ตอนที่ 418 จะได้อุ้มเหลนแล้ว
“ปู่ครับ อาเสวี่ยเหนื่อยจากที่ดูแลผมเมื่อวาน คงไม่ลงมากินข้าวด้วยกันแล้ว ผมจะกินกับเธอข้างบนครับ” เฉวียนหมิงพูด พร้อมกับตักอาหารที่อีลั่วเสวี่ยชอบใส่เต็มจาน
ทั้งนายท่านผู้เฒ่าและเหล่าเกาต่างมีสีหน้าแปลกใจ นายท่านผู้เฒ่ามองดูเฉวียนหมิง แล้ววางตะเกียบในมือลง
“ดูแลหลานเหนื่อยมากหรือไง?” สีหน้าหลานชายตนเองดูไม่เลวเลย ยังต้องคอยดูแลจนดึกหรือ ไม่จริงมั้ง? แววตานายท่านผู้เฒ่าเต็มไปด้วยความสงสัย
มีเพียงเหล่าเกาเท่านั้นที่เห็นมุมปากเฉวียนหมิงเชิดขึ้น แล้วคิดอะไรในใจ เมื่อคืนดูเหมือนเขาจะไม่เห็นนายน้อยหญิงกลับไปที่ห้องตัวเอง หรือว่า…เหล่าเกายิ้มที่มุมปากเมื่อคิดโยงไปเรื่องหนึ่ง แต่ไม่เผยความลับของเฉวียนหมิง
เฉวียนหมิงพยักหน้าอย่างจริงจัง “อืม เหนื่อยมากครับ เอาละ ไม่พูดมากแล้ว ปู่ค่อยๆ กินเองนะครับ” จากนั้นก็ยกอาหารสำหรับตัวเขาเองและอีลั่วเสวี่ยขึ้นไปชั้นบน
หลังจากเฉวียนหมิงกลับห้องไปแล้วนายท่านผู้เฒ่าก็วางตะเกียบลงบนโต๊ะ ท่าทางหงุดหงิด “ดูสิ นี่แหละแบบฉบับของคนที่พอมีเมียก็ลืมปู่!”
เหล่าเกาได้ยินที่นายท่านผู้เฒ่าพูดก็รู้สึกแปลก คำพูดนี้ของเดิมไม่ใช่อย่างนี้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ฟังแล้วทำให้เขาอยากหัวเราะ
นายท่านผู้เฒ่าเห็นเหล่าเกาไม่พูดอะไรก็ยิ่งไม่พอใจ “เหล่าเกา คุณไม่พูดอะไรบ้างหรือ นี่หลานสะใภ้แบบไหนกัน ยังต้องให้หลานชายฉันคอยดูแล หรือเธอเป็นราชินี!”
น่าโมโหจริง เมื่อวานยังรู้สึกต่อเธอดีขึ้นบ้าง วันนี้กลับทำตัวแบบนี้ แล้วเขาจะเปลี่ยนความคิดต่อเธอได้อย่างไร
เหล่าเกากลอกตา “นายน้อยหญิงไม่ใช่ราชินี แต่เป็นไปได้มากว่านายท่านผู้เฒ่าจะได้เป็นทวดแล้วครับ”
“หึ” นายท่านผู้เฒ่าร้องออกมาอย่างไม่พอใจ แต่เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ จ้องมองเหล่าเกาทันที “ว่าอะไรนะ คุณพูดเมื่อกี้อีกครั้งซิ” ดูเหมือนเขาจะได้ยินเรื่องที่สำคัญมาก
“นายท่านผู้เฒ่าผ่านโลกมามาก หรือว่าท่านมองไม่ออก วันนี้นายน้อยดูสดชื่นเป็นพิเศษ มีท่าทางแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทังยังบอกว่านายน้อยหญิงเหนื่อยมาก” เหล่าเกาเน้นเสียงที่สองคำหลัง
นายท่านผู้เฒ่าได้ยินเช่นนี้ก็ตาโตทันที เขาวางตะเกียบลง ยิ้มจนหน้าบาน “ฮ่าฮ่า ทำไมฉันจึงไม่ทันสังเกตนะ แฮ่ๆ คงเพราะสายตาไม่ดี”
พูดจบก็คีบพริกใส่ปาก เหล่าเกาจะร้องห้ามแต่ไม่ทันแล้ว
“โอ๊ย เผ็ด เผ็ดเหลือเกิน” นายท่านผู้เฒ่าพูดจบก็เอามือกุมปาก แล้วชำเลืองมองที่ห้องของเฉวียนหมิง จากนั้นก็ซดน้ำแกงคำใหญ่
“เมื่อกี้ฉันพูดเสียงดังเกินไปไหม ผัวเมียคู่นั้นจะได้ยินหรือเปล่า?” ท่าทางแกเหมือนทำอะไรผิดแล้วกลัวคนอื่นรู้
เหล่าเก่าจนใจ “นายท่านผู้เฒ่าครับ วางใจเถอะ ไกลขนาดนี้” ชั้นสาม ทั้งแต่ละห้องกั้นเสียงได้ดีมาก ไม่ได้ยินเสียงข้างนอก
“งั้นก็ดีแล้ว งั้นก็ดีแล้ว กินข้าว กินข้าว กับข้าววันนี้อร่อยจริงๆ!” พูดจบก็พุ้ยข้าวคำโตและคีบกับข้าวกิน ถ้าเป็นอย่างที่ว่าจริงก็น่าดีใจยิ่งกว่าถูกหวย
ลูกบอลเงินเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดแล้วอดสงสัยไม่ได้ “ทำไมถึงดีใจนัก ตาแก่คนนี้นิสัยเปลี่ยนไปแล้ว ก็แค่เป็นการสืบลูกหลานตามปกติไม่ใช่หรือ? จะสำเร็จหรือไม่ยังต้องดูต่อไป”
ไม่มีใครได้ยินที่มันพูด มันหันหลังกลับแล้วบินไปที่ห้องของอีลั่วเสวี่ย พอเข้ามาในห้องก็เห็นทั้งสองกินอาหารอย่างมีความสุข เจ้าลูกบอลเงินรู้สึกว่ามันจะได้แกลิ่นของความรัก พร้อมกับรู้สึกเศร้าใจ
ตอนที่ 419 แสดงความรักความห่วงใย
ใครๆ ก็บอกว่าอยู่กันเป็นคู่ แต่มันอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายบนโลกนี้ อยากมีความรักเหลือเกิน แต่น่าเสียดายที่โลกนี้ไม่มีสิ่งที่จะเป็นคู่รักของมันได้
“อาเสวี่ย ลุกมากินข้าวเถอะ” เฉวียนหมิงยกถาดอาหารเข้ามา พบว่าอีลั่วเสวี่ยยังซุกอยู่ในผ้าห่ม ยังมีท่าทางไม่พอใจแกล้งหันหน้าไปทางอื่น ทำเป็นไม่ได้ยิน ถ้าไม่ใช่เพราะตอนเข้ามาในห้องเขาเห็นเธอขยับตัว ก็คงคิดว่าเธอยังหลับอยู่
พอเขาพูดจบก็มีเสียงร้องหึดังขึ้นในผ้าห่ม เจ้าของเสียงดูเหมือนจะไม่พอใจ ไม่สิ ไม่พอใจมากเป็นพิเศษ
แต่บนใบหน้าเฉวียนหมิงมีรอยยิ้มอย่างรักใคร่ “อาเสวี่ย อย่าก่อกวนเลย ผมผิดเอง ผมประกันว่าวันหลังถ้าคุณไม่อนุญาตผมจะไม่ทำอย่างนี้เด็ดขาด” เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองหักห้ามใจไม่ไหว
เรื่องที่สวยงามเช่นนี้ใครได้ลองแล้วก็ต้องติดใจ เขาคิดว่าเขาติดใจผู้หญิงตรงหน้าแล้ว พอเจอเธอก็จะควบคุมตัวเองไม่ได้
อีลั่วเสวี่ยได้ยินเช่นนั้นก็ดึงผ้าห่มออก เผยให้เห็นใบหน้าที่แดงเล็กน้อยเพราะคลุมโปงไว้ “คำพูดคุณเชื่อถือไม่ได้!”
“จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม กินอะไรก่อนแล้วค่อยว่า ถ้าคุณไม่อยากขยับ ผมช่วยเอง” เฉวียนหมิงพูดพลางหยิบเสื้อผ้าเธอที่วางอยู่ข้างๆ ขึ้นมา
แต่เสื้อผ้าถูกอีลั่วเสวี่ยฉกมาอย่างรวดเร็วแล้วใส่อย่างฉับไว
ถึงตอนนี้เฉวียนหมิงเลื่อนอาหารมาไว้ข้างเตียง “อาเสวี่ย ผมป้อนให้” เขาใช้ตะเกียบคีบกับข้าวไปที่ปากอีลั่วเสวี่ย
มุมปากอีลั่วเสวี่ยกระตุก “ฉันไม่ได้เป็นอัมพาตสักหน่อย ฉันกินเอง” พูดจบก็รับชามและตะเกียบมาแล้วลงมือกิน เธอยังไม่ขี้อ้อนขนาดนั้น พอผ่านเรื่องแบบนั้นแล้ววันถัดมาต้องคอยให้เขาดูแลรับใช้
อีลั่วเสวี่ยกินไปคำหนึ่งแล้วจู่ๆ ก็ฉุกคิดอะไรบางอย่าง แล้วหันมามองเฉวียนหมิงทันที “แย่แล้ว ฉันไม่ลงไป ปู่คุณจะไม่พอใจไหม?” เฉวียนหมิงยกอาหารมาให้เธอแบบนี้ นายท่านผู้เฒ่าเห็นเข้า ไม่ถือเธอเป็นศัตรูหรือ
“วางใจเถอะ ปู่ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น เมื่อกี้ผมได้ยินแกหัวเราะอย่างสบายใจ น่าจะไม่ติดใจเรื่องนี้หรอก” เฉวียนหมิงพูดเสียงราบเรียบ นิสัยปู่ของตน พอผ่านไปเดี๋ยวก็อารมณ์ดีขึ้นเอง
อีกอย่างเขาคอยปกป้องอีลั่วเสวี่ยชัดเจนอย่างนี้แล้ว ถ้าปู่ยังยืนกรานทำเรื่องที่ขัดขวาง เกรงว่าจะทำให้ความสัมพันธ์หว่างพวกเขาปู่กับหลานจะแย่ลง เขาจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนี้เด็ดขาด
ปู่เองก็น่าจะรู้ดี ดังนั้นที่ผ่านมาแกจึงไม่กล้าทำอะไรเกินเหตุ เพราะอย่างไรอาเสวี่ยก็เป็นเด็กสาวที่ดี
คงเพราะเมื่อคืนสูญเสียพละกำลังไปมาก อีลั่วเสวี่ยกินข้าวสวยหนึ่งชามและกับข้าวจนหมดจึงรู้สึกอิ่ม
“อาเสวี่ย วันนี้เป็นวันสุดสัปดาห์ คุณอยากไปเที่ยวที่ไหน ผมจะไปเป็นเพื่อน” เฉวียนหมิงวางชามและตะเกียบไว้ข้างๆ มองดูอีลั่วเสวี่ยด้วยสายตาอ่อนโยน ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ทั้งคู่จะได้มาอยู่ร่วมกัน ต้องทะนุถนอมเวลานี้ให้ดี
ไม่เช่นนั้นพอเธอไปเรียน เวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันก็จะน้อยมาก
อีลั่วเสวี่ยครุ่นคิดเล็กน้อย “ฉันเองก็ไม่รู้ อยากออกไปเดินๆ บ้าง ที่ไหนก็ได้ ดื่มกาแฟ เดินช้อปปิ้ง” เดินช้อปปิ้งไม่แน่ว่าจะต้องซื้อเสื้อผ้า ยังสามารถสัมผัสกับบรรยากาศที่คึกคัก
คนเป็นสัตว์สังคม อยู่คนเดียวตามลำพังนานเกินไปอาจจะมีปัญหาเกิดขึ้น คนป่วยโรคซึมเศร้าจำนวนมากล้วนไม่ชอบออกไปนอกบ้าน การออกไปเคลื่อนไหวข้างนอกจะช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย ที่จริงก็มีประโยชน์สำหรับผู้บำเพ็ญเพียรอย่างเธอ
“ดี ทำตามที่คุณว่า คุณลุกขึ้นมาเตรียมตัว แล้วเราออกเดินทาง” เฉวียนหมิงพูดจบก็ยกถาดอาหารออกไปจากห้อง
ถึงตอนนี้อีลั่วเสวี่ยจึงลุกจากเตียง พอเดินไปได้สองสามก้าวก็รู้สึกว่าแข้งขาอ่อน แล้วอดนึกถึงเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ ใบหน้าแดงเรื่อขึ้นทันที