เธอกล้าด่าฉัน
ใบหน้าของฉิงเฟิงเปลี่ยนเป็นเย็นชาจางหม่านหลีคนนี้อยากตายจริงๆ เธอกล้าด่าเขาไม่หยุด
~เพี๊ยะๆๆๆๆ ~
โดยไม่มีคำพูดจาใดๆฉิงเฟิงตบหน้าจางหม่านหลีอีกหลายครั้งจนแก้มของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำและบวมเป่งเป็นหัวหมูอย่างสมบูรณ์ แม้แต่ผมของเธอก็หลุดร่วงเป็นหย่อมๆทำให้เธอดูน่าสะพรึงกลัวยิ่งขึ้นไปอีก
อีกทั้งจางหม่านหลียังมีเลือดไหลที่มุมปากเธอมองฉิงเฟิงด้วยความช็อคในแววตาอย่างสิ้นเชิง ชายหนุ่มคนนี้โหดเหี้ยมเกินไปแล้ว เขาตบหน้าเธออย่าไม่ใส่ใจสิ่งใดแม้แต่น้อย
แม่ยายหล่อนด่าคุณเดี๋ยวผมจะจัดการให้เอง บอกมาเลยจะให้สั่งสอนเธออย่างไรดีครับ ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มกว้างและหันหน้าไปถามมู่เสี่ยวหยุน
ปัจจุบันนี้หลินเสวี่ยยังคงโกรธเคืองฉิงเฟิงและไม่ยอมให้อภัยเขาฉิงเฟิงจึงตัดสินใจเอาใจแม่ยายให้เธออยู่ข้างเขา เผื่อว่าในภายหลังเธออาจจะช่วยพูดเรื่องดีๆของเขาต่อหน้าหลินเสวี่ย
มู่เสี่ยวหยุนยังมีทีท่าขุ่นเคืองและไม่ตอบสนองใดๆแต่อย่างไรก็ตาม ดวงตาของเธอมีร่องรอยที่แสดงออกถึงความชื่นชม
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ชอบการที่ผู้ชายทำร้ายผู้หญิงแต่เธอก็ถือว่าผู้หญิงที่น่าชังอย่างจางหม่านหลีเป็นข้อยกเว้น ถ้าหากฉิงเฟิงไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นทันเวลา มู่เสี่ยวหยุนคงถูกเธอตบหน้าไปแล้ว
ฉิงเฟิงความจริงแล้วเป็นเสวี่ยน้อยต่างหากที่บอกให้ชั้นมาไล่ผู้หญิงคนนี้ เสวี่ยน้อยบอกว่าไม่ชอบให้ใครมาด่าสามีของเธอ
อะอะไรนะ ! หรือว่าหลินเสวี่ยยกโทษให้ผมแล้ว ไม่มีทางเสวี่ยน้อยไม่ได้ยกโทษให้เธอหรอก แต่มันเป็นเพราะเธอเป็นสามีของเสวี่ยน้อย เธอจะไม่มีวันอนุญาตให้ผู้หญิงคนอื่นมาก้นด่าคุณ มู่เสี่ยวหยุนกล่าว
ฉิงเฟิงรู้สึกผิดหวังไม่น้อยเมื่อได้ยินว่าหลินเสวี่ยยังไม่ได้ให้อภัยเขาแต่ความจริงที่ว่าเธอได้บอกให้แม่ของเธอมาไล่จางหม่านหลีเป็นการแสดงให้เห็นว่าหลินเสวี่ยยังคงห่วงใยเขาอยู่ เขายังคงมีที่ยืนอยู่ภายในหัวใจของเธอ ทำให้เขามีความสุขเล็กน้อย
หลี่ฉิงเฟิงชั้นเป็นภรรยาของประธานสมาคมแพทย์แห่งชาติเชียวนะ ! แกกล้าดียังไงมาตบหน้าชั้น คอยดูเถอะสามีของชั้นจะไม่ไว้ชีวิตแกแน่ !
เฮอะ! ต่อให้เย่หยุนซันสามีเธอไม่มาฉันก็จะไปหามันถึงที่เอง คนอย่างมันอาศัยอะไรมาขึ้นเป็นประธานสมาคมแพทย์ของประเทศ
หลี่ฉิงเฟิงระวังปากหน่อยความรู้ทางการแพทย์ของสามีชั้นเป็นที่ยอมรับของผู้คนทั้งประเทศ แกกล้าดียังไงมาเยาะเย้ยความสามารถของเขา ! จางหม่านหลีตะโกนเถียง ใบหน้าของเธอมืดครึ้ม
ในหัวเซี่ยเย่หยุนซันเป็นหนึ่งในคนที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในประเทศ ในฐานะประธานสมาคมแพทย์แห่งประเทศ เขาได้รักษาโรคภัยของผู้คนเป็นจำนวนมากและอยู่ภายใต้การคุ้มครองของผู้มีอำนาจหลายๆคน
นอกจากนี้เย่หยุนซันยังเคยทำการรักษาและมีบุญคุณต่อเหล่าสำนักนิกายโบราณต่างๆมากมายและสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกลุ่มอำนาจเหล่านี้ลูกชายของเขา เย่เฮาก็กำลังฝึกวิชาและฝากตัวเป็นศิษย์ในสำนักเหล่านี้จนกระทั่งก้าวเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเหนือสวรรค์ได้ในขณะที่อายุยังน้อย แต่โชคร้ายสำหรับเขาที่ถูกฉิงเฟิงตบคว่ำด้วยกระบวนท่าเดียว
ผู้คนรอบๆต่างก็มีสีหน้าเยาะเย้ยและดูถูกฉิงเฟิงพวกเขาคิดว่าฉิงเฟิงหูหนวกตาบอดที่ไม่รู้ว่าเย่หยุนซันมีแฟนคลับมากมายเพราะความสามารถทางการแพทย์ของเขา
แต่สิ่งที่พวกเขาไม่ทราบก็คือหลักการของเย่หยุนซันนั่นเองคนผู้นี้รักษาแต่คนรวยและผู้มีอำนาจเท่านั้น เขาจะช่วยแต่คนที่ให้เงินเขาไม่ได้ช่วยคนยากจน อีกทั้งยังรักษาผู้มีตำแหน่งและเหล่ากองกำลังของผู้ฝึกยุทธ์
เหตุผลเดียวที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเย่หยุนซันในหัวเซี่ยก็เป็นผลมาจากสื่อและสื่อมวลชนเขาได้จ่ายเงินเป็นจำนวนมากเพื่อติดสินบนสื่อต่างๆให้รายงานความสามารถทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม, ตัวตนที่สูงส่งและสปิริตของเขาในการรักษาผู้ป่วย
เฉพาะคนที่รู้จักเขาอย่างแท้จริงเท่านั้นจึงจะได้เห็นตัวตนที่แท้จริงซึ่งในความเป็นจริงแล้วเขาเป็นเพียงคนทุจริตผู้ไร้ยางอาย ก่อนหน้านี้เขาเคยทรยศต่ออาจารย์, จางหยุนเหอ โดยการเตะเขาออกจากสมาคมแพทย์แห่งประเทศ นอกจากนี้เขายังล้ำเส้นไปไกลถึงขั้นวางยาพิษอาจารย์ตัวเอง ถูกต้อง เขาเป็นคนชั่วร้ายถึงแก่น ! จางหม่านหลีไสหัวกลับไปบอกสามีของเธอเย่หยุนซันเลยว่าฉันขอท้าทายมันด้วยทักษะทางการแพทย์ ให้มันนัดเวลาและสถานที่มาได้เลย ฉิงเฟิงกล่าวกับจางหม่านหลีอย่างเย็นชา
จางหยุนเหอเคยช่วยหลินเสวี่ยฉิงเฟิงยังติดคำหนี้คำสัญญาเขาอยู่อีกข้อหนึ่งว่าจะช่วยเขาเอาชนะเย่หยุนซัน ในเมื่อตอนนี้ภรรยาของมันอยู่ที่นี่แล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการส่งสาสน์ท้าทาย
ฮ่าๆๆช่างน่าขันนัก คนหนุ่มอย่างแกกล้าท้าทายสามีของชั้น เหอะ กลัวว่าแกจะไม่มีคุณสมบัติ
ทำไม สามีของเธอกลัวฉันหรือไง?
ชั้นจะพูดให้กระจ่างนะมีเพียงเฉพาะประธานของสมาคมแพทย์ระดับจังหวัดเท่านั้นที่สามารถท้าทายเขาได้ ถ้าแกอยากจะท้าทายสามีชั้น ก่อนอื่นแกต้องขึ้นเป็นประธานสมาคมแพทย์ของเมืองตงไห่เสียก่อน อย่างที่สอง ขึ้นเป็นประธานสมาคมแพทย์ของจังหวัดหูเจียง มิฉะนั้นก็ไม่มีทางที่สามีของชั้นจะยอมรับการท้าทายของแกหรอก !
