ตอนที่ 492 สามารถบำเพ็ญเพียรแบบนี้
เมื่อถูกจ้องมองจากดวงตาเปี่ยมด้วยความรัก แม้ว่าเขาจะไม่ทำอะไรนอกลู่ แต่ขณะนี้อีลั่วเสวี่ยยอมแพ้แล้ว แล้วยื่นมือไปคว้าแขนเขาไว้
ผู้ชายคนหนึ่งปฏิบัติต่อเธอเช่นนี้ ข้อแรกเพราะเสน่ห์ของเธอเอง ข้อสองเพราะหัวใจเขาทั้งดวง อยู่ที่เธอ พอเห็นเธอก็ต้องการเธอ อยากแสดงความรักต่อเธอ
“บาดตาจริงๆ!” รอบตัวเจ้าลูกบอลเงินเปล่งแสงสีชมพูออกมาอย่างไม่รู้ตัว แล้วหลบไปเงียบๆ อิอิอย่างไรก็ยังเห็นบ้าง
“อาเสวี่ย” เฉวียนหมิงถอนริมฝีปากออก ดวงตาสองข้างใสบริสุทธิ์
อีลั่วเสวี่ยขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจที่จู่ๆ เขาก็หยุดลง “คุณสำคัญที่สุด” เธอพูด เป็นการเปลี่ยนจากรับเป็นรุก
ความร้อนรุ่มของทั้งคู่สูงขึ้นเรื่อยๆ ถึงสุดท้าย พลังยินและพลังหยางบรรจบกัน ทั้งคู่ใจเป็นหนึ่งเดียว เนื่องจากอารมณ์ความรู้สึก ก้าวข้ามไปอีกขั้น ทั้งคู่จึงเริ่มดึงดูดไอทิพย์รอบตัวอย่างไม่รู้ตัว
ไอทิพย์ที่มองไม่เห็นห้อมล้อมทั้งคู่ไว้ ค่อยๆ เพิ่มขึ้น จนกลายเป็นไอหมอกบางๆ ชั้นหนึ่ง
แขนขาของทั้งสองเกี่ยวรัดกัน เหมือนกำลังสู้รบติดพันกัน ยังเหมือนการปลอบประโลมกันและกัน ความรู้สึกซับซ้อน ประสานกับไอทิพย์บางๆ ให้ความรู้สึกเหมือนไอเซียนล้อมรอบ ทำให้ทั้งสองดูเหมือนเซียนผู้วิเศษ
เมื่อไอทิพย์เข้าสู่ร่าง ทำให้ทั้งคู่เหมือนอยู่ในมหาสมุทรที่อบอุ่น ทั้งสองรู้สึกว่าระยะห่างระหว่างกันเข้าใกล้ขึ้นเล็กน้อย ต่างไม่อยากลืมตาขึ้น ปล่อยให้คล้อยไปตามจิตใจตนเอง
เฉวียนหมิงกอดอีลั่วเสวี่ย ทั้งคู่กลิ้งไปมา ถึงตอนนี้ไอทิพย์รอบๆ เข้าสู่ร่างกายของทั้งสอง จุดที่สองอยู่ใกล้กันที่สุด เหมือนมีอะไรมากระตุ้น เป็นความรู้สึกที่ซับซ้อนงดงาม
เฉวียนหมิงถึงกับมีความรู้สึกไม่อยากละทิ้ง ส่วนอีลั่วเสวี่ยย่อมชื่นชอบความรู้สึกเช่นนี้ นับจากที่เธอมาถึงโลกนี้ พบเห็นไอทิพย์บริสุทธิ์ที่เข้นข้นเช่นนี้น้อยมาก
ทั้งสองเข้าใกล้กันมากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เป็นไปตามใจปรารถนา
เมื่อเฉวียนหมิงร้องครางเบาๆแล้ว ก็หยุดการเคลื่อนไหว แต่บางจุดยังยืดออกอยู่ ส่วนอีลั่วเสวี่ยรู้สึกว่ามีความรู้สึกอุ่นเข้าสู่ร่างกาย
ระดับขั้นก่อนหน้านี้เมื่อมาถึงเวลานี้จะเต็มไปด้วยไอทิพย์ ขอเพียงมีจุดเปลี่ยนอีกครั้ง เขาก็จะสามารถบำเพ็ญเพียรได้
เธอลืมตาขึ้น จ้องมองแววตาที่เปี่ยมด้วยรักของเฉวียนหมิง ดวงตาของทั้งคู่ค่อยๆ มีความสุข แต่ก็ฉายความสงสัยออกมา
“อาเสวี่ย เรื่องเป็นอย่างไรกันแน่? ผมรู้สึกต่างจากครั้งก่อน” เฉวียนหมิงกำสองมือตนเอง มองจากบนลงล่างเห็นความงดงามของอีลั่วเสวี่ย แววตาดูเลื่อนลอย ในหัวมีแต่ด้านที่สวยงามของเธอ
อีลั่วเสวี่ยขมวดคิ้ว “ถ้าฉันเดาไม่ผิดล่ะก็ นี่น่าจะเป็นการบำเพ็ญเพียรคู่ ก่อนนี้ฉันเคยเห็นจากตำราที่อาจารย์เอาให้อ่าน แต่เพราะ…อิอิ ก็เลยไม่ได้ใส่ใจ”
ที่เรียกว่าการบำเพ็ญเพียรคู่นั้นคือผู้บำเพ็ญเพียรชายหญิง อย่างเธอกับเฉวียนหมิง ต้องมีใจประสานกัน ขณะเดียวกันต้องสามารถดึงดูดไอทิพย์เข้าสู่ร่างกาย ทำให้ไอทิพย์บริสุทธิ์ เป็นเป้าหมายของการบำเพ็ญเพียร
ทำเช่นนี้จะมีข้อดี นั่นคือหลังจากทำเช่นนี้แล้วผู้ที่บำเพ็ญเพียรคู่จะไม่รู้สึกเหนื่อยล้า ยังมีพละกำลังไร้ขีดจำกัด
“ยังบำเพ็ญเพียรคู่ได้ด้วย น่าแปลกจริงๆ” สีหน้าเฉวียนหมิงแสดงความประหลาดใจ เขายื่นมือออกไป กำเป็นกำปั้น แล้วรู้สึกว่าตนมีพละกำลังแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม หรือนี่คือผลของการบำเพ็ญเพียร น่าอัศจรรย์จริงๆ
มุมปากอีลั่วเสวี่ยกระตุกเล็กน้อย “นี่ไม่นับว่าน่าอัศจรรย์หรอก คุณลุกขึ้นก่อน” เธอต้องปรามเขาบ้าง ไม่เช่นนั้นไม่รอให้เขาหมดแรงก่อน เธอคงรับไม่ไหวแล้ว
แต่คิดไม่ถึงว่าถึงตอนนี้เฉวียนหมิงจะกระแทกลำตัวลงมาแรงๆ อีลั่วเสวี่ยร้องครางออกมาอย่างหมดแรง
“ทำอะไรของคุณ” อีลั่วเสวี่ยอายจนกลายเป็นโมโห ผลักเฉวียนหมิงออกไปแรงๆ เจ้าหนุ่มคนนี้เป็นไปตามที่เธอคาดเดา น่าโมโหจริง! ตามใจไม่ได้เลย!
ตอนที่ 493 ทำข้อตกลง
แววตาเฉวียนหมิงดูลึกล้ำ สายตาเปี่ยมด้วยความเสน่หา เขาดึงมุมปากขึ้นกลายเป็นรูปโค้งที่งดงาม “อาเสวี่ย คุณว่าไงล่ะ คุณรู้ดีหมดไม่ใช่หรือ”
อีลั่วเสวี่ยโกรธจนพูดไม่ออก ขณะนี้เธอรู้สึกว่าวัตถุที่อยู่ในร่างเธอขยายใหญ่ขึ้น จุดที่เชื่อมโยงเริ่มมีปฏิกิริยาโต้ตอบ มีน้ำชุ่มขึ้น
“อาเสวี่ย ร่างกายคุณซื่อตรงกว่าคุณมาก” เฉวียนหมิงยิ้มอย่างร้ายกาจ แล้วยื่นมือไปจับไหล่อีลั่วเสวี่ย กอดเธออย่างอบอุ่น น้ำเสียงอ่อนโยน
“เฉวียนหมิง เราอยู่แต่ในนี้ไม่ออกไป ปู่กับเหล่าเกาอาจจะคิดมาก” เรื่องนี้ชัดเจน ทุกคนย่อมมองออกจริงไหม ถึงตอนนั้นเธอจะเผชิญหน้ากับพวกเขาอย่างไร แย่จริง
เฉวียนหมิงซึ่งอยู่ข้างหลังยังไม่หยุด ยังยื่นมือข้างหนึ่งมาข้างหน้า ยังไม่หยุดการเคลื่อนไหว “พวกเขาต่างผ่านโลกมานาน เข้าใจพวกเราดี อีกอย่างนี่เป็นเรื่องธรรมดาของคนเรา มีอะไรไม่ถูก อาเสวี่ย อย่ามีแรงกดดันเลย”
แรงกดดันบ้าอะไร เธอไม่ลุ่มหลงในสุราและเพศ เอาเถอะ ที่นี่ไม่มีเหล้า แต่ทำอย่างนี้ออกจะถี่เกินไป
เธอไม่รู้ นี่ยังไม่นับว่าถี่ เฉวียนหมิงที่กลั้นมายี่สิบกว่าปี เมื่อพะลกำลังมาถึงขีดสูงสุด ทั้งยังมีกำลังวังชามากกว่าคนทั่วไปหลายเท่า เมื่ออยู่ต่อหน้าหญิงที่ตนรัก จะไม่ความรู้สึกรู้สาได้อย่างไร
ถ้าไม่รู้สึกอะไรเลย นั่นแหละอาจป่วย
“ฉันไม่มีแรงกดดัน!” อีลั่วเสวี่ยกัดฟันพูด แต่ที่จริงดวงตาเธอเริ่มดูเลื่อนลอยแล้ว มือกำหมอนไว้ ริมฝีปากเผยอเล็กน้อย ดูมีเสน่ห์
เฉวียนหมิงได้ยินเช่นนี้ก็มีแรงกระตุ้นอีก “งั้นก็ดีแล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้อาเสวี่ยก็จะไม่เหนื่อย ต่อจากนี้ให้ผมจัดการเอง”
ให้คุณจัดการ เรื่องอย่างนี้ให้คนเดียวจัดการหรือ อีลั่วเสวี่ยไม่พอใจ ทำตาขวางใส่ อยากจะพลิกตัว แต่ถูกเฉวียนหมิงขวางไว้
ทั้งสองยังแนบชิดกัน ค่อยเข้าสู่สภาวะ ไอทิพย์รอบๆ เริ่มรวมตัวกันอีก
ไอทิพย์ล้อมรอบห้องนี้ไว้ เหล่าเกาและนายท่านผู้เฒ่าที่กำลังเล่นหมากรุกต่างมีสมาธิแน่วแน่ จิตใจเบิกบาน ราวกับอยู่บนยอดเขาที่ไร้เสียงอึกทึก เล่นหมากรุกอย่างใจจดจ่อ
ทั้งสองคนไม่รู้ว่าขณะนี้แสงตะวันกำลังอยู่ในห้อง เฉวียนหมิงและอีลั่วเสวี่ยกำลังบำเพ็ญเพียร ด้านหนึ่งทำเรื่องที่หฤหรรษ์ที่สุด ยังบำเพ็ญเพียรไปด้วย เท่ากับไม่เสียทั้งสองเรื่อง
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนทั้งสองจึงหยุด พวกเขาดูดรับไอทิพย์ที่ล้อมรอบห้อง แล้วผ่อนคลายร่างกายที่ปวดเมื่อย
“เฉวียนหมิง ฉันนึกเสียใจที่สอนให้คุณบำเพ็ญเพียร” อีลั่วเสวี่ยเบ้ปาก แม้ว่าไอทิพย์จะทำให้ร่างกายไม่อ่อนล้า เธอไม่ใช่รู้สึกอ่อนล้า แต่มักรู้สึกว่าเฉวียนหมิงยังอยู่ข้างใน
พอคิดเช่นนี้ตนเองก็เริ่มมีความรู้สึกอีก ทำให้ไม่พอใจที่ตนเองกลายเป็นผู้หญิงที่มีความต้องการทางเพศไม่จำกัด รู้สึกละอายใจ
“นึกเสียใจตอนนี้ก็สายไปแล้ว” เฉวียนหมิงใช้มือข้างหนึ่งหนุนหัว มืออีกข้างช่วยรวบผมที่ยุ่งของอีลั่วเสวี่ย การสยบผู้หญิงของตนเองได้เป็นความสามารถอย่างหนึ่ง เขาภูมิใจเรื่องนี้มาก
อีลั่วเสวี่ยเบ้ปาก ทำจมูกย่น “หึ” เท่ากับขุดหลุมให้ตัวเองกระโจนลงไป เฉวียนหมิงเป็นสุนัขป่าใจร้ายที่ถูกเธอปลุกให้คืนชีพ ไม่แสดงสันดานดั้งเดิมออกมาก็คงแปลก
“เอาละ ต่อไปนี้ผมประกันว่าจะลดจำนวนครั้งลงดีไหม อาเสวี่ย อย่าโมโหนะ” เฉวียนหมิงเห็นสีหน้าอีลั่วเสวี่ยไม่พอใจ จึงพูดปลอบทันที เขาเองไม่อยากอดอยากปากแห้ง อาจถึงตาย จึงต้องพูดเอาใจสาวสวยของตน
“นี่คุณพูดเองนะ ห้ามคืนคำ! จากนี้ฉันต้องการพักสัปดาห์ละสามวัน ถ้ามีประจำเดือนมา คุณห้ามยุ่งกับฉัน!” ถ้าไม่ทำข้อตกลง เขาไม่เชื่อฟังแน่