หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 568 ทำให้ท่านอ๋องเบี่ยงเบนได้สำเร็จ

บทที่ 568 ทำให้ท่านอ๋องเบี่ยงเบนได้สำเร็จ

บทที่ 568 ทำให้ท่านอ๋องเบี่ยงเบนได้สำเร็จ

หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม

ด้านหน้าหอเฟิ่งหวง ผู้หญิงคนหนึ่งสวมหมวก รอบๆด้านข้างมีผ้าบางห้อยตรงลงมา คลุมทั้งคนไว้ นางเดินอย่างรีบร้อน ไม่เห็นสีหน้า

แม้ว่าจะเหน็บหนาว สวมชุดหรูหราที่มีความหนา แต่มองออกไม่ยาก ร่างกายของหญิงผู้นั้นผอมเพรียว เป็นหญิงสาวที่อายุไม่ถึงยี่สิบปี

มองดูแถบกระดาษที่ปิดประตูใหญ่หอเฟิ่งหวงไร้การแตะต้อง ในใจของนางก็ไม่สามารถซ่อนความเหงาหงอยได้

ทำไมเขายังไม่มา?

ทั้งๆที่ฮ่องเต้องค์ใหม่เห็นหอนี้แล้ว มองเข้าไปในตาก็หลงใหล ทันทีที่เห็นก็มองหอนี้เป็นเทพธิดาที่ขอพรเพื่อประชาชน

หรือว่าหอเฟิ่งหวงสีแดงเลือดที่นางทุ่มเทใจสร้างสรรค์ไม่เพียงพอที่จะดึงดูดความสนใจคน?

เวลานี้ กลางอากาศมีความเคลื่อนไหว

ในไม่ช้าก็มีคนผู้หนึ่งท่าทางเหมือนองครักษ์ปรากฏตัวต่อหน้าหญิงผู้นั้น องครักษ์ทำมือเคารพ

“คุณหนู”

ผู้หญิงถาม : “สืบถามเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”

“รายงานคุณหนู อ๋องเย่ไม่เคยมาเลยขอรับ แต่กลับมีคุณชายสองคนมาสอบถามข่าวคราวของคนครอบครัวขุนนางขอรับ”

ได้ยินดังนั้น หญิงสาวขยับยิ้มเล็กน้อย ถามทันที : “สองคนนั่นเป็นคนของจวนอ๋องเย่หรือไม่?”

“ดูลักษณะล้วนไม่คุ้นเคยขอรับ รัศมีไม่ธรรมดา แตกต่างจากคนของจวนอ๋องเย่ขอรับ” องครักษ์ตอบตามความจริง

คำตอบนี้ทำให้ใจของหญิงสาวเกิดความไม่พอใจ นางเปล่งเสียงไม่พอใจอย่างเย็นชาเสียงหนึ่ง มองดูองครักษ์ด้วยสีหน้าเฉยเมย

“เช่นนั้นก็ไปสืบ ต้องสืบคนออกมาให้ได้”

วางแผนมานานขนาดนี้แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่อ๋องเย่จะนิ่งดูดาย เพียงแค่เขาปรากฏตัว อ๋องเย่ก็จะเป็นของนางแน่นอน

…….

จวนอ๋องเย่ ประตูใหญ่

จื่อซีและพ่อบ้านเหมยกำลังร้อนใจเป็นฟืนไฟ ทั้งสอบถามองครักษ์ที่ออกไปสืบข่าวเป็นระยะๆ คำตอบก็คือไร้วี่แวว

สองคนเดินครุ่นคิดไปมาอยู่ด้านในประตูใหญ่ ไม่นานก็ชะเง้อหัวมองออกไปทางด้านนอกประตูอีก

“พ่อบ้านเหมย ท่านว่าเจ้านายจะไปที่ไหน?” จื่อซีถามอีกครั้ง

พ่อบ้านเหมยก็ร้อนใจ!

แต่เผชิญหน้ากับการถามไถ่ของจื่อซีครั้งแล้วครั้งเล่า อีกทั้งยังเป็นคำถามเดิมอีก พ่อบ้านเหมยก็ขี้เกียจตอบแล้ว

ไม่ได้ยินคำตอบ จื่อซีก็คว้าแขนพ่อบ้านเหมยไว้แล้วสอบถาม

“พ่อบ้านเหมย ท่านก็พูดมาสิ? ท่านดูเจ้านายโตมาตั้งแต่ยังเด็ก จะต้องรู้ความคิดในใจของเจ้านายบ้างแน่นอน ท่านเดาดูเขาจะที่ไหน?”

“โอ๊ย ปล่อยมือ ปล่อยมือ เจ้าผู้ชายที่โตแล้วผู้หนึ่ง ยังเป็นองครักษ์ลับของอ๋องเย่อีก เรียนรู้การออดอ้อนดึงๆลากๆของพระราชธิดาจาวหยางมาทำไม?

หากข้ารู้ว่าอ๋องเย่ไปที่ไหน จะร้อนใจอยู่ที่นี่เรื่อยเปื่อยอะไร?”

พ่อบ้านเหมยพูดไปพลาง ผละออกจากมือของจื่อซีไปพลาง ยังไม่ลืมที่จะถอยไปก้าวหนึ่ง เว้นระยะห่าง หันไปด้านข้างด้วยสีหน้ารังเกียจ

ผู้ชายที่โตแล้วสองคนฉุดๆลากๆ ประเพณีอย่างไร?

ที่ไม่รู้ ยังจะคิดว่าเขาชอบผู้ชาย ดังนั้น จำเป็นต้องห่างจากจื่อซี

“ท่านเป็นถึงคนดูเจ้านายเติบโตมาเชียวนะ?”

“ท่านยังเป็นคนที่อยู่กับท่านอ๋องเป็นเวลานานที่สุดเชียวนะ? ทำไมท่านไม่รู้?” พ่อบ้านเหมยส่ายหน้าอย่างจนปัญญา สีหน้าปวดใจ “เมื่อก่อนท่านฉลาดมากไม่ใช่หรือ? ตั้งแต่พระราชธิดาจาวหยางเที่ยวไปทั่วสารทิศ ทำไมท่านถึงได้โง่ไปแล้วล่ะ?”

ความคิดของจื่อซีทำไมพ่อบ้านเหมยจะไม่รู้?

พระราชธิดาจาวหยางเอาของขวัญเล็กๆกลับมาให้จื่อซีจากด้านนอก เขาก็ดีใจจนเหมือนแมวสีส้มหนักหนึ่งร้อยโล คนโง่ไปแล้วไม่ว่า ตอนนี้ความฉลาดก็ทำให้คนเป็นกังวล

“…….ข้าฉลาดนะ!” จื่อซีเบ้ปาก ท่าทางน้อยใจ พูดเบาๆ “นี่เกี่ยวอะไรกับพระราชธิดาด้วย?”

ความคิดของเจ้านายล้วนอยู่ที่ตัวของคุณหนู

คุณชายเหลียงเฉินจะต้องเอาเรื่องของคุณหนู หลอกล่อเจ้านายออกไป

หลอกล่อก็หลอกล่อสิ!

ออกจากบ้านไปสูดอากาศ สำหรับเจ้านายเป็นเรื่องที่ดี แต่อย่างน้อยที่สุดคุณชายเหลียงเฉินก็ต้องทิ้งข้อความให้พวกเขาหน่อยไม่ใช่หรือ?

อย่างน้อยทำให้พวกเขามั่นใจว่าเจ้านายไม่มีอันตราย?

“รออีกหน่อยเถอะ! คุณชายเหลียงเฉินไม่ทำตามอำเภอใจแน่”

“นี่ก็จริง เพียงแต่คุณชายซ่างกวนเกิดอะไรขึ้นอีก? ไม่บอกสักคำก็จากไปแล้ว”

จุดนี้ไม่เพียงจื่อซีที่กลัดกลุ้ม แม้แต่พ่อบ้านเหมยก็กลุ้มใจ

ขณะที่เงยหน้า ก็เห็นเงาร่างคนสองคนเหาะมา รวดเร็วเป็นที่สุด

สวมชุดดำ เย่แจ๋หยิ่งที่ปิดตาด้วยผ้าแดง แม้จะมองไม่เห็น แต่พาหลานเยาเยาเหาะมาตลอดทาง ก็ไม่มีสะดุดสักนิด

นี่ทำให้หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่า ผ้าปิดตาสีแดงของเย่แจ๋หยิ่งใช้เพื่อประดับ

“เจ้านาย?”

“ท่านอ๋อง?”

เห็นเย่แจ๋หยิ่งกลับมาแล้ว จื่อซีและพ่อบ้านเหมยล้วนดีใจเป็นพิเศษ แต่เห็นเขาลากคนแปลกหน้าผู้หนึ่ง อ่อไม่ถูก คุณชายซ่างกวนที่เพิ่งจะรู้จักไม่นานนั้น ทั้งสองล้วนงงงัน

นี่……

เกิดเรื่องอะไรขึ้น?

เจ้านายยังจะรู้จักกับคุณชายซ่างกวนงั้นหรือ?

คงไม่ใช่ว่าที่พวกเขาเชิญให้คุณชายซ่างกวนมารักษาโรคไข้ใจให้เจ้านายถูกเจ้านายรู้แล้ว ดังนั้นจึงไปลากคุณชายซ่างกวนมาหรอกนะ?

หากเป็นเช่นนี้ งั้นพวกเขาตัดสินใจโดยพลการ การลงโทษไม่น้อยเลย

ภายใต้ความโกรธของเจ้านาย เอาพวกเขาขังไว้ในห้องมืดเล็กๆ เช่นนั้นพวกเขาก็จบเห่แล้ว

เวลานี้!

ทั่วร่างของเย่แจ๋หยิ่งแผ่กระจายความหนาวเหน็บที่เย็นยะเยือก คนทั้งคนอึมครึมน่ากลัว เมื่อมาถึงด้านหน้าของพ่อบ้านเหมยและจื่อซี ก็ถามด้วยเสียงต่ำ :

“เป็นใครตัดสินใจโดยพลการ?”

เมื่อคำพูดนี้โพล่งออกไป

จื่อซีกลัวจนสั่น ใจตกลงไปในก้นบึ้ง ท่าทางเช่นนี้ของเจ้านาย ก็คือสัญญาณของความโกรธ ผลลัพธ์เป็นหายนะที่คาดไม่ถึง

แม้แต่พ่อบ้านเหมยที่ถูกเย่แจ๋หยิ่งเคารพมาตลอด เวลานี้ก็สัมผัสได้ถึงความโกรธของเจ้านาย กลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว

ฐานะที่จื่อซีเป็นองครักษ์ลับ การตอบสนองเร็วที่สุด เปิดปากก่อน

“รายงานเจ้านาย เป็นข้าน้อย ไม่เกี่ยวข้องกับพ่อบ้านเหมยขอรับ”

แม้ว่าจะเป็นพ่อบ้านเหมยไปหาเขาก่อน แต่พวกเขาก็นับว่าเห็นพ้องกันโดยไม่ได้หารือ นอกจากนี้พ่อบ้านเหมยอายุมากแล้ว ไม่เหมาะสมจะโดนลงโทษ

ได้ยินจื่อซีรับปัญหานี้ไว้ทั้งหมด พ่อบ้านเหมยรู้สึกซาบซึ้ง ซาบซึ้งจนแทบจะน้ำมูกน้ำตาไหลแล้ว แต่ว่า เขาไม่ใช่คนที่กล้าทำไม่กล้ารับ จะสามารถให้จื่อซีรับปัญหาไว้ผู้เดียวได้อย่างไรล่ะ?

ด้วยเหตุนี้ เขาสงบใจลง สร้างความกล้าหาญและกล่าว :

“เป็นการกระทำของจื่อซีผู้เดียวจริงๆขอรับ”

“…….” จื่อซีมุมปากกระตุกรุนแรง

แย่แล้ว!

ทำไมไม่เหมือนกับที่คิดไว้?

พ่อบ้านเหมยไม่ควรซาบซึ้งไปพลางและรับโทษกับเขาไปพลางหรือ?

แม้ว่าจื่อซีจะไม่หวังให้พ่อบ้านเหมยได้รับโทษ แต่ก็คิดไม่ถึงว่าพ่อบ้านเหมยจะเป็นพ่อบ้านเหมยเช่นนี้นะ!

ต่างจากจินตนาการมากเกินไปแล้ว เขาต้องผ่อนคลาย

เผชิญหน้ากับสายตาที่เย็นชาของเจ้านาย จื่อซีก้มหน้าลงอย่าละอายใจ

“จากวันนี้ไป เงินเดือนของจื่อซีพลิกเป็นอีกเท่า” พูดถึงตรงนี้ เย่แจ๋หยิ่งลากหลานเยาเยามาในอ้อมอก มุมปากเผยให้เห็นรอยยิ้มอีก “คราวหน้าจะไม่ละเว้นอีก ไม่เช่นนั้น ลงโทษประหารคาที่”

พูดจบ!

เย่แจ๋หยิ่งลากหลานเยาเยาเดินไปทางห้องบรรทม เงาหลังที่สูงใหญ่ผอมเพรียว ไม่เหมือนกับที่ผ่านมา อย่างน้อยความซึมเศร้าก็หายไป

พ่อบ้านเหมยมองดูท่านอ๋องของตัวเองจับมือคุณชายซ่างกวนแน่น ทันใดนั้นในสมองครุ่นคิดไปมานับพันครั้ง สุดท้ายก็เปล่งเสียงอย่างอดไม่ได้

“ท่านอ๋อง คุณชายซ่างกวนเขา……”

“แขกสำคัญของจวน ละเลยไม่ได้”

“……ขอรับ!”

รอจนเงาหลังของพวกเขาสองคนหายไปจากตา จื่อซียังดึงสติกลับมาไม่ได้

เขาไม่ได้หูแว่วใช่หรือไม่?

นี่เจ้านายทำโทษเขาที่ไหน? เห็นได้ชัดว่าเป็นการตกรางวัลนี่!

“พ่อบ้านเหมย วันนี้เจ้านายแปลกมาก ท่านว่าคุณชายเหลียงเฉินทำอะไรเจ้านายหรือขอรับ?” จื่อซีไม่เข้าใจโดยสิ้นเชิง

สีหน้าพ่อบ้านเหมยกลับคิดหนัก ในสมองเต็มไปด้วยภาพท่านอ๋องของตัวเองจูงมือชายผู้หนึ่งไว้แน่น ภาพนั้นทำให้เขาแอบกังวลเล็กน้อย

แล้วในเวลานี้ โม่เหลียงเฉินรีบมาถึงจวนอ๋องเย่อย่างร้อนรน เมื่อเข้าประตูใหญ่ก็ถูกพ่อบ้านเหมยและจื่อซีกั้นไว้

“พวกท่านกั้นข้าทำไม รีบหลีกไป ข้าต้องคุยกับเย่แจ๋หยิ่ง” ใบหน้าโม่เหลียงเฉินแสดงความไม่เข้าใจ ในใจเขายังมีความสงสัยอยู่มากมายไปหมดนะ!

เมื่อครู่ไล่ตามตลอดทางอย่างบ้าคลั่ง ก็ต้องดูว่า เย่แจ๋หยิ่งต้องการทำอย่างไรกับผู้ชายที่หน้าตาดีผู้หนึ่ง

แต่ทำอะไรไม่ได้ทำอย่างไรก็ตามไม่ทัน

ดวงตาก็มองไม่เห็นแล้ว ยังเหาะเร็วขนาดนั้น เหมือนจะรีบไปเข้าหอเช่นนั้น

ถุ้ย!

ความคิดของเขาสกปรกเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

จื่อซี : “ท่านพาเจ้านายไปไหนขอรับ เหมือนเจ้านายจะโดนของไม่ดีแล้วเช่นนั้น”

“โดนของไม่ดี? เป็นไปไม่ได้ เขาสบายดีเลยล่ะ!”

พ่อบ้านเหมยขมวดคิ้ว : “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับท่านอ๋องและคุณชายซ่างกวนขอรับ”

ความจริง ที่พ่อบ้านเหมยอยากถามคือ : ท่านใช้แผนการอะไรใช่หรือไม่ ทำให้ความคิดของท่านอ๋องเปลี่ยนผัน จากนั้นก็เบี่ยงเบนท่านอ๋องได้สำเร็จแล้ว?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท