เจ้าเด็กผีออกไปดูข้างนอก สิ่งนี้ไม่ใช่พายุธรรมดา ทันใดนั้นเองเสียงของจักรพรรดิราตรีก็ดังก้องในหัวของฉิงเฟิง
อาวุโสลมพายุจะผิดปกติได้อย่างไรในเมื่อมันเกิดจากพายุเฮอริเคน ทุกคนก็รู้ๆกันอยู่
ไม่ใช่แบบนั้นข้ารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายพลังแปลกๆที่ใจกลางมหาสมุทร ตอนออกไปข้างนอกก็ระวังตัวด้วย
เข้าใจแล้ว ฉิงเฟิงพยักหน้าและเดินออกไปข้างนอก
ลู่ซวนจี๋เห็นฉิงเฟิงกำลังจะเดินออกไปก็ถามด้วยความงงงวยว่า บอสครับ จะออกไปไหนนี่ พายุแรงขนาดนี้ ผมเดาว่าอย่างน้อยก็ต้องเป็นพายุระดับสิบ
ฉิงเฟิงโบกมือและบอกว่า พวกนายกลับไปรอที่ห้องก่อน… อย่าออกมา ฉันจะไปดูอะไรหน่อย
เขาเดินออกจากร้านอาหารและขึ้นไปบนดาดฟ้าด้านนอกหลังจากกล่าวจบ
เรือลำนี้เป็นเรือโดยสารขนาดมหึมาที่มีดาดฟ้าขนาดใหญ่เท่ากับสนามบาสเกตบอล
ฉิงเฟิงมองตรงไปเบื้องหน้าที่มหาสมุทรอันไร้ที่สิ้นสุดคลื่นลมที่รุนแรงม้วนสูงร่วมสิบเมตรและกำลังมาที่เรือ
พายุที่ทรงพลังนี้ก่อตัวจากคลื่นลมแรงมันบดบังท้องฟ้าและกระแทกเรือโดยสารอย่างรุนแรงจนสั่นสะเทือนไปมาราวกับว่ามันพยายามจะพลิกคว่ำเรือ
เม็ดฝนขนาดใหญ่ตกลงบนดาดฟ้าพร้อมกับพายุทำให้เกิดเสียงดัง
เรือนร่างที่เต็มไปด้วยส่วนโค้งเว้าอันงดงามของฮวาเซียนจือยืนอยู่บนดาดฟ้าขณะที่เธอมองลงไปในมหาสมุทรภายใต้ผ้าคลุมหน้าสีขาวเธอจมดิ่งลงในความคิด
เม็ดฝนระเหยไปโดยอัตโนมัติทันทีที่เข้าใกล้กับโล่สีขาวที่ล้อมรอบรอบตัวเธอมันเป็นเกราะป้องกันพิเศษที่มีเพียงแกรนด์มาสเตอร์ผู้รู้แจ้งในเขตแดนเท่านั้นจึงจะพึงมี
ฉิงเฟิงก็ใช้พลังสร้างเกราะสีขาวขึ้นมาเช่นกันเม็ดฝนแหวกเป็นทางแยกให้แก่เขาในขณะที่เดินไปข้างหน้า
ฮวาเซียนจือหันหลังกลับมามองเมื่อเธอได้ยินเสียงฝีเท้าและเธอก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นฉิงเฟิง
ท่านออกมาทำอะไรข้างนอก ฮวาเซียนจือถามด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงของเธอเต็มไปเสน่ห์ที่น่าหลงใหล
ฉิงเฟิงฉีกยิ้มและกล่าวว่า มาดูสาวงามคนหนึ่ง
ฮวาเซียนจือรู้สึกประหลาดใจไม่น้อยเมื่อเห็นว่าฉิงเฟิงกล้าทำตัวเพลย์บอยใส่เธอทั้งๆที่เธอเป็นเทพธิดาผู้สูงศักดิ์แห่งตำหนักร้อยบุปผา
นี่เป็นครั้งแรกที่ฮวาเซียนจือรู้สึกอับอายด้วยความโกรธและเป็นความรู้สึกที่ไม่เหมือนใครเมื่อฉิงเฟิงเป็นคนแรกที่ทำตัวเจ้าชู้ใส่เธอ
ฉิงเฟิงหัวเราะออกมาเมื่อเขาเห็นว่าฮวาเซียนจือดูเหมือนจะโกรธเขากล่าวว่า อย่าใส่ใจเลย ผมก็แค่พูดขำๆ
นี่มันไม่ใช่เรื่องตลก! ฮวาเซียนจือกล่าวออกมาด้วยความโกรธ เธอรู้ชื่อของชายหนุ่มผู้นี้ตั้งแต่ที่ร้านอาหารแล้ว
ตูม!!
เกิดเสียงดังขึ้นหลังจากคลื่นอีกลูกหนึ่งซัดเข้ามาในเรือขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน
คลื่นระลอกนี้สูงมากและเมื่อมันซัดเข้าหาพวกเขาทั้งสองคนฮวาเซียนจือก็ยกมือที่ขาวเพรียวบางขึ้นเล็กน้อยและสะบัดมือสะเปะสะปะ คลื่นขนาดมหึมาก็สลายเป็นหยดน้ำจำนวนมากและตกลงไปในมหาสมุทรทันที
ขอบเขตแห่งแกรนด์มาสเตอร์ขั้นสูงสุด
!
ฉิงเฟิงรู้สึกประหลาดใจกับพลังอันแข็งแกร่งที่สลายคลื่นลูกนี้เขารู้ว่าฮวาเซียนจือต้องมีพลังในระดับแกรนด์มาสเตอร์ขั้นสูงสุดแน่นอน
ไม่เพียงแค่นี้ฉิงเฟิงก็ยังรู้สึกได้ถึงพลังงานที่แข็งแกร่งบางสายจากร่างกายของเธอ และตระหนักได้ว่าบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ร่างของผู้หญิงคนนี้น่าสะพรึงกลัวนัก
ฉิงเฟิงกลายเป็นมีสีหน้าเคร่งขรึมเป็นครั้งแรกหลังจากที่ตระหนักว่าฮวาเซียนจือคนนี้แข็งแกร่งเพียงใดเขาไม่ได้มีสีหน้าเช่นนี้แม้แต่ตอนที่สู้กับกู่เซียวแห่งศาลากระบี่
พายุที่รุนแรงกำลังสร้างคลื่นน้ำสูงมากกว่าสิบเมตรและสาดเข้าใส่เรืออย่างต่อเนื่องแต่ฮวาเซียนจือก็เพียงแต่จ้องมองไปที่มหาสมุทรอย่างเงียบงัน
ฉิงเฟิงละความสนใจของเขาจากฮวาเซียนจือไปยังพายุลมแรงที่บ้าคลั่งทันใดนั้นเองเขาก็เกิดการหยั่งรู้บางอย่าง เขาหยิบตำราเล่มหนึ่งออกมาและเริ่มอ่านทำความเข้าใจมัน สิ่งที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับเขตแดนพายุก็คือพลังลมและคลื่นลมที่รุนแรงจากพายุเฮอร์ริเคนฉิงเฟิงสลายม่านพลังลมปราณออกและยืนอยู่บนดาดฟ้า ปล่อยให้ลมและพายุปะทะกับร่างของเขา
สายลมนั้นอ่อนโยนจนบางครั้งกระทบใบหน้าของคุณอย่างอ่อนนุ่มแต่บางครั้งมันก็อาจจะดุร้ายจนฉีกร่างของคุณเป็นชิ้นๆได้
จากคำแนะนำในตำราการที่จะรุ้แจ้งในพลังนี้คนผู้นั้นจะต้องสัมผัสได้ถึงพลังของสายลมเป็นอันดับแรก ซึ่งนี่ก็คือสิ่งที่ฉิงเฟิงกำลังพยายามทำอยู่
กล่าวตรงไปตรงมาลมนั้นเป็นความผันผวนของอากาศและอาจเกิดจากมนุษย์หรือธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น ลมสามารถก่อตัวขึ้นเมื่อมีการพาความร้อนระหว่างอากาศเย็นและอากาศร้อน
ลมนั้นมาจากที่ใดและจะไปที่ไหนไม่มีผู้ใดสามารถหยั่งรู้ได้
สายลมรุนแรงจากพายุเฮอร์ริเคนกำลังพัดผ่านร่างของฉิงเฟิงจนสร้างความเจ็บปวดที่ผิวหนังของเขาเล็กน้อย
ฉิงเฟิงสลายม่านพลังและปล่อยให้สายลมที่รุนแรงพัดเข้ามาในร่างกายของเขาเขากำลังสัมผัสถึงพลังของลมโดยใช้ร่างกายและจิตใจ
ในขณะนี้ฉิงเฟิงเป็นผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์เขารู้แจ้งในเขตแดนเพลิงและแรงโน้มถ่วง ดังนั้นเขาจึงมีประสบการณ์เพียงพอเมื่อเขากำลังจะทำความเข้าใจให้รู้แจ้งในเขตแดนพายุ
เขาเข้าใจวิธีการพื้นฐานของลมในเวลาไม่นานและสามารถสร้างพายุทอร์นาโดในอากาศได้ด้วยพลังจิตของเขามันเป็นแค่พายุทอร์นาโดขนาดเล็ก แต่ก็ยังนับว่าเป็นลม
ฉิงเฟิงดูเหมือนจะมีความสุขมากหลังจากความสำเร็จในครั้งแรกและยังคงสร้างพายุทอร์นาโดต่อไปด้วยพลังจิตของเขา
หนึ่งสอง… สาม พายุขนาดยักษ์ก่อตัวมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆในที่สุด
ด้วยความเฉลียวฉลาดของฉิงเฟิงและพลังของลมฟ้าอากาศที่ดุเดือดบนมหาสมุทรช่วยทำให้เขาเรียนรู้เขตแดนพายุได้ในที่สุด
เราต้องพูดว่านี่นับเป็นความช่วยเหลือจากพระเจ้าโดยแท้เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับฉิงเฟิงที่จะเข้าใจเขตแดนแห่งพายุได้ถ้าเขาไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ตอนนี้
ฮ่าๆๆเขตแดนอีกหนึ่งสาย ! ฉิงเฟิงหัวเราะอย่างร่าเริงและเต็มไปด้วยความสุข
ในตอนนี้เขาครอบครองเขตแดนเพลิงพินาศเขตแดนแรงโน้มถ่วงและเขตแดนพายุ เขาเชื่อว่าเขาสามารถฆ่าใครก็ได้ภายในเสี้ยววินาทีด้วยเขตแดนทั้งสามนี้
ฮวาเซียนจือเหลือบมองไปที่ฉิงเฟิงและเอ่ยว่า เลิกหัวเราะได้แล้ว มีบางอย่างกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้
อะไรนะ บางอย่างกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้
ฉิงเฟิงรู้สึกประหลาดใจจากนั้นเขาก็ทอดสายตามองไปในมหาสมุทร ทันใดนั้นเองรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หายไป
มันเป็นเรือขนาดยักษ์ที่กำลังตรงดิ่งมาทางนี้จากระยะไกลมันมีขนาดใหญ่เท่ากับเรือโดยสารลำนี้และมีสีดำสนิทรวมทั้งมีธงรูปกะโหลกอีกด้วย
เรือโจรสลัด
มันคือเรือโจรสลัด
ฉิงเฟิงรู้สึกตกใจเมื่อเห็นสัญลักษณ์ที่ธงบนเรือลำนั้น
เขาเคยท่องไปทั่วทั้งทวีปหมาป่ารวมไปถึงมหาสมุทรในฐานะราชันหมาป่าก่อนหน้านี้ครั้งหนึ่งทีมเขี้ยวหมาป่าของเขาเกือบจะถูกทำลายล้างโคตรอย่างสมบูรณ์เมื่อตอนที่พวกเขาได้ไปปะทะเข้ากับเรือโจรสลัด
พวกมันเหล่านี้ไม่ใช่โจรสลัดโดยทั่วไปแต่พวกมันเป็นโจรสลัดที่แข็งแกร่งที่รู้จักศิลปะการต่อสู้อีกทั้งยังมีปืนใหญ่และปืนกล
โจรสลัดที่ทรงพลังอำนาจบางคนสามารถเรียกใช้ปีศาจทะเลเพื่อโจมตีเรือโดยสารด้วยวิธีพิเศษของพวกมัน