หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 506 การพูดคุยอย่างเที่ยงตรงยุติธรรม

บทที่ 506 การพูดคุยอย่างเที่ยงตรงยุติธรรม

บทที่ 506 การพูดคุยอย่างเที่ยงตรงยุติธรรม

ในการหารือมีเสียงของการทะเลาะวิวาทเพิ่มเข้ามาดังขึ้นมาไม่หยุด เนื้อหาที่พูดคุยกันก็ไม่พ้นเรื่องของส้งเย่นกุย แต่คนที่พวกเขาพูดถึงอยู่นั้น ก็ตามหลังพวกเขาอยู่

สีหน้าของส้งเย่นกุย ไม่ได้ใช้คำว่าเก้ๆกังๆมาบรรยายแล้ว……

พวกเขาเป็นแบบนี้ มันดีจริงๆใช่ไหม?

เขาอยากจะพูดแทรกขึ้นมาก็แทรกไม่ได้ จึงทำได้เพียงกระแอมเบาๆสองสามที เพื่อบอกว่าตนเองอยู่ข้างหลังพวกเขา ให้พวกเขาระวังคำพูดหน่อย

แต่สองคนที่อยู่ตรงหน้าก็ทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินอะไรสักนิด ยังคงพูดถึงเขาต่อไป

หลังจากที่กระแอมเบาๆไปสองสามทีแล้วไร้ประโยชน์ เขาจึงทำได้เพียงยักไหล่อย่างจนปัญญา

ไม่เคยรู้เลยว่าเทพธิดายังมีท่าทางแบบนี้อีก

จู่ๆคนที่อยู่ตรงหน้าก็หยุดพูดคุย และก็หยุดฝีเท้าลงยืนเงียบๆ เงียบจนผิดปกติ เหมือนกับกำลังฟังอะไร

หลานเยาเยาหันไปมองอีกด้านนึงเล็กน้อย

มีเสียง……

เสียงนั้นดังมาจากที่ไกลเข้ามาใกล้ และใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ยังมองไม่ชัดเจน เห็นแต่เพียงมีคนอยู่กลางหมอกทรายหนา มุ่งมาอย่างรวดเร็ว

รอยยิ้มที่มุมปากของหลานเยาเยายกขึ้น

ร่างนี้นางคุ้นเคยมาก คือตาเฒ่าเย่นไม่ผิดแน่!

แต่คนยังไม่ทันมาถึง คำพูดก็มาก่อนแล้ว:

“นังหนู ข้ายังไม่ตาย! เจ้าจะตะโกนยังไงก็ไม่ควรแล้วใช่ไหมล่ะ?

ข้าได้ยินเสียงพูดคุยของพวกเจ้าตั้งแต่ไกลๆแล้ว ตะโกนหาพวกเจ้าตั้งหลายครั้งจนเสียงแหบแห้ง แต่ก็ไม่สนใจสักนิด ซ้ำยังยิ่งพูดก็ยิ่งสนุก”

ตาเฒ่าเย่นที่เหน็ดเหนื่อย น้ำเสียงก็กระหืดกระหอบ ตอนที่ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าหลานเยาเยา เขาก็นิ่งสักพัก และเริ่มพูดไปด่าไป

“นังหนู คิดว่าเจ้าตายไปแล้ว ดีที่ป้ายหลุมศพบนทะเลทรายต่างบันทึกไว้หมด”

พอได้ยินสิ่งนี้ สีหน้าของหลานเยาเยาก็เคร่งขรึม ก้าวเดินไปอย่างรวดเร็วและคว้าหูของตาเฒ่าเย่นเอาไว้แน่น จากนั้นก็แกล้งทำเป็นตีเขาสองสามที แล้วก็รวดมองสำรวจร่างกายของเขา ดูว่ามีบาดแผลตรงไหนหรือไม่

“เฮอะ! ตาเฒ่าเย่น ปากหมาพ่นคำพูดออกมาดีไม่ได้ ข้าเป็นหลานท่านนะ ไม่หวังให้ข้ามีชีวิตอยู่ แต่ยังรอเงินที่เหลือจากป้ายหลุมศพอีก?”

หลานเยาเยานั้นไม่ได้ลงมือทำร้าย แต่คนแก่บางคนก็ชอบเล่นละคร ทำท่าทางแสร้งอย่างกับหูถูกกัดขาด

“โอ๊ย เจ็บๆๆๆ หลานที่แสนดี หลานที่แสนดี เจ้าปล่อยมือออกก่อน ปู่ก็แค่ล้อเจ้าเล่น นี่ไม่ใช่รู้ว่าเจ้ามีชีวิตอย่างมีความสุขนี่! ยังไงเจ้าก็ไม่เข้าใจความหวังดีของข้า ซ้ำยังวางแผนลอบฆ่าข้าอีกหรือ?”

เมื่อเห็นเขาขอความเมตตา หลานเยาเยาจึงปล่อยเขา

หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าเขาไม่เป็นอะไร ก็รีบหยิบกาน้ำตรงเอวขึ้นมา นี่คือขวดที่หยิบมาเผื่อเอาไว้ ในตอนที่ส้งเย่นกุยมาหาคน

ในที่สุด ตอนนี้ก็ได้ใช้แล้ว

เมื่อเห็นน้ำ นัยน์ตาของตาเฒ่าเย่นก็เป็นประกาย ตื่นเต้นขึ้นมา ดูเหมือนกับดีใจมากกว่าเจอหลานเยาเยาที่เป็นหลานเสียอีก

“โอ้โห ฮ่าๆๆๆ ข้าไอแทบตายแล้ว”

พูดไป เขาก็ดื่มน้ำอึกอึกสองสามอึก จากนั้นก็พอ และปิดฝากา มองหลานเยาเยาอย่างปลื้มใจ

ส่วนใบหน้าของหลานเยาเยาก็เปี่ยมล้นไปด้วยรอยยิ้ม

ทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมาข้างกายเบาๆ น้ำเสียงเย็นชาดังขึ้นข้างหูนาง:

“เจ้าสำนัก ท่านลืมไปหรือเปล่า ว่ายังมีข้าอีกคนอยู่?กระหม่อมกระหายจนเห็นแต่ดาวสีทองเต็มไปหมดแล้ว แต่ก็ไม่เห็นท่านส่งน้ำมาให้ข้าดื่ม”

ยู่หลิวซูรู้สึกเสียใจ

เมื่อครู่เขาไม่ได้สังเกตว่าที่เอวของหลานเยาเยามีน้ำแขวนอยู่ พอดีใจก็พูดกับนางไม่หยุด

จนลืมพูดว่าอยากดื่มน้ำ

คิดไม่ถึงว่า พอเจอตาเฒ่าเย่น หลานเยาเยาจะดีใจ รีบหยิบเอาน้ำให้เขากิน จึงรู้สึกว่าตนเองนั้นถูกทอดทิ้ง และรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้สำคัญขนาดนั้น

อารมณ์เขาจึงไม่ดีมากๆ

เอ่อ……

ก่อนหน้านี้เห็นยู่หลิวซูกระปรี้กระเปร่า พูดคุยกับนางท่าทางไม่เหมือนหิวน้ำ นางเองก็ลืมไป

“แค่กๆ!” นางพูดออกมา

มีความอายอยู่ในนั้นเล็กน้อย แต่ใบหน้าก็ยังมองเขาด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก

“ข้าก็เห็นว่าสีหน้าของเจ้ายังมีเลือดฝาดมันวาว แข็งแรงมีชีวิตชีวาราวกับวัว ไม่ได้มีท่าทางเหมือนกับกระหายน้ำเลย

เจ้าดูตาเฒ่าเย่นอีกที หลังก็ค่อม สกปรกไปทั้งตัว ท่าทางเหมือนจะตาย ดูน่าเวทนามาก ข้าจึงให้เขาดื่มน้ำเพื่อต่อชีวิต”

นี่คือคำพูดปลอบ?

ทำไมพอพูดออกมา ก็ล่วงเกินไปถึงสองคนเลยหล่ะ?

ความโกรธของตาเฒ่าเย่นนั้น เพิ่งดื่มน้ำไปสองอึก กาน้ำที่ถืออยู่นั้น เหมือนจะอยากปาไปที่พื้น แต่ก็ทำไม่ลง ก็ต้องแอบอดทนเอาไว้

สีหน้าของยู่หลิวซูก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น

สิ่งที่เจ้าสำนักพูดเขาไม่อยากฟังนัก สรุปแล้วนี่มันเป็นการชมเขา หรือลดค่าของเขากันแน่?

แต่ประเด็นหลักมันคืออันนี้หรือ?

ทันใดนั้น!

มีกาน้ำปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา คือส้งเย่นกุยที่ยืนอยู่ข้างเขาส่งมาให้

“ดื่มสิ!”

รับกาน้ำมา ยู่หลิวซูก็เบ้ปาก มองหลานเยาเยาทำเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชา เงยหน้าขึ้นและพูดว่า:

“ดูสิ ก็เป็นพี่เย่นกุย ที่สงสารข้า”

“เอาๆๆ เขาสงสารเจ้าที่สุดแล้ว เจ้าก็รีบดื่มน้ำชดเชยเข้าไปละกัน จะได้ไม่ต้องพูดว่าข้านั้นไม่สงสารเจ้า

ดื่มเสร็จพวกเราก็รีบไป ดูว่าจะหาคนอื่นๆเจออีกหรือไม่”

หลังจากนั้น พวกเขาก็เดินไปด้วยกัน เป็นเวลานานมากแล้ว และเดินวนไปรอบใหญ่ๆก็เจอห้าคน ทีละคนๆ แต่มีสี่คน ที่ตายนานแล้ว ส่วนคนที่รอดหนึ่งคนนั้น ก็แทบจะตายอยู่แล้ว

เพียงแต่ยังมีลมหายใจ เพราะถูกกระแทก ช่องอกจึงอัดเลือดขึ้นมา จำเป็นต้องทำการผ่าตัด ถึงจะมีชีวิตอยู่ต่อได้

หลานเยาเยาจึงตัดสินใจใช้ของที่มีอยู่ลองทำการผ่าตัด แต่เพื่อไม่ให้เป็นภาระพวกเขา ระหว่างที่กลับ คนคนนั้นจึงแอบกัดลิ้นฆ่าตัวตาย

ในการค้นหาครั้งต่อมา พวกเขาได้พบกับฝูงงูทองทะเลทรายสองสามครั้ง ดีที่ว่าบนตัวของนางและส้งเย่นกุยมียาผงอยู่ จึงทำให้อยู่ในสถานการณ์ที่น่ากลัว แต่ไม่มีอันตรายใดๆอยู่หลายครั้ง

สุดท้าย เมื่อไม่พบใครจริงๆ พวกเขาจึงกลับไปยังเนินทรายที่โรยยาผงไว้

ทรายสีเหลืองเต็มท้องฟ้า ก็ค่อยๆกระจายจางไปตามกาลเวลา หลานเยาเยาตัดสินใจว่าจะไปหาเย่หลีเฉินให้มารวมกลุ่มกันที่นี่

ในไม่ช้าก็มาถึงสถานที่ ที่พวกเขาทำเครื่องหมายเอาไว้ ที่นั่นว่างเปล่าไม่มีคน แต่กลับมีม้าอยู่ตัวหนึ่ง บนม้าก็ยังแบกของเอาไว้จำนวนหนึ่ง

พอมองเข้าไปใกล้ ก็เป็นห่อของที่ใส่อาหาร และมีกาน้ำ

“ใครอยู่ตรงนั้น?” จู่ๆก็มีคนโพล่งออกมา

นั่นคือเย่หลีเฉิน น้ำเสียงของเขาดูรีบร้อน ในความรีบร้อนนั้น ก็ยังมีความประหม่าอยู่อย่างชัดเจน

“ข้าเอง”

“หลานเยาเยา?! เบาหน่อย รอบๆมีบางอย่างผิดปกติ คาดว่าจะพบกับงูสีทองนั่นอีกแล้ว”

ดูท่า อยู่ที่นี่เย่หลีเฉินจะได้รับการจู่โจมจากงูทองทะเลทราย จึงอดไม่ได้ที่จะไม่สบายใจ

พวกมันมีอยู่ทุกที่จริงๆ ทะเลทรายแห่งนี้ มีไว้เพื่อเลี้ยงงูทองทะเลทรายโดยเฉพาะงั้นหรือ?

ทำไมหลังจากที่มีมรสุมทะเลทราย จึงมีอยู่ทั่วทุกที่!

งูก็แบ่งเขตพื้นที่นะ!

คงไม่ใช่ว่าถูกมรสุมทะเลทรายพัดมาไกลใช่ไหม?

พอคิดถึงตรงนี้ หลานเยาเยาก็รีบมองทรายเหลืองที่อยู่เต็มท้องฟ้า จึงรีบบอกให้เย่หลีเฉินเข้ามาใกล้ม้า

“เจ้ารีบมานี่ บนตัวข้ามียาผงอยู่ สามารถกันงูทองทะเลทรายให้พวกมันไม่เข้าใกล้”

ในไม่ช้าเย่หลีเฉินก็เดินออกมาจากหมอกทรายบางๆ มาปรากฏอยู่ตรงหน้าหลานเยาเยา แต่เขาไม่ได้ตัวคนเดียว ด้านหลังยังแบกคนที่น่าจะสลบไปเอาไว้

พอเห็นใบหน้าของคนนั้น หลานเยาเยาก็หรี่ตารีบรุดมาข้างหน้า นางคือเย็นหงที่แต่งตัวเป็นชาย ใบหน้าฟกช้ำ มุมปากก็มีรอยเลือด ทั้งตัวเต็มไปด้วยทรายสกปรก ดูเหมือนได้รับบาดเจ็บสาหัส

หลังจากที่ทั้งสองรวมตัวกัน ก็รีบมัดเย็นหงไว้บนม้า ให้ม้าแบกนางออกไปจากสถานที่ที่เป็นปัญหานี้อย่างรวดเร็ว

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท