ตอนที่ 598 ยุแหย่หลี่ฉิงเฟิง
แปล Tarhai
พื้นที่ของทั้งเมืองทะเลตะวันออกมีขนาดใหญ่มาก เมืองนี้มีประชากรมากกว่าสิบล้านคน ถ้าหากคุณต้องการหาใครสักคนมันก็เหมือนกับเป็นการงมเข็มในกองฟาง
ในขณะนี้ คนคนหนึ่งที่สอดส่องมากที่สุดก็คือซูเมิ่งเหยา เพราะเธอเป็นหัวหน้ากองกําลังตํารวจของเมืองทะลตะวันออก
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ซูเมิ่งเหยาก็ระบุรถต้องสงสัยที่ลักพาตัวหลิวหรูหยานได้
เธอหยิบโทรศัพท์โทรหาฉิงเฟิงในทันทีและบอกเขาว่า “ฉิงเฟิง รถที่ลักพาตัวหลิวหรูหยานไปเป็นรถออดี้หมายเลขทะเบียน A6666 รถคันดังกล่าวขับไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นแถบชานเมือง ละแวกนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด เราจึงไม่สามารถจับภาพเพิ่มเติมได้มากไปกว่านี้”
เมื่อฉิงเฟิงได้ยินเช่นนั้นใบหน้าของเขาสว่างขึ้นด้วยความโล่งอก ถึงแม้ว่าการค้นพบนี้จะไม่ได้ระบุตําแหน่งที่แน่ชัดของรถคันนั้น แต่อย่างน้อยก็ทําให้การค้นหาแคบลงและทําให้ค้นหาได้สะดวกมากขึ้น
” ชานเมืองทางทิศตะวันออกเฉียงใต้…. หรูหยานรอฉันก่อนนะ” ดวงตาของฉิงเฟิงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
” ขอบใจมากนะเมิ่งเหยา ฉันกําลังมุ่งหน้าไป” ฉิงเฟิงได้กล่าวขอบคุณซูเมิ่งเหยาและวางสายไปทันที
หลิวเจียวเจียวซึ่งได้ยินคําพูดสนทนาจากโทรศัพท์ เธอกล่าวว่า ”พี่เขยฉันไปด้วย ฉันจะไปหาพี่สาวของฉัน”
ฉิงเฟิงส่ายหัวและกล่าวว่า “มันอันตรายมาก เธอรออยู่ที่บ้านเถอะ เอากุญแจรถให้ฉัน”
ถึงแม้ว่าหลิวเจียวเจียวจะไม่ค่อยเต็มใจ แต่เธอก็รู้ดีว่าคนที่ลักพาตัวพี่สาวของเธอไปนั้นไม่ใช่คนธรรมดาแถมเธอก็เป็นแค่คนธรรมซึ่งไม่รู้จักศิลปะการต่อสู้ ถ้าเธอไปด้วยก็จะเป็นการเพิ่มภาระให้ฉิงเฟิงเปล่าๆ ดังนั้นเธอจึงส่งกุญแจรถให้ฉิงเฟิงแต่โดยดี
” พี่เขย ถ้าคุณพบพี่สาวแล้วอย่าลืมโทรบอกฉันนะ” หลิวเจียวเจียวกล่าวด้วยความกังวล
ฉิงเฟิงพยักหน้า เขารับกุญแจมาและขับเฟอร์รารีไปยังเขตชานเมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ เขาโทรหาคิงคองระหว่างที่ขับรถเพื่อสั่งให้คนในสมาคมฉิงเฟิงมุ่งเป้าค้นพบที่ชานเมืองทิศตะวันออกเฉียงใต้
ที่เขตชานเมืองทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ภายในคฤหาสน์ลึกลับแห่งหนึ่ง
หลิวหรูหยานถูกมัดติดกับเก้าอี้ด้วยใบหน้าซีดเซียวและรู้สึกหิวโหย นับตั้งแต่ที่เธอตั้งครรภ์เธอก็รู้สึกหิวตลอดเวลา เธอไม่เพียงแค่กินอาหารเพื่อตัวเองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเด็กในท้องซึ่งคอยดูซับสารอาหารจากเธออีกด้วย
ปัง
ประตูห้องถูกผลักเปิดออก เฮลคิงผู้สวมหน้ากากเดินเข้ามา เขามองไปที่หลิวหรูหยานด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสับสนใน โกรธแค้นและเกลียดชัง เขาเต็มไปด้วยอารมณ์หลอกหลายในขณะนี้
หลิวหรูหยานเป็นคนฉลาด ถึงแม้ว่าเฮลคิงจะสวมหน้ากากและเธอก็ไม่สามารถมองเห็นการแสดงออกบนใบหน้าของเขาได้ แต่มองผ่านสายตาและอารมณ์ที่เฮลคิงแผ่ออกมาก็ทําให้หลิวหรูหยานรู้สึกได้ว่า ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้ามีความเกลียดชังเธอจนกระทั่งถึงจุดที่อยากจะฆ่าเธอ แต่เธอไม่รู้ว่าทําไมเขาควบคุมแรงกระตุ้นเหล่านี้ไว้ เขาไม่ได้ฆ่าเธอและนอกจากนั้นตัวเขายังมีความรู้สึกอื่นๆผสมอีกด้วย
“คุณรู้จักฉันใช่ไหม ?” หลิวหรูหยานกล่าวขณะที่เธอเหลือบมองเฮลคิง
เฮลคิงตอบด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “ถ้าฉันจะบอกว่ารู้จักเธอมานานกว่าสิบปี เธอจะว่ายังไง?”
