หลี่ฉิงเฟิงเจ้าต้านทานการโจมตีของข้าได้อย่างไร การแสดงออกของหลางเทียนเปลี่ยนไปและดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ใช่แล้วความกลัว มันไม่ใช่ความตกใจอีกต่อไป มันกลายเป็นความหวาดกลัวอย่างแท้จริง หลางเทียนเป็นยอดฝีมือในขอบเขตครึ่งก้าวจิตวิญญาณแท้จริงและมีพลังเป็นสองเท่าของผู้ฝึกยุทธ์ในขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์ขั้นสูงสุด เขากลับพ่ายด้วยการปะทะหมัดกับหลี่ฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้เห็นสีหน้าแตกตื่นของหลางเทียนหมัดทลายนรกานต์เป็นเพลงหมัดที่เป็นผลพวงมาจากการบ่มเพาะกายาแดนชำระ มันเป็นเคล็ดวิชาเสริมความแข็งแกร่งของผู้ฝึกตนที่สามารถวิวัฒนาการผู้ฝึกให้มีกายาอมตะได้ มันเป็นสิ่งที่ยอดฝีมืออย่างหลางเทียนไม่มีโอกาสได้ฝึกฝน นับว่าเป็นโชคดีสำหรับหลางเทียนเพราะฉิงเฟิงยังอยู่แค่จุดสูงสุดแกรนด์มาสเตอร์ถ้าหากเขาได้ก้าวเข้าสู่ขั้นจิตวิญญาณแท้จริงแล้วละก็หมัดเมื่อครู่คงสังหารหลางเทียนในทันที
ประจุพลังแท้รวมไปถึงความแข็งแกร่งของฉิงเฟิงไม่ได้มีมากเท่ากับหลางเทียนแต่ฉิงเฟิงมีเคล็ดวิชาที่ทรงพลังมากกว่าและอาวุธวิญญาณที่เหนือกว่า นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เขาได้เปรียบในตอนนี้
หลี่ฉิงเฟิงแข็งแกร่งเพียงนี้ ใบหน้าที่งดงามของฮวาเซียนจือเต็มไปด้วยความตกใจเมื่อเธอเห็นสิ่งนี้
ในฐานะที่เป็นนักบุญของตำหนักร้อยบุปผา,กองกำลังระดับซุปเปอร์ฮวาเซียนจือรับรู้ถึงตัวตนที่สูงส่งและทรงพลังของผู้ฝึกตนเป็นอย่างดี แต่เขากลับถูกกดดันด้วยพลังหมัดของหลี่ฉิงเฟิง นี่หมายความว่าความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาเหนือกว่าอย่างมาก ฮวาเซียนจือเชื่อว่าแม้แต่เธอเองถ้าต้องเปรียบเทียบกับฉิงเฟิงในแง่ความแข็งแกร่งทางกายภาพเธอก็สู้เขาไม่ได้
หากวัดกันที่ความแข็งแกร่งทางกายภาพฉิงเฟิงสามารถเอาชนะได้ทุกคนในขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์และแม้แต่ครึ่งก้าวจิตวิญญาณแท้จริง !
ไม่เพียงแค่ฮวาเซียนจือเท่านั้นที่ตกใจแต่ยังรวมไปถึงชาวเฟิงอู่ เจิ้นเทียนและเฮ่าหมิงอีกด้วย
การที่ได้เห็นว่าความแข็งแกร่งทางกายภาพของชายหนุ่มผู้นี้สามารถปะทะซึ่งหน้าได้แม้กระทั่งผู้ฝึกตนครึ่งก้าวทุกคนต่างตกใจอย่างมาก
ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะแพ้เด็กอย่างเจ้าหมัดคลื่นสมุทร !! หลางเทียนออกหมัดอีกครั้งและชกเข้าใส่ฉิงเฟิงอย่างดุดัน
หลางเทียนโกรธเกรี้ยวมากเขาเป็นถึงผู้ฝึกตนและยังเป็นหัวหน้าตระกูลคาราเต้ซึ่งเป็นกองกำลังระดับซุปเปอร์ของเกาะแปซิฟิกเขาจะยอมแพ้คนหัวเซี่ยได้อย่างไร
หลางเทียนไม่ยอมรับเขาทุ่มเทพลังทั้งหมดเข้าในหมัดเดียวเพื่อฆ่าฉิงเฟิง เขาต้องการแสดงให้ทุกคนเห็นถึงพลังของเขาและความภาคภูมิใจในฐานะหัวหน้าตระกูลคาราเต้
หมัดทลายนรกานต์
!
โดยไม่มีคำพูดจาฉิงเฟิงง้างหมัดทลายนรกานต์เข้าปะทะอีกครั้ง มันก่อตัวเป็นคลื่นพลังสีดำขนาดใหญ่และปะทะเข้ากับหมัดคลื่นสมุทรของหลางเทียน
ปัง!!
ไม่ต้องแปลกใจเลยฉิงเฟิงต้านทานพลังหมัดของหลางเทียนได้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แค่มือของเขาที่สั่นระริก มันยังมีเลือดออกอีกด้วย นี่มันเกิดอะไรขึ้น หลางเทียนเป็นหัวหน้าตระกูลคาราเต้ที่ทรงพลัง เขาได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับหลี่ฉิงเฟิงได้อย่างไร ?
ข้าก็คิดว่าหลี่ฉิงเฟิงมีพลังไม่เท่ากับหลางเทียนแต่ทำไมหลางเทียนถึงได้บาดเจ็บ
เฮ้อหลางเทียนน่าขายหน้าจริงๆ เขาพ่ายแพ้แม้กระทั่งคู่ต่อสู้ชาวหัวเซี่ยที่ระดับพลังต่ำกว่า
ทุกคนโดยรอบต่างพูดคุยกันและมองไปที่หลางเทียนอย่างเยาะเย้ย
ชาวเกาะแปซิฟิกชื่นชมผู้ที่แข็งแกร่งตราบใดที่คุณแข็งแกร่งพวกเขาจะเคารพคุณหรือแม้กระทั่งยอมเป็นข้ารับใช้ แต่หากคุณอ่อนแอพวกเขาก็จะเยาะเย้ยถากถาง
การที่หลางเทียนได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับฉิงเฟิงผู้ซึ่งมีพลังอ่อนด้อยกว่าสร้างความอับอายต่อความภาคภูมิใจของชาวเกาะแปซิฟิกดังนั้นผู้คนโดยรอบจึงตำหนิเขาเป็นธรรมดา
การแสดงออกของหลางเทียนบิดเบี้ยวเขารู้ดีว่าชาวเกาะแปซิฟิกชื่นชมผู้ที่แข็งแกร่ง การปะทะกับฉิงเฟิงในยกนี้ได้ทำลายชื่อเสียงของเขาไปแล้ว
หลี่ฉิงเฟิงเจ้าอย่าเหิมเกริมไปนัก ข้ายังไม่ได้ใช้พลังเต็มที่ ตอนนี้เขาจะปล่อยมันออกมาเพื่อฆ่าเจ้า ! หลางเทียนกล่าวอย่างเยือกเย็นด้วยการแสดงออกที่ดูน่ากลัว
ในฐานะหนึ่งในสุดยอดฝีมือของกองกำลังระดับซุปเปอร์บนเกาะแปซิฟิกหลางเทียนย่อมจำกัดความแข็งแกร่งเอาไว้เป็นธรรมดา เพราะการใช้พลังนี้จะมีผลกระทบที่ตามมา ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยใช้มัน
โห เป็นสุดยอดไม้ตายแบบไหนละ ? แสดงออกมาเลย ให้ฉันได้สนุกกว่านี้หน่อยเถอะ ฉิงเฟิงรู้สึกสนใจ
แม้ว่าฉิงเฟิงจะทำให้หลางเทียนได้รับบาดเจ็บแต่มันก็เป็นแค่บาดแผลภายนอกเสียส่วนใหญ่ ชายผู้นี้ยังไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงจนถึงขั้นตัดสินผลการต่อสู้ได้ อย่างไรตาม ฉิงเฟิงได้ผลาญพลังแท้ไปมหาศาลในการใช้หมัดทลายนรกานต์
พลังแท้คือสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการโคจรหมัดทลายนรกานต์ด้วยระดับพลังของเขาในตอนนี้เขาสามารถออกหมัดได้เพียงสองครั้งเท่านั้น ตอนนี้เขาได้ใช้ไปหมดแล้วซึ่งก็หมายความว่าในการโจมตีครั้งต่อไปของหลางเทียน ฉิงเฟิงจะไม่สามารถใช้หมัดทลายนรกานต์เข้าปะทะได้อีก
อย่างไรก็ตามหลางเทียนไม่ได้รับรู้ว่าหมัดที่ทรงพลังของฉิงเฟิงนี้กินพลังงานมหาศาล เขาคิดว่าฉิงเฟิงอาจจะใช้ออกมาอีก ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจปลดปล่อยพลังทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อฆ่าฉิงเฟิงและกู้คืนศักดิ์ศรีของเขา
หลี่ฉิงเฟิงพลังที่แท้จริงของข้าคือพลังสายเลือดที่ทรงอำนาจ เจ้าไม่มีทางต้านรับมันได้อีก ! หลางเทียนแสยะยิ้มอย่างเย็นชาด้วยความภาคภูมิใจ พลังสายเลือด
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วด้วยท่าทางแปลกประหลาดเขาพยายามกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้เมื่อได้ยินที่หลางเทียนพูด เขาคิดว่าหลางเทียนผู้นี้ช่างโง่งมนัก
ถ้าหากหลางเทียนยังคงโจมตีฉิงเฟิงต่อไปด้วยเคล็ดวิชาเขาอาจจะต้องคิดหนักว่าจะตอบโต้อย่างไร แต่ในเมื่ออีกฝ่ายใช้พลังสายเลือด มันคืออาหารอันโอชะของเขา !
ฉิงเฟิงไม่เคยแพ้ใครด้วยพลังสายเลือดสายเลือดของเขาแข็งแกร่งกว่ากระบี่เพลิงคะนองเสียอีก
โชคไม่ดีสำหรับหลางเทียนเขาไม่รู้เลยว่าฉิงเฟิงครอบครองพลังสายเลือดแบบไหน
สายเลือดสุนัขทมิฬ
!!
หลางเทียนคำรามก้องและปลดปล่อยสายเลือดสุนัขทมิฬในตัวเขาออกมา
ดวงตาและทั่วทั้งร่างกายของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำทมิฬแฟนท่อมสุนัขทมิฬขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเหนือหัวของหลางเทียน มันมีความยาวประมาณห้าเมตรด้วยดวงตาที่ดูกระหายเลือดและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังมหาศาล
สายเลือดสุนัขทมิฬเป็นสายเลือดระดับกลางขั้นแรกที่ทรงพลังกว่าสายเลือดที่ฉิงเฟิงเคยพานพบมาในอดีตก่อนหน้านี้เขาเคยปะทะแต่กับสายเลือดระดับต่ำขั้นแรกเท่านั้น หลางเทียนผู้นี้ทรงพลังอย่างปฏิเสธไม่ได้ เขาถึงกับสามารถปลุกพลังสายเลือดระดับกลางขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตาม มันยังไม่สามารถเอาชนะพลังสายเลือดของฉิงเฟิงได้
เหอะชาวเกาะแปซิฟิกชอบเป็นหมาซะจริง แม้กระทั่งพลังสายเลือดของนายก็ยังเป็นหมาสีดำเลย ฉิงเฟิงกล่าวเยาะเย้ยด้วยรอยยิ้มอย่างเย็นชา
ฉิงเฟิงรู้สึกว่าหลางเทียนผู้นี้น่าขันนักพลังสายเลือดที่สามารถปลุกขึ้นได้มีตั้งมากมายไม่ว่าจะเป็น ปู กุ้ง แต่นี่…….หมาดำ หรือบรรพบุรุษของเขาเป็นพ่อพันธุ์สุนัขหรือไง ?
บัดซบเจ้ากล้าดียังไงถึงได้มาหยามหมิ่นข้าเช่นนี้ ! สุนัขทมิฬกลืนอาทิตย์ กินมันทั้งเป็นเลย ! หลางเทียนตะโกนออกมาด้วยความโกรธและปลดปล่อยคมเขี้ยวกระหายเลือดของสุนัขทมิฬด้วยพลังงานสายเลือดและพุ่งเข้าใส่ฉิงเฟิงทันที