ตอนที่ 607 รอยสักเทวรูปตาเดียว พลังแห่งสายเลือดของเจ้าโล้น !
ผี3ขมวดคิ้วเล็กน้อยและขบกราม เขาดึงเข็มเงินออกจากมือทิ้งไป เขาโกรธเกรี้ยวมากเพราะไอ้เข็มบ้านี่ทําให้เขาพลาดโอกาสที่ดีที่สุดในการฆ่าหลี่ฉิงเฟิง
“ใครหลบอยู่ตรงนั้นวะ !? ในเมื่อแกกล้าโจมตีฉันก็โผล่หัวออกมาสิโว้ย !” ผี 3 กล่าวด้วยรูปลักษณ์ที่ดุร้ายราวกับปีศาจ หน้ากากบนใบหน้าของเขาสั่นเทาด้วยความโกรธจะแทบจะหลุดลงมา
“อลิซทีมเขี้ยวหมาป่ารายงานตัวค่ะบอส” สาวงามผมบลอนด์ที่มีเสน่ห์เย้ายวนพร้อมอกโตคู่โตกระโดดลงมาจากหน้าต่าง เธอรีบวิ่งไปหาฉิงเฟิงทันทีด้วยท่าทางที่เป็นห่วงอย่างมากโดยไม่สนใจผี 3 แม้แต่น้อย
“คุณโอเคไหมคะบอส 2” เมื่อเห็นสภาพที่น่าสังเวชของฉิงเฟิง ใบหน้าที่งดงามของอลิซก็ปรากฏร่องรอยของความเจ็บปวด น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาสีฟ้าของเธอทันที
เมื่อฉิงเฟิงเห็นอลิซมาแล้วฉิงเฟิงก็ส่ายหัวแสดงให้เธอเห็นว่าเขายังไหว เขารู้สึกโล่งใจที่เห็นสมาชิกในทีมเขี้ยวหมาป่ามากันครบยกเว้นนักบวชที่คอยปกป้องหลินเสวี่ย
ทั้งฉิงเฟิงและเฮลคิงไม่สามารถขยับไปไหนได้จึงต้องพึ่งพาลูกน้องของตัวเอง ดังนั้นนี่ไม่ใช่การต่อสู้ส่วนตัวอีกต่อไป แต่เป็นการต่อสู้ระหว่างทั้งสองทีม
สําหรับการต่อสู้ระหว่างเจ้าโล้นและผี 2, ชายผู้ถูกเรียกว่าเป็นรถถังมนุษย์บนทวีปหมาป่า มีคนพูดว่าเขาสามารถใช้พลังกายเพียวๆพลิกรถถังทั้งคันจนคว่ำได้ ไม่มีใครปะทะกับเจ้าโล้นด้วยพลังกายได้
ส่วนคู่ระหว่างเทพมรณะกับผี 4 พวกเขาก็ยังคงยิงสวนกันไปมาไม่หยุด ปลอกกระสุนมากมายร่วงหล่นเป็นห่าฝน
เห็นได้ชัดว่าเทพมรณะมีความสามารถเหนือกว่าผี 4 มีหลายครั้งที่กระสุนของเทพมรณะเกือบจะเจาะทะลุกระโหลกของผี 4 ถ้าเปลี่ยนเป็นคนธรรมดา ปานนี้คงตายไปนานแล้ว
ถัดจากฉิงเฟิงก็คืออลิซและผี 3 ที่กําลังจ้องหน้ากันเขม็งและพร้อมจะเปิดฉากต่อสู้กันได้ทุกเวลา
ในทีมเขี้ยวหมาป่าฉิงเฟิงเป็นห่วงอลิซมากที่สุด เนื่องจากความสามารถที่โดดเด่นของอลิซคือการหาข้อมูลและรวบรวมข่าวสาร เธอไม่ถนัดทางด้านการต่อสู้
“อลิซ, เธอพยายามหลีกเลี่ยงการต่อสู้ซึ่งหน้า คอยหลบและหาจังหวะสวนเอา”
ฉิงเฟิงบอกกับอลิซ
อลิซพยักหน้าและเข้าใจ เธอรู้ตัวเองดี เธอไม่เก่งในด้านการต่อสู้ เหตุผลที่เธอสามารถทําร้ายผี3 เมื่อสักครู่ได้ก็เพราะว่าเขาไม่ทันระวังตัวจึงถูกเธอลอบโจมตี
“นังบ้า! แกกล้าดียังไงใช้เข็มมาลอบโจมตีฉัน ไปลงนรกซะ !” กล่าวจบผี3ก็ยกขาขวาขึ้นและเตะออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว เล็งไปที่ร่างของอลิซอย่างไร้ความปราณี
สมาชิกในทีมโกสคิงทั้งหมดเป็นนักสู้ระดับ SSS ผี3ก็เช่นกัน แต่ระดับพลังของอลิซนั้นอยู่แค่ SS เห็นได้ชัดว่าด้อยกว่าผี 3 ขั้นหนึ่ง
หวือ !
อลิชกระทืบเท้าลงบนพื้นและเบี่ยงหลบไปทางซ้าย ทําให้รอดพ้นจากการโจมตีของผี 3
ในแง่ของความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียวก็เห็นได้ชัดเจนว่าอลิซไม่สามารถเอาชนะผี 3 ได้ แต่เรื่องความว่องไวอลิซย่อมเหนือกว่าเพราะเธอเรียนรู้มาจากฉิงเฟิง
เมื่อเห็นว่าอลิซสามารถหลบลูกเตะเต็มแรงของเขาได้ ผี3ก็ยิ่งโกรธกริ้วมากขึ้น แม้ว่าผู้หญิงผมบลอนด์ตาสีฟ้าคนนี้จะสวยมากก็ตาม
“ ตาย !”
ผี3ตามเข้าไปโจมตีอลิซอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อลิซได้แต่หลบหลีก
ถึงจะเป็นนักสู้ระดับ SS แต่อลิซเป็นผู้หญิง เรี่ยวแรงเธอมีไม่เท่าผี 3 สถานการณ์เธอแย่ลงเรื่อยๆหลังจากได้แต่หลบ ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปเธอจะหมดแรงในไม่ช้า
อ๊า !
หลังจากสู้ไปได้สักระยะผี 3 ก็คว้าโอกาสเอาไว้ได้และเตะเข้าใส่อลิชจนเธอกระเด็นไปไกลและกระอักเลือดออกมา
” อลิซ เป็นไงบ้าง !?” เมื่อเห็นอลิซได้รับบาดเจ็บ ฉิงเฟิงก็รู้สึกเจ็บปวดและถามเธอด้วยความห่วงใย
ในขณะนี้ฉิงเฟิงโกรธตัวเองอย่างมาก มันเป็นความอัปยศที่เขาไม่สามารถไปช่วยเธอได้ มิฉะนั้นเขาจะทุบตีผี 3 ให้เละโทษฐานที่ทําร้ายผู้หญิงของเขา
ใบหน้าที่ละเอียดอ่อนของอลิซซีดลง แสดงให้เห็นว่าเธอได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า ”ยังไหวคะบอส คุณไม่ต้องเป็นห่วง”
“นังหมูตัวเมีย เธอมันแค่ระดับ SS รอาจจะมาวัดกับฉัน ฉันจะทุบเธอให้เละ”
ผี 3 ยิ้มอย่างโหดเหี้ยม เขาพุ่งเข้าหาอลิซและหมายจะฆ่าให้ได้โดยเร็วที่สุด
อลิซไม่สามารถหลบไปไหนได้อีกเนื่องจากตอนนี้ฉิงเฟิงอยู่ข้างหลังเธอ หากเธอหลบการโจมตีของผี 3 ก็จะโดนฉิงเฟิงแทน เธอจึงต้องประจันหน้าสู้อย่างทุลักทุเลเพื่อปกป้องฉิงเฟิง
เห็นได้ชัดว่าผี3แข็งแกร่งกว่าอลิซอย่างมาก ถึงแม้อลิชจะว่องไวแต่ผี3ก็ตามติดอย่างไม่ลดละ มีอยู่หลายครั้งที่อลิซโดนการโจมตีของผี 3 จนได้รับบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ
ฉิงเฟิงที่ทําได้เพียงแค่ดูอย่างเดียวเริ่มรู้สึกกระวนกระวาย เขารู้ว่าเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่ อลิชมีโอกาสสูงที่จะถูกผี3ฆ่าถ้าเธอไม่หนีไป แต่เธอก็ต้องสู้เพื่อปกป้องเขา
“เจ้าโล้น เปิดใช้งานพลังจากโทเท็มเดี๋ยวนี้ รีบจบการต่อสู้กับผี2ให้ไวที่สุดแล้วมาช่วยอลิซทันที!!”
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วและตะโกนบอกเจ้าโล้นจากระยะไกล
พูดจากใจจริงฉิงเฟิงก็ไม่อยากให้เจ้าโล้นเร่งจบเกมขนาดนี้ถ้าอลิซไม่ได้อยู่ในสถานการณ์คับขัน เจ้าโล้นเคยได้รับบาดเจ็บมาก่อนจากการเปิดใช้งานพลังจากโทเท็ม เขาไม่ควรจะใช้พลังเต็มที่ในช่วงนี้เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบ แต่ตอนนี้ฉิงเฟิงไม่มีทางเลือก
“ฮ่าๆๆๆ !! ได้เลยบอส แค่อนุญาตให้ผมเปิดโหมดคลั่ง เดี๋ยวเดียวก็จบ” เห็นได้ชัดว่าเจ้าโล้นก็รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้อันตรายมากจนไม่อาจเสียเวลาได้อีก
ฮ่าห์ !
เจ้าโล้นคํารามออกมา บนหน้าอกของเขาปรากฏเทวรูปขึ้น แต่มันยังไม่สมบูรณ์ เทวรูปองค์นี้มีดวงตาเพียงข้างเดียว
รอยสักเทวรูปนี้คล้ายกับรอยสักราชันหมาป่าของฉิงเฟิง ซึ่งสามารถกระตุ้นพลังสายเลือดได้แต่เนื่องจากโทเท็มของเจ้าโล้นไม่สมบูรณ์เหมือนฉิงเฟิง เขาจึงใช้พลังนี้ได้เต็มที่เพียงแค่ 1 นาทีเท่านั้น ไม่งั้นจะเกิดผลกระทบต่อร่างกายอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม เพื่อจบการต่อสู้กับผี2ให้ไวที่สุดและไปช่วยอลิซ เจ้าโล้นก็ต้องยอมเสี่ยง เพราะสมาชิกทีมเขี้ยวหมาป่าทุกคนเป็นเหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน พวกเขาทุกคนผ่านอะไรด้วยกันมามากและมีสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น
เจ้าโล้นเริ่มพึมพําท่องบทสวดของพระสูตรที่เขาได้เรียนรู้มาจากอาจารย์ของเขา, เจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน อาจารย์ของเขาเคยกล่าวว่าบทสวดพระสูตรนี้สามารถกระตุ้นพลังสายเลือดในร่างกายของเขาได้
แสงสีทองส่องออกมาจากร่างกายของเจ้าโล้นอย่างมหัศจรรย์ ร่างกายของเขามีการเปลี่ยนแปลงไป ท่าทางของเขาดูสงบเสงี่ยมจริงจังมากขึ้นและมีเมตตาราวกับพระพุทธเจ้า พละกําลังของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในทันที