ก็ข้าคิดว่าตนเองเป็นเพียงคนเดียวที่รู้วิธีเก็บผลวิวัฒน์ธาตุลมนี่หว่าใครจะไปรู้เล่าว่าแม่นางน้อยผู้นั้นจะรู้เช่นกัน เสียงของจักรพรรดิราตรีดังขึ้นในหัวของฉิงเฟิง
ผู้คนมากมายเคยได้ยินเกี่ยวกับผลวิวัฒนาการในตำนานแต่พวกเขาไม่รู้วิธีการเด็ดมัน จักรพรรดิราตรีมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้หลังจากเขากลายเป็นผู้ฝึกตน แต่ว่าฮวาเซียนจือรู้ได้อย่างไร
หรือว่าบางที….เธอก็เป็นผู้ฝึกตนเช่นกัน
จักรพรรดิราตรีพยายามที่จะคาดเดาตัวตนที่แท้จริงของเธอแต่ก็ยังนึกไม่ออก จากนั้นเขาก็กล่าวกับฉิงเฟิงว่า เจ้าหนู แม่นางน้อยคนนั้นทั้งทรงพลังและรอบรู้กว้างขวาง หากเจ้ายังเดินทางพร้อมกับนาง มั่นใจได้เลยว่าเจ้าจะไม่ได้สมบัติใดๆแม้แต่ชิ้นเดียว ข้าว่าเจ้าแยกทางกับนางจะเป็นการดีที่สุด
ฉิงเฟิงพยักหน้าและเห็นด้วยกับจักรพรรดิราตรีทันทีเห็นได้ชัดว่าฮวาเซียนจือคุ้นเคยกับเกาะทมิฬแห่งนี้เป็นอย่างดี หากเดินทางพร้อมกับเธอ ถึงแม้ว่าจะปลอดภัย แต่เขาก็จะไม่ได้สมบัติใดๆ
ฮวาเซียนจือ,ทุกคน ฉันขอแยกทางนะ ไว้เจอกันใหม่ ฉิงเฟิงยิ้มบางๆและกล่าวกับฮวาเซียนจือและทุกคน
ก่อนที่ฮวาเซียนจือจะพูดอะไรฉิงเฟิงก็จากไปพร้อมกับทีมเขี้ยวหมาป่าและโยชิโกะ
ส่วนคนที่เหลือต่างก็แยกย้ายหลังจากที่กลุ่มของฉิงเฟิงจากไปพวกเขาไม่ได้โง่และต่างก็รู้ว่า ถ้าหากเดินทางพร้อมเธอพวกเขาก็กลับไปมือเปล่า
ฮวาเซียนจือพวกเรานิกายดาบทมิฬก็ขอแยกทาง
ศาลากระบี่ของพวกข้าจะไปอีกทางหนึ่งไว้พบกันใหม่
ตำหนักโห่วเย่อหวงตี้เช่นกันพวกเราหวังว่าพวกท่านจะได้ในสิ่งที่ต้องการ นิกายแวมไพร์ด้วย
จากนั้นกองกำลังกลุ่มใหญ่ก็แยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง
ฮวาเซียนจือแข็งแกร่งเกินไปและทำให้ทุกคนต่างก็ตกใจพวกเขาไม่มีทางได้อุปกรณ์วิญญาณแน่ถ้าหากติดตามเธอไปจนถึงใจกลางเกาะ การแยกทางกับเธอเป็นเรื่องที่ดีที่สุด
ภายในพริบตาก็เหลือเพียงฮวาเซียนจือและสตรีอีกสี่นางจากตำหนักร้อยบุปผาเท่านั้น
ท่านนักบุญคะในที่สุดคนเหล่านั้นก็แยกทางกับพวกเรา หญิงสาวในชุดเขียวกล่าว
ในสายตาของเธอนักบุญผู้นี้ทรงพลังที่สุด คนกลุ่มนี้ต่างไร้ประโยชน์ แม้แต่แมงมุมหน้าคนที่แข็งแกร่งก็ตายด้วยน้ำมือเธอ
ฮวาเซียนจือยิ้มและกล่าวว่า ไม่แปลกหรอกที่พวกเขาจะทิ้งพวกเราไป พวกเขารุ้ว่าถ้าตามข้าไป พวกเขาจะไม่ได้สมบัติแม้แต่ชิ้นเดียว แต่ผลที่ตามมาก็คือพวกเขาจะตายกันไวขึ้น
หญิงสาวชุดเขียวพยักหน้าพวกเขาเห็นว่าฮวาเซียนจือสามารถเด็ดผลวิวัฒน์ได้อย่างง่ายดายจึงคิดว่าเธอคุ้นเคยกับเกาะแห่งนี้ ถึงแม้ว่าการติดตามฮวาเซียนจือจะทำให้ไม่อาจได้สมบัติ แต่ชีวิตของพวกเขาก็จะปลอดภัย ทุกคนต่างก็มีความโลภและต้องการหาสมบัติด้วยตัวเอง แต่นั่นก็หมายถึงความเสี่ยงต่อความตาย
อ๊ากกกกกกกกกก!!
ราวกับจะพิสูจน์สิ่งที่ฮวาเซียนจือพูดภายในเวลาไม่นานก็มีผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งกรีดร้องลั่นเกาะความด้วยเจ็บปวด มันดูเหมือนว่าเขาจะกำลังจะตายด้วยน้ำมือสัตว์ร้ายบางอย่าง
พวกเราไปหาอุปกรณ์วิญญาณกันเถอะ ฮวาเซียนจือฉีกยิ้มและเริ่มออกเดินทางต่อไป
ในเวลาเดียวกันการแสดงออกของกลุ่มฉิงเฟิงและทีมเขี้ยวหมาป่าก็เปลี่ยนไปเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนเพียงไม่นานหลังจากแยกทางกับฮวาเซียนจือ
บอสๆทำไมพวกเราถึงแยกทางกับฮวาเซียนจือละครับ เจ้าโล้นยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงแยกทางกัน
ฉิงเฟิงยังไม่ทันพูดลู่ซวนจี๋ก็กล่าวขึ้นว่า เจ้าโง่ นายไม่เห็นรึไงว่าฮวาเซียนจือทั้งแข็งแกร่งและรอบรู้ หากพวกเราอยู่ข้างๆเธอ เราจะไม่ได้อะไรเลย เหมือนมาเดินเล่นตามเกาะแบบเช้าเย็นกลับนั่นแหละ !
เจ้าโล้นลูบเคราและขบคิดจากนั้นก็พยักหน้าเข้าใจ ก่อนหน้านี้บอสของเขามีโอกาสเด็ดผลวิวัฒน์ธาตุลม แต่ฮวาเซียนจือก็ตัดหน้าไป
ชู่วๆเงียบหน่อย
ทันใดนั้นเองฉิงเฟิงขมวดคิ้วและบอกให้ทั้งสองคนเงียบเพราะเขาได้ยินเสียงบางอย่างอยู่ข้างหน้าพวกเขา เสือตัวหนึ่งปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขามันมีความยาว 5 เมตรซึ่งใหญ่กว่าเสือปกติถึงสองเท่าและมีขนสีดำทมิฬ
สัตว์ร้ายที่วิวัฒนาการอีกตัวแล้ว
!
การแสดงออกของฉิงเฟิงกลายเป็นจริงจังมันเกิดอะไรขึ้นบนเกาะนี้และทำไมถึงมีสัตว์ร้ายวิวัฒนาการมากมาย
ฉิงเฟิงรู้สึกประหลาดใจที่ได้พบแมงมุมหน้าคนแต่ตอนนี้เขารู้สึกตกใจเมื่อพบกับสัตว์ร้ายตัวใหม่อีกตัว
สัตว์ป่าคือเป็นสัตว์ปกติแต่พวกมันจะวิวัฒนาการเป็นสัตว์ร้ายหลังจากกินผลวิวัฒนาการเข้าไป พวกมันจะสามารถพูดได้และมีสติปัญญาในระดับหนึ่ง ซึ่งพลังของเสือดำตัวนี้สูงมาก มันสูงกว่าแมงมุมหน้าคนด้วยซ้ำ มันเทียบเท่ากับแกรนด์มาสเตอร์ขั้นปลาย เกือบจะถึงขั้นสูงสุด !
ซวนจี๋เจ้าโล้น พวกนายไม่ใช่คู่มือของมัน หลบไปอยู่หลังฉันเร็ว
ฉิงเฟิงบอกให้ทุกคนหลบอยู่ข้างหลังเขาเพื่อปกป้องเพื่อนในทีม
โฮกกกกกกก!
เสือดำโห่ร้องออกมาและจ้องมองไปที่ฉิงเฟิงมันกระโดดขึ้นบนฟ้าพร้อมด้วยกรงเล็บอันแหลมคมที่พุ่งเข้าใส่ฉิงเฟิง
กรงเล็บของมันฉีกอากาศออกจากกันตามมาด้วยเสียงแหลมแสบแก้วหูมันทรงพลังมาก
เขตแดนแรงโน้มถ่วง
!!
ฉิงเฟิงใช้พลังเขตแดนของเขาในทันทีเขตแดนแรงโน้มถ่วงสีดำก่อตัวขึ้นเป็นรูปโดมทรงกลมและปกคลุมเสือดำตัวนั้นไว้
โครม! ร่างกายของเสือดำร่วงลงกับพื้นตามมาด้วยเสียงอันดังแม้ว่าเสือตัวนี้จะมีพลังในระดับแกรนด์มาสเตอร์ขั้นปลาย แต่สติปัญญาของมันก็ยังมีจำกัดและไม่มีพลังเขตแดนเป็นของตัวเอง ดังนั้นมันจึงเป็นเหตุผลที่ฉิงเฟิงสามารถขังมันไว้ในเขตแดนของเขาได้
เขตแดนพายุ
!
ฉิงเฟิงปล่อยเขตแดนพายุซ้ำออกไปอีกทีหลังจากใช้เขตแดนแรงโน้มถ่วงของเขามันก่อตัวเป็นดาบลมขนาดใหญ่ในเขตแดน
ดาบลมเล่มนี้แยกบรรยากาศออกจากกันและตัดหัวเสือดำตัวนั้นทันที
เพียงพริบตาเดียวเสือดำก็ตายโดยไม่มีโอกาสตอบโต้
มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับฉิงเฟิงในการฆ่าเสือดำที่มีพลังระดับแกรนด์มาสเตอร์เขายังไม่ได้ใช้กระบี่เพลิงคะนองด้วยซ้ำ
โหบอส โคตรเด็ด ! บอสทรงพลังมาก เหล่าสมาชิกในทีมเขี้ยวหมาป่าต่างก็มองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความอิจฉา
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าบอสของเขาได้กลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์โบราณไปแล้วก็ตามแต่พวกเขาก็ไม่เคยเห็นบอสสำแดงฝีมือจริงๆสักครั้ง หลังจากที่พวกเขาเห็นฉิงเฟิงใช้พลังฆ่าเสือดำตัวนี้ พวกเขาก็ประจักษ์แล้วว่าบอสของพวกเขายังคงไร้เทียมทานแม้แต่ในโลกแห่งผู้ฝึกยุทธ์
บอสครับผมไม่เข้าใจ ในเมื่อบอสมีพลังขนาดนี้ทำไมไม่ฉะกับแม่เทพธิดาคนนั้นแย่งชิงผลวิวัฒน์ไปเลยละครับ ลู่ซวนจี๋ถามขึ้น
ฉิงเฟิงยิ้มและกล่าวว่า ศัตรูของพวกเราคือศาลากระบี่ นิกายดาบทมิฬและนิกายแวมไพร์ หากเราต้องประกาศสงครามกับฮวาเซียนจือเพียงเพื่อผลวิวัฒน์ธาตุลม พวกเราจะเต็มไปด้วยศัตรูรอบด้านและเสียเปรียบในทันที อย่าลืมว่าที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของเรา ทุกคนแปลกใจแต่สุดท้ายก็เข้าใจและยอมรับการตัดสินใจของบอสฉิงเฟิงคิดคำนวนไว้ก่อนแล้วว่าบนเกาะนี้ย่อมมีผลวิวัฒน์อีกมากมาย ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องเปิดศึกกับตำหนักร้อยบุปผาเพื่อผลไม้ลูกเดียว
ฮวาเซียนจือแข็งแกร่งมากถึงแม้ทุกคนในทีมจะเชื่อมั่นในตัวของฉิงเฟิง แต่พวกเขาก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าบอสของพวกเขาจะเอาชนะฮวาเซียนจือได้ ทุกคนแปลกใจแต่สุดท้ายก็เข้าใจและยอมรับการตัดสินใจของบอสฉิงเฟิงคิดคำนวนไว้ก่อนแล้วว่าบนเกาะนี้ย่อมมีผลวิวัฒน์อีกมากมาย ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องเปิดศึกกับตำหนักร้อยบุปผาเพื่อผลไม้ลูกเดียว
ฮวาเซียนจือแข็งแกร่งมากถึงแม้ทุกคนในทีมจะเชื่อมั่นในตัวของฉิงเฟิง แต่พวกเขาก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าบอสของพวกเขาจะเอาชนะฮวาเซียนจือได้