จางหม่านหลีกล่าวอย่างเย็นชาใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความรังเกียจ
ในฐานะประธานสมาคมแพทย์ของประเทศเย่หยุนซันมีเรื่องให้จัดการมากมายและยุ่งมาก นอกจากต้องให้การดูแลผู้นำประเทศแล้วเขายังต้องเข้าร่วมการประชุมและการอภิปราย ตลอดจนเข้าร่วมงานแลกเปลี่ยนทางวิชาการทุกประเภท เขาไม่มีเวลามากพอจะมารับคำท้าทายของทุกคนที่ต้องการจะล้มเขาเพื่อแสวงหาชื่อเสียงทางลัด
สมาคมแพทย์หัวเซี่ยจึงได้ตรากฎไว้ให้เย่หยุนซันถ้าหากใครต้องการท้าทายประธานสมาคมแพทย์แห่งประเทศ อันดับแรกผู้ท้าชิงจะต้องเป็นประธานสมาคมแพทย์ในระดับเมือง อย่างที่สองต้องเป็นประธานสมาคมแพทย์ระดับจังหวัด มีเพียงต้องผ่านเงื่อนไขเหล่านี้เท่านั้นจึงจะสามารถท้าทายเย่หยุนซันได้ ถ้าเป็นอย่างที่เธอพูดมาใครคือประธานสมาคมแพทย์ของเมืองตงไห่ ฉันจะได้ไปท้าทายเขาก่อนเป็นคนแรก ฉิงเฟิงกล่าวโดยไร้ความกังวลด้วยรอยยิ้มบางๆ สำหรับเขาแล้ว ประธานสมาคมแพทย์ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่มากพอที่ทำให้เขาจะต้องกังวล
เหอเด็กน้อย ทำไมแกถึงได้อวดดีขนาดนี้ ! ฉันคือเย่จวิน ประธานคนปัจจุบันของสมาคมแพทย์แห่งเมืองตงไห่
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงคนพูดแทรกดังขึ้นชายวัยกลางคนเดินออกมาจากด้านข้าง
เมื่อได้เห็นเย่จวินใบหน้าของฉิงเฟิงก็มืดครึ้มและมีร่องรอยแห่งความหนาวเย็นกระพริบผ่านดวงตาของเขา เย่จวินผู้นี้คือคนที่แย่งตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลไปจากเจียวซู และขับไล่หลินเสวี่ยออกจากห้องพักผู้ป่วย
เย่จวินเป็นญาติห่างๆของเย่หยุนซันมิฉะนั้นเขาคงจะไม่สามารถทำให้เหล่าผู้บริหารเสนอชื่อเขาขึ้นเป็นประธานสมาคมแพทย์ของเมืองตงไห่ได้
เย่จวินใช่ไหม ดี งั้นฉันขอท้าทายคุณ คุณสามารถเลือกเวลาและสถานที่มาได้เลย ฉิงเฟิงกล่าวอย่างมั่นใจและยิ้มอย่างสงบเยือกเย็น เขาต้องเอาชนะเย่จวินเพื่อให้ได้ตำแหน่งประธานสมาคมแพทย์ของเมืองตงไห่ นอกจากนี้ยังถือว่าเป็นการแก้แค้นให้แก่จางหยุนเหอและหลินเสวี่ยที่ถูกคนผู้ขับไล่ออกจากโรงพยาบาล
หลี่ฉิงเฟิงฉันจะยอมรับคำท้าของแกก็ได้ แต่ต้องมีอะไรมาเดิมพันกันหน่อย
เดิมพันอะไร
ถ้าแกแพ้ฉันต้องการให้แกคุกเข่าขอขมาต่อคุณผู้หญิงจางหม่านหลีและขอให้เธอยกโทษ เย่จวินกล่าวอย่างเย็นชา
ในฐานะลูกสมุนของเย่หยุนซันและจางหม่านหลีเย่จวินต้องให้ความสำคัญกับเจ้านายของเขาเป็นเรื่องธรรมดา อีกทั้งหนึ่งในเจ้านายของเขาได้ถูกชายหนุ่มคนนี้ตบหน้า เขาจึงต้องต่อสู้เพื่อเธอ ถ้าหากพวกเขาต่อสู้กันด้วยความแข็งแกร่งของร่างกายเย่จวินรู้ตัวว่าไม่มีทางสู้หลี่ฉิงเฟิงได้ ชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่นักสู้ข้างถนนทั่วไป อย่างไรก็ตาม หากเป็นเรื่องทักษะทางการแพทย์ เย่จวินคิดว่าตัวเขาเองนั้นยอดเยี่ยมไร้คู่แข่ง
นอกเหนือไปจากคอนเน็คชั่นที่มีต่อเย่หยุนซันเย่จวินสามารถเป็นประธานสมาคมแพทย์ของเมืองตงไห่ได้เนื่องจากเขามีทักษะทางด้านการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมมาก เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศและมีผลการเรียนดีเยี่ยม
ยกตัวอย่างเช่นจางเหมียวชุนเขาเป็นเพียงแค่ประธานสมาคมแพทย์แผนจีน แต่ในด้านสาขาวิชาแพทย์นั้นยังรวมไปถึงเวชศาสตร์แผนตะวันออก, เวชศาสตร์แผนตะวันตก, กุมารเวชศาสตร์, นรีเวชวิทยา, ศัลยกรรมกระดูกและอื่น ๆ อีกมากมาย
เมื่อได้ยินคำพูดของเย่จวินที่บอกให้เขาคุกเข่าขอร้องให้จางหม่านหลี่ยกโทษดวงตาของฉิงเฟิงก็กลายเป็นเย็นเฉียบ ถ้าหากนี่ไม่ใช่การต่อสู้ในเชิงการแพทย์ ฉิงเฟิงคงระเบิดหัวชายคนนี้เป็นชิ้นๆด้วยหมัดเดียวไปนานแล้ว