มีข่าวอะไรไหมราชาอสูรสิงโต ฉิงเฟิงกดปุ่มรับสายและถามออกมาทันที
นายน้อยพวกเรากำลังหาข่าวคราวราชาอสูรคนอื่นจนพบว่าราชาอสูรฉลามเสืออยู่บนเกาะแปซิฟิก จากนั้นพวกเราก็มุ่งหน้าไปตามหาเขาทันทีแต่ตอนนี้พวกเราติดอยู่บนเกาะทมิฬบนมหาสมุทรแปซิฟิกขอรับ ราชาอสูรสิงโตกล่าวด้วยความหวาดกลัว
เรือลำที่ราชาอสูรสิงโตและมังกรเขียวโดยสารมาถูกโจมตีใกล้กับเกาะทมิฬพวกเขาพบกับปีศาจทะเล จากนั้นพวกเขาเข้าไปในเกาะทมิฬที่เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายมากมาย
เกาะทมิฬ
ฉิงเฟิงรู้สึกตระหนกเมื่อได้ยินชื่อนี้มันเป็นหนึ่งในสิบเกาะที่อันตรายที่สุดในมหาสมุทรแปซิฟิก มีความน่ากลัวที่ยิ่งใหญ่บนเกาะแห่งนี้ มหาสมุทรแปซิฟิกมีขนาดมหึมาเนื่องจากเป็นหนึ่งในสี่มหาสมุทรบนโลกเรือและเครื่องบินหลายลำจะแล่นผ่านมหาสมุทรแปซิฟิก แต่พวกมันต่างก็หายไปเมื่อเข้าใกล้เกาะทมิฬ
กล่าวอย่างตรงไปตรงมาเกาะแห่งทมิฬได้กลายมาเป็นเกาะที่เต็มไปด้วยอันตรายและทำให้หลายคนหวาดกลัว
ฉิงเฟิงไม่รู้เลยว่าราชาอสูรสิงโตและราชาอสูรมังกรเขียวไปติดเกาะนั้นได้อย่างไร
หาที่ซ่อนตัวอยู่บนเกาะไปก่อนอย่าเพ่นพ่านไปมา ฉันจะไปช่วยพวกคุณเดี๋ยวนี้
ฉิงเฟิงวางสายทันทีหลังจากกล่าวจบ
ราชาอสูรทั้งสองคนนี้ได้ช่วยเหลือฉิงเฟิงมามากมายและทำงานให้เขาอยู่ตอนนี้เมื่อพวกเขาประสบปัญหา ฉิงเฟิงย่อมต้องไปช่วยพวกเขาอย่างแน่นอน
เกาะทมิฬอันตรายเกินไปที่รัก คุณต้องไปจริงๆเหรอ หลินเสวี่ยได้ยินการสนทนาของพวกเขาผ่านทางโทรศัพท์
หลินเสวี่ยรู้เรื่องสยองขวัญของเกาะทมิฬเป็นอย่างดีถึงแม้ว่าเธอจะเป็นแค่คนธรรมดาเธอรู้เรื่องคนที่หายไปทั้งหมดที่ผ่านเกาะทมิฬจากในข่าว
หลินเสวี่ยต้องการห้ามฉิงเฟิงไม่ให้ไปที่นั่นเพราะเธอไม่ต้องการให้เขาประสบชะตากรรมเช่นเดียวกับผู้คนในข่าว
ที่รักผมจำเป็นต้องไปจริงๆ คนของผมสองคนติดอยู่ที่นั่น ฉิงเฟิงรู้สึกเสียใจ เขาเอื้อมมือไปลูบไล้แก้มของหลินเสวี่ยอย่างอ่อนโยน
ฉิงเฟิงเข้าใจดีถึงความกังวลของหลินเสวี่ยตัวเขาเองทำให้เธอกังวลมากมายตั้งแต่แต่งงานกันมาเพราะเขาทำแต่เรื่องอันตรายทั้งสิ้น
หลินเสวี่ยต้องการจะห้ามเขาแต่เธอก็รู้ว่าสามีของเธอเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับมิตรภาพมาก เขายอมดำดิ่งลงไปในสระปีศาจโลหิตอย่างไม่ลังเลเพื่อเธอ นับประสาอะไรกับคนของเขา
ชั้นอนุญาตให้คุณไปก็ได้แต่คุณต้องเอาซาโต้โยชิโกะไปด้วย เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญและสามารถเรียกใช้งานได้ในช่วงเวลาวิกฤติ
เธอเป็นบอดี้การ์ดที่ผมทิ้งไว้ให้ดูแลคุณนะที่รัก
ไม่เธอมาจากเกาะแปซิฟิกและย่อมรู้จักมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นอย่างดี ชั้นจะไม่ยอมให้คุณไปเว้นเสียแต่ว่าคุณจะพาเธอไปด้วย
หลินเสวี่ยบุ้ยปากและยืนกรานเสียงแข็ง
ฉิงเฟิงจำต้องตกลงยอมพาโยชิโกะไปด้วยภายใต้การเรียกร้องของหลินเสวี่ยนอกจากเธอแล้วเขายังนำลู่ซวนจี๋ เจ้าโล้นและเทพมรณะไปด้วยเช่นกัน
ฉิงเฟิงสัมผัสได้ถึงอันตรายในการเดินทางไปยังเกาะทมิฬในครั้งนี้มันจะเป็นการปลอดภัยกว่าที่จะนำทีมเขี้ยวหมาป่าไปด้วย เนื่องจากพวกเขาอาจพบกับศัตรูมากมายระหว่างเดินทาง
ฉิงเฟิงสั่งให้อลิซคอยปกป้องหลิวหรูหยานเนื่องจากเธอจะคลอดภายในหนึ่งสัปดาห์และจำต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษส่วนเหมียวซิยี้ก็คอยปกป้องคุ้มครองหลินเสวี่ยตามเดิม
แต่กระนั้นเขาก็ยังรู้สึกไม่วางใจแม้ว่าผู้หญิงคนสำคัญของเขาทั้งคู่จะได้รับการปกป้องจากอลิซและเหมียวซิยี้ดังนั้นฉิงเฟิงจึงโทรหาลั่วอี้ซานแห่งเมืองเทียนจิง และถังเจียงเฮอเพื่อบอกให้พวกเขาส่งยอดฝีมือมาคอยดูแลหลินเสวี่ยกับหลิวหรูหยาน
หลังจากจัดแจงทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วฉิงเฟิงก็พาโยชิโกะพร้อมกับสมาชิกในทีมเขี้ยวหมาป่าทั้งสามคนขึ้นรถบัสมุ่งหน้าไปยังสนามบิน
………..
ที่สนามบิน
คนทั้งสี่ดึงดูดสายตาของผู้คนระหว่างทางเพราะโยชิโกะเป็นผู้หญิงที่สวยมากใบหน้าของเธอเหมือนดั่งดอกกุหลาบ ผิวขาวเหมือนดอกบัวและริมฝีปากเหมือนเชอร์รี่ เธอทำให้ทุกคนต่างก็จ้องมอง
หน้าอกใหญ่เรือนร่างนุ่มนิ่ม ขายาวเหยียดตรงและรูปร่างเซ็กซี่ทำให้เธอเป็นสาวงามที่หาได้ยากยิ่ง ผู้ชายหลายคนที่สนามบินต่างจ้องมองเธอตาเป็นมันด้วยความตื่นเต้นไปทั่วใบหน้าของพวกเขา พวกเขาหวังว่าจะได้ครอบครองเธอ
ความงามของโยชิโกะโด่งดังไปทั่วในฐานะหนึ่งในสี่สุดยอดสาวงามแห่งเกาะแปซิฟิกไม่มีใครสามารถต้านทานเสน่ห์ที่ดึงดูดใจของเธอได้นอกจากฉิงเฟิง
แม้แต่สมาชิกในทีมเขี้ยวหมาป่าเองก็ยังจ้องมองเธอด้วยความตื่นเต้น
เฮ้บอสครับ แม่สาวงามผู้นี้เป็นเด็กใหม่บอสเหรอครับ ลู่ซวนจี๋สะกิดแขนของฉิงเฟิงและกระซิบถาม
ไม่ใช่เธอชื่อซาโต้ โยชิโกะ เธอเป็นข้ารับใช้ของฉัน ฉิงเฟิงกล่าว
เด็ดจัดว่าเด็ดมาก บอสนี่ช่างเพลย์บอยตัวพ่อของโลกหล้าจริงๆแม้แต่สาวงามที่หาได้ยากเช่นนี้เขาก็ยังทำให้เธอเป็นข้ารับใช้ได้
ลู่ซวนจี๋พึมพำกับตัวเองเขากลัวเกินกว่าจะเอ่ยปากทักทายโยชิโกะเพราะเธอมีพลังในระดับแกรนด์มาสเตอร์เลยทีเดียว
จากนั้นพวกเขาก็ขึ้นเครื่องบินแล้วออกเดินทางไปยังเมืองเซินไห่จากเมืองตงไห่
เมืองเซินไห่เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการมุ่งหน้าไปยังเกาะทมิฬเนื่องจากมันเป็นเมืองท่าริมทะเล
หกชั่วโมงต่อมา
เครื่องบินลงจอดในเมืองเซินไห่ซึ่งมีเรือหรูหราขนาดยักษ์จอดเทียบท่าอยู่ที่ท่าเรือ
ผู้โดยสารบนเรือต่างก็เป็นนักท่องเที่ยวที่กำลังจะเดินทางไปเกาะแปซิฟิก(ญี่ปุ่น)เนื่องจากเกาะทมิฬนั้นตั้งอยู่ระหว่างหัวเซี่ยและเกาะแปซิฟิก ฉิงเฟิงและเดอะแก๊งจึงคิดที่จะลงกลางทาง
เรือโดยสารอันหรูหรานี้มีขนาดใหญ่จนสามารถรองรับผู้โดยสารได้หลายคนมันถูกแบ่งออกเป็น 5 ห้องใหญ่ๆด้วยห้องสวีทที่หรูหรามากมายนอกเหนือไปจากห้องควบคุมของกัปตันและกะลาสี (ให้นึกถึงเรือยักษ์แบบไททานิค)
นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกและความบันเทิงมากมายอาทิเช่น ร้านอาหาร ผับและบาร์
ฉิงเฟิงพาโยชิโกะและทีมเขี้ยวหมาป่าเข้าไปทานอาหารค่ำในร้านอาหารสุดหรูที่ทั้งร้านทำจากคริสตัลมันเป็นร้านที่คนส่วนใหญ่มาดินเนอร์กันที่เรือนี้
ฉิงเฟิงชะงักทันทีในขณะที่เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่แข็งแกร่งจากคนจำนวนมากท่ามกลางฝูงชนเหล่านี้เป็นกลิ่นอายของผู้ฝึกยุทธ์โบราณและถูกฉิงเฟิงจับกลิ่นอายพลังได้แม้ว่าคนเหล่านั้นจะเก็บซ่อนพลังไว้เป็นอย่างดีก็ตาม มีผู้ฝึกยุทธ์อยู่บนเรือลำนี้นอกจากพวกเรางั้นหรือ
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วและเริ่มมองหาต้นตอของกลิ่นอายพลังนั้นเขามองไปที่คนห้าคนที่โต๊ะแรก พวกเขาสะพายกระบี่ในขณะที่แต่งตัวเหมือนมือกระบี่โบราณ พวกเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายกระบี่ที่คมกริบที่เปล่งออกมาโดยรอบ
ส่วนโต๊ะที่สองล้อมรอบไปด้วยกลุ่มคนในเสื้อคลุมสีชาด(สีแดงเข้ม)ใบหน้าของพวกเขาเป็นสีแดงด้วยรังสีสังหารที่เปล่งออกมา
โต๊ะที่สามถูกจับจองด้วยสาวน่ารัก5คนในชุดขาวกลิ่นอายพลังของพวกเธอก็แข็งแกร่งไม่น้อยเช่นกัน
แล้วก็โต๊ะที่สี่เป็นของกลุ่มคนในชุดเหลืองหัวหน้ากลุ่มคือสาวงามราวกับเทพธิดาในชุดขาวและมีวงหน้าที่งดงามเข้ารูปรูปไข่
ฉิงเฟิงไม่รู้จักยอดฝีมือของทั้งสามโต๊ะแรกอย่างไรก็ตามสาวงามที่เป็นหัวหน้ากลุ่มของโต๊ะที่สี่ก็คือสหายของเขานั่นเอง, ฉินเซียนจื่อบุตรสาวคนโตของตำหนักโห่วเย่อ