หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 429 ขาหมูที่เย็นชืด

บทที่ 429 ขาหมูที่เย็นชืด

บทที่ 429 ขาหมูที่เย็นชืด

“หลานเยาเยา รอข้าก่อน ข้า ข้ามีคำจะเอ่ยกับเจ้า!”

ในน้ำเสียงของเขาเห็นได้ชัดว่าค่อนข้างรีบร้อน แต่หลานเยาเยาได้ยินเสียงแล้วก็ไม่ได้หยุดลง แต่เดินไปด้านหน้าของตัวเอง

ป่ายเม่ยเซิงรีบวิ่งไปหา ขวางหน้านางไว้ เพราะว่าเดินอย่างรีบร้อนยังเห็นได้ชัดว่าหอบอยู่

“หลานเยาเยา ข้าพูดกับเจ้านะ!”

คราวนี้

หลานเยาเยากลับหยุดฝีเท้าลง มองดูเขานิ่งๆ จากนั้นก็ขมวดคิ้ว จึงได้เอ่ยปากพูด : “มีอะไรก็พูดเถอะ!”

“เจ้ายังจะมาที่เรือแห่งความสิ้นหวังอีกหรือไม่?”

ถามอันนี้?

ยังคิดว่าป่ายเม่ยเซิงตามออกมาอย่างไม่กลัวผลลัพธ์ จะมีเรื่องสำคัญที่ต้องการพูด กลับคิดไม่ถึงว่าจะถามเพียงคำถามไร้สาระอย่างหนึ่ง

แต่นางก็ยังตอบ

“ไม่รู้!”

“เช่นนั้นพวกเรายังได้พบหน้ากันอีกหรือไม่?”

ป่ายเม่ยเซิงไม่รู้ว่าหลานเยาเยาพูดคุยอะไรกับเจ้าของเรือบ้าง แต่เขารู้ สีหน้าของทั้งคู่ไม่สู้ดีนัก คาดว่าเพราะพูดคุยจนแตกร้าวแล้วหรืออย่างไร

“วางใจเถอะ! ได้เจอสิ”

ในไม่ช้าถังมู่หวั่นก็จะจัดงานชมดอกไม้ที่สวนว่างฮัวแล้ว ราชครูเทียนเวิงเลี้ยงบำรุงพิษกู่จิ้นไว้ที่นั่น นางจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ไป หานแสก็ไม่

แม้ว่าจะกับหานแสจะเกิดความไม่พอกันต่อใจ แต่ระหว่างพวกเขาก็ยังมีความสัมพันธ์แบบร่วมมือกัน พวกเขายังมีศัตรูคนเดียวกัน

แน่นอนว่าต้องร่วมมือกันกำจัดพิษกู่จิ้นเหล่านั้นทิ้งไป ถึงเวลาหานแสน่าจะใช้คนของยิงจวน

แน่นอน!

ผู้มีฝีมือชั้นสูงของสองสามคนนั้นของเรือแห่งความสิ้นหวัง หานแสก็ต้องพามาด้วยแน่นอน

มีความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือซาหมั่นเฉิง ไม่ว่าอย่างไรเขาก็มีใจที่เข้าได้กับทุกฝ่าย ต่อคนต่อเรื่องราวก็ล้วนจัดการได้อย่างดีมาก

“เช่นนั้นก็ดี เยาเยา ข้าหวังว่าเจ้าจะอยู่ดีตลอด”

ความจริงเรื่องของเจ้าของเรือเขาก็ร่วมด้วยมาตลอด แต่คำสั่งของเจ้าของเรือเขาไม่กล้าขัดขืน

มีบางเรื่องไม่พูด ก็รู้สึกว่าทำผิดต่อหลานเยาเยาโดยตลอด ในใจรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก แต่เขากลับไม่สามารถพูดออกมาได้

“เจ้าวางใจเถอะ ก่อนหน้าที่ศัตรูยังไม่ตาย ข้าจะต้องอยู่ดีเป็นแน่” สายตาที่เฉียบคม น้ำเสียงที่เฉยเมย สุดท้ายหลานเยาเยาได้ทอดสายตาไปที่ร่างของป่ายเม่ยเซิง “ป่ายเม่ยเซิง ข้าไม่รู้ว่าทำไมเจ้าต้องการให้ข้ารู้ หานแสทำให้ข้าเป็นเทพธิดาเพื่อหลอกใช้ข้า ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาจงใจบอกให้ข้ารู้ผ่านจากปากของเขาหรือไม่ แต่ว่า ก็ยังต้องกล่าวคำว่าขอบใจสักหน่อย”

