สาวงาม,มานอนกับข้าก่อนและยอมให้ข้าดูดเลือดซะดีๆ ชายในชุดคลุมแดงมอบรอยยิ้มที่ชั่วร้ายและกล่าวอย่างเย็นชา คำพูดของเขานั้นฟังดูโหดร้ายมาก
ลั่วหนี่ชิงและฉินเซียนจื่อหน้าซีดลงเมื่อพวกเธอได้ยินคำพูดของเขาเนื่องจากพวกเธอได้กินยาเหนือสวรรค์เข้าไปจนไร้ซึ่งเรี่ยวแรงราวกับลูกแกะที่รอถูกเชือด แต่ถึงแม้ว่าพวกเธอจะไม่ได้กินยาเหนือสวรรค์ก็ตาม พวกเธอก็ไม่แข็งแกร่งพอที่จะต่อกรกับชายชุดคลุมแดงผู้นี้ได้ เพราะเขานั้นอยู่ในระดับครึ่งก้าวแกรนด์มาสเตอร์ เขาคือผู้ที่เข้มแข็งที่สุดในสถานที่นี้ แม้ว่าครึ่งก้าวแกรนด์มาสเตอร์จะไม่อาจเทียบเท่ากับขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์ที่แท้จริงได้ก็ตาม แต่มันนับได้ว่าแกร่งกว่าขั้นเหนือสวรรค์เป็นอย่างมากราวกับผืนดินและท้องฟ้า
เริ่มจากเจ้าก่อนก็แล้วกันข้าชอบผู้หญิงที่มีแววตาเจ้าชู้ยั่วยวนอย่างงดงามเช่นเจ้า ชายในชุดคลุมแดงมองไปที่ลั่วหนี่ชิงด้วยความหื่นกระหายในดวงตา
อย่าเข้ามานะชั้นเป็นคุณหนูของตระกูลลั่วแห่งเมืองเทียนจิง ถ้าแกกล้าเข้ามา ตระกูลลั่วจะไม่มีวันปล่อยแกไปแน่ ! ใบหน้าของลั่วหนี่ชิงแปรเปลี่ยนไปอย่างมาก เธอยกตระกูลลั่วขึ้นมาขู่เขาเพราะเธอไม่รู้จะทำอย่างไรนอกจากใช้อิทธิพลของตระกูล
หืม ตระกูลลั่ว ? เมืองเทียนจิง ?
ชายชุดคลุมแดงชะงักฝีเท้าไปชั่วครู่ดวงตาเปลี่ยนไปเป็นประหลาดใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขารู้จักตระกูลลั่ว เพราะตระกูลนี้เป็นหนึ่งในตระกูลผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเมืองเทียนจิงซึ่งดำรงอยู่มาอย่างยาวนานนับพันปีและมีเบื้องหลังที่ลึกซึ้งแข็งแกร่ง
ตระกูลลั่วแข็งแกร่งและทรงอำนาจก็จริงแต่แล้วไง ข้าไม่สนใจ ดีเสียอีกที่ได้เชยชมเรือนร่างของคุณหนูตระกูลลั่ว ฮ่าๆๆ มันช่างยอดเยี่ยมนัก ชายในชุดคลุมแดงยิ้มอย่างเย้ยหยัน เขาไม่กลัวตระกูลลั่วแม้แต่น้อย
เป็นที่แน่นอนว่าตระกูลลั่วทรงพลังและมีชื่อเสียงมากในโลกแห่งผู้ฝึกยุทธ์แต่ชายชุดคลุมแดงก็มีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งและมีอิทธิพลไม่แพ้กัน
ข้าอยู่แล้วว่าท่านคือใคร! ท่านคือเซียะเย่หยางจือ อาวุโสคนที่สามของนิกายแวมไพร์ ฉินเซียนจื่อจ้องไปที่ใบหน้าของชายชุดคลุมแดงและกล่าวขึ้นอย่างฉับพลัน ในฐานะนิกายที่มีชื่อเสียงและดำรงอยู่มาอย่างยาวนานในหัวเซี่ย ตำหนักโห่วเย่อหวงตี้เป็นหนึ่งในขั้วอำนาจที่ลึกลับเช่นกัน พวกเขาต่างรู้จักนิกายและกองกำลังของเหล่าผู้ฝึกยุทธ์มากมายในหัวเซี่ย
ครั้งหนึ่งนานมาแล้วฉินเซียนจื่อเคยเห็นภาพเหมือนของชายชุดคลุมแดงผู้นี้ในห้องสมุดของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ เขามีนามว่าเซียะเย่หยางจือ เขาเป็นผู้อาวุโสคนที่สามของนิกายแวมไพร์และยังเป็น 1 ในซาตานทั้ง 81ตนของเหล่าผู้ฝึกยุทธ์นอกรีตอีกด้วยเช่นกัน โลกใบนี้มีทั้งขาวและดำ เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ก็ย่อมมีทั้งสายดั้งเดิมและนอกรีตเป็นธรรมดา เท่าที่รู้กันบนโลกนี้มีแกรนด์มาสเตอร์ที่เดินบนเส้นทางที่ถูกต้องทั้งหมด 81 คน ในขณะที่มีซาตานนอกรีตอยู่ 81 ตนเช่นเดียวกัน ซึ่งซาตานทั้ง 81 ตนนี้ต่างก็เป็นสุดยอดฝีมือของเหล่าผู้ฝึกยุทธ์นอกรีต พวกเขาทั้งแข็งแกร่งและทรงอำนาจอย่างไม่อาจหยั่งถึง
โฮ่ เทพธิดาตัวน้อย เจ้าเป็นใคร ? เจ้ารู้จักนามของข้าได้อย่างไร ? เซียะเย่หยางจือมองไปที่ฉินเซียนจื่อด้วยความประหลาดใจในดวงตาของเขา เนื่องจากบนโลกนี้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เรื่องเขา เขาจึงสงสัยเป็นอย่างมากว่าสาวงามตัวน้อยผู้นี้รู้จักเขาได้อย่างไร
ข้าคือฉินเซียนจื่อข้าคือธิดาคนโตของจ้าวนิกายแห่งตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ เซียะเย่หยางจือ ข้าขอแนะนำให้ท่านจากไปโดยเร็ว ถ้าท่านกล้าที่ไร้มารยาทต่อข้า ตำหนักโห่วเย่อหวงตี้จะไม่มีวันปล่อยท่านไปแน่ ฉินเซียนจื่อข่มขู่เซียะเยหยางจือด้วยใบหน้าที่เย็นชา
โห่วเย่อหวงตี้
ใบหน้าของเซียะเย่หยางจือเปลี่ยนไปนี่เป็นครั้งแรกที่ใบหน้าของเขามีการเปลี่ยนแปลง ตำหนักโห่วเย่อหวงตี้เป็นตัวตนที่ลึกลับ พวกเขาทรงอำนาจกว่าสี่ตระกูลใหญ่แห่งเมืองเทียนจิง
เซียะเย่หยางจือสามารถเพิกเฉยต่อตัวตนของลั่วหนี่ชิงได้แต่กับฉินเซียนจื่อ เขาต้องครุ่นคิดอย่างลอบคอบก่อนจะลงมือ ตำหนักโห่วเย่อหวงตี้นั้นทรงอำนาจและลึกลับมาก เขาหวั่นไหวไม่น้อยถ้าหากต้องถูกตามล่าจากเหล่ายอดฝีมือของนิกายนี้ ถ้าเขาเกิดพลั้งมือไปทำอะไรฉินเซียนจื่อเข้า เขาคงอยู่ไม่สุขไปชั่วชีวิต อย่างที่รู้กันดีว่าจ้าวนิกายของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้เป็นหนึ่งใน 81 แกรนด์มาสเตอร์สายธรรมะซึ่งเป็นหนึ่งในสุดยอดแกรนด์มาสเตอร์ระดับสูงสุด ! ในขณะนี้เซียะเย่หยางจือเริ่มลังเลแล้วว่าเขาควรจะฆ่าฉินเซียนจื่อดีหรือไม่
ผู้อาวุโสหยางจือที่นี่คือหลุมฝังศพของราชายาทิพย์เซียวหยุน ในนี้มีตำราปรุงยาของราชายาทิพย์และคัมภีร์กระบี่จันทร์วารีอีกด้วย ท่านต้องฆ่าฉินเซียนจื่อและทุกคนในที่นี้นะขอรับ มิฉะนั้นท่านจะถูกตามล่าถ้าหากข้อมูลเหล่านี้แพร่กระจายออกไป
เหลิงเสวี่ยกล่าวขึ้นมาในทันทีมันเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าเหลิงเสวี่ยจะเรียกเขาว่าผู้อาวุโสหยางจือสั้นๆ
เมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกชื่อเขาเซียะเย่หยางจือก็หันไปมองและกล่าวว่า เหลิงเสวี่ย เจ้ามาทำอะไรที่นี่ ?
