ตอนที่ 624 ใครชนะก็ได้เธอไป ?
แปล โathai
หลังจากได้ยินที่ฉิงเฟิงกล่าว หวังเสี่ยวหงก็ขมวดคิ้วรู้สึกไม่พอใจ เธอเป็นน้าของจางเสี่ยวเยวี่ยเธอพบปะกับเหล่าผู้มั่งคั่งที่มีภูมิหลังที่ยอดเยี่ยมมากมาย ชายคนนี้มีสิทธิ์อะไรมายุ่งเรื่องในครอบครัวเธอ ?
ฉิงเฟิงเป็นผู้ชายที่หล่อเหลาอย่างมาก แต่สมัยนี้หล่ออย่างเดียวมันไม่พอกิน คนรวยสําคัญกว่าหวังเสี่ยวหงคร่ําหวอดอยู่ในวงการธุรกิจมานานเธอเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความสําคัญของเงิน
“หลี่ฉิงเฟิง คุณเป็นแค่เพื่อนร่วมงานของเสี่ยวเยวี่ยเท่านั้น แต่ชั้นเป็นน้าของเธอ คุณนั่นแหละที่ยุ่งกับเรื่องของคนอื่น” หวังเสี่ยวหงมองไปที่ลิ้งเฟิงและกล่าวด้วยน้ําเสียงเสียดสี
จางเสี่ยวเยวี่ยขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจกับคําพูดของน้าเธอและกล่าวว่า
“คุณน้าทําไมพูดแบบนี้ ?”
เมื่อหวังเสี่ยวหงเห็นหลานสาวที่มักจะเชื่อฟังเธอกล้าเอ่ยปากปกป้องคนนอก หวังเสี่ยวหงก็รู้สึกโกรธ เธอกล่าวว่า “พี่เขย พี่ดูสิ ดูลูกสาวพี่ เธอพูดเข้าข้างคนนอกโดยไม่สนใจน้าอย่างชั้น !”
แต่ทว่า สิ่งที่ทําให้หวังเสี่ยวหงต้องช็อคก็คือ แม้แต่พี่เขยของเธอ, จางเสี่ยวเจี้ยก็ยังแย้งเธอว่า”เสี่ยวหง คุณหลี่ไม่ใช่คนนอก เขาเป็นผู้ช่วยชีวิตฉันและฉันหวังว่าเธอพูดจากับเขาดีๆกว่านี้”
รูปลักษณ์บนใบหน้าของหวังเสี่ยวหงเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน เธอพูดด้วยความโกรธว่า “จาง เสี่ยวเจี้ย, คุณลืมบุญคุณที่ชั้นเคยช่วยเหลือแล้วเหรอ ? ชั้นให้เงินคุณตอนคุณนอนพะงาบๆอยู่บน เตียง แต่ตอนนี้คุณกําลังจะต่อต้านฉันเพราะผู้ชายคนนี้ !?”
“ฉันรู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งมากสําหรับความช่วยเหลือของเธอก่อนหน้านี้ แต่เธอก็ไม่ควรไปพูดกับคุณหลี่เช่นนี้” จางเสี่ยวเจี้ยสายหัวและยังคงยืนอยู่ข้างฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงรู้สึกพูดไม่ออกเล็กน้อย คําพูดที่เขากล่าวไปตรงๆไม่คิดว่ามันจะทําให้ครอบครัวนี้ต้องทะเลาะกัน
“ผมว่าพวกคุณควรจะหยุดเถียงกันได้แล้ว เพราะเสี่ยวเยวี่ยจะไม่คบกับโจวชาง”
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วและพูดด้วยเสียงดัง เขาคิดว่าในเมื่อเรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้วจากคําพูดของเขาดังนั้นเขาควรจะเป็นคนแก้ปัญหานี้เอง
เมื่อโจวชางได้ยินเช่นนั้นเขาก็ไม่พอใจกับคําพูดของฉิงเฟิงมาก เขาชอบจางเสี่ยวเยวี่ยตั้งแต่แรกเห็นไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าน้าของเธอจะเห็นด้วยหรือไม่ แล้วชายคนนี้มีสิทธิ์อะไรมาพูดแทนเธอ ?
“หลี่ฉิงเฟิง แกคิดว่าแกเป็นใครกันวะ ? มีสิทธิ์อะไรมาบอกว่าจางเสี่ยวเยวี่ยจะไม่เป็นแฟนฉัน?”โจวชางกล่าวด้วยเสียงหนาวเหน็บ น้ําเสียงของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
หยาบคายกับฉันงั้นหรือ ?
เมื่อถูกขึ้นเสียงใส่ฉิงเฟิงก็สบถกลับไป แล้วแกละเป็นใคร ? จางเสี่ยวเยวี่ยเป็นแฟนของฉันทําไมแกไม่ไสหัวไปซะละ ?”
อะไรนะ ? แฟนของแก ?
รูปลักษณ์บนใบหน้าของโจวชางเปลี่ยนและพูดออกมาทันทีว่า “ฉันไม่รู้ว่าแกกําลังพูดถึงอะไรไอ้เด็กข้างถนนเอ้ย อย่างแกอาศัยอะไรมาเป็นแฟนเสี่ยวเยวี่ย ? ต้องฉันนี่ ฉันเป็นลูกชายของอาจารย์ใหญ่แห่งสถาบันศิลปะการต่อสู้ตงไห่ ฉันดีกว่าแกเยอะ !”
” แกน่ะนะ ? หี ไอ้กล้ามไร้สมอง ตัวก็ดํา เสี่ยวเยวี่ยไม่คบกับแกหรอก”
ฉิงเฟิงกล่าวอย่างสบายๆ
หลังจากกล่าวจบ เพื่อพิสูจน์ว่าจางเสี่ยวเยวี่ยเป็นแฟนสาวของเขา ฉิงเฟิงจึงเอื้อมมือไปกุ มมือของเธอไว้แน่นเห็นเช่นนี้ตาของโจวชางก็แทบจะถลนออกจากเบ้า
ส่วนจางเสี่ยวเยวี่ยที่ถูกฉิงเฟิงกุมมือ ใบหน้าที่บริสุทธิ์สดใสของเธอก็กลายเป็นสีแดงเข้มเหมีอนลูกแอปเปิ้ล หัวใจของเธอเต้นอย่างบ้าระห่ํา
เยวี่ยเยวี่ย พี่ใหญ่หลี่พูดว่าฉันเป็นแฟนเขา เขินจัง
จางเสี่ยวเยวี่ยพูดกับตัวเองในใจด้วยความเขินอาย
บึง !
ทันใดนั้นโจวชางก็ตบโต๊ะและลุกขึ้นยืน เขารู้สึกว่าฉิงเฟิงกําลังกวนประสาทเขาด้วยการจับมือจางเสี่ยวเยวี่ยต่อหน้าเขา
” หลี่ฉิงเฟิง ฉันขอท้าแก ! คนที่ชนะจะได้จางเสี่ยวเยวี่ยไป” โจวชางชี้หน้าฉิงเฟิงและพูดด้วยเสียงอันดัง
โจมชางเป็นลูกชายของอาจารย์ใหญ่แห่งสถาบันศิลปะการต่อสู้ เขาฝึกฝนตั้งแต่อายุยังน้อย และได้สายดํามาแล้วเขาเพียงคนเดียวสู้กับคนได้ถึง 7-8 คนอย่างสบายๆ
ในสถาบันศิลปะการต่อสู้เมื่อมีการทะเลาะกันพวกเขาก็จะต้องสู้กัน ผู้ชนะคือฝายถูกคนแพ้ ต้องถอยไปโดยปริยาย
มีอยู่สองสิ่งที่ฉิงเฟิงเกลียดมากที่สุด อย่างแรกคือการข่มขู่ อย่างที่สองคือถูกชี้หน้า ซึ่งโจว ชางผู้นี้ทําทั้งสองอย่าง
เหอะ ชี้หน้าฉัน ? แกกําลังเล่นกับไฟ !
“ดีงั้นฉันจะเล่นกับแกสักหน่อย คนแพ้ต้องไสหัวไปและอย่ามายุ่งกับเสี่ยวเยวี่ยอีก”
ฉิงเฟิงลุกขึ้นยืนและพูดด้วยเสียงเย็นชา
จางเสี่ยวเยวี่ยเป็นของเขาเท่านั้น เขาจะปล่อยเธอให้โจวชางพาไปได้อย่างไร?
ฉิงเฟิงตัดสินใจที่จะสั่งสอนบทเรียนให้กับชายคนนี้ แค่นี้ยังปวดหัวไม่พอ – -?)
เมื่อเห็นว่าโจวชางกําลังท้าทายฉิงเฟิง จางเสี่ยวเยวี่ยและจางเสี่ยวเจี้ยก็พยายามจะเข้าไปห้ามเพราะพวกเขาพ่อลูกสนิทสนมกับฉิงเฟิงเป็นอย่างดี ไม่อยากให้เขาบาดเจ็บ แต่ฉิงเฟิงโบกมือห้ามและบอกว่าไม่ต้องกังวล
โจวอี้เจียนและหวังเสี่ยวหงที่อยู่ข้างๆพวกเขาก็แสยะยิ้มออกมา ทั้งสองคนคิดว่าฉิงเฟิงกําลังหาเรื่องเจ็บตัว
ห้องวีไอพีนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ประมาณสามสิบตารางเมตรและเพียงพอสําหรับการต่อสู้
โจวชางและฉิงเฟิงลุกออกจากโต๊ะ เดินไปที่โล่งท่ามกลางสายตาของทุกคนในห้อง
ฉิงเฟิงมองดูโจวชางและพอจะรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีฝีมือ เขาเป็นลูกชายอาจารย์ใหญ่สถาบันศิลปะการต่อสู้และมีวิชาติดตัว แต่เขาก็ฝึกมาแค่พื้นฐานทั่วไป ระดับของเขาอย่างมากที่สุดก็เท่ากับความสามารถของกองกําลังพิเศษซึ่งยังห่างไกลจากฉิงเฟิงนัก
ฉิงเฟิงเพิ่งจะข้ามผ่านจากปุถุชนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ในระดับแรกของขั้นใต้สวรรค์ ผิวของเขาแข็งเห มือนเหล็กกล้า นี่เป็นช่วงเวลาที่เขาอยากจะลองผลจากการฝึกพอดี
โจวชางคํารามเสียงดันลั่งและเหวี่ยงกําปั้นขวาเข้าหาฉิงเฟิงอย่างรวดเร็ว
กําปั้นนี้มีพลังทําลายประมาณสองร้อยปอนด์และทรงพลังมาก หนึ่งกําปั้นนี้สามารถทําลาย ไม้กระดานหนาหลายแผ่นถ้าหากเป็นคนธรรมดาโดนกําปั้นนี้ของโจวชางเข้าไปไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ฉิงเฟิงไม่ขยับตัวและมองโจวชางอย่างใจเย็น
“พี่ใหญ่หลี่ หลบเร็ว !” จางเสี่ยวเยวี่ยเห็นว่าฉิงเฟิงไม่ขยับตัวแม้แต่น้อย เธอกลัวว่าเขาจะได้ รับบาดเจ็บ
พี่ใหญ่หลี่อุตส่าห์มาเป็นเพื่อนเธอในวันนี้ ถ้าหากเขาโดนทําร้ายด้วยน้ํามือโจวชาง เธอจะรู้สึ กผิดและหดหูมาก
ฉิงเฟิงยิ้มให้จางเสี่ยวเยวี่ยเพื่อพยายามที่จะบอกเธอว่าไม่ต้องกังวล เขายังคงยืนนิ่งและไม่หลบหลีกกําปั้นของโจวชางแม้แต่น้อย อีกทั้งยังไม่ออกท่าโจมตีใดๆอีกด้วย เขาต้องการที่จะทดสอบความแข็งแกร่งของผิว
“เฮอะ ! ทําเป็นไม่ยอมหลบ ไอ้ลูกเจี๊ยบ แกมันรนหาที่ ถ้าตายก็อย่ามาโทษกันทีหลังแล้ว กัน”โจวชางยิ้มอย่างดุร้าย กําปั้นที่แฝงพละกําลังถึงสองร้อยปอนด์ของเขาทุบเข้าใส่หน้า อกของฉิงเฟิงเต็มแรง
กรอบ !!!
เสียงกระดูกแตกดังกร็อบดังขึ้น เสียงดังมากจนทุกคนในห้องได้ยิน
ไม่นะเสียงกระดูกของพี่ใหญ่หลี่หักแน่เลย
ใบหน้าของจางเสี่ยวเยวี่ยซีดเผือด น้ําตาแทบจะไหล่ออกมา เธอกังวลจนไม่อาจกังวลมากกว่านี้อีกแล้ว
โจวอี้เจียนแสยะยิ้มและมองฉิงเฟิงอย่างดูหมิ่น เขาคิดว่าชายคนนี้สมองทึบนัก ทําเป็นห้าวรับหมัดโชว์สาวเขาไม่ยอมแม้แต่จะหลบหมัดของโจวชางจนกระดูกหัก
อ๊ากกกกกก มือ มือฉัน !!
ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของโจวชางก็ดังขึ้นอย่างน่าสังเวชจนทําให้ทุกคนสับสน
ไม่ใช่ว่าคนที่ร้องต้องเป็นหลีฉิงเฟิงหรอกหรือ ? เหตุใดถึงเป็นโจวชางที่กรีดร้อง ?
แต่เมื่อทุกคนมองไปที่โจวชาง ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปจนซีดเผือด
พวกเขาเห็นแค่เพียงว่าหมัดของโจวชางแตกหักบิดเบี้ยวจนกระดูกขาวโผล่ออกมาอย่างเห็นได้ ชัดมันดูน่าหวาดกลัวมาก