ขณะที่เอ่ยคำนี้

ร่างกายของป่ายเม่ยเซิงแข็งทื่อขึ้นเล็กน้อย สีหน้าเปลี่ยนไปนิดหน่อย แต่นั่นเป็นเพียงเรื่องในชั่วพริบตาเท่านั้น

“ที่เจ้าพูดข้าล้วนไม่เข้าใจ ข้าป่ายเม่ยเซิงทำการตามคำสั่งโดยตลอด เจ้าขอบใจข้าทำไม แต่เจ้าอย่าพูดเลอะเทอะต่อหน้าเจ้าของเรือก็พอแล้ว แต่ วันหนึ่งพวกเราจะกลายเป็นศัตรูกันไหม? ข้าไม่อยากเป็นศัตรูกับเจ้าหญิงงามผู้นี้”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลานเยาเยาตกตะลึงเล็กน้อย มองสำรวจเขาดีๆอีกรอบ จึงได้ตอบออกไปอย่างไม่ชัดเจนเสียงหนึ่ง

“ใครจะรู้ล่ะ?”

เหตุการณ์บนโลกเปลี่ยนแปลงไม่แน่นอน บางครั้งเมื่อวานยังเป็นศัตรู วันนี้ก็เปลี่ยนเป็นเพื่อนแล้ว บางทีวันนี้ยังเป็นคนที่ตัวเองเชื่อใจอยู่ พรุ่งนี้กลายเป็นศัตรูก็ไม่แน่

เดิมทีคิดว่าหานแสเพียงพอที่จะทำให้คนมองได้ทะลุปรุโปร่งแล้ว

คิดไม่ถึง……

แม้แต่ป่ายเม่ยเซิงนางก็มองไม่ชัดเจน

อ่อไม่ ควรพูดว่า สองสามคนนั้นของเรือแห่งความสิ้นหวังนางล้วนมองไม่ออก

“ไปแล้ว!”

มองไม่ทะลุก็ค่อยๆมอง ต้องมีสักวันที่มองออกได้ โบกมือให้ป่ายเม่ยเซิงอย่างง่ายๆ หลานเยาเยาอ้อมเขาแล้วเดินจากไป

มองดูหลานเยาเยาขึ้นนั่งบนรถม้า ในก้นบึ้งของดวงตาของป่ายเม่ยเซิงฉาบแววความสับสน……

หลังจากกลับถึงเมืองหลวง ทีแรกหลานเยาเยาคิดจะตรงกลับไปที่ตำหนักเทพธิดา แต่กลับได้ดมกลิ่นหอมของเนื้อบนถนนที่คึกคัก ครู่หนึ่งท้องก็ทนไม่ไหว “ครอกครอก” ร้องขึ้นมา

นางมองไปดูจากหน้าต่างเล็กๆของรถม้า แผงขายของที่ทำอาหารเอร็ดอร่อยโดยเฉพาะต้องเรียงราย อยู่ที่ตลาดกลางคืนของถนนสายเล็กๆนั่น

ตอนนี้เป็นเวลากลางวัน แม้ว่าแผงขายอาหารเอร็ดอร่อยนี้ไม่ได้คึกคักเท่ากับตลาดกลางคืนตอนกลางคืน แต่ยังมีคนมากมายมาดู

กลิ่นหอมชั่งเย้ายวนคนจริงๆ!

ในที่สุดหลานเยาเยาก็ทนไม่ไหว เรียกให้คนขับรถม้าหยุดรถ จากนั้นก็คนเดียว ไปที่ถนนอาหารเอร็ดอร่อยเส้นนั้น

เดินในเส้นทางที่คุ้นเคยหาแผงขายของร้านที่นางชอบที่สุดเจอ

แม้ว่าวันนี้นางก็สวมชุดสีแดง แต่ว่าไม่ใช่ชุดที่นางสวมใส่ในฐานะเทพธิดาเหล่านั้น แม้แต่การแต่งหน้าไม่ได้งามหยาดเยิ้มขนาดนั้น และยังไว้หน้าม้า ปิดบังรอยดอกไม้บนหน้าของนาง

หลังจากที่หาโต๊ะตัวหนึ่งที่ไม่มีคนนั้นแล้ว ยังสั่งขาหมูมาที่หนึ่ง

หลังจากนั้นนางพบว่า โต๊ะตรงข้ามตัวนั้นก็มีคนนั้นอยู่ผู้หนึ่ง และเป็นผู้หญิง แม้ว่าจะสวมหมวกงอบ ปิดบังตัวเองอย่างรัดกุม

