My Cold and Elegant CEO Wife – ตอนที่ 622

ตอนที่ 622

ตอนที่ 622 นัดบอด

วันรุ่งขึ้นอากาศแจ่มใส พระอาทิตย์ขึ้นและอุณหภูมิสูงขึ้นทำให้หิมะบนพื้นเริ่มละลาย

ฉิงเฟิงตื่นเช้ามากเหมือนเคย ส่วนหลินเสวี่ยยังคงหลับใหลเนื่องจากความเหน็ดเหนื่อย ฉิงเฟิงจึงต้องเป็นคนเตรียมอาหารเช้าเอง แต่หลังจากที่เขาเตรียมอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยได้ไม่นานหลินเสวี่ยก็ตื่นแล้ว

เนื่องจากมีเหมียวซิยี้เป็นสมาชิกในบ้านเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน ฉิงเฟิงจึงเตรียมอาหารเช้าเพิ่มเป็น 3 ที่ หลังจากทานอาหารเสร็จแล้วพวกเขาก็ขับรถไปที่บริษัทด้วยกัน

ฉิงเฟิงไม่ได้เข้ามาที่บริษัทหลายวันแล้ว เขาเริ่มคิดถึงใบหน้าที่คุ้นเคยของผู้คนมากมายที่นั่น

ทันทีที่เขาก้าวเท้าเข้าไปในแผนกขายเขาก็ถูกจางเสี่ยวเยวี่ยขวางไว้

ใบหน้าของจางเสี่ยวเยวี่ยขาวบริสุทธิ์และดูอ่อนโยน ผิวของเธอเต่งตึง เธอสวมชุดทำงานสีชมพูซึ่งขับเน้นให้ใบหน้าที่น่ารักของเธอยิ่งงดงามน่าดูมากขึ้น หน้าอกของเธอใหญ่โตจนพวกมันดูเหมือนจะทะลักเสื้อของเธอออกมา ทำให้ผู้คนอยากจะเอื้อมมือไปคว้าจับพวกมัน

ฉิงเฟิงเคยเห็นผู้หญิงมามาก แต่ทุกครั้งที่เขาเห็นจางเสี่ยวเยวี่ยเขาจะรู้สึกตื่นตัว เธอเป็นเหมือนดอกไม้งามที่ละเอียดอ่อน ความงามของเธอแตกต่างจากคนอื่นๆ ซึ่งมีเพียงแค่เธอเท่านั้นที่มี

” พี่ใหญ่หลี่ คุณไม่มาทำงานกี่วันแล้วคะ ? คุณลืมฉันไปหรือยัง ?”

จางเสี่ยวเยวี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูผิดหวังเล็กน้อย

ก่อนหน้านี้ฉิงเฟิงเป็นคนที่กระตือรือร้นในการทำงานมาก ถึงแม้ว่าบางครั้งเขาจะมาสายแต่เขาก็ยังมา แต่ครั้งล่าสุดนี้เขาไม่มาทำงานเลยหลายวัน เขาเหมือนหายตัวไปเฉยๆ

“ว่าไงเสี่ยวเยวี่ยน้อย เธอคิดถึงฉันเหรอ ?” ฉิงเฟิงยิ้มขณะที่เขากุมมือน้อยๆที่เนียนนุ่มของจางเสี่ยวเยวี่ย

ใบหน้าของจางเสี่ยวเยวี่ยกลายเป็นสีแดง เห็นได้ชัดว่าฉิงเฟิงเดาถูก เธอคิดถึงเขาในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา

ถ้าเป็นเมื่อก่อนจางเสี่ยวเยวี่ยคงจะดึงมือกลับจากฉิงเฟิงไปแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ เธอปล่อยให้เขากุมมือไว้อย่างนั้น มีเพียงแก้มของเธอที่เป็นสีแดงด้วยความเขินอาย

อะแฮ่ม !

เซี่ยหวั่นฉิวเพิ่งจะมาถึงแผนกขายเพื่อเริ่มตรวจดูงานในแผนก ในทันทีที่เธอมาถึง เธอก็เห็นฉิงเฟิงและจางเสี่ยวเยวี่ยกำลังจับมือกันอยู่ อารมณ์ที่ดีๆอยู่แล้วของเธอหายวับไปทันที

เซี่ยหวั่นฉิวก็คิดถึงฉิงเฟิงมาสองสามวันแล้ว เมื่อได้ยินว่าเขากลับมาทำงานแล้วเธอก็ดีใจมากแต่พอมาถึงและได้เห็นทั้งคู่กำลังจับมือถือแขนกันก็ทำให้เธอไม่พอใจ

เมื่อได้ยินเสียงไอ ทั้งฉิงเฟิงและจางเสี่ยวเยวี่ยก็หันไปมองเซี่ยหวั่นฉิว ความกระอักกระอ่วนแสดงออกมาบนใบหน้าของพวกเขาทันที

“โปรดงดการแตะเนื้อต้องตัวกันในเวลาทำงานด้วยนะคะ เกรงใจเพื่อนร่วมงานบ้าง”

