เข้ามารับความตายซะ ฉิงเฟิงชูนิ้วกลางให้แกรนด์มาสเตอร์ทั้งสอง
เขาไม่เคยสงสารศัตรูมีทางเลือกเพียงอย่างเดียวคือส่งพวกมันไปลงนรก
หลี่ฉิงเฟิงเจ้าโอหังนัก วันนี้ข้าจะบดศีรษะเจ้า ! เตี๋ยจงเทียนยิ้มอย่างเย็นชา
ส่วนเจียงเชียนเต๋าถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่เจตนาฆ่าในแววตาของเขาก็ไม่อาจเก็บซ่อนได้ มันดูราวกับพายุแห่งจิตสังหาร
ทั้งสองโกรธเกรี้ยวอย่างมากหลังจากที่โดนฉิงเฟิงดูหมิ่นเหยียดหยามทางเดียวที่จะทำให้พวกเขาสงบใจได้ก็คือฆ่าเขาซะ
ตึงตึง ตึง ตึง
!
เตี๋ยจงเทียนก้าวเท้าอย่างหนักหน่วงทุกก้าวของเขาทิ้งหลุมลึกไว้บนพื้น พื้นดินไม่อาจทนรับพลังของเขาได้
เขตแดนแรงโน้มถ่วง
!
เตี๋ยจงเทียนโห่ร้องและปลดปล่อยพลังแห่งเขตแดนออกมาทันที
เขตแดนแรงโน้มถ่วงเป็นเขตแดนพิเศษที่หาได้ยากเมื่อมันถูกปลดปล่อยออกมา วัตถุทั้งหมดภายในระยะสิบไมล์จะได้รับผลกระทบและตกลงสู่พื้นทันที
ต้นไม้ที่อยู่ในระยะเขตแดนหักโค่นลงนกที่บินบนฟ้าก็ร่วงลงมาที่พื้นและตายอย่างน่าสยดสยอง
เขตแดนเพลิงพินาศ
!!
เมื่อได้เห็นเขตแดนแรงโน้มถ่วงถูกปลดปล่อยฉิงเฟิงก็มีสีหน้าจริงจังและปลดปล่อยเขตแดนเพลิงพินาศออกมา (Inferno Realm) มันก่อตัวขึ้นเป็นโล่เพลิงล้อมรอบตัวเขา
ครืนนน
~
ด้วยการชนกันของทั้งสองเขตแดนทำให้อุณหภูมิรอบๆพวกเขากลายเป็นร้อนจัดและกระจายไปสู่คนรอบๆพวกเขาทั้งหมดถูกแรงปะทะที่รุนแรงผลักจนถอยหลัง
เขตแดนทั้งสองต่างก็ทรงพลังมากการปะทะกันของมันเป็นเหมือนการประสานงาระหว่างรถบรรทุกสองคันที่พุ่งมาด้วยความเร็ว อากาศโดยรอบระเบิดออกก้อนหินรอบๆก็แตกเป็นเสี่ยงๆ
ฟิ้ว! ~
เมื่อเห็นฉิงเฟิงและเตี๋ยจงเทียนกำลังประมือกันเจียงเชียนเต๋าก็ชักดาบของเขาออกมา หมายจะฟันเข้าใส่ด้านหลังของฉิงเฟิง
ดาบเล่มนี้ยาว1.5 เมตรและแกะสลักด้วยลวดลายที่ซับซ้อน มันดูทรงอำนาจมากหลังจากที่ได้มอง
ดาบตัดผ่านอากาศและกลายเป็นปราณดาบที่ดุดันพุ่งเข้าหาฉิงเฟิง
เล่นลอบกัด
กล้าดีอย่างไรถึงได้ลอบโจมตีฉัน ชั่วช้านัก
!
สีหน้าของฉิงเฟิงเย็นเฉียบเพราะเขาเกลียดการลอบโจมตีมากเจียงเชียนเต๋าช่างน่าขายหน้านัก
ฉิงเฟิงชักกระบี่ออกมาทันทีและเหวี่ยงเข้ารับปราณดาบจากด้านหลังของเขา
ดาบและกระบี่แดงเพลิงคะนองปะทะกันทำให้เกิดเสียงดังสนั่นพื้นดินรอบๆอาวุธทั้งสองยกขึ้นเหนือพื้นและเกิดไฟลุก
อดพูดไม่ได้ว่าในตอนนี้หลี่ฉิงเฟิงแข็งแกร่งมากเพราะเขาสามารถรับมือกับสองแกรนด์มาสเตอร์ขั้นปลายได้โดยไม่เสียเปรียบแม้แต่น้อย
ดวงตาอันงดงามของฉินเซียนจื่อและลั่วหนี่ชิงต่างก็สว่างขึ้นหลี่ฉิงเฟิงแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก ทุกครั้งที่พวกเธอได้พบเขา เขามักจะสร้างความประหลาดใจให้พวกเธอเสมอ
ในฐานะที่เป็นคุณหนูของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้จากบรรดาอัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่ฉินเซียนจื่อได้พานพบมา ไม่มีผู้ใดสามารถเทียบเทียมและแข่งขันกับฉิงเฟิงได้แม้แต่คนเดียว
ในโลกแห่งปุถุชนคนธรรมดาฉิงเฟิงก็กวาดล้างทั่วทั้งโลกจนได้กลายมาเป็นราชันหมาป่าผู้ยิ่งใหญ่ หลังจากก้าวเข้าสู่โลกแห่งวิทยายุทธ์โบราณแล้วเขาก็ยังคงสามารถยืนอยู่ในจุดที่เหนือกว่าผู้อื่นได้เช่นกัน !
เมื่อได้เห็นดาบที่ลอบโจมตีของเขาถูกฉิงเฟิงปัดป้องไว้ได้ก็สร้างความประหลาดใจให้แก่เจียงเชียนเต๋าเป็นอย่างมาก
ยามนี้เขาได้มองฉิงเฟิงเป็นศัตรูที่ตรึงมืออย่างแท้จริงไปแล้วชายหนุ่มผู้นี้แข็งแกร่งราวกับสัตว์ร้าย
หลี่ฉิงเฟิง,ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะสามารถบรรลุขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์ได้ตั้งแต่ยังหนุ่มเช่นนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าถึงทำตัวหยิ่งผยองนัก เจียงเชียนเต๋ากล่าว
ฉันเนี่ยนะหยิ่งผยอง ตลกแล้ว เป็นพวกคุณมากกว่าละมั้งที่หยิ่งผยอง พวกคุณใช้กำลังบุกเข้ามาในอาณาเขตของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้เพื่อฆ่าฉันอย่างไม่ไว้หน้าใคร
หลี่ฉิงเฟิงแม้กระทั่งแกรนด์มาสเตอร์แห่งวิถีกระบี่จาวเกออี้ก็ยังไม่กล้าสบประมาทพวกเรา ส่วนแกเป็นแค่แกรนด์มาสเตอร์ขั้นแรก เพียงแค่รับดาบของข้าได้ก็อย่าเพิ่งได้ใจไปนัก ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ ! เจียงเชียนเต๋ากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ในฐานะหัวหน้าตระกูลเจียงและเป็นสมาชิกคนหนึ่งของแกรนด์มาสเตอร์ทั้ง81 คน เจียงเชียนเต๋าได้รับการยอมรับนับถือเสมอในทุกที่ที่เขาไป การที่ถูกฉิงเฟิงดูหมิ่นนั้นเป็นรอยแผลในจิตใจของเขา
ถึงแม้ว่าเจียงเชียนเต๋าจะพบว่าฉิงเฟิงได้กลายเป็นแกรนด์มาสเตอร์ไปแล้วก็ตามเขาตัดสินใจที่จะฆ่าฉิงเฟิงให้ได้ในวันนี้
เคล็ดวิชาดาบพันเล่ม!
เจียงเชียนเต๋าโห่ร้องและเหวี่ยงดาบออกมานับพันครั้งทันทีเงาดาบมากมายเหลือคนาก่อตัวขึ้นและบินตรงเข้าหาฉิงเฟิงทันที
เราไม่สามารถมองออกได้ว่าเงาดาบเล่มไหนเป็นของจริงเล่มไหนเป็นของปลอมเนื่องจากเงาดาบนั้นมีมากมายมหาศาล
มันคือเคล็ดวิชาระดับแกรนด์มาสเตอร์ขั้นสูงของตระกูลเจียงมันสามารถสร้างเงาดาบลวงออกมานับพันๆสายได้และทำให้คู่ต่อสู้สับสน
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่ของจริงมันถูกสร้างขึ้นเนื่องจากดาบของเจียงเชียนเต๋ากวัดแกว่งเร็วเกินไปจนเกิดภาพติดตา อย่างไรก็ตาม มันมีเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นของจริง ถ้าหากคนผู้หนึ่งมีความสามารถทางจิตที่เข้มแข็งพอก็จะสามารถเห็นดาบเล่มจริงได้
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉิงเฟิงได้เผชิญหน้ากับเคล็ดวิชาในรูปแบบเช่นนี้ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถมองออกได้ว่าดาบเล่มไหนเป็นของจริง
อย่างไรก็ตามเมื่อไม่สามารถมองออก ฉิงเฟิงจึงตัดสินหลบเลี่ยงคมดาบทั้งหมด เพราะเคล็ดวิชากระบี่ของเขาก็ทรงพลังมากพอที่จะปิดกั้นการโจมตีทั้งหมดได้
ระเบิดเพลิงคะนอง
!
ฉิงเฟิงฟันกระบี่ออกในแนวนอนด้วยกระบวนท่าแรกของเคล็ดวิชากระบี่แดงเพลิงคะนอง
กระบวนท่าแรกนั้นเหมาะที่สุดสำหรับการป้องกันในสถานการณ์ปัจจุบันมันก่อให้เกิดเปลวไฟมากมายในท้องฟ้า
แต่เปลวไฟเหล่านี้ก็ไม่ใช่ไฟที่แท้จริงมันถูกสร้างขึ้นโดยการเผาผลาญพลังลมปราณที่หลอมรวมกัน
เงาดาบนับไม่ถ้วนและเปลวไฟปะทะกันมันก่อให้เกิดฉากเบื้องหน้าราวกับการจุดพลุ เพียงแต่มันดังกว่าและระเบิดรุนแรงกว่า
พื้นที่เดิมทีราบเรียบระเบิดเป็นหลุมหลังจากการปะทะกันราวกับอุกกาบาตพุ่งชนโลก
��