“ ผลไม้แห่งราตรีจะงอกงามเเละปกคลุมไปทั่วนภาอันมืดมิด ปรสิตแห่งความตายจะอยู่กับสวรรค์และโลกนิจนิรันดร์”
ประโยคแปลก ๆ นี้หลุดออกจากปากของกู้จวินด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ในขณะที่เขาพูดประโยคนี้ ความเจ็บปวดที่รุนแรงก็เสียดแทงเข้าไปในสมองของเขา ทำให้เขาทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
สิ่งนี้หมายความว่า? ใครเป็นคนเขียนคำเหล่านี้?
กู้จวินไม่เข้าใจเลย!
ความสยดสยองเเละความน่าสงสัยได้กระหน่ำที่หน้าอกของกู้จวินอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้จิตใจของเขาพลุ่งพล่านไปด้วยความตื่นกลัวเเละเต็มไปด้วยความตึงเครียดถึงขั้นขยับตัวสักนิดยังไม่มีปัญญาจะกระทำ
ดวงตาของเขามองเห็นคำที่เปื้อนเลือดบนผนัง กู้จวินมองอักษรเหล่านั้นด้วยความหวาดกลัวเเละหวั่นเกรง เเต่ไม่นานนักทุกอย่างก็กระจ่าง คำทุกคำถูกสร้างขึ้นโดยปรสิตขนาดเล็กจำนวนนับไม่ถ้วนที่รวมกลุ่มกัน พวกมันเป็นตัวหนอนขนาดเล็กที่ค่อยๆเลื้อยคลายขึ้นมาจากซากศพที่เน่าเฟะ
“ เฮ่ เสี่ยกู้? สวัสดี? ได้ยินที่ฉันพูดไหม? เสี่ยยยย!!!”
ทันใดนั้นสติสัมปชัญญะของเขาก็ถูกลากกลับสู่ความเป็นจริงด้วยเสียงที่เป็นห่วงของใครบางคน ในชั่วพริบตานั้น…ภาพทั้งหมดของฉากที่น่าสยดสยองก็หายไปโดยไม่เหลือร่องรอยใดๆทั้งสิ้น
เมื่อมองไปที่สภาพแวดล้อมปกติที่เคยอยู่ กู้จวินก็ปล่อยมือจากกางเกงของตัวเองที่จับเอาไว้เเน่นจนขึ้นข้อขาว น้ำเสียงของแหบแห้งอย่างน่าหวาดผวา เขาที่เพิ่งตื่นจากฝันจ้องมองไปรอบ ๆ ด้วยเเววตาที่ว่างเปล่า รอบตัวเขามีคนคุ้นตาอย่าง ไช่ฉีซวน หวังรั่วเซียงและคนที่เหลือทั้งหมด…จำได้ว่าพวกเขากำลังทดลองอะไรบางอย่างกันอยู่ เเละตอนนี้พวกเขาไม่ได้ทำการทดลองอีกต่อไป เเต่มารุมล้อมเขาด้วยความเป็นห่วงเเทน
“กู้จวิน นายสบายดีหรือเปล่า? มีอะไรผิดปกติไหม?” ไช่ฉีซวนถามอย่างต่อเนื่อง เขาเขย่าตัวกู้จวินเพื่อทำให้เขาฟื้นขึ้นมา
เมื่อครู่นี้ในขณะที่พวกเขากำลังทดลอง มือของไช่ฉีซวนกำลังถ่ายเท้าของหนูทดลองอยู่ ทว่า! ในขณะที่ทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดีนั้น…เสียงกรีดร้องอย่างกะทันหันทำให้พวกเขาประหลาดใจ
เมื่อทุกคนมองไปที่กู้จวิน พวกเขาก็เห็นกู้จวินกำลังกุมศีรษะของตัวเองอยู่และสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีขาวราวกับหิมะ พวกเขาทุกคนรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เรื่องตลก!
“มานั่งตรงนี้ก่อนเร็ว!” หวังรั่วเซียงดึงเก้าอะไรสักอย่างในห้องทดลองที่ดูสูง ๆ มาให้กู้จวิน เเม่จริงๆเเล้วเธออาจจะไม่ชอบผู้ชายคนนี้มากนัก แต่เธอก็ไม่อยากให้เขาตายต่อหน้า!