เซี่ยหวั่นฉิวเหลือบมองพวกเขาและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูเคืองเล็กน้อย

ฉิงเฟิงปล่อยมือจางเสี่ยวเยวี่ยและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “พี่สาวเซี่ย ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน ฉันคิดถึงคุณสุดๆเลย”

“หึ ถ้าคุณคิดถึงฉันจริงๆทำไมคุณถึงไม่มาทำงานเลยตั้ง 3 วันละ ?” เซี่ยหวั่นฉิวถาม คำถามของเธอแสดงว่าให้เห็นว่าเธอไม่เชื่อคำพูดของฉิงเฟิง

“พี่สาวเซี่ย คุณไม่รู้หรอกว่าฉันคิดถึงคุณจนล้มป่วยไปหลายวัน พอวันนี้เริ่มดีขึ้นฉันเลยรีบมาทำงานทันที” ฉิงเฟิงปลดปล่อยความปากหวานล่อลวงสาวๆออกมาอีกครั้ง คำพูดของเขาทำให้เซี่ยหวั่นฉิวมีความสุขเล็กน้อย

หลังจากที่ได้ยินเซี่ยหวั่นฉิวก็รู้สึกดีขึ้น แต่พอได้เห็นใบหน้าของฉิงเฟิงเธอก็เคืองในทันที เพราะฉิงเฟิงเพิ่งพูดว่าป่วยและผิวของคนป่วยควรจะซีดเซียว แต่ผิวของฉิงเฟิงตอนนี้นั้นดูวาววับและมีเลือดฝาด มองดูสุขภาพดีมาก ผิวของเขาดูดีกว่าผู้หญิงทุกคนด้วยซ้ำ มันไม่ใช่ผิวของคนป่วยเลย

“ฉิงเฟิง คุณกล้าโกหกฉันเหรอ ? ดูหน้าคุณสิ ผิวพรรณของคุณดูดีจนไร้ที่ติ ไม่เหมือนคนปวยแม้แต่น้อย เพื่อเป็นการลงโทษ ฉันขอให้คุณทำงานล่วงเวลาอีก 1 ชั่วโมง

เซี่ยหวั่นฉิวเผยอริมฝีปากที่บอบบางและกล่าวด้วยความโกรธเล็กน้อย

เซี่ยหวั่นฉิวไม่เปิดโอกาสให้ฉิงเฟิงได้อธิบาย เธอหมุนกายและเดินออกไปจากแผนกขายด้วยขาเรียวยาวของเธอทันที ทิ้งไว้เพียงเงาหลังที่งดงาม

“พี่ใหญ่หลี่คะ ข้อแก้ตัวของพี่ห่วยแตกมาก พี่บอกว่าปวยเหรอ ? ดูหน้าพี่ในกระจกสิ ผิวของพี่ดูดีกว่าฉันตั้งเยอะ” จางเสี่ยวเยวี่ยหยิบกระจกเล็กๆในกระเป๋าของเธอออกมาและส่งให้ฉิงเฟิง

ฉิงเฟิงมองใบหน้าตัวเองในกระจกและพูดไม่ออก ใบหน้าของเขาขาวและอ่อนโยน แก้มแดงราวกุหลาบ มันดูไร้ที่ติราวกับก้นเด็กทารกแรกเกิด

ฉิงเฟิงอึ้งอย่างโง่งมและพูดไม่ออก ไม่เพียงแค่เซี่ยหวั่นฉิวเท่านั้น แต่ทุกคนที่เห็นหน้าเขาก็ไม่มีใครเชื่อสักคนว่าเขาปวย มีแต่คนพูดว่าผิวของเขาดีเกินกว่าผู้หญิงด้วยซ้ำ

ฉิงเฟิงรู้ว่าเขาต้องแบก “ภาระ” เรื่องผิวพรรณที่เพอร์เฟคของเขาเอาไว้ และที่น่าตลกก็คือการที่เขาไม่สามารถอธิบายปรากฏการณ์ทางผิวพรรณนี้แก่ผู้อื่นได้ ต้องไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นฝึกยุทธ์ เขาต้องเก็บมันไว้เป็นความลับ

“เอาละ เสี่ยวเยวี่ยน้อยฉันจะไปเริ่มทำงานละนะ หลังพักงานฉันจะเลี้ยงกาแฟเธอก็แล้วกัน ดีไหม ?” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

จางเสี่ยวเยวี่ยผงกหัวอย่างมีความสุขเล็กน้อย มันก็ผ่านมานานแล้วที่พวกเขาไม่ได้กินข้าวด้วยกัน เธอคิดถึงช่วงเวลานั้น

ฉิงเฟิงกลับมานั่งที่โต๊ะทำงานของเขา เขาหยิบข้อมูลของฝ่ายขายขึ้นมาและเริ่มอ่าน เห็นได้ชัดว่าเขากำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับเปยเหยียนจื่อ, หุ้นส่วนหลักของบริษัทปิงเสวี่ยโดยมุ่งเน้นไปที่บริษัทฟินิกซ์และยังคิดถึงเรื่องการขยายตัวอีกด้วย

กริ้งๆ

เสียงโทรศัพท์ของจางเสี่ยวเยวี่ยดังขึ้นอย่างชัดเจนทำลายสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบของแผนกขาย ซึ่งทำให้ฉิงเฟิงและคนอื่นๆหันไปมองเธอ

จางเสี่ยวเยวี่ยรู้สึกลังเลและเต็มไปด้วยความอึดอัด มันเป็นเรื่องผิดระเบียบที่เปิดเสียงโทรศัพท์มือถือไว้ในช่วงเวลาทำงาน ในฐานะที่เป็นหัวหน้าของแผนกขาย เธอตระหนักเรื่องนี้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม เมื่อเช้าเธอรีบตื่นนอนและรีบมาทำงานจนลืมเปิดสั่นไว้

จางเสี่ยวเยวี่ยไม่ต้องการรับโทรศัพท์ แต่เมื่อเห็นว่าพ่อของเธอโทรมา เธอจึงยิ้มขอโทษให้กับทุกคนในแผนกและเดินออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก

” พ่อคะ หนูทำงานอยู่ โทรมาทำไมเหรอคะ ?” จางเสี่ยวเยวี่ยกล่าวหลังจากกดปุ่มรับสายในห้องโถง

“เสี่ยวเยวี่ย, ป้าของลูกหาวันเดทให้ลูกได้แล้ว หลังเลิกงานก็แต่งเนื้อแต่งตัวเสียหน่อยนะลูกแล้วไปพบเขาซะหน่อย”

“คุณพ่อ เราเคยคุยกันแล้วนี่คะ หนูไม่ชอบนัดบอด”

“แต่ว่าเสี่ยวเยวี่ย ผู้ชายคนนี้ป้าของลูกแนะนำมาโดยตรง ถึงแม้ว่าลูกจะไม่ชอบเขา แต่อย่างน้อยก็ไปพบเขาหน่อยเถอะ ถือว่าให้เกียรติป้าของลูกนะ”

”พ่อ หนูทำงานอยู่ หลังจากเลิกงานค่อยคุยกันนะคะ” จางเสี่ยวเยวี่ยวางสายไปอย่างรีบร้อนและรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย

ป้าของจางเสี่ยวเยวี่ยดีกับเธอและพ่อมาก เธอช่วยเหลือช่วยพวกเขาไว้มากตอนที่พ่อของจางเสี่ยวเยวี่ยเป็นอัมพาต ในเมื่อตอนนี้ป้าของเธออยากจะแนะนำผู้ชายให้ เธอจึงไม่อาจปฏิเสธได้

จากนั้นจางเสี่ยวเยวี่ยก็เดินกลับเข้ามาในแผนกขายด้วยสีหน้าหนักอึ้งและใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ของเธอได้รับผลกระทบจากการคุยโทรศัพท์เมื่อสักครู่

ตลอดทั้งวัน จางเสี่ยวเยวี่ยไม่มีสมาธิในการทำงานแม้แต่น้อย เธอทำงานผิดพลาดหลายครั้งจนถูกเซี่ยหวั่นฉิวตำหนิ

แม้กระทั่งหลังเลิกงานใบหน้าของจางเสี่ยวเยวี่ยก็ยังดูอึมครึม

“เสี่ยวเยวี่ยน้อยทำไมหน้าดุขนาดนี้ ไหนบอกฉันมาสิว่ามีเรื่องอะไรกวนใจเธอ”

ฉิงเฟิงถามขณะที่เดินไปหาจางเสี่ยวเยวี่ยด้วยรอยยิ้ม

”พี่ใหญ่หลี่คะ ป้าของฉันจะให้ฉันไปนัดบอดกับคนที่ป้าเลือกให้ แต่ฉันไม่อยากไปเลย” จาง เสี่ยวเยวี่ยกล่าวขณะที่สั่นศีรษะ

My Cold and Elegant CEO Wife

My Cold and Elegant CEO Wife

เรื่องย่อ : เรื่องราวของหลี่ฉิงเฟิง ราชันหมาป่าแห่งทวีปแอฟริกา สุดยอดนักสู้ผู้อยากล้างมือจากวงการมาเฟียมาใช้ชีวิตเป็นหนุ่มออฟฟิศอย่างสงบสุขและทำตามความตั้งใจของปู่ที่เคารพโดยการแต่งงานกับหลินเสวี่ย สาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองทะเลตะวันออก แต่เขาก็ไม่อาจควบคุมชะตาชีวิตของตนเองได้ สุดท้ายเขาต้องผจญเรื่องราวการฆ่าฟันจากบรรดาศัตรูเก่าใหม่ ตลอดจนมีสัมพันธ์รักกับหญิงสาวอีกมากมายที่ผ่านเข้ามา มาร่วมติดตามเส้นทางชีวิตของหลี่ฉิงเฟิงว่าสุดท้ายเขาจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในโลกหล้าขนาดไหน !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท