ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก – ตอนที่ 13

ตอนที่ 13

กู้จวินเดินไปทางทิศเหนือของมหาวิทยาลัยเพื่อไปห้องทดลอง เเต่ในขณะนั้นเองเขาที่ยังเดินอยู่ระหว่างทาง ทั้งๆที่ยังอยู่ไกลจากห้องทดลองกลับมีเสียงตะโกนเรียกให้เขาตกใจจากด้านหลัง “ เสี่ยกู้?”

เมื่อหันหลังกลับไป เขาเห็นชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาเขาพร้อมกับจักรยานคันงาม “ OMG! นั่นคือนายจริงๆ! ฉันไม่ได้เจอนายมาหลายเดือนแล้ว! วีเเชทเอย โทรศัพท์เอย นายกะจะไม่ตอบฉันเลยเหรอ จิตใจของนายมันทำด้วยหินอัคนีเรอะ!!”

ชายคนนี้ไม่เตี้ย แต่ก็ไม่สูงเช่นกัน เขาคือชายหนุ่มผู้โชคร้ายที่ถูกธรรมชาติของวัยเเละสิ่งเเวดล้อมพรากรูปลักษณ์อ่อนเยาว์ของเขาไปทั้งหมด ตอนนี้เขามีศีรษะโล่งโล้นล้านเลี่ยน ดวงตาเต็มไปด้วยความอ่อนล้าและเเววตาที่เคยเปี่ยมด้วยความฝันในอดีตบัดนี้มีเเต่ความไร้ชีวิตชีวา ที่แย่กว่านั้นก็คือถุงใต้ตาที่หย่อนยานอย่างหนัก ทำให้ร่างกายของเขาเเละมีอายุเพิ่มขึ้นกว่าเดิมหลายสิบปี ทำให้เขาดูราวกับว่าเขาอยู่ในวัยสี่สิบ ซึ่งเป็นอายุที่เเก่ราวๆกับลุงขายผักหน้ามหาลัยเป๊ะๆเลย

ในความเป็นจริงชายคนนี้อายุเพียง 21 ปี เส้นผมที่ร่วงโรยอย่างช้าๆของเขา เป็นเครื่องหมายอันน่าภาคภูมิใจของคำว่า “ทาสแห่งการทดลอง” อันเป็นผลมาจากการเจอความกดดันที่หนักหนาสากรรจ์เหมือนภูเขาเอเวอเรสต์ที่คอยกดทับ ทำให้แพทย์หนุ่มผู้มีความฝันต้องเข้าเผชิญและทำให้เกิดอาการของริ้วรอยก่อนวัย

‘ไช่ฉีซวน’ คนร้ายกาจคนนี้เป็นเพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งของกู้จวิน ทั้งสองคนลงทะเบียนในหลักสูตร 8 ปีชั้นเดียวกัน และเขาก็เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทางคลินิก

ตั้งแต่เริ่มต้นพวกเขาเข้ากันได้ดีมากๆ ยิ่งกว่านั้นไช่ฉีซวนยังเป็นผู้ชายที่เรียบง่ายและต้องทนทุกข์กับ “การกลั่นแกล้ง” อย่างไร้สาระกับคนอย่างกู้จวินอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

เมื่อใดก็ตามที่กู้จวินสร้างความหายนะ ไช่ฉีซวนจะตามล้างตามเช็ดสิ่งที่ยุ่งเหยิงทั้งหลายเพื่แปกป้องเขาเอาไว้ และเขาทำแม้กระทั่งการให้ยืมบันทึกของเขาเพื่อให้กู้จวินคัดลอก

เเละเเน่นอนว่าไช่ฉีซวนเขาไม่เคยตามกู้จวินไปทำเรื่องเหลวไหลอย่างการคบผู้หญิงไม่เลือกหน้า หรือการเผาผลาญเงินอย่างเปล่าประโยชน์เเน่นอน ทว่าถึงจะเป็นเเบบนั้นเเต่มิตรภาพของพวกเขาก็ยังคงเหนียวแน่น

“อืม! คือว่านะ มันมีบางอย่างที่ค่อนข้างร้ายเเรงเกิดขึ้นกับฉันน่ะ ฉันเลยต้องหยุดพักการเรียนไปสักระยะ เเละวันนี้ก็เป็นวันแรกที่ฉันกลับมาเรียน…อย่าต้อยรับเย็นชาเเบบนี้สิเพื่อน” กู้จวินยิ้มและทักทายเพื่อนของเขาพร้อมกับชกเบา ๆ ที่ไหล่อย่างเป็นกันเอง

เมื่อเขาได้รับการตรวจวินิจฉัยโรคจากโรงพยาบาลเป็นครั้งแรก เขาได้ขอโรงพยาบาลในเครือของมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นให้ปิดบังอาการป่วยของเขาไว้เป็นความลับขั้นสุดยอด

ดังนั้นจึงมีเพียงไม่กี่คนในมหาลัยที่รู้เรื่องอาการเจ็บป่วยของเขา เเละคนที่รู้มีเพียงศัลยแพทย์ระบบประสาทเพียงไม่กี่คนของโรงพยาบาลในเครือเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับอาการป่วยของเขา แต่!! พวกเขาก็รู้จักกู้จวินในฐานะผู้ป่วยธรรมดา ไม่ใช่ตัวตนของเขาในฐานะนักศึกษาคณะเเพทย์ของมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นสักนิด

“ อุ๊ย!” ไช่ฉีซวนลูบไหล่ของเขาด้วยความเจ็บปวดและพึมพำเบา ๆ

“รู้ไหม? ทุกคนคิดว่านายลาออกจากมหาวิทยาลัยไปเเล้ว กระทั่งมีข่าวลือว่าจู่ๆ นายก็เสียชีวิตที่บาร์เกย์และครอบครัวของนายล้มละลายจนตายหมดบ้าน อ๊าก! ก็ตาม! ตราบใดที่นายกลับมา นายคงต้องเรียนซ่อมตลอดในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนนี้ เอาเถอะ! ฉันจะให้นายยืมโน้ตในสมุดบันทึกก็ได้

“ ดีๆ! ขอบใจมากเพื่อนรัก ฉันต้องการสมุดบันทึกของนายทุกวิชา” กู้จวินพยักหน้าในใจของเขามีความอบอุ่นแผ่ปกคลุมทั่วร่างอย่างอ่อนโยน

“แล้วนายล่ะ? นายกำลังทำอะไรในมหาวิทยาลัยในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนเเบบนี้? หรือนายทำโมดูลไม่สำเร็จงั้นหรือ!?”

ทันใดนั้นดวงตาที่หงอยเหงาเซื่องซึมก็เปล่งประกายด้วยความมีชีวิตชีวาออกมาทันที ใบหน้าของไช่ฉีซวนดูเหมือนจะลดรอยตีนกาส่วนหนึ่งไปได้…นี่คงเพราะผลกระทบจาก ‘โมดูล’ เเน่นอน

“ ฉันได้รับเลือกให้เข้าร่วมการแข่งขันชิงถ้วยฟรอนเทียร์! ฉันอยู่ในทีมของศาสตราจารย์ กู้!”

“ว้าว!” กู้จวินอ้าปากค้างออกมาอย่างประหลาดใจ ใบหน้าที่เเสนงุนงงของเขาเปลี่ยนเป็นความดีใจขึ้นมาทันที กู้จวินรีบยิ้มเเล้วเอ่ยปากเเสดงความยินดี “ ยินดีด้วยเพื่อนยาก!”

ฟรอนเทียร์คัพคือรางวัลสำหรับการเเข่งขันของนักศึกษาในคณะแพทย์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ นักศึกษาระดับปริญญาตรีจะทำการทดลองวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในช่วงวันหยุดฤดูร้อนและฤดูหนาว เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเเข่งขันในงานนี้เท่านั้น

ทุก ๆ ปีนักศึกษาเกือบทุกคนจะลงทะเบียนเพื่อชิงถ้วยฟรอนเทียร์และต่อสู้เเข่งขันกันเองจนเหลือคนที่ผ่อนน้อยลง เเละมีเพียง 60 คนเท่านั้นที่สามารถผ่านการคัดเลือกได้ โดยคนที่ผ่านการคัดเลือกเหล่านั้นส่วนใหญ่จะอยู่ในหลักสูตรห้าปีและหลักสูตรแปดปีของคณะเเพทย์

นอกเหนือจากการพัฒนาความสามารถส่วนบุคคลและการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลแล้ว ยังมีประโยชน์มากยิ่งขึ้นอีกสำหรับนักศึกษาที่เข้าร่วมที่เข้าร่วมรายการการเเข่งขัน อาทิ

นักศึกษาระดับปริญญาตรีหลักสูตรห้าปีจะได้รับปริญญาเอกทันที ส่วนนักศึกษาหลักสูตรเเปดปีก็จะได้รับเกียรตินิยมและชื่อเสียงสูงสุดเท่าที่จะมีได้ หรือน้อยที่สุดทุกคนก็จะได้รับทุนการศึกษา

“ ฉันโชคดีมาก! คุณก็รู้ว่าฉันเก่งมาก! โดยเฉพาะความถนัดในด้านการฉีดยาให้หนูแฮมสเตอร์” ไช่ฉีซวนเป็นคนที่เต็มไปด้วยอารมณ์สนุกสนานเขาชอบล้อเล่นเป็นประจำ “ งานวิจัยของศาสตราจารย์กู้มันเกี่ยวกับการบำบัดด้วยรังสีสำหรับเนื้องอก เมื่อเขาได้ยินเกี่ยวกับทักษะเเละความสามารถในการเรียนของฉัน เขาก็พาฉันเข้ามาร่วมโครงการทันที เห็นไหมฉันน่ะโชคดีสุด ๆ ”

ขณะที่เขาพูดกับกู้จวิน เขาก็ไม่ได้โอ้อวดอะไร อีกอย่างเขาไม่กลัวที่จะทำร้ายความรู้สึกของกู้จวิน หรือทำลายมิตรภาพระหว่างพวกเขาด้วยเรื่องเเค่นี้ เขาเป็นเพื่อนกับกู้จวินมานาน ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าฝ่ายหลังไม่สนใจถ้วยฟรอนเทียร์

“เพื่อนยาก นายคือเสาหลักของสังคมเเท้จริง!” ประโยคนี้มาจากก้นบึ้งของหัวใจ เขาถ่ายทอดคำชมของลุงขายเเพนเค้กไปยังเพื่อนของเขา มีเพียงชายผู้ทะเยอทะยานและมีความสามารถเช่นเขาเท่านั้นที่จะได้รับคำชมอย่างสูงเช่นนี้

“ ฮ่า ฮ่า!” ไช่ฉีซวนยิ้มอย่างมีความสุข จากนั้นก็จำอะไรบางอย่างได้ “โอ้ใช่…”

เเละนี่คือสิ่งที่กู้จวินสนใจมาก

เขารีบลดเสียงลง “ตอนนี้พวกเรากำลังมีสถานการณ์ที่เปลี่ยนเเปลงไป ฉันคิดว่านายควรจะต้องรู้….”

“อะไร?” กู้จวินถามด้วยความตื่นตระหนก สายตาของเขาจ้องไปยังเพื่อนรักของตัวเอง

*************************************

ปล. Crème de la crème เป็นสำนวนภาษาฝรั่งเศสแปลตรงๆคือ the cream of creams แปลโดยความหมาย best of the best

ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก

ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก

Status: Ongoing

เรื่องย่อ ครั้งหนึ่ง ถนนเส้นนี้เคยคึกคักครึกครื้น และเต็มไปผู้คนหัวเราะเสียงดัง ทว่าเวลาผันผ่าน..ตอนนี้ทุกอย่างกลับตาลปัตร บรรยากาศบนท้องถนนเต็มไปด้วยความเงียบที่น่าขนลุก เสียงกระซิบที่แหบแห้งและบ้าคลั่งดังก้องอยู่เหนือท้องฟ้า มีปีศาจยักษ์ใหญ่จากโบราณอันน่ากลัวจนที่ไม่อาจอธิบายได้ แฝงตัวอยู่ในเงามืดของมหาสมุทรที่ไร้ก้นบึ้ง ภัยพิบัติลึกลับได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเเละขยายตัวกระจายไปยังทั่วโลก การระบาดของโรคร้ายและความหายนะทำให้ฝูงคนทั่วโลกตื่นตระหนก ผู้คนหวาดกลัวเเละพากันอพยพหนีตายกันจ้าล่ะหวั่น..มีเพียงหนึ่งเดียวที่พวกเขาต้องการนั่นคือ ที่ซุกหัวที่อบอุ่นเเละปลอดภัยเพียงเท่านั้น หยาดฝนโลหิตไหลรินทั่วแผ่นดิน ในขณะที่มวลมหาสายฟ้าผ่าทั่วท้องนภาอย่างบ้าคลั่ง เเสงสว่างของมันส่องให้เห็นฝูงกาที่กำลังบินฉวัดเฉวียนอยู่ด้านบน “ เราจะเห็นว่าสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างผิดปกตินี้มีซี่โครงสิบสองคู่เหมือนมนุษย์ แต่ยังมี“ กระดูกขวาง” ที่มนุษย์ไม่มี…” ในโรงเรียนแพทย์ กู้จวินยังคงนำมีดผ่าตัดของเขา ผ่าลงที่ซากศพโดยแสดงให้เห็นถึงโครงสร้างทรวงอกที่ผิดปกติของซากศพ โดยรอบๆโต๊ะผ่าศพมีนักเรียนหลายคนมองดูอยู่ ช่วงเวลาที่เลวร้ายและการเเก่งเเย่งได้ใกล้เข้ามา! ความจริงและตรรกะที่พังทลายคำสั่งวิปริตเข้าสู่ความบ้าคลั่ง มนุษยชาติสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ด้วยพลังแห่งสติปัญญาและสติ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท