั้งเป็นเหมือนผู้หญิงคนอื่น
เพียงแต่
เมื่อเขาถือกระปุกยาไว้ในมือ หลังจากที่ค่อยเปิดฝาดมไปครู่หนึ่งแล้ว สีหน้าก็แข็งทื่อ
นี่คือกลิ่นอะไร?
ดมไม่ออกแม้สักนิดเลย!
เขาก็ดมอีกครั้ง แต่ก็ยังดมไม่ออก ตอนแรกเริ่มยังเกรงว่ายามีพิษ ดังนั้นเห็นได้ชัดว่าค่อนข้างระมัดระวัง
แต่หลังจากที่ดมมาสองสามครั้งแล้ว ชายอัปลักษณ์วัยกลางคนหน้าถอดสีแล้ว ภายใต้สายตาของบรรดาผู้คน เขาถึงขั้นเปิดฝาออกจนหมด และเอาจมูกเข้าใกล้ปากกระปุกดมอย่างละเอียด จนกระทั่งเริ่มสังเกตสีของยาผงที่ถูกบดเป็นผงละเอียด
สุดท้าย แล้ว
ก็เลยเอายาผงเทลงบนโต๊ะทำงาน มองดูจนตาลายแล้วก็ใช้ตากวาดดูต่ออีก ภายใต้การหลบเลี่ยงสายตาของเขา บนหน้าผากมีเหงื่อละเอียดผุดขึ้นมาเต็มไปหมด
หลังจากชั่วขณะหนึ่ง!
เขาก็นั่งลงที่พื้นอย่างห่อเหี่ยว สีหน้าซีดเผือดอย่าไร้ที่เปรียบ
วิญญาณของเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนานแล้ว ส่ายหัวอย่างแรงที่สุด ในปากพึมพำกับตัวเอง :
“ทำไมข้าถึงดมไม่ออก? เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ นี่นี่จะเป็นไปได้อย่างไรล่ะ? นี่ต้องมีตรงไหนผิดพลาดเป็นแน่…….”
หญิงสารเลวผู้หนึ่งเท่านั้น เขาจะประลองฝีมือไม่ชนะได้อย่างไร?
ดังนั้นเขาจึงรีบจ้องมองทางหลานเยาเยาอย่างโหดเหี้ยม
“ต้องเป็นเจ้าแน่ เป็นเจ้าผสมของที่ไม่ใช่วัสดุปรุงยา ดังนั้นข้าถึงได้ดมไม่ออก ไม่เช่นนั้น ด้วยจมูกที่ว่องไวกว่าสุนัขของข้าจะดมออกมาไม่ได้ได้อย่างไร?
เจ้าผู้หญิงสารเลวผู้นี้ จิตใจโหดร้ายยิ่งนักนะ เพื่อจะชนะข้า คิดไม่ถึงแม้จะเป็นวิธีที่ต่ำช้าเช่นนี้ก็ล้วนทำออกมาได้ พวกเจ้าทุกคนว่าใช่หรือไม่?”
ประโยคสุดท้ายของเขา เห็นได้ชัดว่าพูดกับบรรดาผู้คนที่อยู่ด้านหลัง
“เคยพบคนเลวทำผิดแต่ฟ้องร้องก่อน ยังไม่เคยพบเห็นคนอ่อนแอไร้พลังเช่นเจ้านี้ฟ้องร้อง ภายใต้สายตาของทุกคน เจ้าคิดว่าวิธีการพูดเช่นนี้ของเจ้าจะสามารถยืนหยัดได้หรือ?
เดาไม่ออก เช่นนั้นก็คือเจ้าแพ้แล้ว อยากตุกติก? ผลลัพธ์ที่ตามมาร้ายแรงมาก เจ้าต้องคิดให้กระจ่าง”
เห็นชายอัปลักษณ์วัยกลางคนหมดคำจะพูด นางก็เคาะโต๊ะเบาๆครั้งหนึ่ง กล่าวต่อ :
“ในเมื่อเจ้าแพ้แล้ว เช่นนั้นขาก็ต้องการให้เจ้า……”
แค่นางเริ่มพูด ก็ได้ยิน “ตึก” เสียงหนึ่ง ชายอัปลักษณ์วัยกลางคนคุกเข่าลงตรงๆ
“หมอเทวดา หมอเทวดา ที่ข้านี้มียาถอนพิษ ข้าให้ยาถอนพิษท่าน ท่านปล่อยข้าสักครั้ง ท่านว่าได้ไหม?”
ชายอัปลักษณ์วัยกลางคนไม่ได้มีท่าทีหยาบคายโหดร้ายกำเริบเสิบสานเช่นก่อนหน้าแล้ว ในแววตาภาวนาอ้อนวอนเป็นที่สุด
เขารู้ซึ้งถึงความเก่งกาจของเรือแห่งความสิ้นหวังแล้ว ชนะแล้วสามารถบรรลุความปรารถนาเจริงรุ่งเรืองขึ้นได้ แพ้แล้วก็ต้องยอมรับการลงโทษ
ความหวังของเขาตอนนี้ที่สามารถทำให้ตัวเองมีชีวิตรอดได้ก็คือยาถอนพิษ
เพียงแต่……
“ขอโทษ เดิมทีข้าไม่ได้โดนยาปลุกอารมณ์ทางเพศ”
“เป็นไปได้เช่นไร? เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่ท่านดมช่านเซิงเจียวแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ถูกพิษ” ชายอัปลักษณ์วัยกลางคนยังมีความมั่นใจมากในส่วนของยาปลุกอารมณ์ทางเพศที่ตัวเองปรุง
“ใครบอกว่าดมแล้วจะโดนพิษแน่ๆ? หรือจะบอกว่า เจ้าคิดว่าผู้ที่สามารถเป็นผู้โจ้เจิ้งของการแข่งขันการรักษาจะโง่จนไม่ได้มีความระแวดระวังสักนิดเลยหรือ?”
อย่าพูดว่านางไม่ได้โดนยาพิษ
แม้ว่าจะโดน ก็จะมีท่านระบบดำเนินการถอนพิษให้เอง
“ไม่ เป็นไปไม่ได้ ท่านต้องโดนยาปลุกอารมณ์ทางเพศเป็นแน่ แบบนี้ ท่านก็จะต้องขอให้ข้ามอบยาถอนพิษให้ท่าน ข้าให้ท่านเดี๋ยวนี้”
เขาแพ้แล้ว ก็จะต้องตอบรับคำร้องขอของผู้ที่ชนะ ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย
แต่เขาไม่อยากตาย เพราะเขาเห็นแรงสังหารที่อยู่ในแววตาของหมอเทวดาแล้ว ตอนนี้เงื่อนไขที่ได้เปรียบของเขาเพียงอย่างเดียวก็คือยาถอนพิษของช่านเซิงเจียว
แต่ตอนนี้นางกลับบอกเขาว่า นางไม่ได้โดนช่านเซิงเจียว นี่จะทำให้เขาเชื่อได้อย่างไร? เขาก็ไม่ยินยอมจะไปเชื่อ
แต่ทว่า……แต่ทว่าหมอเทวดาไม่ได้มีอาการของการโดนช่านเซิงเจียวแม้แต่น้อย?
ยิ่งไปกว่านั้น!
ช่านเซิงเจียวที่เขาได้ปรุง รุนแรงเป็นที่สุด เพียงคนได้สูดดม ร่างกายก็จะมีปฏิกิริยาตอบสนองทันที แม้จะเป็นผู้ที่มีสมาธิเป็นเลิศ ไม่กี่อึดใจ ก็จะต้องแสดงอาการทางเพศออกมาแน่นอน
ตอนนี้ผ่านไปเป็นเวลานานขนาดนั้นแล้ว นางไม่มีปฏิกิริยาเลยสักนิด
ชายอัปลักษณ์วัยกลางคนทรุดลงที่พื้นอย่างสะเทือนขวัญโดยไม่คาดคิด สัมผัสถึงความเย็นชาของแววตาของหลานเยาเยา เขาก็ขนพองสยองเกล้าขึ้นมา น้อมคำนับด้วยท่าทางที่หวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง
“ปึงปึงปึง……”
“หมอเทวดา ข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่พูดจาเลอะเทอะ ขอร้องท่านได้โปรดให้อภัยปล่อยข้าสักครั้ง หลังจากนี้ข้าจะกลับตัวกลับใจเป็นแน่……”
เขาขอร้องไปพลาง หัวก็โขกอย่างเอาเป็นเอาตาย
หลานเยาเยาเห็นดังนั้น หัวเราะเบาๆออกมาเสียงหนึ่ง เอามือวางไว้บนโต๊ะ นิ้วมือเคาะไปมาไม่หยุด
“วางใจ ข้าจะไม่เอาชีวิตของเจ้าในห้องส่วนตัวนี้” แต่ออกไปจากห้องส่วนตัวก็พูดยากแล้ว
อย่างไรก็ตาม
ชายอัปลักษณ์วัยกลางคนกลับเหมือนได้เผชิญกับการอภัยโทษ ถอนหายใจโล่งใจเปลาะหนึ่งอย่างแรง คนทั้งคนเหมือนไม่มีแรงกำลังทรุดนั่งอยู่บนพื้น
โชคดีที่เขาเดิมพันถูกแล้ว
เช่นหมอเทวดาที่เป็นแม่นางอายุน้อยประเภทนี้จะต้องผ่านโลกมาน้อยเป็นแน่ เขาเพียงแสร้งทำเป็นน่าสงสาร โหดร้ายกับตัวเองหน่อย หมอเทวดาก็ต้องใจเป็นกุศลมืออ่อนแล้ว
สำคัญที่สุดคือ บางทีหมอเทวดาอาจจะมีความรู้สึกดีต่อเขาสักหน่อยก็ไม่แน่นะ?
