หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 452 ต้องการจะขายตำหนักเทพธิดา

บทที่ 452 ต้องการจะขายตำหนักเทพธิดา

บทที่ 452 ต้องการจะขายตำหนักเทพธิดา

ขณะที่กลับถึงตำหนัก หลานเยาเยาเพิ่งได้ก้าวเข้าประตูใหญ่ตำหนักเทพธิดา ด้านหลังก็มีเสียงของหนักตกพื้นดังมา หันกลับไปดู องครักษ์ที่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยล้มลงที่พื้น

“ปึง……”

“ปึงปึงปึง……”

ตามด้วยคนที่สอง คนที่สาม คนที่สี่ล้มลงเรียงกัน จนถึงสุดท้ายองครักษ์เกือบครึ่งล้มลงที่พื้น จื่อซีและจื่อเฟิงก็เข้าไปตรวจดูสถานการณ์ของพวกเขาอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นทั้งสองคนก็สบตากับ ส่ายหัวพร้อมกัน

แววตาของหลานเยาเยาเย็นชา เดินเข้าไปตรวจสอบชีพจรของพวกเขาอย่างรวดเร็ว

โดนยาพิษตาย!

และเป็นเลือด โดนยาพิษ

ปกติแล้วหลังจากคนผ่านการกินยาพิษทำให้เกิดการโดนยาพิษ เลือดของพวกเขากระเซ็นถูกร่างของอีกคน เพียงแค่สัมผัสโดนผิวหนัง คนที่โดนเลือดกระเซ็นใส่ผู้นั้นก็จะโดนยาพิษตาย

มิน่าล่ะครั้งนี้นักฆ่ามีจำนวนมาก จื่อเฟิงพวกเขากลับใช้เวลาสั้นขนาดนั้นก็จัดการได้ราบคาบ ที่แท้ก็ยังมีกลยุทธ์อยู่ด้านหลังอีก!

นางเงยหน้ามองไปทางองครักษ์ที่ยังเหลือ จากนั้นก็เคลื่อนสายตาไปมองบนร่างกายของจื่อเฟิง

บนร่างกายของเขาก็เปื้อนคราบเลือดของนักฆ่า…….

เวลานี้!

จื่อเฟิงก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าว คุกเข่าลงที่พื้นรับโทษ

“เป็นความผิดของข้าน้อย ก่อนหน้านี้ข้าน้อยรู้สึกผิดปกติ แต่ไม่ได้รายงานทันที ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็คงไม่……”

“ไม่เกี่ยวกับเจ้า พิษชนิดนี้ใช้ชีวิตแลกชีวิต เมื่อเลือดกระเซ็นโดนผิวหนังของพวกเขา ก็ไม่สามารถช่วยได้แล้ว”

สำหรับจื่อเฟิงทำไมถึงไม่มีปัญหา สามารถพูดได้เพียง จื่อเฟิงโดนพิษกู่จิ้นแล้ว อีกทั้งกินยาถอนพิษแล้ว ทำให้เกิดการต้านพิษเชื้อโรค เพียงแค่สารพิษของยาพิษชีวิตแลกชีวิตไม่เกินกว่าพิษกู่จิ้น จื่อเฟิงก็ไม่มีปัญหา

“คุณหนู…….”

จื่อเฟิงอยากพูดว่า การลอบสังหารครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม แต่มองดูสีหน้าที่เข้าใจแจ่มแจ้งของหลานเยาเยาแล้ว เขาก็ปิดปาก

“ฝังศพให้ดีๆ!”

องครักษ์เหล่านี้ล้วนซื้อมาจากตลาดดำ ไม่มีญาตินานแล้ว ไร้ห่วงไร้กังวล เมื่อซื้อพวกเขา นางก็ได้พูดเรื่องความเป็นความตายล่วงหน้าแล้ว พวกเขายินยอมติดตามนางด้วยตนเอง

ตอนนี้ตายแล้ว

นางสามารถทำได้ก็คือฝังศพให้ดีๆ

หลังจากที่กลับถึงตำหนัก หลานเยาเยาก็ได้ให้องครักษ์และสาวใช้ในตำหนักทั้งหมด รวมตัวกัน คืนสัญญาขายตัวให้พวกเขา ยังจะให้เหรียญเงินบางส่วนแก่พวกเขา จากนั้นก็ให้พวกเขาออกจากตำหนัก ให้ความอิสระต่อพวกเขา

ตำหนักเทพธิดาไม่ปลอดภัยแล้ว

คนที่ลงมือกับนางคราวนี้ไม่ใช่ปกติที่ก่อเรื่องวุ่นวาย องครักษ์และสาวใช้เหล่านี้มีผลต่อนางไม่มาก เอาไว้ต่อไปมีเพียงทำให้พวกเขาเสียสละโดยเปล่าประโยชน์

เมื่อพ่อบ้านเจากลับมาถึงตำหนัก มองดูตำหนักที่ว่างเปล่าแห่งหนึ่ง หลังจากที่ได้เข้าใจสถานการณ์ ก็ไม่พูดอะไรอีก

ตอนนี้นอกจากจื่อซีและจื่อเฟิง ก็เหลือเพียงผู้เฒ่าสิบคนแล้ว

ณ ขณะนี้!