หากว่าไม่ได้นั่งกินขาหมูอยู่ที่นี่ คาดว่า คนอื่นจะต้องคิดว่านางเป็นโจรขโมยของเป็นแน่

เพียงแต่ที่แปลกก็คือ ผู้หญิงคนนั้นสั่งขาหมูมาสองที่

นางกำลังกินอีกที่หนึ่งไปอย่างรวดเร็ว อีกที่หนึ่งกลับวางไว้ข้างๆ รอจนนางกินเสร็จก็ไม่ได้เอาขาหมูอีกที่หนึ่งมากิน แต่กลับสั่งใหม่อีกที่หนึ่ง

หลานเยาเยามองดูอยู่ครู่หนึ่ง ขาหมูที่อยู่ข้างกายของผู้หญิงผู้นั้น จากนั้นก็มองดูที่นั่งข้างๆของขาหมู……

เออะ?

ทั้งๆที่ตรงนั้นไม่มีคน ทำไมนางถึงกลับได้เหลือขาหมูไว้อีกที่หนึ่ง?

เจ้าของซุ้มขายขาหมู ได้ส่งขาหมูอีกที่หนึ่งที่นางได้สั่งมา มองดูนางที่แววตาที่สงสัย

เจ้าของร้านยิ้มแล้วอธิบายว่า :

“แม่นางไม่รู้ล่ะสิ แม่นางผู้นั้นเป็นลูกค้าประจำของข้าที่นี่ สามปีก่อน ยังมากินที่นี่กับแม่นางอีกผู้หนึ่งบ่อยๆ

แต่มีครั้งหนึ่ง นางกลับมาเองคนเดียว วันนั้นเหมือนกับว่านางเสียใจเป็นอย่างมาก ขาหมูที่หนึ่งก็กินไม่หมด ก็ร้องไห้อยู่ที่นั่น น่าสงสารมาก

หลังจากนั้นนางก็มาเป็นประจำ แต่ล้วนเป็นนางแค่ผู้เดียว แต่ที่น่าแปลกก็คือ ทุกครั้งที่นางมาจะต้องสั่งขาหมูสองที่ ที่หนึ่งในนั้นจะเหลือไว้ข้างๆ จนถึงนางกินเสร็จแล้วขาหมูที่นั้นก็ยังเหลือไว้ที่นั่น

ข้าคาดว่า ขาหมูที่นั่นจะต้องเหลือไว้ให้แม่นางผู้นั้นที่เคยมากับนางเป็นแน่ล่ะ!”

เจ้าของแผงขายของส่ายหน้าอย่างจนปัญญา

ได้ยินดังนั้น!

ในใจของหลานเยาเยาก็ค่อนข้างอยากรู้อยากเห็น มองดูเงาด้านหลังที่คุ้นเคยนั่น นางถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ :

“เพื่อนของนางทำไมไม่มาล่ะ?”

เวลานี้ เจ้าของแผงขายของก็ถอนใจ กดเสียงต่ำแล้วพูดกับนาง :

“ฟังที่แม่นางผู้นั้นกล่าว เพื่อนท่านนั้นของนางไปที่ๆไกลมากๆ และก็จะไม่กลับมาอีกแล้ว เพียงแต่เพื่อนของนางท่านนั้นชอบสิ่งของที่เอร็ดอร่อยมาตลอด

ดังนั้นไม่ว่านางจะไปที่ไหน ก็ล้วนจะสั่งเพิ่มอีกชุดให้นาง หวังว่ามีสักวัน เพื่อนท่านนั้นของนางจะสามารถกลับมากินด้วยกันกับนางอีก นางยังบอกว่านางต้องการจะกินอาหารเลิศรสทุกอย่างบนโลก พาเพื่อนของนางไปด้วยกัน”

ฟังถึงตรงนี้ หลานเยาเยาก็เคลื่อนไหวเล็กน้อย หลังจากพยักหน้าเล็กน้อยแล้ว เจ้าของแผงขายของก็กลับไปที่ตำแหน่งของเขาเป่าแตรขาหมูต่อ

หลานเยาเยาหายใจเข้าลึกๆ

มองดูขาหมูที่ร้อนกรุ่นด้านหน้าของตัวเอง แล้วหันไปมองแวบหนึ่ง ขาหมูข้างๆของผู้คนท่านนั้นที่ได้เย็นชืดหมดแล้ว แววตาฉาบแววรอยยิ้ม

จากนั้นนางก็ยกจานขึ้น เดินไปทางโต๊ะที่ผู้หญิงผู้นั้นอยู่…..

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท