ตำหนักโกสคิง…พวกแกสมควรตาย
จิตสังหารพวยพุ่งออกมาจากทุกตารางนิ้วของร่างกายฉิงเฟิง
ในขณะนี้เขามั่นใจแล้วว่าตำหนักโกสคิงเป็นผู้ที่ลักพาตัวหลิวหรูหยานไปข้อสรุปนี้มาจากรหัสลับเลข 7 ที่อลิซทิ้งไว้
ตำหนักโกสคิงเป็นกองกำลังระดับซุปเปอร์ในเมืองเทียนจิงมันยิ่งใหญ่กว่า 4 ตระกูลใหญ่ของเมือง ฉิงเฟิงมีความขัดแย้งมากมายกับตำหนักโกสคิงจนถึงจุดที่พวกมันวางแผนฆ่าเขาเสมอ อย่างไรก็ตาม ฉิงเฟิงก็ได้ฆ่าสาวกของพวกมันไปมากมายเช่นกัน ดังนั้นสองฝ่ายจึงกลายเป็นศัตรูคู่แค้นกันโดยธรรมชาติ
เห็นได้ชัดว่าศัตรูคนสำคัญที่สุดของฉิงเฟิงในตำหนักโกสคิงก็คือเฮลคิงความเกลียดชังระหว่างพวกเขานั้นลึกล้ำราวกับก้นทะเลลึก ทั้งสองต้องสู้กันจนกว่าจะมีใครตายเท่านั้น !
ในครั้งนี้ฉิงเฟิงสาบานว่าเขาจะต้องฆ่าเฮลคิงและทำลายล้างตำหนักโกสคิงให้จงได้
พวกแกคิดว่าเป็นกองกำลังระดับซุปเปอร์แล้วจะทำอะไรตามใจก็ได้งั้นหรือ ผิดแล้ว ครั้งนี้ฉันจะกวาดล้างพวกแกให้หมด ! คลื่นแห่งจิตสังหารหมุนวนอยู่ในใจของฉิงเฟิง มันร้อนแรงจนเขารู้สึกราวกับว่าร่างจะระเบิดได้ทุกเมื่อ
ไปกันบุกตำหนักโกสคิงกับฉัน ! รอยยิ้มที่น่าสยดสยองปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เศร้าสลดของฉิงเฟิง จากนั้นเขาก็ขึ้นเฮลิคอปเตอร์และมุ่งหน้าไปยังเมืองเทียนจิงพร้อมกับสมาชิกทั้งหมดที่เหลือของทีมเขี้ยวหมาป่า
ฉิงเฟิงรู้ว่าวันนี้เป็นวันกำหนดคลอดของหลิวหรูหยานและไม่สามารถเลื่อนได้ สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ เขาไม่อาจให้ใครมาทำร้ายเธอกับลูกในท้องได้เด็ดขาด
บนเฮลิคอปเตอร์ฉิงเฟิงโทรหาลั่วหนี่ชิงและถังเจียงเฮอในทันที (หัวหน้าตระกูลใหญ่ของเมืองเทียนจิงที่ไปรุมยำฉิงเฟิงแล้วแพ้เลยยอมเป็นเบ๊ เผื่อใครลืม)
เขาขอให้พวกเขาใช้การเส้นสายทั้งหมดที่มีในเมืองเพื่อสืบหาว่าที่ตั้งของตำหนักโกสคิงแท้จริงแล้วอยู่ที่ไหน
ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของหลิวหรูหยาน ฉิงเฟิงจึงโทรหาชาวเฟิงอู่ที่กำลังอยู่บนเรือและขอให้เธอปิดล้อมเมืองเทียนจิงทั้งหมดทุกเส้นทาง แม้แต่นกก็ห้ามบินออกไป
