ตอนที่ 581 ช่วยเหลือได้ทันท่วงที
แปล Tarhai
ชั้นต้องการผู้ชาย ?
เฉินยี้จิงขมวดคิ้วของเธอหลังจากที่ได้ยินฉิงเฟิงกล่าว เธอเป็นใคร ? เธอเป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์เมืองทะเลตะวันออก นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ “ลิ้นพิษ”
มีเพียงแค่เธอเท่านั้นที่จะวิจารณ์ผู้อื่นได้ ไม่เคยมีใครมาด่าหรือวิจารณ์เธอ
“นายนั่นแหละที่ต้องการผู้ชาย !” เฉินยี้จิงกล่าวตอบโต้ด้วยความโกรธ
ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “ขอโทษนะ ฉันไม่ได้เป็นเกย์และฉันจะไม่มีวันต้องการผู้ชาย แต่เธอนั่นละชัวร์ เธอดูเหมือนจะมีความผิดปกติของต่อมไร้ท่ออย่างร้ายแรงเนื่องจากการขาดผู้ชายมาชั่วระยะหนึ่ง”
ฉิงเฟิงหวั่นเกรงที่จะกล่าวแดกดันเฉินยี้จิงแม้แต่น้อย เขากล้าด่าเฉินยี้จิงตามใจที่เขาต้องการ
เมื่อเห็นทั้งฉิงเฟิงและเฉินยี้จิงเริ่มด่ากันรุนแรง หลินเสวี่ยก็ขมวดคิ้วและรีบชิงตัดบทว่า
“การประชุมกำลังจะเริ่มขึ้นภายในสิบนาที รีบเข้ามาก่อนเถอะ”
“หึ ! ชั้นต้องรีบเข้างานประชุม ไว้ชั้นจะกลับมาจัดการกับนายทีหลัง” เฉินยี้จิงจ้องมองฉิงเฟิงอย่างดุร้ายขณะที่เธอเดินเข้าไปในลิฟท์
จากนั้นฉิงเฟิงก็เดินตามเข้าไปในลิฟท์ด้วย แต่เขาก็ถูกผู้หญิงในลิฟต์คนเดิมขวางไว้
“คุณเข้ามาไม่ได้นะคะ นี่คือลิฟท์ส่วนตัวสำหรับท่านประธานของเรา” ผู้หญิงคนนั้นกล่าว
“ทำไมฉันถึงไปไม่ได้ ในเมื่อเฉินยี้จิงเข้าไปได้ ?” ฉิงเฟิงถามอย่างเย็นชาขณะที่ชี้ไปที่เฉินยี้จิงที่อยู่ในลิฟท์
ฉิงเฟิงรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เลือกปฏิบัติ เพราะเธอยอมให้เฉินยี้จิงเข้าไป แต่ไม่ให้เขาเข้า
“ฉันบอกว่าคุณไม่สามารถเข้ามาได้ แต่คุณเฉินยี้จิงเข้าได้เพราะเธอเป็นหลานสาวของท่านประธาน”
“โอ๊ะ โอ ! เด็กเส้น ?”
ฉิงเฟิงฟิวส์ขาดแล้ว ตั้งแต่ที่เขากลับมาประเทศจีน เขาก็เจอแต่พวกเด็กเส้นและลูกหลานพวกมีอิทธิพลที่ใช้เส้นสาย ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกับคอนเนคชั่น รวมถึงบุคคลประเภทที่ใช้อิทธิพลพ่อแม่ ญาติ เพื่อนและคนรู้จักเป็นต้น
เฉินยี้จิงมองไปที่ฉิงเฟิงอย่างยั่วยุและกล่าวว่า “การประชุมจะเริ่มขึ้นในอีกสิบนาที ถ้าคุณไปสาย ชั้นจะประจานบริษัท Ice Snow ต่อหน้าทุกคนในภายหลัง”
~ ติ๊ง
ในที่สุดประตูลิฟท์ก็ปิดลงและเริ่มเคลื่อนที่ขึ้นไปชั้นเมื่อเฉินยี้จิงพูดจบ
ฉิงเฟิงรู้สึกหงุดหงิด ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงมีคนชอบพูดว่าอย่าไปหาเรื่องกับผู้หญิง เขาสามารถจัดการกับพวกนักเลงและแก๊งอันธพาลด้วยความรุนแรง แต่เขาไม่สามารถทุบตีผู้หญิงบ้าคนนี้ได้ เพราะเธอจะทำลายชื่อเสียงของบริษัท Ice Snow จนย่อยยับแน่นอน
ฉิงเฟิงพยายามจะเข้าไปในลิฟท์ตัวอื่นพร้อมกับหลินเสวี่ยและหลิวหรูหยาน แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเบียดเข้าไปได้ เพราะลิฟท์ทุกตัวคนแน่นเอี๊ยด พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรอต่อไป
ในขณะนี้มีผู้ชายคนหนึ่งในชุดสูทกำลังเดินไปที่ลิฟต์ เขามีเลขาสาวติดตามมาด้วย เลขาสาวคนนี้อายุประมาณ 20 ปี เธอคอยเดินตามอยู่ข้างหลังเขา เลขาคนนี้เป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างสวย เธอมีใบหน้าเรียบเนียนกระจ่างใส ผมยาวและถือกระเป๋าในมือ
ส่วนผู้ชายคนนี้ตัวสูงใหญ่ แต่ใบหน้าของเขาดูซีดเซียวเล็กน้อยและเดินด้วยปลายเท้า มันเป็นสัญญาณของอาการเจ็บป่วยบางอย่าง
“ที่รัก ผู้ชายคนนั้นคือหวังหยุน ประธานฝ่ายพาณิชย์เมืองทะเละตะวันออก” หลินเสวี่ยกล่าวขณะที่ชี้ไปยังชายคนดังกล่าว
เมื่อกล่าวถึงหวังหยุน เขาเป็นบุคลที่มีอิทธิพลในแวดวงธุรกิจ เขาเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของเหล่าผู้เริ่มต้นทำธุรกิจในยุคใหม่ เขาเริ่มมาจาก 0 สร้างเนื้อสร้างตัวมาด้วยตัวเอง เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหยานจิงและพัฒนาบริษัทอินเทอร์เน็ตหลังจากสำเร็จการศึกษา ด้วยการทำงานอย่างหนักและความพยายามอย่างมาก สุดท้ายเขาจึงกลายเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีของเมืองทะเลตะวันออก
หวังหยุนได้ถูกเลือกให้เป็นประธานตั้งแต่เริ่มตั้งไข่จนตอนนี้เขาได้กลายเป็นเศรษฐีในเมืองนี้ไปแล้ว
ฉิงเฟิงมองไปทางทิศที่หลินเสวี่ยชี้และก็เห็นชายวัยกลางคน เขาสามารถบอกได้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังป่วยเมื่อดูจากสีหน้าและท่าทางของร่างกาย
แล้วก็เป็นอย่างที่คาด เมื่อหวังหยุนเดินไปที่ลิฟต์ ทันใดนั้นเขาก็ดูย่ำแย่มากและเริ่มเหงื่อออกเต็มหน้าผาก ภายในไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็หมดสติล้มลงบนพื้น
“ว้าย ! ท่านประธานหมดสติ !” เลขาของเขาตะโกนออกมาเมื่อเห็นหวังหยุนล้มลง
เธอหยิบยาออกมาจากกระเป๋าและกำลังจะป้อนลงในปากของหวังหยุน อย่างไรก็ตามฉิงเฟิงรีบวิ่งเข้ามาทันทีและปัดยาจากมือของเธอ
“คุณกำลังทำอะไรเนี่ย !? ยาโรคหัวใจฉุกเฉินนี้เป็นของท่านประธานหวังนะ” เลขาสาวจ้องมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความโกรธ
“เขาไม่ได้หมดสติไปจากปัญหาโรคหัวใจ ถ้าคุณให้เขากินยานี้เข้าไป เธอเท่ากับฆ่าเขา” ฉิงเฟิงกล่าวขณะที่จ้องมองเธอ
“นั่นเป็นไปไม่ได้ ประธานหวังเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เขาต้องใช้ยานี้ทุกครั้งเมื่อเขามีอาการ”
“ฉันบอกว่าเขาไม่ได้หมดสติไปเพราะโรคประจำตัวของเขา เพราะหมดสติไปเพราะเกิดจากความดันโลหิตสูง”
“แล้วทำไมฉันต้องเชื่อคุณด้วย คุณเป็นใคร ?” เลขาสาวเริ่มจ้องไปที่ฉิงเฟิง เพราะเธอไม่พอใจที่เขาฉวยเม็ดยาไป
ทันใดนั้นหลิวหรูหยานก็เดินขึ้นไปหาเธอและพูดว่า “มิสเฉินเว่ย ฉันรับประกันว่าผู้ชายคนนี้พูดถูกต้อง”
“มิสหลิว ! คุณมาประชุมด้วยหรือคะ ?” เลขาสาวถามด้วยอาการตกใจ
เฉินเว่ยรู้อย่างแน่ชัดว่าหลิวหรูหยานเป็นใคร เธอเป็นสาวงามอันดับหนึ่งคู่กับหลินเสวี่ยและเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองทะเลตะวันออก เฉินเว่ยเคยเชิญเธอมาเข้าร่วมการประชุมทางธุรกิจนี้เมื่อปีที่แล้ว แต่ถูกเธอปฏิเสธ เธอไม่ได้คาดคิดว่าหลิวหรูหยานจะมาเข้าร่วมการประชุมในปีนี้
หลิวหรูหยานเคยพบเฉินเว่ยเมื่อปีที่แล้วและรู้สึกประทับใจเธอ เธอกล่าวว่า “เฉินเว่ย ฉันขอรับประกันกับคุณด้วยชื่อเสียงของฉัน ผู้ชายคนนี้เขารู้ตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ เขาสามารถทำให้ประธานหวังฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้งอย่างแน่นอน”
“เข้าใจแล้วค่ะ งั้นฉันจะปล่อยให้เขาจัดการ แต่ถ้าท่านประธานเป็นอะไรไปฉันจะไม่ยอมปล่อยเขาไปแน่” เฉินเว่ยจ้องไปที่ฉิงเฟิงอย่างไม่พอใจถึงแม้ว่าเธอจะตัดสินใจไว้ใจเขาเพราะหลิวหรูหยานรับประกัน
ฉิงเฟิงไม่ได้สนใจคำพูดเธอ เขาเป็นห่วงชีวิตของหวังหยุนมากกว่า เขารีบเดินไปข้างๆหวังหยุนและเอาที่ฝังเข็มออกมา
เขาสอดเข็มเข้าไปในจุดไป่ฮุ่ยและจุดเทียนชี่บนศีรษะของหวังหยุน หลังจากนั้นเขาก็สั่นปลายเข็มเล็กน้อยในขณะที่เขาพยายามถ่ายโอนพลังงานของเขาไปยังร่างกายของหวังหยุน สองนาทีต่อมาหวังหยุนก็ลืมตาขึ้นเล็กน้อย ฉิงเฟิงก็ถอดเข็มออกจากศีรษะของเขาอย่างรวดเร็ว
“ท่านประธานคะ คุณฟื้นแล้ว !?” เฉินเว่ยถามอย่างกังวลเมื่อเธอเห็นหวังหยุนฟื้นขึ้นมาแล้ว
หวังหยุนขมวดคิ้วและถามอย่างสับสนว่า “เว่ยเว่ย มันเกิดอะไรขึ้น ?”
“ท่านประธานคะ คุณเพิ่งจะหมดสติไปและชายที่ชื่อว่าหลี่ฉิงเฟิงคนนี้ เขาช่วยคุณ … ” เฉินเว่ยอธิบายคร่าวว่าเกิดอะไรขึ้นกับหวังหยุนอย่างรวดเร็ว
หวังหยุนรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากหลังจากได้ฟังเฉินเว่ยกล่าว เขาเป็นแค่โรคหัวใจยังไม่พอแต่เขายังเป็นโรคความดันโลหิตสูงอีก ซึ่งเขาเพิ่งได้รับการวินิจฉัยเมื่อไม่กี่วันก่อน แม้แต่เลขาของเขาก็ไม่รู้เรื่องนี้