ฉิงเฟิงฉันได้บอกเธอไปแล้วไง เธอต้องทำตามเงื่อนไขของฉันสองข้อก่อนแล้วฉันถึงจะรักษาภรรยาของเธอให้ เธอยังเหลืออีกข้อคือการเอาชนะผู้อำนวยการสมาคมการแพทย์แห่งประเทศ เจ้าศิษย์ชั่วคนนั้นของฉัน จางหยุนเหอกล่าว
ศาสตราจารย์จางสำหรับการเอาชนะลูกศิษย์ของคุณ ผมต้องท้าทายเขาก่อนและต้องให้สมาคมแพทย์หัวเซี่ยมีส่วนร่วมในการตัดสินเพื่อความยุติธรรมอีกด้วย ผมไปสู้กับเขาทันทีคงเป็นไปไม่ได้ คุณช่วยรักษาหลินเสวี่ยให้ผมก่อนได้ไหม ผม หลี่ฉิงเฟิงไม่เคยผิดคำพูดต่อผู้ใด ผมรักษาสัญญาอย่างแน่นอนว่าจะเอาชนะเย่หยุนซันให้ได้
ฉิงเฟิงกล่าวอย่างมุ่งมั่นและขมวดคิ้ว
เขาได้ผ่านพ้นอุปสรรคมามากมายกว่าจะได้เถาวัลย์อีกาดำมารักษาจางหยุนเหอหลายครั้งที่ต้องเกือบตายด้วยน้ำมือศัตรูในสุสานแกรนด์มาสเตอร์ ตอนนี้เขารักษาขาของจางหยุนเหอจนหายดีแล้ว แต่เขากลับต้องการให้ฉิงเฟิงทำเงื่อนไขที่สองให้เสร็จสมบูรณ์ก่อน
ฉิงเฟิงต้องการเพียงแค่ปลุกหลินเสวี่ยขึ้นมาโดยเร็วที่สุดเขาย่อมรักษาสัญญาต่อจางหยุนเหออย่างแน่นอน
ดูเหมือนว่าจางหยุนเหอจะจับความรู้สึกทุกข์ใจของฉิงเฟิงได้เขากล่าวพร้อมกับถอนหายใจว่า ฉิงเฟิง ฉันซาบซึ้งและรู้สึกขอบคุณเธอมากในการรักษาขาของฉัน เอาละฉันจะช่วยเธอรักษาภรรยาก่อนก็ได้ แต่ฉันหวังว่าเธอจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้
เมื่อพูดถึงเย่หยุนซันจางหยุนเหอก็ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโมโห ย้อนกลับไปตอนนั้นเย่หยุนซันเป็นศิษย์ของเขาแต่สุดท้ายเขาก็ทรยศ ไม่เพียงแค่ลอบวางยาพิษแต่ยังขับไล่จางหยุนเหอออกจากสมาคมการแพทย์อีกด้วย
ศาสตราจารย์จางคุณมั่นใจได้เลย ผมไม่เคยผิดคำพูด ผมจะแก้แค้นให้คุณและเอาชนะเย่หยุนซันให้ได้อย่างแน่นอน ฉิงเฟิงยืนยันหนักแน่น เขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเคียดแค้นของจางหยุนเหอ
ถ้าหากเป็นในเรื่องการแพท์แผนจีนฉิงเฟิงมีความมั่นใจอย่างมากในฐานะหมอเทวะดังนั้นเขาจึงไม่กลัวเย่หยุนซันแม้แต่น้อย เขาสามารถรักษาโรคอื่นๆได้ยกเว้นโรคทางจิต
หลังจากที่จางหยุนเหอตกลงช่วยหลินเสวี่ยก่อนฉิงเฟิงก็นวดขาของเขาและใช้ลมปราณแท้ในร่างส่งผ่านเข้าร่างกายของเขาเพื่อให้ช่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
ด้วยเถาวัลย์อีกาดำและทักษะในการฝังเข็มของฉิงเฟิงในไม่ช้าจางหยุนเหอก็เริ่มเดินระยะทางสั้นๆได้
เอาละพอได้ ไปดูอาการภรรยาของเธอกันเถอะฉิงเฟิง จางหยุนเหอกล่าวด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ
ถึงแม้ว่าฉิงเฟิงจะทำตามข้อตกลงแค่ประการเดียวแต่จางหยุนเหอก็ยอมช่วยหลินเสวี่ยก่อนเพราะเขาเชื่อมั่นว่าชายหนุ่มคนนี้จะรักษาคำพูด
โรงพยาบาลประชาชน
ในขณะนี้ห้องวีไอพี1 เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย หวังชุ่ยได้นำคนมาจำนวนหนึ่งเพื่อไล่หลินเสวี่ยออกจากห้อง
หวังชุ่ยมีท่าทางชั่วร้ายปรากฏบนใบหน้าของเธอเธอชี้ไปที่หลินเสวี่ยที่ไม่รู้สึกตัวและตะโกนออกมาว่า เตะผู้หญิงคนนี้ออกไป !
หวังชุ่ยรู้ว่าหลินเสวี่ยเป็นภรรยาของฉิงเฟิงซึ่งก่อนหน้านี้ฉิงเฟิงเคยด่าเธอในโรงพยาบาล ทั้งคู่มีความขัดแย้งกันอย่างลึกซึ้ง
หวังชุ่ยต้องการแก้แค้นฉิงเฟิงและหลินเสวี่ยแต่เธอรู้ว่าผู้อำนวยการเจียวซูให้การดูแลหลินเสวี่ยอยู่จึงไม่มีอะไรที่เธอสามารถทำได้
แต่ตอนนี้เจียวซูถูกปลดจากตำแหน่งโดยเหล่าบอร์ดบริหารสามีของหวังชุ่ย, เย่จวิน ได้ขึ้นเป็นผู้อำนวยการแทนทำให้ตอนนี้เธอกลายเป็นภรรยาของผู้อำนวยการโรงพยาบาล เธอใช้อำนาจแก้แค้นในทันที
หวังชุ่ยหลินเสวี่ยยังไม่ได้สติ เธอเป็นคนไข้ คุณจะเตะผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลได้อย่างไร เจียวซูกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว
หวังชุ่ยต่ำช้ามากเธอสมคบกับสามีหว่านล้อมให้เหล่าบอร์ดบริหารปลดเขาออกจากตำแหน่ง เท่านั้นยังไม่พอ เธอยังจะไล่หลินเสวี่ยออกจากโรงพยาบาลทั้งๆที่ยังไม่ได้สติอีกด้วย เป็นธรรมดาที่เจียวซูจะต้องคัดค้านหัวชนฝา
เจียวซูคุณไม่ได้เป็นผู้อำนวยการของโรงพยาบาลอีกแล้ว ตอนนี้ทุกอย่างในโรงพยาบาลผมเป็นคนตัดสินใจ ชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่สวมแว่นตากล่าวด้วยเสียงเย็นชา
ชายวัยกลางคนก็คือเย่จวินนั่นเองเขาเป็นสามีของหวังชุ่ย ถ้าหากเขาไม่ใช้วิธีสกปรก เจียวซูก็ยังคงได้เป็นผู้อำนวยการต่อไป
เนื่องจากตอนนี้มีบุคคลสำคัญจากสมาคมแพทย์มาพักที่โรงพยาบาลนี้เย่จวินต้องการห้องนี้ไว้ใช้รับรองแขกคนสำคัญ อีกทั้งยังเป็นการช่วยภรรยาแก้แค้นทางอ้อมอีกด้วย
มู่เสี่ยวหยุนและหลินซื่อตัวสั่นด้วยความโกรธเมื่อได้ยินคำพูดของเย่จวินชายคนนี้ช่างไร้มนุษยธรรมนัก ! เขาใช้อำนาจของเขาในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพื่อไล่หลินเสวี่ยออกจากโรงพยาบาล
ในฐานะเศรษฐีที่มีชื่อเสียงของเมืองตงไห่หลินซื่อได้ออกหน้าแล้ว แต่เย่จวินก็ยังยืนยันว่าจะไล่หลินเสวี่ยออกเพราะเขาต้องการใช้ห้องไว้รับรองแขกคนสำคัญ
ถ้าอยากเจ็บตัวก็เข้ามาได้ทุกเมื่อ! เหมียวซิยี้กล่าวอย่างเย็นชาขณะที่ยืนขวางอยู่ที่เตียงของหลินเสวี่ย
ก่อนที่ฉิงเฟิงจะจากไปเขาได้บอกให้เหมียวซิยี้คอยปกป้องหลินเสวี่ยให้ดีเธอสาบานว่าถ้าใครก็ตามที่กล้ามาแตะต้องพี่สาวเสวี่ยของเธอ เธอจะไม่ไว้หน้าแน่นอน
ทำไมผู้หญิงอย่างคุณถึงไร้เหตุผลนักผมบอกพวกคุณชัดเจนหลายครั้งแล้วนะ ผมในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาล ผมขอสั่งให้พวกคุณออกไป เย่จวินกล่าวอย่างไม่พอใจต่อเหมียวซิยี้
ก่อนที่นายท่านของชั้นจะกลับมาไม่มีสามารถแตะต้องพี่สาวเสวี่ยได้ ถ้านายเข้ามาก็อย่าโทษว่าชั้นหนักมือก็แล้วกัน ! เหมียวซิยี้กล่าว
ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะเป็นคนรับใช้ของฉิงเฟิงก็ตามแต่เธอยังคงเป็นนักบุญหญิงแห่งเหมียวเจียงอยู่เช่นเคย เธอมีความเย่อหยิ่งและภาคภูมิใจ เธอไม่สนใจมดตัวเล็กๆอย่างผู้อำนวยการโรงพยาบาลอย่างแน่นอน
ผู้อำนวยการเย่จวินนี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมห้องของแม่ผมถึงยังไม่พร้อมสักทีละ ? ทันใดนั้นเองก็มีเสียงที่ฟังดูไม่ค่อยพอใจดังขึ้น
ชายหนุ่มหล่อเหลาสวมชุดสูทเดินเข้าไปในห้องของหลินเสวี่ยอย่างหยิ่งยะโส
โอ้คุณชายเย่เฮา ผมได้เตรียมห้อง VIPหมายเลข 1 ไว้ให้คุณแม่ของคุณแล้ว มันเป็นห้องที่ดีที่สุดของโรงพยาบาลนี้ แต่ว่าผู้ป่วยรายนี้ไม่ยอมย้ายออกนี่สิ เย่จวินรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว
ตัวตนของเย่เฮาไม่ใช่ธรรมดาเขาเป็นลูกชายของผู้อำนวยการสมาคมแพทย์หัวเซี่ย เย่หยุนซัน เขากับแม่มาที่เมืองนี้เพื่อจะเยี่ยมญาติแต่กลับล้มป่วยกระทันหันจึงรีบมาที่นี่โรงพยาบาลนี้
เย่เฮาเป็นลูกชายของผู้อำนวยการสมาคมแพทย์หัวเซี่ยเย่จวินจึงปฏิบัติกับเขาอย่างระมัดระวัง นอกจากนี้เย่จวินก็ยังเป็นหนึ่งในสมาชิกตระกูลเย่ ซึ่งนับได้ว่าเย่หยุนซันเป็นหัวหน้าของเขาอีกทีหนึ่ง
พวกคุณออกไปเดี๋ยวนี้แม่ของฉันแอดมิดที่โรงพยาบาลนี้แล้ว ถ้าแม่ของฉันได้รับการรักษาล่าช้า ฉันจะไม่ให้อภัยพวกคุณแน่ เย่เฮากล่าวอย่างเย็นชา
อย่าฝันไปเลยพี่สาวเสวี่ยไม่ได้สติอยู่บนเตียง พวกเราไม่ไปไหนแน่ เหมียวซิยี้กล่าวขณะที่ส่ายหัวเล็กน้อย
ดีมากในเมื่อเธอไม่ยอมไป งั้นฉันจะเตะเธอออกไปเป็นคนแรก ! เย่เฮากล่าวขณะที่เดินไปหาเหมียวซิยี้ด้วยท่าทางคุกคาม
เหมียวซิยี้เหวี่ยงหมัดไปหาเย่เฮาอย่างรวดเร็วแต่อย่างไรก็ตามเย่เฮากลับคว้าหมัดของเธอไว้ได้อย่างง่ายดาย
เยี่ยม! ทั้งงดงามแถมยังเป็นนักสู้ระดับ SS แต่ในสายตาของฉันเธอยังอ่อนแอเกินไป ! เย่เฮากล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย เขาสะบัดมือเบาๆตบเหมียวซิยี้ลอยกระเด็นออกไปไกล เธอหน้าซ๊ดเซียวและล้มลงกับพื้นอย่างแรง
ผู้ฝึกยุทธ์โบราณ นายเป็นผู้ฝึกยุทธ์งั้นหรือ ? เหมียวซิยี้กล่าวด้วยความประหลาดใจ
เธอไม่เคยคาดคิดเลยว่าชายหนุ่มที่ยะโสโอหังคนนี้จะเป็นถึงผู้ฝึกยุทธ์โบราณ
เหมียวซิยี้เคยได้ยินเรื่องราวพวกนี้มาบ้างจากฉิงเฟิงเธอรู้ว่าคนเหล่านี้ต่างก็เป็นสิ่งชีวิตที่เหนือจินตนาการ