“ฉันสบายดี” กู้จวินส่ายหัวเล็กน้อย เขาปฏิเสธความปราถนาดีของทุกคนอย่างสิ้นเชิง เเล้วตอบคำถามที่ทุกคนกำลังสงสัยด้วยสีหน้าซีดเซียว “ฉันเเค่…นึกถึงเรื่องบางอย่างน่ะ!”
ประโยคกวนใจสีเลือดนั้น! ทำให้จิตใจเขาเหมือนตกอยู่ในฝันร้ายที่ไม่หยุดหย่อน…
นอกจากนี้! ห้องปฏิบัติการสยองขวัญนั้น…มันมีอยู่จริงบนโลกนี้เหรอ? หรือมันเป็นเพียงภาพหลอนของเขาหรือเปล่า?
“นี่เสี่ย…ตอนนี้นายกำลังอาการหนักจะดื้อรั้นเเละฝืนทนทำเท่ห์ไปทำไม?” หวังรั่วเซียงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย จากนั้นก็สำทับอีกรอบ“ ผิวของนายแย่มาก มันราวกับว่านายเพิ่งถูกตักออกมาจากถังฟอร์มาลีน”
ริมฝีปากของกู้จวินกระตุกด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เขาถึงกับพูดไม่ออก นี่เธอปลอบคนด้วยคำเปรียบเปรยเเบบนี้เนี่ยนะ! งี่เง่ารึไงกัน!?
“ นี่เสี่ย! นายอยากได้น้ำร้อนไหม?” เธอขมวดคิ้วขณะเเล้วชี้ไปทางกระติกน้ำร้อนที่อยู่มุมห้อง
น้ำร้อนเหรอ? กู้จวินถอนหายใจกับตัวเอง กฎข้อที่ 1 ของการแพทย์ทางคลินิก ยาที่มีอยู่รอบตัวอย่างเเรกคือน้ำร้อน!
ในขณะนั้นเองประตูห้องทดลองก็ถูกเปิดออก คนๆหนึ่งเดินเข้าไปข้างในอย่างช้าๆเเล้วถามเหล่าเด็กๆในห้องด้วยน้ำเสียงเรียบสงบ
“นักศึกษาที่รัก! การทดลองของพวกเธอเป็นอย่างไรบ้าง!?”
เหล่านักศึกษารีบหันมาทักทายชายผู้เดินเข้ามาใหม่ทันที
“สวัสดีครับ/ค่ะ ศาสตราจารย์กู้”
ชายที่เดินเข้ามาในห้องทดลองนั้นดูเหมือนอยู่ในวัยกลางคนเเล้วและเขาสวมเสื้อกาวน์สีขาวสะท้อนเเสง ผมของเขานั้นขาวไปแล้วครึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ตามทุกย่างก้าวของชายคนนี้ยังคงมั่นใจและมั่นคงอย่างมาก
เสื้อคลุมสีขาวของเขาพลิ้วไสวตามหลังเขาอย่างสง่าผ่าเผย ชายคนนี้เป็นที่ปรึกษาของกลุ่มทดลองกลุ่มนี้และเป็นอาจารย์สอนวิชาสรีรวิทยาในช่วงปิดเทอม นามของเขาคือ ‘ศาสตราจารย์กู้หรง’
ศาสตราจารย์กู้มีชื่อเสียงในเรื่องบุคลิกที่เรียบง่าย บ่อยครั้งที่เขาชอบเล่าเรื่องตลกให้นักศึกษาฟังและแม้แต่เวลาสอนสไตล์การสอนของเขาบางครั้งก็เเฝงความสนุกสนานเอาไว้อย่างไม่น่าเชื่อ
ภายในมหาลัยนั้นเขาได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ทันทีที่ศาสตราจารย์กู้เหลือบไปเห็นกู้จวิน รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หายไปในทันที “ โอ้? เจ้าเสี่ยวกู้น้อยก็อยู่ที่นี่ด้วย!”
“สวัสดีครับ ศาสตราจารย์กู้” กู้จวินเอ่ยปากทักทายตามมารยาทของนักศึกษาที่ดี น้ำเสียงของเขาดูเข้มเเข็งและสุภาพ มันเกิดจากความเคารพอย่างสุดซึ้งต่อศาสตราจารย์กู้ “ครับ! ผมติดตามพวกเขามาเพื่อศึกษาเเละเรียนรู้ครับ!”
“ โอ้! มันน่าแปลกมาก” น้ำเสียงของศาสตราจารย์กู้แข็งกร้าวมากมันเป็นเสียงที่คล้ายจะระงับอารมณ์บูดบึ้งของเขาอย่างเห็นได้ชัด
“อืม! เป็นเรื่องยากที่เธอจะทำงานหนักขนาดนี้”
เหล่านักศึกษาในห้องทั้งหมดต่างก็รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้ศาสตราจารย์กู้ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่พอใจกู้จวินอย่างมาก ที่กู้จวินทำตัวเกเรเเละไม่ทำตัวให้สมกับศักยภาพที่ตนเองมี
เมื่อมองย้อนกลับไปศาสตราจารย์กู้เป็นอาจารย์คนสุดท้ายที่“ ยอมแพ้” ให้กับความเลวทรามของเสี่ยกู้
ในอดีตเขาได้ปกป้องและให้กู้จวินซ่อนอยู่ใต้ปีกของเขา เหตุผลเดียวที่มหาวิทยาลัยไม่ขับไล่กู้จวินออกจากคณะเเพทย์หลักสูตร 8 ปีอันทรงเกียรตินั้น มันเนื่องมาจากความพยายามของศาสตราจารย์กู้ที่ขอร้องเเละขัดขวางทั้งสิ้น ศาสตราจารย์กู้นั้นเป็นอาจารย์ที่กู้จวินรู้สึกว่าเป็นหนี้บุญคุณมาก
“เเค่ติดตามมาดู..ถึงกับต้องเเต่งหน้า!” แท้จริงแล้วศาสตราจารย์กู้กำลังบ้าคลั่งเเละโมโหอย่างที่สุด ทันทีที่คนพาลอย่างกู้จวินเข้ามาในสายตาของเขา ความโกรธที่ร้อนแรงในอดีตก็พลันปะทุขึ้นภายในตัวเขาอย่างดุเดือด
มาเพื่อเรียนรู้บางสิ่งบางอย่าง?
ในการสอบเกาเข่านั้น….คะแนนของกู้จวินทำให้เขาเป็นคนป็อบปูล่าในหมู่เพื่อนๆร่วมคณะ ยิ่งไปกว่านั้น! เขาไม่ใช่คนที่ท่องจำแบบสุ่มสี่สุ่มห้า เขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ทุกอย่างที่จำเป็นในการเป็นหมอ หากเขาศึกษาอย่างจริงจัง…ตำเเหน่งหัวหน้าทีมทดลองในวันนี้อาจจะเป็นของเขาไปเเล้วก็ได้!
“ ศาสตราจารย์กู้ เสี่ยกู้เขา…เอ่อ” ไช่ฉีซวนอยากจะบอกว่ากู้จวินอาจจะป่วย เเต่ดูจากสีหน้าอาจารย์เเล้วเขาก็จำต้องเปลี่ยนคำพูด “คือ…กู้จวินกำลังหัดเเต่งหน้า…เห็นว่าจะมีสอบน่ะครับ”
“ถ้าอย่างนั้นก็รีบกลับไปอ่านหนังสือและบันทึกของตัวเองซะ!” ในขณะนี้ศาสตราจารย์กู้สูญเสียความคาดหวังทั้งหมดที่มีต่อกู้จวินไปแล้วเรียบร้อย “การทดลองในห้องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ…รีบออกไปได้เเล้ว”
“ครับ…อันที่จริงเเล้ว ผมก็กำลังจะออกไป” กู้จวินหันหน้าไปทางซ้ายที่ประตูทางออกและมองข้ามสายตาของทุกคน