“ท่านจะให้ข้าทำอะไร?”
“ไปอาบน้ำที่ทะเลสาบเถอะ!”
อาบน้ำ?
เรื่องดีขนาดนี้?
สำหรับเขาที่มีความสามารถในการว่ายน้ำเป็นเลิศแล้ว เป็นเรื่องที่ดีเป็นอย่างยิ่ง เขาประเมินว่าหมอเทวดาชอบเขาแล้ว คิดต้องการดูเขาอาบน้ำ และรูปร่างที่แข็งแรง
นางพูดตรงๆก็ได้แล้วนี่!
สามารถถอดให้นางดูตรงนี้ได้
ไม่รู้ว่าหลายเยาเยาที่ชายอัปลักษณ์วัยกลางคนคิดคำนวณ รอยยิ้มที่แขวนที่มุมปากเริ่มลึกซึ้งขึ้น
อาบน้ำ?
คิดว่านางเป็นคนที่ไม่เจ้าคิดเจ้าแค้นประเภทนั้นหรือ?
เดิมทีชายอัปลักษณ์วัยกลางคนก็คิดไม่ดีต่อนาง เห็นได้ชัดว่าเขาปรุงยาช่านเซิงเจียวขึ้นก็เพื่อทำให้นางโดนยาพิษ สำหรับผู้ที่มีจิตใจชั่วร้ายประเภทนี้ นางจะปล่อยไปได้อย่างไร?
และยาชนิดนั้นที่นางปรุง ไร้สีไร้กลิ่น ยากที่จะแยกแยะเป็นที่สุด
เมื่อได้สูดดมแล้ว ก็โดนพิษเช่นกัน เพียงแต่ผิวเผินไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เมื่อสัมผัสน้ำแล้ว เช่นนั้นก็มีเพียงความตายทางเดียว
และยาพิษชนิดนี้ยังทำให้คนมองไม่ออก หลังจากหนึ่งชั่วยาม หากไม่ได้สัมผัสน้ำละก็ สารพิษในร่างกายก็จะสลายไปเอง
จากนั้นชายอัปลักษณ์วัยกลางคนก็ลุกขึ้นยืนอย่างมีความสุข จากนั้นก็พุ่งออกไปนอกห้องส่วนตัว กระโดดจากเรือแห่งความสิ้นหวังลงทะเลสาบโดยตรง
สำหรับคนตายผู้หนึ่ง หลานเยาเยาก็ขี้เกียจจะมองแม้แวบหนึ่ง โบกและใช้แรงลมปิดประตูห้องโดยทันที
“ตู้ม” เสียงหนึ่ง
บรรดาผู้คนดึงสติกลับมาจากความตะลึงงัน
ได้พบเห็นรู้จักถึงความเก่งกาจของนาง แววตาของบรรดาผู้คนที่ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใดและเหยียดหยามก่อนหน้านี้เปลี่ยนไปไม่น้อย
แต่เห็นนางจิตใจเป็นกุศลเช่นนี้ ก็รู้ว่านางเป็นคนที่สามารถกลั่นแกล้งได้ง่ายดายเป็นอย่างมาก
ดังนั้น!
พวกเขาก็ไม่มีความขลาดแม้สักนิด ยังคงแย่งชิงต้องการจะประลองฝีมือ
ยังไงซะแพ้แล้วก็ไม่ได้ตาย……