ถึงแม้ว่าชาวเฟิงอู่จะยังคงอยู่บนเรือเพราะเธอเพิ่งมาถึงชายฝั่งหัวเซี่ยแต่เธอก็รับปากฉิงเฟิงและติดต่อเจ้าหน้าที่ของหน่วยความมั่นคงพิเศษทันที
นอกจากหน่วยรักษาความปลอดภัยพิเศษแล้วยังมีฮวาเซียนจือและฉินเซียนจื่อที่กำลังตามมาสมทบกับฉิงเฟิงที่เมืองเทียนจิงมันไม่สำคัญว่าตำหนักร้อยบุปผาและตำหนักโห่วเย่อหวงตี้จะยิ่งใหญ่เพียงใด แต่ในเมื่อพวกเธอต้องการดึงตัวเขาเข้าร่วม พวกเธอจึงเต็มใจช่วยเขา
ฉิงเฟิงขับเฮลิคอปเตอร์จากเมืองตงไห่ไปยังเมืองเทียนจิงพร้อมกับทีมเขี้ยวหมาป่าและได้ลงจอดในลานกว้างของตระกูลลั่ว
ลั่วหนี่ชิงแต่งตัวในชุดยาวสีม่วงเธอเบือนหน้าอันมีเสน่ห์ของเธอไปหาฉิงเฟิงและมองดูเขาอย่างใจจดใจจ่อ
มันผ่านมานานพอดูนับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ลั่วหนี่ชิงได้พบกับฉิงเฟิงเธอคิดถึงเขามาก
มิสลั่วฉันขอให้คุณตรวจสอบที่อยู่ของตำหนักโกสคิง ได้ความว่ายังไงบ้าง
ฉิงเฟิงไม่เอ่ยปากทักทายและถามคำถามตรงเข้าประเด็นทันทีที่ลงจากเฮลิคอปเตอร์
เมื่อสัมผัสได้ถึงสีหน้าเคร่งเครียดและเข้าใจว่าสถานการณ์ตอนนี้ร้ายแรงสำหรับฉิงเฟิงเพียงใดลั่วหนี่ชิงจึงตอบทันทีว่า เรียบร้อยแล้ว ตำหนักโกสคิงตั้งอยู่ใต้โกสคิงวิลล่าทางทิศตะวันตกของเมืองเทียนจิง
ตระกูลลั่วเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ในเมืองเทียนจิงพวกเขาเป็นตระกูลชั้นหนึ่งซึ่งไม่ได้มีอิทธิพลมากเท่ากับตระกูลระดับสูงสุด แต่ก็ยังนับว่ามีอิทธิพลทางโลกมากพอ ดังนั้นมันจึงใช้เวลาเพียงไม่นาน เธอก็พบว่าตำหนักโกสคิงอยู่ที่ไหน
ความยินดีปรากฏในแววตาของฉิงเฟิงเขารู้สึกตื่นเต้นดีใจมาก เขาจะสามารถช่วยหลิวหรูหยานได้ตราบเท่าที่เขารู้ว่าตำหนักโกสคิงอยู่ที่ไหน
มิสลั่วฉันต้องไปก่อน ไว้เจอกันใหม่ ฉิงเฟิงโบกมือพร้อมออกไปกับทีมเขี้ยวหมาป่า
เดี๋ยวก่อนหลี่ฉิงเฟิงชั้นจะพาคนไปกับคุณด้วย ตำหนักโกสคิงเป็นกองกำลังระดับซุปเปอร์ พวกเขาทรงอำนาจมาก ลั่วหนี่ชิงเผยอริมฝีปากสีแดงและรีบกล่าวในทันที
ถึงแม้จะรู้ว่าตำหนักโกสคิงน่าเกรงขามยิ่งกว่าตระกูลลั่วแค่ไหนแต่ลั่วหนี่ชิงก็ไม่กริ่นเกรงเพราะเธอต้องการช่วยฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงชะงักเท้าและพยักหน้าตกลงพร้อมทั้งขอให้ลั่วหนี่ชิงพาพ่อของเธอและยอดฝีมือชั้นสูงทั้งหมดของตระกูลลั่วไปบุกตำหนักโกสคิงด้วยกัน
นอกจากนี้ฉิงเฟิงยังโทรหาถังเจียงเฮอและขอให้เขาพายอดฝีมือตระกูลถังตามไปสมทบที่ตำหนักโกสคิงด้วย
ถังเจียงเฮอเป็นหนึ่งในหัวหน้าตระกูลใหญ่ทั้งสี่ของเมืองเทียนจิงและเต็มไปด้วยยอดฝีมืออย่างไรก็ตามเขาได้สาบานเป็นลูกน้องของฉิงเฟิงไปแล้ว แน่นอนว่าเขาย่อมเชื่อฟังคำสั่งฉิงเฟิง
ในขณะเดียวกันฉินเซียนจื่อและฮวาเซียนจือก็โทรถามฉิงเฟิงว่าเขาอยู่ที่ไหน ฉิงเฟิงจึงบอกถึงสถานที่ตั้งของตำหนักโกสคิงและบอกให้พวกเธอไปเจอกันที่นั่น
ฉิงเฟิงรู้ซึ้งถึงอำนาจของกองกำลังระดับซุปเปอร์ของตำหนักโกสคิงดีอีกทั้งที่นั่นยังมีผู้ฝึกตนผู้แข็งแกร่งอยู่ด้วย ในครั้งนี้เขาวางแผนที่จะล้างบางตำหนักโกสคิงอย่างไร้ความเมตตา เขาจะไม่ปล่อยให้ผู้ใดรอดชีวิตไปได้แม้แต่คนเดียว ดังนั้นเขาจึงบอกให้มิตรสหายทุกคนเข้าร่วมด้วย มีเพียงจุดประสงค์เดียวในการรวมตัวครั้งนี้ก็คือ ขุดรากถอนโคนตำหนักโกสคิง !
ฉิงเฟิงเดินทางด้วยความรวดเร็วสุดกำลังเนื่องจากเขากังวลถึงความปลอดภัยของหลิวหรูหยาน ทุกคนมาถึงโกสคิงวิลล่าด้วยเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง
วิลล่าโกสคิงตั้งอยู่ในพื้นที่ชานเมืองทางทิศตะวันตกของเมืองเทียนจิงมันเป็นวิลล่าสีดำสนิทเมื่อมองจากภายนอกเพราะมันถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีดำ
อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ลั่วหนี่ชิงได้รับจากสายลับของเธอก็คือมีวังขนาดใหญ่อยู่ใต้ดินในพื้นที่นี้ ซึ่งวังนั่นคือที่ตั้งแท้จริงของตำหนักโกสคิง
เมื่อมองไปที่โกสคิงวิลล่าที่เป็นสีดำสนิทจิตสังหารก็พวยพุ่งออกมาจากดวงตาของฉิงเฟิง เขาโกรธแค้นมากที่ตำหนักโกสคิงลักพาตัวหลิวหรูหยานไป ฉิงเฟิงได้ลอบสาบานว่าจะฆ่าทุกคนในตำหนักโกสคิงวันนี้จะไม่มีผู้ใดรอดไปจากที่นี่ได้
เขาต้องทำอย่างโหดเหี้ยมดุร้ายเพื่อประกาศก้องให้ยุทธภพได้รับรู้ว่าผู้ใดก็ตามที่กล้ารุกรานรังแกสหายหรือผู้หญิงของเขามันผู้นั้นจะต้องถูกล้างสำนักอย่างไร้ความปราณี ไม่ว่ามันผู้นั้นจะเป็นกองกำลังชั้นหนึ่งก็กองกำลังระดับซุปเปอร์ก็ตาม !
