เดี๋ยวก่อนคุณหลี่! ศาสตราจารย์จางหยุนเหอนั้นเกษียณมาสามปีแล้ว เขาไม่ได้สอนนักศึกษาหรือรักษาผู้ป่วยอีกต่อไป เจียวซูรีบกล่าวทันทีที่เขาเห็นฉิงเฟิงกำลังจะพรวดพราดออกไปตามหาจางหยุนเหอ
ในฐานะที่เป็นนักศึกษาแพทย์ที่สำเร็จการศึกษาในระดับท็อปเจียวซูยังคงติดต่อกับทางมหาวิทยาลัยอยู่เสมอ ในทุกๆปีเขาต้องเข้าร่วมงานฉลองครบรอบที่มหาวิทยาลัยแพทย์ทุกปี เมื่อสามปีก่อนเขาได้ยินว่าศาสตราจารย์จางได้เกษียณอายุไปแล้ว นี่เป็นข่าวใหญ่ภายในมหาวิทยาลัยเลยทีเดียว
เกษียณแล้ว
จิตใจของฉิงเฟิงว่างเปล่าแต่เขาก็รู้ว่าบทบาทของคนเป็นหมอนั้นต่างจากอาชีพอื่นๆถึงแม้ว่าเขาจะเกษียณแล้ว แต่ทักษะและความสามารถของเขายังคงเหลืออยู่ เขายังสามารถวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยได้ ถึงแม้ว่าฉิงเฟิงจะเชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์แต่หลักๆเขาก็รู้แต่เรื่องแพทย์แผนจีน เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตแม้แต่น้อยจึงต้องขอความช่วยเหลือจากจางหยุนเหอ เพราะเขาเป็นจิตแพทย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ
ผู้อำนวยการซูคุณรู้ไหมว่าจางหยุนเหออยู่ที่ไหน ฉิงเฟิงถาม
คุณหลี่แม้ว่าจางหยุนเหอจะเกษียณแล้ว แต่เขาก็ยังคงพักอยู่ในตึกแพทย์ ผมไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนแน่ คุณต้องถามอาจารย์ใหญ่ของวิทยาลัยแพทย์จางเหมียวชุน เจียวซูตอบ
จางเหมียวชุน
ใบหน้าของฉิงเฟิงเต็มไปด้วยความสุขหลังจากได้ยินชื่อนี้เขารู้จักจางเหมียวชุนและมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างสนิทสนมกัน เขาได้รับเชิญจากจางเหมียวชุนให้เป็นศาสตราจารย์พิเศษที่มหาวิทยาลัย
เมื่อนึกขึ้นได้ว่าความจริงแล้วเขาถือเป็นอาจารย์พิเศษที่มหาลัยก็ทำให้เขารู้สึกกระอักกระอ่วนเพราะเขาสัญญากับจางเหมียวชุนว่าจะไปช่วยสอนพิเศษสัปดาห์ละครั้งแต่เขาก็ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทด้วยความยุ่งมาก
ประธานซูผมฝากดูแลหลินเสวี่ยด้วยนะ ผมจะไปหาจางเหมียวชุนที่มหาวิทยาลัยแพทย์ ฉิงเฟิงพยักหน้าและเดินออกไป
ก่อนที่จะจากไปฉิงเฟิงก็โทรบอกให้เหมียวซิยี้มาที่โรงพยาบาลเพื่อคอยคุ้มครองหลินเสวี่ย นอกจากนี้เขายังสั่งทีมเขี้ยวหมาป่าให้มาพักโรงแรมใกล้ๆโรงพยาบาลเผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันที่เหมียวซิยี้ไม่อาจรับมือได้
หลังจากจัดการทุกสิ่งทุกอย่างเรียบร้อยแล้วฉิงเฟิงก็ขับรถไปที่มหาวิทยาลัยแพทย์ตงไห่ทันที
ซึ่งสถานที่ทั้งสองแห่งนั้นอยู่ใกล้กันฉิงเฟิงจึงขับมาถึงจุดหมายภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง
เมื่อเขามาถึงหน้าประตูทางเข้ามหาลัยเขาก็ได้พบกับคนคุ้นหน้า ลู่เสี่ยวม่านนั่นเอง ใบหน้าของลู่เสี่ยวม่านนั้นละเอียดอ่อนมากผิวของเธอขาวใส ดวงตาของเธอดูคล้ายกับดวงดาว จมูกของเธอเรียวเป็นสัน เธอสวมชุดเดรสสีขาวเข้ารูปที่โอบรัดเรือนร่างที่เต่งตึงทุกสัดส่วน มันทำให้เธอน่าดึงดูดใจมาก
สายตาของผู้ชายทุกคนที่เห็นต่างก็เต็มไปด้วยความลุ่มหลงเธอเป็นนักศึกษาที่สวยที่สุดในมหาวิทยาลัยแพทย์ นักศึกษาทุกคนต่างก็ชอบเธอ Aileen-novel
เมื่อฉิงเฟิงลงจากรถลู่เสี่ยวม่านก็มาทักเขาทันที
พี่ใหญ่หลี่คะทำไมช่วงนี้ไม่เห็นพี่มาสอนพิเศษเลย ฉันไม่เจอพี่มานานแล้ว
ลู่เสี่ยวรู้สึกมีความสุขและตื่นเต้นมากเมื่อได้เห็นฉิงเฟิงใบหน้าของเธอกลายเป็นสีแดง
ฉิงเฟิงยิ้มและกล่าวว่า ฉันมีธุระน่ะ เสี่ยวม่าน, เธอรู้ไหมว่าศาสตราจารย์จางหยุนเหอพักอยู่ที่ไหน
ใบหน้าของลู่เสี่ยวม่านกลายเป็นหดหู่เธอคิดว่าฉิงเฟิงมาที่นี่เพื่อพบเธอ แต่กลับกลายเป็นว่าเขามาหาศาสตราจารย์จางหยุนเหอ
เกี่ยวกับจางหยุนเหอนักศึกษาทุกคนในมหาวิทยาลัยต่างก็รู้จักเขา เขาเป็นศาสตราจารย์ที่น่าเกรงขามมากที่สุดในมหาวิทยาลัยแพทย์ตงไห่
ไม่เพียงแค่ในเมืองตงไห่แต่จางหยุนเหอเป็นศาสตราจารย์ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในระดับประเทศ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการรักษาและการบำบัดสุขภาพจิต เขาเป็นสมบัติของชาติ
พี่ใหญ่หลี่ศาสตราจารย์จางหยุนเหอน่าจะอยู่ในอาคารสำนักงาน แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ตรงไหแน่ ลู่เสี่ยวม่านส่ายหัวและกล่าว
ฉิงเฟิงรู้สึกผิดหวังเพราะคิดว่าลู่เสี่ยวม่านจะรู้ดูเหมือนเขาจะต้องโทรหาจางเหมียวชุนเท่านั้น
ฉิงเฟิงหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาจางเหมียวชุนทันที หลังจากโทรศัพท์ดังไม่กี่ครั้งจางเหมียวชุนก็รับสายและกล่าวว่า สวัสดี ฉิงเฟิง ในที่สุดเธอก็โทรมา ฉันคิดว่าเธอลืมฉันไปแล้วเสียอีก
ฉิงเฟิงได้แต่หัวเราะแห้งๆเมื่อได้ยินคำแซวของจางเหมียวชุนช่วงนี้เขามีแต่ปัญหาและยุ่งมากจนลืมสัญญาที่ให้ไว้กับจางเหมียวชุนว่าต้องมาสอนพิเศษ มันก็ไม่แปลกที่จางเหมียวชุนจะรู้สึกไม่พอใจ
อาจารย์ใหญ่จางผมต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้มาเข้าสอนนักศึกษาเลยตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ฉิงเฟิงนั้นมีคุณธรรม ถ้าเขาเป็นฝ่ายผิดเขาก็จะขอโทษเสมอ
จางเหมียวชุนหัวเราะออกมาหลังจากได้ยินฉิงเฟิงกล่าวขอโทษเขากล่าวว่า ฉิงเฟิง ฉันแค่ล้อเล่นเท่านั้น เธอรู้ไหมว่าคลาสบรรยายของเธอนั้นได้รับความนิยมมาก นักศึกษาหลายคนต่างก็เรียกร้องให้เธอมาสอนเพิ่ม
ฉิงเฟิงพยักหน้าและรู้ว่าจางเหมียวชุนไม่ได้อวยเขานักศึกษาในคลาสบรรยายวันนั้นต่างก็ชื่นชอบฉิงเฟิงจากใจจริง ทุกคนถูกครอบงำด้วยความรู้ทางด้านการแพทย์แผนจีนของเขา
เอาละอาจารย์ใหญ่จาง วันนี้ผมมีเรื่องรบกวนเล็กน้อย
โอ้ แล้วเธออยู่ไหนละ ฉันจะไปหาเธอเดี๋ยวนี้
ผมอยู่หน้าประตู
ได้สิรอสักครู่ฉันกำลังไป จางเหมียวชุนวางสายและเดินไปทางประตู
จากนั้นไม่นานจางเหมียวชุนก็เดินมาถึงประตูเขาชราแล้วและผมขาวเต็มหัว เขาอยู่ในวัยเกษียณแต่ร่างกายของเขายังคงแข็งแรงอยู่เสมอ แสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่สุขภาพร่างกาย
จางเหมียวชุนเดินไปหาฉิงเฟิงและถามว่า มีปัญหาอะไรให้ฉันช่วยหรือ
อาจารย์ใหญ่จางผมอยากพบศาสตราจารย์จางหยุนเหอ ฉิงเฟิงเข้าประเด็นทันทีโดยไม่ต้องการให้เสียเวลา
จาง
จางหยุนเหอ
จางเหมียวชุนอึ้งไปพักหนึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าฉิงเฟิงจะมาขอพบศาสตราจารย์จางหยุนเหอ เรื่องนี้ไม่ง่ายเท่าใดนัก
อาจารย์ใหญ่จางการจะพบหน้าศาสตราจารย์จางหยุนเหอนี่ยากเย็นนักหรือ เมื่อได้เห็นสีหน้าของจางเหมียวชุนที่ดูปั้นยาก ฉิงเฟิงก็ถามออกมา
จางเหมียวชุนถอนหายใจและกล่าวว่า บอกตามตรงนะ จางหยุนเหอเป็นพี่ชายของฉันเอง แม้ว่าเขาจะเป็นศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยนี้ แต่เขาก็เกษียณไปแล้ว เขาไม่ยอมพบหน้าใครทั้งสิ้นแม้แต่ฉันเองก็ตาม
ฉิงเฟิงรู้สึกมีความสุขเมื่อเขาได้ยินที่จางเหมียวชุนกล่าวที่แท้เขาเป็นน้องชายของจางหยุนเหอนี่เอง แต่หลังจากนั้นไม่นานสีหน้าของฉิงเฟิงก็เปลี่ยนไปเมื่อได้ยินว่าจางหยุนเหอไม่ยอมพบผู้ใด ไม่เว้นแม้แต่น้องชายตัวเอง
ฉิงเฟิงเดาได้ว่าศาสตราจารย์เกษียณผู้นี้ค่อนข้างมีนิสัยและบุคลิกแปลกๆถ้าหากเขาพอใจ แม้แต่ขอทานเขาก็ยินดีพบ แต่ถ้าเขาไม่ชอบขี้หน้า ต่อให้เป็นมหาเศรษฐีพันล้านเขาก็ไม่สน
อาจารย์ให้จางผมมีเรื่องด่วนและสำคัญมาก ผมต้องการความช่วยเหลือจากเขา คุณช่วยพาผมไปที่นั่นได้ไหม ฉิงเฟิงเอ่ยปากขอร้อง เพราะเขาต้องการความช่วยเหลือจากจางหยุนเหอในการทำให้หลินเสวี่ยตื่น
จางเหมียวชุนได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าและกล่าวว่า ฉิงเฟิง ฉันทำได้เพียงบอกเธอว่าเขาพักอยู่ที่ไหน แต่ฉันตัดสินใจแทนเขาไม่ได้หรอกนะว่าจะต้องรอเจอเขาหรือเปล่า เธอต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้าย
ฉิงเฟิงพยักหน้ารับรู้เขาต้องเจอจางหยุนเหอให้ได้ก่อน หลังจากนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นค่อยคิดทีหลัง