รู้จักฉันมานานกว่าสิบปี ?
ใบหน้าของหลิวหรูหยานเต็มไปด้วยความสงสัยอย่างมาก เธอตื่นตระหนกกับคําพูดของเฮลคิง เธอเริ่มขุดลึกเข้าไปในความทรงจํา เธอพยายามนึกทบทวนว่าเธอเคยพบใครบ้างในช่วงสิบปีที่ผ่านมา แต่เธอเป็นนักธุรกิจและพบผู้คนมากมาย เธอจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นใคร ?
“ฉันไม่เข้าใจ หลี่ฉิงเฟิงมีอะไรดี ทําไมเธอถึงรักมัน ?” เฮลคิงกล่าวอย่างเย็นชาแฝงด้วยเจตนาฆ่าและยังมีความรู้สึกหึงหวงอีกด้วย
บอกตามความสัตย์ ก่อนที่หลี่ฉิงเฟิงจะปรากฏตัวขึ้น เฮลคิงหลงงมงายในตัวของหลิวหรูหยานมาก มิฉะนั้นเขาคงจะบอกปัดพ่อของเขาจากการจัดเตรียมการแต่งงานของเขากับผู้หญิงคนนี้ไปแล้ว แต่สุดท้ายเรื่องก็จบลงด้วยการที่หลิวหรูหยานรักหลี่ฉิงเฟิง ซึ่งเขาไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้
มีความเกลียดชังสองแบบที่ลูกผู้ชายจะต้องแก้แค้นให้ได้ หนึ่งคือแค้นฆ่าบิดามารดา สองคือแค้นแย่งคนรัก ซึ่งบังเอิญที่ความเกลียดชังทั้งสองแบบนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับหลี่ฉิงเฟิง
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณกับการที่ฉันจะชอบหลี่ฉิงเฟิงหรือไม่ ?”
“แน่นอนว่ามันย่อมเกี่ยวข้องกับฉัน ฉันต้องการที่จะฆ่ามันต่อหน้าเธอ ทําให้เธอเจ็บปวดจนไม่อาจทนได้จนถึงจุดที่เธออยากตาย !”
“คุณเป็นใครกันแน่ ! ทําไมคุณถึงอยากฆ่าหลี่ฉิงเฟิงขนาดนี้ ?” หลิวหรูหยานกล่าวด้วยความโกรธ
ใจจริงแล้วหลิวหรูหยานกําลังสงสัยว่าชายที่เรียกตัวเองว่าเฮลคิงคนนี้คือ
“หวังเซาหยาง” แต่ความคิดนี้ก็ถูกลบออกไปอย่างรวดเร็วเพราะเธอเห็นเขาตายกับตาเมื่อตอนงานชุมนุมเหล่านายน้อยแห่งปักกิ่ง
คนที่ตายไปแล้วจะคืนชีพกลับมาได้ยังไง ? ซึ่งเธอเดาถูก แต่เธอก็ไม่มีวันรู้ว่าหวังเซาหยางที่ตายไปนั้นคือตัวโคลนนิ่ง
การโคลนนิ่งเป็นเทคโนโลยีที่น่าทึ่งและมหัศจรรย์เกินกว่าจินตนาการของคนทั่วไป มีผู้คนไม่มากนักที่รู้จักเทคโนโลยีนี้ และพวกเขาส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่เคยเข้าไปในดินแดนต้องห้าม เป็นธรรมดาที่หลิวหรูหยานจะไม่รู้เรื่องนี้
“ฉันจะโทรหาหลี่ฉิงเฟิงเดี๋ยวนี้และบอกมันว่าเธอถูกจับตัวอยู่ที่นี่ มันต้องรีบมาช่วยเธออย่างแน่นอน ฉันมั่นใจ” เมื่อพูดจบเฮลคิงก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างน่าสยดสยองพร้อมกับเจตนาฆ่าที่รุนแรงอย่างเห็นได้ชัด
หลิวหรูหยานโกรธจนหน้าเปลี่ยนสีและกล่าวด้วยความโกรธว่า “คุณมันน่ารังเกียจนัก ! คุณใช้ฉันเป็นเหยื่อ ฉิงเฟิงไม่มีทางมาหรอก !”
” เธอผิดแล้ว ฉันเกลียดหลี่ฉิงเฟิงมากจนถึงจุดที่อยากจะสับมันเป็นล้านๆชิ้น แต่ฉันก็รู้จุดอ่อนของมัน มันเป็นคนที่ยุติธรรมและเชิดชูความรักเป็นอย่างมาก มันจะต้องมาช่วยเธออย่างแน่นอน” เฮลคิงกล่าวอย่างไม่แยแสด้วยความมั่นใจ
เมื่อเป็นศัตรูกัน เฮลคิงย่อมสืบข้อมูลและรู้จักฉิงเฟิงเป็นอย่างดี เขามีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่าฉิงเฟิงจะต้องมา เพื่อช่วยผู้หญิงของเขา
จากนั้นเฮลคิงก็เดินออกไปจากห้องและหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาโทรหาฉิงเฟิง เขาได้เบอร์นี้มาผี 2 ซึ่งเป็นคนที่สืบข้อมูลฉิงเฟิงมาจากบริษัท Ice Snow
ในขณะเดียวกัน ฉิงเฟิงกําลังขับเฟอร์รารี่มุ่งหน้าสู่ชานเมืองทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ มันเป็นชานเมืองขนาดใหญ่ เขาขับมาได้สักระยะหนึ่งแล้วแต่ก็ยังไม่พบเบาะแสใดๆ
กริ๊งงงงงง….
ในช่วงเวลาเร่งด่วนเช่นนี้โทรศัพท์ของฉิงเฟิงก็ดังขึ้น เขาดูที่หน้าจอและเห็นว่าเป็นเบอร์แปลก ตอนแรกเขาไม่อยากรับสายแต่มันก็ดังไม่หยุด ดังนั้นเขาจึงต้องรับสายอย่างไม่เต็มใจ
“สวัสดี ผมหลี่ฉิงเฟิง คุณโทรมามีธุระอะไรไม่ทราบ ?” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างไม่แยแสด้วยความร้อนใจ
เขากําลังอยู่ในระหว่างการตามหาหลิวหรูหยาน เขาไม่ได้มีเวลามานั่งตอบคําถามของพวกบริษัทประกันหรือบัตรเครดิต ซึ่งคนเหล่านี้มักจะโทรหาเขาเพื่อขายของและทําให้เขาโกรธเป็นประจํา
” เดาสิว่าใคร ?” เสียงแหบพร่าดังออกมาจากสายโทรศัพท์อีกฝั่งหนึ่ง ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้ยินเสียงนี้ย่อมหวาดกลัว
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วและตอบอย่างเย็นชาว่า “แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่านายเป็นใคร ? มีอะไรจะพูดก็รีบพูดมา ฉันมีธุระต้องทํา”
“มีอะไรให้ช่วยมั้ยละ ทีม ?” น้ำเสียงที่แหบแห้งในโทรศัพท์ตอบคําถามเขาด้วยการเสนอตัวช่วย ราวกับว่าเขาตั้งใจที่จะหยอกล้อฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงกล่าวด้วยความหงุดหงิดว่า “ฉันกําลังยุ่ง ไม่มีเวลามาเล่นกับนายหรอกนะ ถ้าไม่รีบบอกธุระของนายมาฉันจะวางสายเดี๋ยวนี้”
หลังจากพูดจบประโยค ฉิงเฟิงก็กําลังจะวางสาย แต่เขาได้ยินเสียงดังขึ้นว่า “แกกําลังตามหาหลิวหรูหยานอยู่ใช่ไหมละ ?”
การแสดงออกของฉิงเฟิงเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาตกตะลึง “แกรู้ได้อย่างไรว่าฉันกําลังตามหาหลิวหรูหยาน ?”
“ก็เพราะตอนนี้หลิวหรูหยานอยู่ในมือของฉันไง แน่นอนว่าแกต้องกําลังตามหาเธอ”
น้ำเสียงที่แหบแห้งกล่าวอย่างหยอกเย้า เมื่อได้ยินเสียงของฉิงเฟิงที่แฝงความตื่นตระหนกก็ทําให้เขามีความสุขมาก
“แกเป็นใคร ? แกลักพาตัวหลิวหรูหยานทําไม ? อยากได้เงินรึไง ถ้าเป็นเรื่องเงินนายบอกมาได้เลย จะร้อยล้านหรือพันล้านฉันก็จะให้แก” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยความกังวลใจ
ตราบใดที่เงินสามารถช่วยหลิวหรูหยานได้ เขายินดีจ่ายไม่ว่าจะเท่าไรก็ตาม