หยุด! ที่นี่คือโกสคิงวิลล่า คนแปลกหน้าห้ามเข้าเด็ดขาด ! เมื่อยามหน้าประตูได้เห็นพวกฉิงเฟิงเดินเข้ามาใกล้ เขาก็ตะโกนให้หยุดทันที
ตำหนักโกสคิงเป็นกองกำลังระดับซุปเปอร์ในยุทธภพและด้วยเหตุนี้ยามเฝ้าประตูจึงเป็นตัวตนที่ไม่ธรรมดา พวกเขาทุกคนต่างเป็นยอดฝีมือระดับครึ่งก้าวแกรนด์มาสเตอร์เลยทีเดียว กลิ่นอายที่แผ่ซ่านออกมารอบตัวของพวกเขาช่างทรงพลังและดุดันมาก เช้ง!
ฉิงเฟิงชักกระบี่เพลิงคะนองออกมาและสะบัดออกไปโดยไม่ลังเล
พลังงานกระบี่ครอบคลุมไปทั่วทั้งพื้นที่ที่กระบี่พุ่งผ่านมันน่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง
ฉัวะ
,
ฉัวะ
!
ศีรษะของยามที่แข็งแกร่งทั้งสองต่างถูกตัดขาดทันทีด้วยกระบี่เพลิงคะนองพวกเขาไม่มีเวลาตอบโต้แม้เพียงเสี้ยววินาที
ลั่วหนี่ชิงและคนของตระกูลลั่วที่ติดตามฉิงเฟิงมาด้วยต่างก็มีสีหน้าแปรเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ พวกเขาเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของฉิงเฟิงในการแข่งขันทวีปมังกรมาก่อน เขาเป็นที่รู้จักกันในฐานะปีศาจร้ายแห่งยุทธภพหัวเซี่ย แต่สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น หลังจากที่พวกเขาได้เห็นฉิงเฟิงลงมือ พวกเขาก็ตระหนักได้ทันทีว่าฉิงเฟิงสมควรได้รับการยกย่องดังกล่าวแล้ว
เป็นที่ทราบกันว่ายอดฝีมือระดับครึ่งก้าวแกรนด์มาสเตอร์นั้นทรงพลังเพียงใดอย่างไรก็ตามพวกเขากลับเป็นเพียงไก่กาในสายตาของฉิงเฟิง
ลั่วหนี่ชิงและทุกคนในตระกูลลั่วรู้สึกโชคดีมากที่พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับฉิงเฟิงพวกเขาเป็นมิตรแทนที่จะเป็นศัตรูกันมิฉะนั้นพวกเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะตกตายอย่างไร
มียามอีกหลายสิบคนในโกสคิงวิลล่าที่พุ่งกรูกันออกมาหลังจากได้ยินเสียงผู้นำกลุ่มเป็นชายวัยกลางคนที่มีพลังในระดับแกรนด์มาสเตอร์
สีหน้าของยามทุกคนเปลี่ยนไปทันทีที่มาถึงเมื่อพวกเขาได้เห็นยามสองคนนอนตายไร้ศีรษะที่หน้าประตู ผู้นำที่เป็นชายวัยกลางคนตะโกนออกมาด้วยความโกรธว่า แกเป็นใครกันวะ ! แกกล้าลงมือกับคนของตำหนักโกสคิงได้อย่างไร ? เบื่อชีวิตแล้วใช่มั้ย !?
ฉิงเฟิงตอบสนองต่อเสียงตะโกนอย่างบ้าคลั่งของชายวัยกลางคนด้วยการพลิกข้อมือขวาและสะบัดกระบี่เพลิงคะนองออกไปอีกครั้งพลังกระบี่ที่เกรี้ยวกราดพวยพุ่งออกไปอีกครั้ง
ฉัวะ!
ศีรษะของหัวหน้ายามที่มีพลังในระดับแกรนด์มาสเตอร์หลุดออกจากบ่าโดยไม่ต้องสงสัยก่อนตายดวงตาของเขาเบิกกว้างไปด้วยความหวาดกลัว สิ่งเดียวที่อยู่ในความคิดของเขาก่อนตายก็คือ ชายหนุ่มผู้นี้น่าสะพรึงกลัวราวกับอสูรร้ายที่หลุดการควบคุม