จื่อเฟิงที่เดิมทียืนอยู่นิ่งๆ มองเห็นเงาร่างคนเดินมาจากที่ไกลๆ แววตาเคลื่อนไหวเล็กน้อย

เห็นเพียงเย็นหงเดินมาทีละก้าวๆ ดวงตาแดงเล็กน้อย

ในมือนางกำสัญญาขายตัวแผ่นหนึ่ง มาถึงหน้าหลานเยาเยาแล้วคุกเข่าลง โขกหัวกับพื้นเสียงดังสามครั้งทำความเคารพอย่างเป็นทางการ

“ขอบคุณเทพธิดาที่คืออิสรภาพให้แก่ข้าน้อยเจ้าคะ”

“ไปเถอะ! ไปได้ยิ่งไกลยิ่งดี หลังจากนี้ใช้ชีวิตดีดี เจ้ามีค่าพอที่จะมีอนาคตที่ดีกว่านี้”

“ข้าน้อยรู้เจ้าค่ะ”

เทพธิดาไม่ได้เอาพวกเขาออกมาขายอีกรอบก็เป็นพระคุณที่ใหญ่ที่สุดแล้ว วันนี้มีสัญญาขายตัวแล้ว อีกทั้งมีเหรียญเงินตั้งตัว ทั้งหมดก็สามารถเริ่มต้นใหม่ได้

เพียงแต่……

เย็นหงไม่ได้ลุกขึ้น จากนั้นก็เอาสัญญาขายตัวออกมาด้านหน้าตัวเอง “ฉึก” เสียงฉีกเป็นสองส่วน

“เทพธิดาเจ้าคะ เป็นทาสหนึ่งวันก็เป็นทาสทั้งชีวิต ข้าน้อยยินยอมจะติดตามเทพธิดาไปตลอดชีวิต เป็นตายจะไม่ละทิ้ง คุณหนูไปที่ไหน ข้าน้อยก็ไปที่นั่น คุณหนูมีอันตราย ข้าน้อยก็ยินยอมใช้ร่างกายขวางกั้นไว้ด้านหน้า ขอให้เทพธิดาโปรดอย่าไล่ข้าน้อยออกจากตำหนัก ข้าน้อยยอมอยู่เองเจ้าค่ะ

กริยาเหมาะสม คำพูดคำจาจริงใจ พูดจาใบหน้าไม่กระดิกนั้นคือปลอม

หลานเยาเยามองดูนางนิ่งๆ ริมฝีปากสีแดงเปิดขึ้นเล็กน้อย :

“เจ้ารู้หรือไม่ หลังจากนี้จะอันตรายเป็นพิเศษ จะเป็นตายแม้ข้าก็ยากจะคาดเดา?”

“ข้าน้อยรู้เจ้าค่ะ!”

“เช่นนั้นเจ้ายังไม่ไปอีก?” นางให้โอกาสนางจากไปครั้งสุดท้าย

“ข้าน้อยไม่ไปเจ้าค่ะ ข้าน้อยต้องการติดตามเทพธิดาเจ้าค่ะ” ตอนนี้เย็นหงยิ่งเพิ่มความหนักแน่นที่ตัวเองตัดสินใจอยู่ต่อ

“ดี เช่นนั้นก็เป็นตายไปด้วยกันเถอะ!”

หลานเยาเยาก้าวไปข้างหน้า พยุงนางให้ลุกขึ้นด้วยตัวเอง

……

เหล่าคุณชายและคุณหนูที่ได้ไปชมดอกได้ที่สวนว่างฮัว หลังจากกลับจวนด้วยความหวาดกลัว เวลาไม่ถึงสองชั่วยาม ทั้งเมืองหลวงก็เดือดพล่านขึ้นมา

คำในประโยคของคนโดนมนต์ดำดังก้องไปทั้งตรอกซอยน้อยใหญ่ “หวาดผวา” “ติดต่อ” และคำอื่นๆ พูดออกจากปากของประชาชนตลอดเวลา ผู้คนตื่นตระหนกทันที ล้วนคิดว่าต้องเผชิญกับภัยพิบัติแล้ว

มีบางคนเริ่มขายบ้านและหน้าร้าน คิดอยากออกจากสถานที่ที่วุ่นวายแห่งนี้ แม้แต่ในราชวังก็เริ่มสั่นคลอนไม่สงบ

เพื่อปลอบขวัญราษฎร ฮ่องเต้ออกราชโองการสามฉบับอย่างต่อเนื่อง

ฉบับหนึ่งปลอบขวัญราษฎร์ บอกว่า คนโดนมนต์ดำได้ตายไปหมดเกลี้ยงแล้ว

ฉบับหนึ่งตรวจสอบสวนว่างฮัวอย่างละเอียด และได้ปิดสวนว่างฮัวอย่างถาวร

ฉบับสุดท้าย กักบริเวณถังเฉิงเสี้ยงไว้ในจวน หากตรวจพบว่าคนโดนมนต์ดำกับเขา จะประหารทันที

มีราชโองการปลอบขวัญราษฎรแล้ว บวกกับการตั้งใจเน้นย้ำในราชโองการทุกฉบับ เทพธิดาเชี่ยวชาญในการต่อกรกับคนโดนมนต์ดำเป็นอย่างมาก ให้พวกเขาไม่ต้องเกรงกลัว

นี่จึงทำให้ประชาชนค่อยๆสบายใจลงบ้าง

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม!

ความน่ากลัวของข่าวลือที่ลึกลับของคนโดนมนต์ดำ ได้มาพบกับจุดที่ต้องตายแล้ว

ตำหนักเทพธิดา

หลานเยาเยาแทะขาหมูไปพลาง มองดูสิ่งก่อสร้างด้านบนของประตูใหญ่ที่ทรงอำนาจสง่างามไปพลาง จากนั้นก็ถอยหลังไปสองสามก้าว เดินลงบันได แล้วก็มองดูตำหนักเทพธิดาที่อยู่ได้ไม่นานแห่งนี้อีกครั้ง

ข้างๆของนางมีตาแก่ที่หน้ามุ่ยอยู่

“สองสามวันมานี้มีเวลาไปหาตัวกลาที่สามารถกุมความลับได้ ประเมินราคาของตำหนักแห่งนี้ รู้สึกว่าเหมาะสมแล้ว หลังจากพิธีเซ่นไหว้ใหญ่ก็ขาย”

ได้ยินดังนั้น!

ตาแก่มองดูหลานเยาเยาราวกับว่าเจอผี เขาไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก

“ขาย? ทำไมต้องขาย? อาศัยอยู่ดีๆ นี่เป็นถึงตำหนักเทพธิดา แม้ว่าเจ้าจะจากไป ก็ไม่สามารถขายอย่างเปิดเผยได้นะ! ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นตำหนักที่ฮ่องเต้พระราชทานให้ นางไปแล้ว ฮ่องเต้ก็อาจจะเรียกคืนกลับไป ขายไปไม่ดีละมัง! เป็นถึงเทพธิดาที่สง่างาม ทำเรื่องประเภทนี้ หลังจากนี้ยังจะพบเจอผู้คนเช่นไร?”

หลานเยาเยากุมหน้าผากอย่างจนปัญญา

เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “เรื่องประเภทนี้ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยทำ ฮ่องเต้ประเทศเชียนหลิงและประเทศซีเม่าพระราชทานตำหนักให้ข้าก็ไม่ใช่ว่ายังขายไปแล้วเหมือนกัน พวกเขากล้าพูดอะไร?

พระราชทานความหมายก็คือมอบให้ มอบให้ก็มอบให้แล้ว ของของตัวเองยังไม่มีสิทธิ์ที่จะขายอีกเชียวหรือ?”

“แต่……นี่นี่นี่……”

นางอธิบายจนตาแก่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว

แบบนี้ดีจริงๆหรือ?

หลังจากพิธีเซ่นไหว้ใหญ่ก็คือการเดินทางไปทะเลทราย ถึงเวลานั้นนาง เย่แจ๋หยิ่ง หานแสและราชครูเทียนเวิงก็จะเอากันให้ตายไปข้างหนึ่ง

หากล้มเหลว ขายตำหนักเทพธิดาได้เงินทรัพย์สินมาก็สามารถนำไปใช้ที่สถานที่แห่งวิญญาณได้! ติดสินบนติดสินบนท่านยมราชก็ยังดีนะ!

หากสำเร็จ ก็ดีเป็นที่สุดแล้ว

นางสามารถรวบรวมอาหารรสเลิศทั้งหมดของโลก เป็นนักกินที่มีความสุขผู้หนึ่ง

พิธีเซ่นไหว้ใหญ่

เป็นฮ่องเต้ที่ป่าวประกาศต่อผู้คนทั้งโลก ตราราชลัญจกรหยกแห่งราชวงศ์เก่ากลับมาอยู่ในมือของตัวเอง เพื่อสลัดข้อครหาของผู้อื่นที่แอบว่าเขาวางแผนยึดครองบัลลังก์

แน่นอน!

นอกจากนี้

ที่สำคัญที่สุดฮ่องเต้คิดอยากใช้ประโยชน์จากตราราชลัญจกรหยก ต้องการจะจับบุคคลอันตรายของราชวงศ์เก่าที่ยังเหลืออยู่ไม่กี่ปีมานี้ มักจะมีคนของราชวงศ์เก่าสองสามคนมาล้างแค้นเขาอยู่บ่อยๆ ซึ่งทำให้เขาโกรธเคืองเป็นอย่างมาก

ไม่รีบฆ่าให้สิ้นซาก เขาจะนอนหลับได้อย่างไร?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท