นายน้อยข้าน้อยขออนุญาตบอกกล่าว นายท่านราชันผู้พิชิตปกครองทั่วทั้งหัวเซี่ยในยุคนั้น เหล่าราชาอสูรทั้งสิบทุกคนต่างก็มีพลังแห่งสายเลือดเพียงแต่ยังไม่ตื่น ยามใดที่พลังสายเลือดถูกปลุกขึ้น พวกเราทุกคนจะสามารถตัดผ่านไปถึงขอบเขตแห่งแกรนด์มาสเตอร์ได้ทันที !
เมื่อได้ยินเรื่องนี้ฉิงเฟิงก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจไม่น้อย
เขาคุ้นเคยดีกับพลังอันน่าเหลือเชื่อของสายเลือดมันทำให้นักสู้สามารถต่อสู้ข้ามระดับและขอบเขตได้
ฉิงเฟิงรู้ว่าราชาอสูรสิงโตมีโทเท็มสิงโตอยู่บนหน้าอกและราชาอสูรมังกรเขียวก็มีโทเท็มมังกรบนหน้าอกเช่นกันแต่พวกเขายังไม่สามารถเปิดใช้งานพลังสายเลือดได้
ตอนนี้ฉิงเฟิงรู้แล้วว่าทำไมพวกเขาถึงต้องการตราผู้พิชิตก็เพราะมันสามารถปลุกพลังสายเลือดของพวกเขาได้นั่นเอง !
ราชาอสูรเทียนหมิงถ้าหากฉันใช้ตราผู้พิชิต ฉันจะปลุกพลังสายเลือดของคุณได้ใช่ไหม ฉิงเฟิงถาม
ราชาอสูรเทียนหมิงพยักหน้าและกล่าวว่า ขอรับนายน้อย เมื่อพลังสายเลือดของข้าน้อยถูกกระตุ้น ระดับพลังของข้าอย่างน้อยก็น่าจะอยู่ในขั้นครึ่งก้าวแกรนด์มาสเตอร์ หลังจากนั้นข้าน้อยจะสามารถก้าวถึงขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์เต็มขั้นในอีกไม่นาน
ดีดี ดี ! ฉิงเฟิงกล่าวคำว่าดีถึงสามครั้งด้วยลมหายใจที่หนักหน่วง เผยให้เห็นถึงความตื่นเต้นที่สุดของเขา
ฉิงเฟิงรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถเริ่มกระบวนการกระตุ้นพลังสายเลือดของราชาอสูรเทียนหมิงในโรงพยาบาลได้เนื่องจากอาจทำให้เกิดความวุ่นวายและรบกวนการพักฟื้นของหลินเสวี่ย
หลังจากขบคิดอยู่ชั่วครู่ฉิงเฟิงก็นึกถึงภูเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของสมาพันธ์ฉิงเฟิง ที่นั่นเป็นดินแดนของคนของเขาและเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดในการใช้งานตราผู้พิชิต
ตามฉันมาฉันมีสถานที่ดีๆ ฉิงเฟิงพาราชาอสูรเทียนหมิงออกจากโรงพยาบาลและขับรถไปที่ที่ตั้งของสมาพันธ์ฉิงเฟิง ซึ่งก่อนที่จะออกเดินทาง ฉิงเฟิงก็ออกคำสั่งแก่สมาชิกทีมเขี้ยวหมาป่าที่เหลือเพื่อปกป้องหลินเสวี่ย
ฉิงเฟิงแวะซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ก่อนซึ่งในยุคนี้โทรศัพท์มือถือเป็นเครื่องมือสื่อสารที่สำคัญที่สุดต่อการดำเนินชีวิตจากนั้นเขาก็บอกเบอร์โทรใหม่กับคนสนิทและสมาชิกทีมเขี้ยวหมาป่า
จากนั้นฉิงเฟิงก็ขับรถด้วยความเร็วสูงมาถึงภูเขาLone เมื่อมาถึงคิงคองก็พาสมาชิกบางส่วนของสมาพันธ์ฉิงเฟิงมาทักทายพวกเขาที่เชิงเขา
ทักทายท่านปู่หลี่ครับ! สมาชิกทุกคนต่างก็ก้มหน้าทักทายฉิงเฟิงด้วยความเคารพ
ฉิงเฟิงพยักหน้าเล็กน้อยและกล่าวกับคิงคองว่า ฉันต้องการห้องที่เงียบสงบและไร้การรบกวน
ได้เลยครับท่านปู่หลี่ คิงคองกล่าวด้วยความนับถือในขณะที่เขาพาฉิงเฟิงและราชาอสูรเทียนหมิงไปยังห้องที่เงียบสงบด้านหลังภูเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของสมาพันธ์ฉิงเฟิง ที่นี่มีบ้านหลายร้อยหลังคาเรือนสร้างขึ้นและทั้งหมดมีความสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ คฤหาสน์ที่ประณีตงดงามที่สุดตั้งอยู่ทางด้านหลัง มันสร้างขึ้นเพื่อฉิงเฟิงโดยเฉพาะ ไม่มีใครสามารถย่างกรายเข้าไปที่นั่นได้
นายน้อยข้าไม่ทราบมาก่อนเลยว่านายน้อยจะทรงอำนาจและเพาะสร้างอิทธิพลไว้มากมายในเมืองตงไห่ ราชาอสูรเทียนหมิงรู้สึกตกตะลึง นายน้อยของเขาช่างสมแล้วที่เป็นบุตรชายของราชันผู้พิชิตด้วยจำนวนลูกน้องที่มากมายขนาดนี้ในเวลาสั้นๆ เขาน่าทึ่งมาก
ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและไม่พูดออะไรจากนั้นเขาก็พาราชาอสูรเทียนหมิงเข้าไปในคฤหาสน์ของเขาและสั่งให้คิงคองรออยู่ด้านนอกคอยกันไม่ให้ใครเข้ามารบกวน
ฟุ่บ!
ฉิงเฟิงหยิบตราผู้พิชิตออกมาและกล่าวว่า ราชาอสูรเทียนหมิง ฉันจะใช้งานตราผู้พิชิตได้อย่างไร
นายน้อยท่านเป็นบุตรชายแห่งราชันผู้พิชิต ทั้งหมดที่ท่านต้องทำก็คือแค่หยดเลือดของท่านลงไปในป้าย มันจะจดจำเจ้านายของมันได้และบอกท่านโดยอัตโนมัติถึงวิธีการในการปลุกพลังสายเลือดของราชาอสูรทุกคน และจะมีเพียงท่านเท่านั้นที่ทำได้ ราชาอสูรเทียนหมิงกล่าว
ฉิงเฟิงพยักหน้าเป็นอันเข้าใจเมื่อได้ยินคำกล่าวของราชาอสูรเทียนหมิง เขาก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเหล่านินจาที่ขโมยตราผู้พิชิตไปพักหนึ่งถึงไม่สามารถใช้ประโยชน์อะไรจากมันได้ เพราะพวกมันไม่ใช่ผู้สืบเชื้อสายมาจากราชันผู้พิชิตนั่นเอง
ฉัวะ! ฉิงเฟิงกรีดนิ้วของเขาและบีบเลือดให้หยดลงไปในตราผู้พิชิต
สิ่งนี้คือของพิเศษมันถูกแกะสลักด้วยการดีไซน์และรูปแบบที่ซับซ้อน ทันทีที่เลือดของฉิงเฟิงกระทบมัน มันก็ปล่อยแสงสีดำออกมาและเข้าสู่สมองของฉิงเฟิงผ่านดวงตาของเขา
แสงสีดำเหล่านี้มีข้อมูลทั้งหมดเพื่อใช้ในการเปิดใช้งานพลังสายเลือดของสิบราชาอสูรผู้ยิ่งใหญ่ราชาอสูรทุกคนนั้นมีโทเท็มแห่งสายเลือด ในช่วงเวลานั้นราชันผู้พิชิตได้ใช้เวลาอย่างยาวนานในการกำราบราชาอสูรทั้งสิบ
เขาไม่ได้ปลุกพลังสายเลือดของราชาอสูรทั้งสิบเพราะว่าต้องการเก็บขุมพลังนี้ไว้ให้ฉิงเฟิงใช้งานในสักวันหนึ่งเขาทิ้งสุดยอดฝีมือที่มีพลังสายเลือดทั้งสิบคนนี้ไว้ให้ลูกชายของเขา
ความรักของพ่อนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด ถึงแม้ว่าราชันผู้พิชิตจะหายสาปสูญไปตั้งแต่ฉิงเฟิงยังเป็นเด็ก แต่พ่อของเขาก็ทิ้งสิ่งล้ำค่าที่น่าเหลือเชื่อเอาไว้อย่างตราผู้พิชิตและราชาอสูรทั้งสิบคน
เมื่อฉิงเฟิงรู้สึกได้ถึงเคล็ดวิชาในการปลุกพลังสายเลือดของราชาอสูรทั้งสิบในใจเขาก็รู้สึกประทับใจอย่างไม่น่าเชื่อ มันให้ความรู้สึกราวกับว่าพ่อของเขาปรากฏตัว มันเป็นการส่งต่อความรู้สึกที่คุ้นเคย
พ่อขอบคุณมาก…
ฉิงเฟิงกระซิบกับตัวเองเขาตื้นตันใจจนไม่อาจอธิบายออกมาได้
นายน้อยสายเลือดของข้าน้อยคือแมวดำ (Black Feline*) ท่านทราบเคล็ดวิชาในการปลุกพลังหรือไม่ขอรับ ราชาอสูรเทียนหมิงกล่าวด้วยความหวัง
*Felineคือวงศ์เสือและแมว เป็นวงศ์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมประเภท เสือ, สิงโต, ลิงซ์ และแมว โดยทั้งหมดอยู่ในอันดับสัตว์กินเนื้อ โดยปรากฏครั้งแรกในสมัยโอลิโกซีน เมื่อประมาณ 30 ล้านปีก่อน (Feline มันคือสัตว์ในกลุ่มนั้นๆผมไม่รู้จะใช้อะไรดีเลยขอใช้เป็นแมวก็แล้วกันเพราะดูจะคล้ายกับสามารถทำนายชะตาได้)*
ราชาอสูรเทียนหมิงอยากจะปลุกพลังสายเลือดของเขามาตั้งแต่เมื่อ15 ปีก่อนแล้ว แต่ราชันผู้พิชิตปฏิเสธ เขากล่าวไว้ว่า เขาต้องการให้ลูกชายของเขาเป็นคนปลุกพลังสายเลือดของราชาอสูรด้วยตนเองเพื่อที่จะปกป้องตัวฉิงเฟิงในอนาคต
สายเลือดแห่งแมวดำ
ฉิงเฟิงพยักหน้าและกล่าวว่า แน่นอน ฉันรู้แล้ว
ในหมู่พลังสายเลือดที่ยิ่งใหญ่ทั้งสิบแมวดำไม่ได้มีพลังในการโจมตีสูงที่สุด แต่มันมีความสามารถทางกายภาพที่แข็งแกร่ง แมวในโลกแห่งความเป็นจริงเป็นสัตว์ที่มีพลังจิตและฉลาดมาก ด้วยความสามารถในการมองเห็นสิ่งต่างๆที่ดวงตาของมนุษย์ไม่สามารถทำได้
สายเลือดแมวดำสามารถสื่อสารกับสวรรค์และโลกเพื่อใช้ในการทำนายอนาคตได้เมื่อใดก็ตามที่ราชาอสูรเทียนหมิงสามารถปลุกพลังสายเลือดแมวดำของเขาขึ้นมา มันจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำนายอนาคตของเขาได้
ราชาอสูรเทียนหมิงถอดเสื้อผ้าออกและนั่งลง ฉันจะปลุกพลังสายเลือดของคุณเดี๋ยวนี้ ฉิงเฟิงกล่าว
ฉิงเฟิงได้เรียนรู้เคล็ดวิชาผ่านข้อมูลที่พุ่งเข้ามาในสมองของเขาแล้วการปลุกพลังสายเลือดของราชาอสูรเหล่านี้ เขาต้องค้นหาจุดที่เฉพาะเจาะจงบนร่างกาย ซึ่งจุดเหล่านี้ไม่ใช่จุดฝังเข็มตามปกติที่รู้จักกันในปัจจุบัน แต่จุดเหล่านี้เป็นจุดฝังเข็มพิเศษที่ส่งผ่านมาจากสมัยโบราณหรือที่เรียกว่าจุดฝังเข็มโบราณนั่นเอง
เผ่าพันธุ์มนุษย์ได้เริ่มศึกษาเกี่ยวกับร่างกายของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยโบราณกาลพวกเขาเหล่านั้นมีความรู้เกี่ยวกับจุดฝังเข็ม เส้นชีพจร เนื้อ กระดูก เลือด
ราชาอสูรเทียนหมิงเปลือยกายและนั่งลงเขารู้สึกเขินอายเล็กน้อยเมื่อคิดถึงวัยวุฒิของเขา แต่เมื่อนึกขึ้นว่านายน้อยกำลังจะปลุกพลังสายเลือดให้เขา เขาก็เริ่มสงบลง
ฉิงเฟิงหยิบเข็มเงินเก้าเล่มออกมาหลังจากได้คำแนะนำในการปลุกพลังสายเลือดในสมอง เขาก็ใช้เข็มทั้งเก้าปักไปบนร่างกายของราชาอสูรเทียนหมิงตามจุดฝังเข็มโบราณ
แน่นอนว่านอกเหนือจากการกระตุ้นจุดฝังเข็มโบราณทั้งเก้าจุดแล้วยังต้องใช้บทสวดพิเศษอีกด้วย
ราชาอสูรเทียนหมิง,ตอนนี้ฉันจะมอบบทสวดที่ใช้ในการกระตุ้นและปลุกพลังสายเลือดแห่งแมวดำของคุณ ตั้งใจและจดจำให้ดี
ข้าคือแมวแห่งสวรรค์
,
ปัจจุบันตลอดนิจนิรันดร์
, ปฏิสัมพันธ์ต่อสรวงสวรรค์และปฐพี
,
ครานี้คือผู้ทำนายอนาคต
,
ชี้ที่ท้องนภา
,
ชี้ที่ปฐพี
,
ชี้ที่เทพ….
ฉิงเฟิงส่งผ่านบทสวดแห่งสายเลือดแมวดำไปให้ราชาอสูรเทียนหมิงจดจำ
ราชาอสูรเทียนหมิงทำการท่องบทสวดซ้ำทันใดนั้นเองภายในร่างกายของเขาก็รู้สึกปั่นป่วน โลหิตของเขาเริ่มวิ่งผ่านไปตามทิศทางที่แปลกประหลาด มันแตกต่างไปจากเส้นโลหิตเดิม มันคือการไหลเวียนโลหิตแบบโบราณ ในที่สุดสายเลือดของราชาอสูรเทียนหมิงก็ตื่นขึ้นอย่างช้าๆโลหิตภายในร่างของเขาเดือดพล่าน มันกำลังปลดปล่อยเสียงดังสนั่นอยู่ภายใน หลังจากนั้นมวลพลังที่ใหญ่โตก็พวยพุ่งออกมาจากร่างกายของราชาอสูรเทียนหมิง