ผู้อาวุโสหยางจือท่านพ่อบอกให้ผู้น้อยมาที่นี่ขอรับ เหลิงเสวี่ยตอบด้วยความเคารพ
เหลิงเสวี่ยมาจากนิกายโลหิตสีชาดในขณะที่เซียะเย่หยางจือมาจากนิกายแวมไพร์ ทั้งสองนิกายต่างก็เป็นกองกำลังของผู้ฝึกยุทธ์นอกรีตเช่นเดียวกัน เขาเคยพบกับเซียะเย่หยางจือมาก่อน ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองนิกายนี้ไม่ถือว่าเลวร้ายนัก
เหลิงเสวี่ยเจ้าพูดจริงรึ ที่นี่มีตำราปรุงยาของราชายาทิพย์เซียวหยุน ? เซียะเย่หยางจือกล่าวถามด้วยลมหายใจที่แรงขึ้น
เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับราชายาทิพย์เซียวหยุนมาก่อนคนผู้นี้เป็นราชาแห่งการปรุงยาในหัวเซี่ยตั้งแต่เมื่อ 50 ปีที่แล้ว ทักษะในการปรุงยาของเขาคือที่สุดหาผู้ใดเทียบ และภรรยาของเขาก็คือแกรนด์มาสเตอร์ที่เชี่ยวชาญด้านกับดักเช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือในเส้นทางสายไหนก็ตามพวกเขาต่างต้องตามล่ายาทิพย์เพราะว่ายาทิพย์นั้นสามารถเพิ่มพลังความแข็งแกร่งให้พวกเขาได้ ส่วนตำราปรุงยาสามารถนำไปเรียนรู้ช่วยในการสกัดกลั่นยาให้มีคุณภาพสูงยิ่งขึ้น ตอนนี้ตำราการปรุงยาของราชายาทิพย์ของแค่เอื้อมมือเขาแล้ว เป็นธรรมดาที่เซียะเย่หยางจือจะสนใจเป็นอย่างมาก
ผู้อาวุโสเพียงแค่ท่านฆ่าทุกคนที่นี่ทั้งหมดท่านก็จะได้ทุกสิ่งในที่นี้ไป จากนั้นตราบใดที่ท่านสามารถสกัดยาทิพย์ระดับแกรนด์มาสเตอร์ได้ ท่านก็จะกลายเป็นแกรนด์มาสเตอร์ที่แท้จริงและท่องไปได้ทั่วแผ่นดินโดยไม่ต้องหวั่นเกรงอยู่ใด เหลิงเสวี่ยพยายามยุยงส่งเสริมอยู่ข้างๆ
ความจริงเหลิงเสวี่ยมีแผนการอยู่ในใจในเหล่าผู้ที่อยู่ในนี้ทั้งหมดมีเขาเพียงคนเดียวที่ฝึกยุทธ์แหกคอกจากผู้อื่น ตามหลักแล้วหลังจากจบเรื่องที่นี่ สุดท้ายพวกเขาก็ต้องเป็นศัตรูกัน นอกจากนี้เหลิงเสวี่ยยังอยู่ในอาการไร้เรี่ยวแรงจากกับดักของยาเหนือสวรรค์ส่วนฉิงเฟิงศัตรูคู่อาฆาตยังคงแข็งแรงดี เขากลัวว่าจะถูกฉิงเฟิงฆ่า ดังนั้นจึงพยายามยุยงให้เซียะเย่หยางจือลงมือต่อฉิงเฟิงและผู้ฝึกยุทธ์สายธรรมะที่อยู่ในนี้ทั้งหมด
อดพูดไม่ได้ว่าแผนการของเหลิงเสวี่ยนั้นโหดเหี้ยมอมหิตมากเพราะเขาไม่เพียงแค่จะยืมมือเซียะเย่หยางจือฆ่าฉิงเฟิงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทุกคนอีกด้วย !
ฮ่าๆ ๆ ดี ดีมาก ! ทักษะการปรุงยาของราชายาทิพย์ต้องตกเป็นของข้า ! เพื่อปกป้องผู้อื่นมาแย่งชิงข้าในภายหลัง พวกเจ้าทั้งหมดต้องตายยกเว้นเหลิงเสวี่ย
เซียะเย่หยางจือหัวเราะลั่นจิตสังหารครอบคลุมไปทั่วร่างกายของเขา
คุณหนูแห่งตำหนักโห่วเย่อหวงตี้เจ้าช่างงดงามยิ่งนัก ขอให้ข้าได้เชยชมเรือนร่างของเจ้าก่อนเถอะ ! เซียะเย่หยางจือยิ้มอย่างกระหายเลือด เขาเดินไปหาฉินเซียนจื่อด้วยเจตนาชั่วร้ายเต็มไปทั่วดวงตา เขาปรารถนาจะเสพสมกับเรือนร่างของเธอก่อนจากนั้นค่อยดูดเลือดเธอจนตาย
เมื่อเห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของเขาใบหน้าของฉินเซียนจื่อก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เธอไม่คาดคิดว่าเซียะเย่หยางจือจะโหดเหี้ยมเช่นนี้ เขาหมายจะฆ่าทุกคนและชิงสมบัติทุกอย่างไป นอกจากนี้เธอยังเป็นเป้าหมายแรกของเขาอีกด้วย เฮ้อดูเหมือนว่าฉันจะต้องทำอะไรบางอย่างแล้ว ฉิงเฟิงถอนหายใจและตัดสินใจเคลื่อนไหวเมื่อเขาเห็นว่าเซียะเย่หยางจือกำลังเดินไปหาฉินเซียนจื่อ เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องออกหน้าช่วยเพราะเธอนับได้ว่าเป็นสหายที่ดีของเขาคนหนึ่ง เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยืนดูเธอถูกย่ำยี
ฉิงเฟิงซื่อสัตย์และรักเพื่อนฝูงมากแม้ว่าเซียะเย่หยางจือผู้นี้จะมีพลังในระดับครึ่งก้าวแกรนด์มาสเตอร์และเป็นหนึ่งในซาตานทั้ง 81 ตนก็ตาม เขาก็ต้องสู้ ชายชาตรีที่แท้จริงต้องรู้ว่าอะไรควรทำและอะไรไม่ควรทำ
วูบ!
ฉิงเฟิงเคลื่อนไหวราวกับพายุและถึงตัวของฉินเซียนจื่อทันทีเขาบังเธอไว้ข้างหลังเขา
ไอ้หนูแกเป็นใครถึงมาขวางทางข้า ใบหน้าของเซียะเย่หยางจือมืดครึ้มลง ดวงตาของเขาเป็นประกายอย่างเย็นชา
ฉันชื่อหลี่ฉิงเฟิงวูฟคิงแห่งทวีปหมาป่า ถือว่าฉันขอก็แล้วกัน อย่าลงมือต่อสาวงามผู้นี้เลย ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
การปฏิบัติทั่วไปของฉิงเฟิงคือเจรจาก่อนค่อยใช้กำลังแต่ถ้าหากเจรจาล้มเหลว ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องสู้