ฉิงเฟิงพูดไม่ออกเพราะเขารู้สึกได้ถึงความหึงหวงที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงของเซี่ยหวั่นฉิว แน่นอนว่าเธออิจฉาจางเสี่ยวเยวี่ยนั่นเอง
ฉิงเฟิงเป็นคนมองโลกในแง่ดีและเฟรนลี่ต่อผู้หญิงทุกคน เขารู้ถึงเสน่ห์ของตัวเองดี เพราะเหตุผลพวกนี้ทำให้สาวงามมากมายต่างก็ตกหลุมรักเขา ดังนั้นเขาจึงอธิบายเหตุผลให้เซี่ยหวั่นฉิวเข้าใจ
“พี่สาวเซี่ย ฉันแค่นวดให้น้องสาวเสี่ยวเยวี่ยเพราะว่าเธอสิวขึ้นเท่านั้นเอง คุณอย่าคิดเลยเถิดขนาดนั้น” ฉิงเฟิงอธิบาย
คิ้วของเซี่ยหวั่นฉิวขมวดเป็นปมและกล่าวว่า “คุณอย่ามาโกหกฉันเลย จางเสี่ยวเยวี่ยมีสิวที่ไหน”
“เอ๊ะ ! ผู้อำนวยการเซี่ย คุณพูดว่าฉันไม่มีสิวเหรอ ?”
“ใบหน้าของคุณขาวเนียนขนาดนี้ แถมสิวก็ไม่มีสักเม็ด ฉันถึงไม่เชื่อไง”
“ว้าว ! พี่ใหญ่หลี่คุณเก่งมากเลย คุณนวดให้ฉันแค่แปปเดียวสิวก็หายแล้ว” จางเสี่ยวเยวี่ยหากระจกมาส่องและเริ่มดูหน้าของตัวเอง ผิวของเธอเรียบเนียนและสิวก็หายไปหมดแล้ว
หลังจากที่ได้เห็นอาการของจางเสี่ยวเยวี่ย เซี่ยหวั่นฉิวก็เริ่มสงสัย
หรือว่าฉิงเฟิงจะช่วยรักษาสิวให้เธอจริงๆ ?
“พี่สาวเซี่ย คุณลืมไปหรือไง ตอนที่เราพบกันครั้งแรกบนรถเมล์ ฉันก็รักษาอาการไส้ติ่งอักเสบให้คุณ” ฉิงเฟิงกล่าวหลังจากที่ได้เห็นเซี่ยหวั่นฉิวมีท่าทีสงสัย
ใบหน้าของเซี่ยหวั่นฉิวแดงขึ้นหลังจากได้ยินที่ฉิงเฟิงกล่าว เธอนึกขึ้นได้ทันทีว่าเคยมีเรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้นเมื่อตอนแรกที่พวกเขาพบกัน ตอนนั้นเธอเข้าใจผิดว่าฉิงเฟิงเป็นพวกโรคจิตหลอกแต๊ะอั๋ง แต่สุดท้ายเขาก็รักษาอาการไส้ติ่งอักเสบของเธอจนหาย
ใบหน้าของเซี่ยหวั่นฉิวแดงขึ้นอีกหลังจากนึกถึงช่วงเวลานั้น เธอกล่าวว่า “อืม ฉิงเฟิงมีความสามารถมาก”
“ผู้อำนวยการเซี่ย ในเมื่อคุณรู้แล้วว่าพี่ใหญ่หลี่มีความสามารถเรื่องการรักษา งั้นคุณก็เชื่อพวกเราแล้วใช่ไหมคะว่าเขารักษาสิวให้ฉันเฉยๆ”
“ถึงแม้ว่าเขาจะรักษาสิวของคุณจนหายและพวกคุณไม่ได้ทำอะไรแปลกๆกันก็ตาม แต่เรื่องนี้มันก็ไม่เหมาะสมที่จะมาอยู่กันสองต่อสองในระหว่างเวลาทำงาน”
“ผู้อำนวยการเซี่ยคะ มันเป็นความผิดของพวกเราเอง ครั้งนี้ปล่อยพวกเราไปเถอะอย่าหักเงินเดือนฉันเลย”
“ก็ได้ แต่ว่าคุณต้องเลี้ยงมื้อเย็นฉัน” เซี่ยหวั่นฉิวกล่าวด้วยรอยยิ้ม เธอค่อนข้างสนิทกับจางเสี่ยวเยวี่ยและใจจริงแล้วก็ไม่ได้อยากหักเงินเดือนเธอ จึงเป็นเรื่องปกติที่เซี่ยหวั่นฉิวร้องขอให้จางเสี่ยวเยวี่ยเลี้ยงข้าวเธอเป็นการไถ่โทษ
จางเสี่ยวเยวี่ยพยักหน้ายินดี
“ว่าแต่ ผู้อำนวยการเซี่ยมาหาฉันมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ ?” จางเสี่ยวเยวี่ยถามด้วยความสงสัย
เซี่ยหวั่นฉิวยิ้มและกล่าวว่า “ท่านประธานต้องการให้ฝ่ายขายเขียนรายงานสิ้นปี คุณเป็นหัวหน้าแผนกขาย ดังนั้นหน้าที่นี้จึงเป็นของคุณ”
รายงานสิ้นปี ?
เธอรู้ว่าบริษัท Ice Snow มักจะเขียนรายงานสิ้นปีทุกปี มันเป็นการสรุปประสิทธิภาพการทำงานของทุกคน ทุกๆแผนกจะต้องเขียนรายงานนี้ด้วยเช่นกัน
“ผู้อำนวยเซี่ย ฉันจะทำให้เสร็จทันเวลาค่ะ” จางเสี่ยวเยวี่ยกล่าว ในฐานะหัวหน้าแผนก เธอรู้ถึงประสิทธิภาพของทุกคนและรู้วิธีเขียนรายงาน
ส่วนฉิงเฟิงก็เดินออกจากห้องไปเพราะเขากลัวว่าเซี่ยหวั่นฉิวจะพาลหาเรื่องเขาอีกคน
จากนั้นฉิงเฟิงก็หยิบข้อมูลบางอย่างออกมาดู ว่าไปแล้วในฐานะตัวแทนฝ่ายขาย เขาค่อนข้างใส่ใจในหน้าที่การงานของเขาเป็นอย่างดี
ฉิงเฟิงเริ่มเพลินกับการทำงาน แม้กระทั่งถึงเวลาพักเที่ยงแล้วเขาก็ยังไม่รู้ตัว จนจางเสี่ยวเยวี่ยเดินมาทักและกล่าวว่า “พี่ใหญ่หลี่ ให้ฉันเลี้ยงข้าวคุณเป็นการตอบแทนนะ”
“อ้าว คุณไม่ได้มีนัดกับผู้อำนวยการเซี่ยหรอกหรือ ?” ฉิงเฟิงถามด้วยความสงสัย
จางเสี่ยวเยวี่ยส่ายหัวและกล่าวว่า “ผู้อำนวยการเซี่ยขอให้ฉันเลี้ยงมื้อเย็นเธอที่ร้านอาหาร แต่ฉันจะเลี้ยงข้าวคุณตอนนี้ก่อน”
ฉิงเฟิงยิ้มและพูดว่า “ดูเหมือนว่าหลังจากคืนนี้ไปคุณจะต้องกระเป๋าฉีกแน่ๆ”
“จะว่าไปก็แปลกนะ ผู้อำนวยการเซี่ยดีกับฉันมาตลอดตั้งแต่เริ่มเข้าทำงาน แม้กระทั่งฉันไม่ค่อยอยู่ในออฟฟิศเธอก็ไม่เคยว่า แต่ทำไมคราวนี้เธอดูเคร่งแปลกๆ ?”
เมื่อเห็นการแสดงออกบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยของจางเสี่ยวเยวี่ยก็ทำให้ฉิงเฟิงหัวเราะออกมา เขาคิดในใจว่า
“ยัยเด็กคนนี้ไม่ได้สังเกตเห็นเลยหรือไงว่าเซี่ยหวั่นฉิวกำลังหึง ?”
จากนั้นฉิงเฟิงและจางเสี่ยวเยวี่ยก็เดินไปที่โรงอาหารของบริษัท ปกติแล้วจะมีอาหารให้ทานฟรีแต่ไม่ค่อยอร่อย จางเสี่ยวเยวี่ยจึงซื้ออาหารแยก เป็นกับข้าว 4 จานและซุปสิ
“เฮ้ นายรู้เรื่องหรือยัง ! ดาราคนดังของประเทศเซียะเฟยเฟยกำลังจะมาร้องเพลงที่เมืองทะตะวันออก”
“เซียะเฟยเฟย ใช่ราชินีนักร้องเซียะเฟยเฟยคนนั้นหรือเปล่าที่ออกทีวีบ่อยๆ ? เยี่ยมเลย ! ฉันเป็นแฟนตัวยงของเธอ ฉันจะซื้อตั๋วคอนเสิร์ตของเธอแน่นอน !”
“เสียใจด้วย นายช้าไปแล้ว ตั๋วคอนเสิร์ตของเธอหมดไปตั้งแต่เมื่อสองสามวันก่อน ถึงแม้ว่านายจะมีเงินนายก็ไม่สามารถหาตั๋วได้แล้วตอนนี้”
ทุกคนในโรงอาหารกำลังพูดถึงนักร้องดังคนหนึ่งที่ชื่อว่า เซียะเฟเฟย ในหัวเซี่ยเธอเป็นนักร้องที่ประชาชนทุกคนต่างรู้จักกันดี เธอไม่เพียงแค่มีความงดงามราวกับเทพธิดา แต่น้ำเสียงของเธอก็ไพเราะเป็นอย่างมาก
!? เซียะเฟยเฟย ?
ฉิงเฟิงจมลงสู่ความทรงจำในอดีตของเขาหลังจากได้ยินชื่อนี้ เขามีความสัมพันธ์ในอดีตกับเธอ
เมื่อประมาณครึ่งปีก่อน เซียะเฟยเฟยเดินสายทัวร์ต่างประเทศ เธอประสบปัญหาบางอย่างที่ทวีปเสือ คุณชายคนหนึ่งในตระกูลชั้นสูงตกหลุมรักความงามและรูปลักษณ์ราวกับเทพธิดาของเธอ เขาต้องการมีเซ็กส์กับเธอ
คุณชายผู้นั้นทรงอำนาจอย่างมากในทวีปเสือและลักพาตัวเซียะเฟยเฟยไป เป็นฉิงเฟิงที่ช่วยเธอมาจากบนเตียงของคุณชายคนนั้น จากนั้นทั้งสองคนก็ได้ทำความรู้จักกันและท่องไปทั่วทวีปเสือ
ฉิงเฟิงต้องยอมรับว่าเซียะเฟยเฟยเป็นผู้หญิงที่สวยมาก และตัวเขาเองก็มีความรู้สึกต่อเธอ แต่ทว่า หลังการจากไปของปู่ของเขา สถานการณ์บีบบังคับให้เขาต้องจากเธอไปและมุ่งหน้ากลับมายังเมืองทะเลตะวันออกเพื่อแต่งงานกับหลินเสวี่ยตามคำสั่งเสียของปู่ที่เคารพ ฉิงเฟิงทำได้เพียงแต่งเรื่องโกหกและจากเธอมาที่นี่
หลังจากนั้นฉิงเฟิงก็ลบเบอร์ติดต่อของคนที่เคยรู้จักจำนวนมากและโยนโทรศัพท์ทิ้งไป เนื่องจากเขาต้องการตัดความสัมพันธ์ทุกอย่างของชีวิตที่เต็มไปด้วยการฆ่าฟันก่อนหน้านี้และเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างสงบสุข นอกเหนือจากบรรดาสมาชิกของทีมเขี้ยวหมาป่า เขาตัดการติดต่อกับทุกคนเพราะไม่ต้องการให้คนเหล่านั้นหาตัวเขาพบ
“พี่ใหญ่หลี่ พี่ใหญ่หลี่ ! เป็นอะไรไปทำไมคุณถึงดูใจลอย ?” เมื่อจางเสี่ยวเยวี่ยเห็นใบหน้าเหม่อลอยของฉิงเฟิงก็ทำให้เธอร้องเรียกเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ไม่มีอะไร…. ฉันแค่สงสัยว่าทำไมเซียะเฟยเฟยถึงมาจัดคอนเสิร์ตที่เมืองทะเลตะวันออก” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
*เปิดตัวกิ๊กเก่า จะบ้านแตกไหม 555*