หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 579 ในปีนี้ อ๋องเย่อาบน้ำก็อารมณ์สุนทรีย์ด้วยหรือ?

บทที่ 579 ในปีนี้ อ๋องเย่อาบน้ำก็อารมณ์สุนทรีย์ด้วยหรือ?

บทที่ 579 ในปีนี้ อ๋องเย่อาบน้ำก็อารมณ์สุนทรีย์ด้วยหรือ?

เขามั่นใจในตัวตนของนางตั้งนานแล้วใช่หรือไม่?

แต่ท่าทางของเขาตอนนี้ก็ไม่เหมือนแบบนั้น ราวกับกำลังหยอกล้อเท่านั้น

“ท่าน……”

“ไปเถอะ! ที่นี่กลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ไม่เหมาะกับเจ้า”

พูดจบ เย่แจ๋หยิ่งก็เดินไปทางด้านนอกอย่างสบายๆ ฝีเท้าเขาไม่เร็วไม่ช้า แม้จะปิดตา ก็เดินเหินอย่างอิสระเหมือนคนปกติเช่นนั้น

หลานเยาเยาอยู่ด้านในห้อง ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ยกเท้าก็เตรียมจากไป ระหว่างนั้น มองเห็นสีแดงสดอย่างฉับพลัน รีบหันมองไปทันที

บนพื้นเต็มไปด้วยเลือดสีดำคล้ำของคนโดนมนต์ดำ ศพและศีรษะที่แยกออกจากกันตอนนี้ไม่ขยับ ในเวลานั้นที่ห่างจากคนโดนมนต์ดำไม่ไกล มีเลือดสีแดงสดไม่กี่หยดกระเซ็น เลือดไม่กี่หยดนั้นยังไม่แข็งตัวทั้งหมด

นางจำตำแหน่งนั้นได้ ก็คือที่ที่ถังมู่หวั่นยืนอยู่ก่อนหน้านี้

มิน่าล่ะคุณหนูกู้ที่สงบนิ่งไปแล้ว กลายเป็นคนโดนมนต์ดำอย่างกะทันหัน ที่แท้เพราะได้กลิ่นเลือดสด

คิดถึงตรงนี้ หลานเยาเยาค่อยๆขมวดคิ้วแน่นขึ้น……

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง

หลานเยาเยายืนอยู่ริมฝั่งทะเลสาบหนานหู เย่แจ๋หยิ่งยืนชายเสื้อพลิ้วไหวอยู่ข้างกาย เรือใหญ่กลางทะเลสาบ เวลานี้ลุกเป็นเพลิงลุกโชน ควันหนาแน่น

เรือใหญ่และศพคนโดนมนต์ดำถูกเผาไปพร้อมกัน

ฉับพลันนั้น!

หลานเยาเยารู้สึกได้ แขนเสื้อของตัวเองถูกคนดึง เมื่อก้มหน้ามอง เป็นแขนที่เรียวยาวข้างหนึ่งกำลังดึงแขนเสื้อของนางไว้ ฉุดเป็นทีๆ

นี่เขาทำอะไร?

“อ๋องเย่มีธุระ?”

“หนานซู่ ข้าไม่สระผมวันหนึ่งแล้ว” เย่แจ๋หยิ่งก้มศีรษะ มองไม่เห็นสีหน้า แต่สามารถฟังออกว่าเขาน้อยใจเล็กน้อย

“ไม่ใช่ว่าเมื่อวานเพิ่งจะสระหรือ?” นางจำได้ชัดเจนมากนะ! อีกทั้งยังจะต้องให้เตียงสระผมที่เรียบง่ายที่นางสั่งให้คนทำให้ได้

“ห่างจะเมื่อวานก็ผ่านไปเก้าชั่วโมงสิบห้านาทีแล้ว ข้ารู้สึกว่าเส้นผมไม่พลิ้วไหวแล้ว”

เอ่อ……

จำได้ชัดเจนขนาดนั้นเลยหรือ?

ทำไมนางรู้สึกว่าเพิ่งผ่านไปไม่นานนะ?

ทั้งนี้เย่แจ๋หยิ่งเอาผมครึ่งหนึ่งขึ้นมา ใช่ที่รัดผมที่ดูน่าเกรงขามงดงามรัดไว้ ผมสีดำดั่งหมึกห้อยตรงลงมา เหมือนน้ำตกเช่นนั้น บางครั้งมีลมอ่อนๆพัดโชยผ่าน เส้นผมก็พลื้วไหวตาม สะอาดเหมือนเพิ่งสระผมเมื่อครู่เช่นนั้น

“พลิ้วไหวมากนี่!”

“แต่ข้าคันศีรษะ”

“…..” อะไร? นี่เป็นไปได้อย่างไร พวกเขาใช้ของอย่างเดียวกัน นางยังเว้นหนึ่งวันเลย หนังศีรษะไม่ได้คันสักนิด “จริงหรือโกหก? ข้าอ่านหนังสือน้อย ท่านอย่าหลอกข้าเชียว”

คราวนี้ เย่แจ๋หยิ่งค่อยๆเงยหน้าขึ้น ค่อนข้างยากจะเอ่ยเรื่องจริงออกไป แล้วมีความหวังจะกล่าวเล็กน้อย :

“ที่สำคัญคือข้าต้องการอาบน้ำ ได้เคลื่อนย้ายเตียงสระผมที่เจ้าทำให้ข้าเป็นพิเศษไปที่ห้องอาบน้ำด้วยเลย และสระผมด้วยพอดี”

คราวนี้ หลานเยาเยาเบิกตาโพลงทันที มองดูเย่แจ๋หยิ่งอย่างเหลือเชื่อ เปิดปากอย่างลำบาก :

“ท่านอยากอาบน้ำและสระผมพร้อมกัน?”

“อืม มีอะไรไม่ได้? หนานซู่ เจ้าเป็นหมอข้างกายของข้า แล้วข้าก็เป็นคนของเจ้า อีกทั้งพวกเราล้วนเป็นผู้ชาย สามารถกินด้วยกันนอนด้วยกันอาบน้ำด้วยกันได้ ทำไมต้องลำบากใจเหมือนเป็นผู้หญิงเช่นนั้น”

“……”

แม้แต่คำว่าหมอสองคำที่เย่แจ๋หยิ่งตั้งใจพูดหลานเยาเยาก็เพิกเฉยไปแล้ว เอาความสนใจมารวมอยู่บนกินด้วยกันนอนด้วยกันอาบน้ำด้วยกันโดนตรง

“ทำไม? ทำไมไม่พูด? หรือว่าตอนนี้ข้าตาบอดแล้ว เจ้ายังจะรังเกียจข้าอีก? หืม?” เย่แจ๋หยิ่งเข้าใกล้นาง เหมือนต้องการดูท่าทางนางตอนนี้ให้ชัดเจน

“ไม่ ไม่ใช่”

“ไม่ใช่ก็ดี รีบไปเถอะ!”

เย่แจ๋หยิ่งยกมุมปากขึ้น ลากแขนเสื้อของหลานเยาเยาก้าวเท้าจากไปอย่างพอใจมาก แต่พบว่าหลานเยาเยาอืดอาดชักช้า ฉุดๆลากๆ เขาหยุดทันที คว้านางเข้าในอ้อมอก จากนั้นก็เหาะจากไป

จวนอ๋องเย่ ห้องอาบน้ำ

ห้องอาบน้ำกว้างใหญ่ น้ำร้อนเต็มสระ ไอร้อนระอุ ข้างๆล้อมด้วยผ้าโปร่งสีอ่อน แม้แต่ด้านบนเพดานห้องอาบน้ำ ก็ตกแต่งเต็มด้วยผ้าโปร่งสีอ่อน ทั้งห้องอาบน้ำดูเหมือนดั่งภาพจินตนาการความฝัน

ยืนอยู่ข้างสระอาบน้ำพร้อมกับเย่แจ๋หยิ่ง หลานเยาเยาอ้าปากกว้างแล้ว

ห้องอาบน้ำนี้ไม่ใช่ว่านางไม่เคยมา

เมื่อเห็นวันนี้ ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินแล้ว

“นี่……ที่นี่ทำไมถึง……”

“ทำไมถึงอะไร? หนานซู่ เจ้าอย่าบอกข้าเชียวว่า เจ้าเคยมาห้องอาบน้ำนี้ นี่เป็นถึงห้องอาบน้ำส่วนตัวของข้า ไม่มีคำสั่งข้าไม่มีใครกล้ามา ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าบอกว่านี่เป็นการมาเมืองหลวงครั้งแรกของเจ้า ครั้งแรกมาจวนอ๋องเย่ คงไม่น่าจะเคยเห็นสภาพห้องอาบน้ำนี้

เมื่อครู่เจ้าอยากพูดอะไร? เพราะที่นี่สวยงามเกินไปหรือ? หรือจะบอกว่าที่นี่เปลี่ยนไปมาก?”

หลานเยาเยาตะลึงงันทันที!

ถูก!

เมื่อครู่นางอยากเอ่ยปากออกไปว่าที่นี่เปลี่ยนไปมากมายจริงๆ

หากไม่ใช่เย่แจ๋หยิ่งเปล่งเสียงกะทันหัน นางก็พูดออกไปแล้ว

มักจะรู้สึกเสมอว่า เย่แจ๋หยิ่งแปลกประหลาด ราวกับว่าตั้งใจเตือนนาง

“ถูก สวย สวยงามมาก คิดไม่ถึงว่าอ๋องเย่ท่านยังจะมีความชอบเช่นนี้ด้วย”

“ชอบก็ดี ยังไงซะข้ามองไม่เห็น เจ้ารู้สึกว่าสวย ข้าก็ดีใจ” เย่แจ๋หยิ่งเอื้อมมือไปในกล่องดอกไม้ที่ชั้นด้านข้าง คว้ากลีบดอกไม้สีสันสดสวยกำหนึ่ง จากนั้นโปรยลงในสระอาบน้ำ

กลีบดอกไม้ปลิวพลิ้วร่วงลง ดั่งเรือน้อยลอยล่องก็ไม่ปาน หยุดอยู่บนผิวน้ำอุณหภูมิร้อน

“ท่านยังจะโปรยดอกไม้ด้วย?” หลานเยาเยาตะลึงในพริบตา

เย่แจ๋หยิ่งอาบน้ำอารมณ์สุนทรีย์แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว?

“เจ้ามีความคิดเห็น?” เย่แจ๋หยิ่งถามกลับ

“ไม่มี ไม่มี ท่านทำต่อ”

นางกล้ามีความคิดเห็นอะไร? เพียงแค่เขาดีใจก็ดี อยากโปรยก็โปรยเถอะ อย่างไรเสียนางก็ไม่ได้แพ้ดอกไม้ โปรยเต็มทั้งสระก็ได้หมด

กล่าวโดยทั่วไป ผู้หญิงอาบน้ำชอบโปรยดอกไม้ในสระเล็กน้อยเพิ่มความหอม เป็นเรื่องปกติ แน่นอน ไม่สามารถปฏิเสธได้ ก็มีผู้ชายบางคนชอบอาบน้ำโปรยดอกไม้ เช่นผู้ชายขายบริการในโรงแสดง ก็เพื่อดึงดูดลูกค้า

แต่เย่แจ๋หยิ่ง……

นางก็ยืนยัน เขาโปรยดอกไม้ไม่ใช่เพื่อเพิ่มความหอม น่าจะเพียงแค่โปรยเล่น จะไม่โปรยมากนัก

แต่ต่อจากนั้น ทำให้หลานเยาเยาตื่นตกใจคือ

เย่แจ๋หยิ่งเสพติดการโปรยดอกไม้แล้ว กลีบดอกไม้เต็มสระแล้ว อีกทั้งซ้อนเป็นชั้นๆแล้วยังจะโปรยอยู่อีก คาดว่าต้องการโปรยดอกไม้ในกล่องทั้งหมดบนชั้นจนหมดถึงจะยอมหยุดมือ

ตอนนี้เย่แจ๋หยิ่งมองไม่เห็น ไม่รู้ว่าฉากนี้มันหลอนมากขนาดไหน

แต่นางมองเห็นนะ! ดังนั้นเปล่งเสียงเตือนพร้อมมุมปากที่กระตุก

“อ๋องเย่ ข้าว่าได้แล้ว”

ได้ยินดังนั้น!

มือที่ยังคว้ากลีบดอกไม้ของเย่แจ๋หยิ่งชะงัก ยกรอยยิ้มทันที กล่าวหยอกล้อ :

“ข้ายังอยากเอากลีบดอกไม้ทั้งหมดโปรยลงในสระ จะได้อาบน้ำที่ยากจะลืมไปตลอดชีวิตครั้งหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าเจ้ารอไม่ไหวแล้ว หนานซู่ เจ้าก็ตั้งตารออาบน้ำพร้อมกับข้าเป็นอย่างมากใช่หรือไม่?”

“แฮ่มแฮ่มแฮ่ม” เพราะคำพูดของเย่แจ๋หยิ่ง หลานเยาเยาตื่นเต้นอย่างอธิบายไม่ถูก เปิดปากต้องการอธิบาย กลับสำลักน้ำลายโดยตรง

“แฮ่มแฮ่มแฮ่ม……”

“ดู ข้าเดาไม่ผิดจริงๆ เจ้าก็คิดเหมือนข้า”

“เปล่าสักหน่อย แฮ่มแฮ่มแฮ่ม……”

เย่แจ๋หยิ่งไม่สนใจการแก้ตัวที่ไร้น้ำหนักของนาง ใช้โอกาสระหว่างที่นางยังกระแอม ค่อยๆลงมือปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองช้าๆ

หลานเยาเยาที่สงบลง เงยหน้ามอง ชะงักไปทันที

เวลานี้ปรากฏต่อหน้านางคือทรวงอกที่งดงาม ผิวที่ขาวละเอียดเกินไป อีกทั้งโฉมหน้าที่หน้าตกตะลึงดั่งเทพเซียน

เขาเอาที่รัดผมออกแล้ว เส้นผมห้อยตรงลงข้างล่างตามธรรมชาติ มีเพียงผ้าแดงปิดตาอย่างเดียว แตกต่างกับเขาที่อยู่ในห้องอาบน้ำก่อนหน้านี้เล็กน้อย

ไม่ ไม่ได้แตกต่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ราวกับว่าเขาผอมซูบไปเป็นอย่างมาก บนร่างก็มีแผลเป็นที่เห็นแล้วน่าตกใจสองสามรอย โดยเฉพาะบนหัวใจรอยนั้น

“ท่าน……”

ทั้งที่รู้ว่าปากแผลได้แข็งตัวเป็นแผลเป็นเมื่อสองสามปีก่อนแล้ว แต่นางยังอยากถามสักประโยค : ยังเจ็บไหม?

ก็เห็นเย่แจ๋หยิ่งเอนตัวลงมากะทันหัน ใกล้กับนางอย่างมาก ลมหายใจของทั้งสองราวกับสามารถพันพัวเข้าด้วยกัน เขาเปิดริมฝีปากบางๆเล็กน้อย :

“เกรงว่าเจ้าจะเขินอาย ข้าถอดเองแล้ว”

พูดจบ เขายื่นมือมาทางบนใบหน้าของนาง ตกลงที่ระหว่างกลางริมฝีปากสีชมพูและจมูกของนางอย่างแม่นยำ หลังจากสัมผัสถึงความชื้น ตัดสินใจถอนมือกลับ วางไว้ที่ปลายจมูกแล้วดม ยกมุมปากขึ้นอย่างพอใจมาก :

“ข้าดึงดูดคนให้หลงใหลได้จริงๆ หนานซู่ เจ้าเลือดกำเดาไหลแล้ว”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท