เมื่อชาวเฟิ่งอู่ได้ยินกุ้ยเทียนคงกล่าวว่าเธอเป็นผู้หญิงของฉิงเฟิงดวงตาของเธอก็สาดประกายเย็นชา เธอเป็นถึงผู้อำนวยการหน่วยความปลอดภัยพิเศษหัวเซี่ยและได้รับฉายาว่าเทพีสงครามหัวเซี่ยที่ได้รับความเคารพอย่างสูงจากประชาชน
เธอพึงพอใจต่อตำแหน่งและหน้าที่การงานระดับสูงการที่ถูกกุ้ยเทียนคงเหยียดหยามก็ทำให้เธอรู้สึกโกรธอย่างมาก
หมัดฟินิกซ์ร่ายรำ
!
ชาวเฟิ่งอู่ตะโกนออกมาด้วยความโกรธและเหวี่ยงหมัดขวาออกไปมันกลายเป็นเงาร่างของนกฟีนิกซ์ในทันที
เพลงหมัดฟีนิกซ์ร่ายรำเป็นเคล็ดวิชาการบ่มเพาะพลังที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นในตระกูลของเธอ
หมัดอันรุนแรงของเธอฉีกอากาศออกจากกันตามมาด้วยเสียงแหลมและกระแทกเข้าใส่กุ้ยเทียนคง
เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังอันน่ากลัวของหมัดนี้ใบหน้าของกุ้ยเทียนคงก็เปลี่ยนเป็นจริงจัง
ชาวเฟิ่งอู่เป็นยอดฝีมือระดับครึ่งก้าวจิตวิญญาณแท้จริงในขั้นเดียวกับฉิงเฟิงและหมัดฟีนิกซ์ร่ายรำของเธอก็แข็งแกร่งพอๆกับหมัดทลายนรกานต์ของเขา
ฉิงเฟิงเพิ่งขัดเกลาวิชาในขั้นแรกของหมัดทลายนรกานต์ในขณะที่ชาวเฟิ่งอู่เชี่ยวชาญหมัดฟีนิกซ์ร่ายรำถึงขั้นที่สองแล้ว หมัดของเธอนี้จึงแข็งแกร่งกว่าฉิงเฟิง
การขัดเกลาเคล็ดวิชาก็เฉกเช่นเดียวกับการขัดเกลาเคล็ดบ่มเพาะพลังมันแบ่งออกเป็น ขั้นต้น ขั้นกลาง เชี่ยวชาญและขั้นสมบูรณ์แบบ
ชาวเฟิ่งอู่ได้ขัดเกลาหมัดฟีนิกซ์ร่ายรำของเธอจนอยู่ในระดับกลางแล้วแม้แต่กุ้ยเทียนคงผู้ไร้เทียมทานก็ยังต้องระวังไม่น้อย
คราวนี้กุ้ยเทียนคงได้หลอมรวมพลังแท้ไว้ที่ฝ่ามือและเปลี่ยนมันให้กลายเป็นร่างเงาของเหล่าทหารภูติอสูร
ฝ่ามือภูตินภา
!
เขาฟาดฝ่ามือออกไปและกระแทกใส่ชาวเฟิ่งอู่ด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัวของเหล่าทหารภูติอสูร
ฝ่ามือภูตินภาเป็นเคล็ดบ่มเพาะพลังนอกรีตที่ทรงพลังมหาศาลมันสามารถเปลี่ยนพลังแท้ที่หลอมรวมให้กลายเป็นเงาร่างของเหล่าภูติอสูร ทำให้อากาศโดยรอบมืดมนลงและเต็มไปด้วยบรรยากาศที่น่าขนลุก
ตูม!!
หมัดฟีนิกซ์ร่ายรำและฝ่ามือภูตินภาปะทะกันก่อให้เกิดเสียงดังลั่นอากาศระเบิดออกและเกิดวังวนคลื่นพลังสีดำที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางครึ่งเมตร
คลื่นพลังงานขุมใหญ่แผ่กระจายออกไปรอบข้างทำให้เกิดรอยปริแตกที่น่าหวาดกลัวมากมายบนพื้นดิน
แม้แต่อาคารใต้ดินทั้งหมดของตำหนักโกสคิงก็ยังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงภายใต้แรงปะทะอันมหาศาลของพวกเขารอยปริแตกเริ่มลามไปที่ผนัง
ตึง!
เรือนร่างที่เพรียวบางของชาวเฟิ่งอู่ถูกบีบให้ต้องถอยไปหนึ่งก้าวในขณะที่กุ้ยเทียนคงยังคงยืนหยัดมั่นคงบนพื้นดิน
ขอบเขตจิตวิญญาณแท้จริงขั้นต้นช่างทรงพลังจริงๆ…
รูม่านตาของชาวเฟิ่งอู่หดเล็กลงและพึมพัมออกมา
เธอรวบรวมพลังทั้งหมดในการโจมตีเมื่อครู่แต่เธอก็ยังถูกบีบให้ต้องถอยไปก้าวหนึ่ง อย่างไรก็ตามมันเป็นผลลัพธ์ที่ดีกว่าฉิงเฟิงที่ถูกพลังฝ่ามือจนกระเด็น
แน่นอนว่าฉิงเฟิงคงไม่มีสภาพอเน็จอนาถขนาดนี้หากเขาใช้เพลงหมัดมังกรเพลิงซึ่งสามารถใช้ได้ทุก12 ชั่วโมง เนื่องจากเขาเพิ่งใช้มันในการฆ่าหัวหน้าตระกูลใหญ่บนเกาะแปซิฟิก ตอนนี้เขาจึงไม่สามารถใช้มันได้อีกครั้ง
ฉิงเฟิงได้รับการถ่ายเทพลังแท้จำนวนมากจากฉินเซียนจื่อจนพลังฟื้นคืนมาและบาดแผลหายเป็นปกติในที่สุด
แต่ฉินเซียนจื่อแทบจะหายใจไม่ออกด้วยความอ่อนเพลียเนื่องจากเธอได้มอบพลังทั้งหมดให้แก่ฉิงเฟิง
ขอบคุณมากนะคุณพักตรงนี้ก่อน ฉันจะไปจัดการกับกุ้ยเทียนคง ฉิงเฟิงประคองเธอไปด้านข้างอย่างระมัดระวังก่อนที่จะเดินไปหาศัตรูของเขา
เขาจะต้องฆ่ากุ้ยเทียนคงให้ได้ภายในหนึ่งชั่วโมงมิฉะนั้นหลิวหรูหยานและลูกของเขาจะต้องตาย
ผู้อำนวยการชาวผมจะร่วมมือกับคุณจัดการกับเจ้าอมนุษย์เฒ่าคนนี้เอง ฉิงเฟิงกล่าวพร้อมกับเดินไปหาชาวเฟิ่งอู่
นายหายดีแล้วเหรอ
อืมคุณหนูฉินถ่ายทอดพลังทั้งหมดของเธอมาให้ผม
ฉินเซียนจื่อดีต่อนายมากจริงๆเธอถ่ายทอดพลังแท้ให้นายจนหมดมันอาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายของเธอ
เมื่อมองไปที่ฉินเซียนจื่อที่ใบหน้าซีดเซียวชาวเฟิ่งอู่ก็กล่าวกับฉิงเฟิง
เธอรู้ว่าคุณหนูใหญ่ผู้งดงามแห่งตำหนักโห่วเย่อหวงตี้คนนี้เป็นผู้หญิงที่เย่อหยิ่งและมองว่าทุกคนต่ำกว่าเธอแต่เธอกลับยอมเสี่ยงอันตรายต่อร่างกายเพื่อช่วยฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงพยักหน้าและลอบสาบานในใจว่าหลังจากฆ่ากุ้ยเทียนคงได้แล้วเขาจะปรุงยารักษาให้พ่อของฉินเซียนจื่อให้ได้
กุ้ยเทียนคงผู้นี้แข็งแกร่งเกินไปข้าจะร่วมมือกับพวกท่านด้วย ฮวาเซียนจือกล่าวพร้อมกับเดินออกมาจากด้านหลัง
ที่จริงแล้วเธอสามารถฆ่ากุ้ยเทียนคงได้ด้วยฝ่ามือเดียวหากเธอทลายผนึกในร่างทั้งหมดแต่ตอนนี้เธอยังไม่อาจทำเช่นนั้นได้ ฉิงเฟิงก็เหมือนกัน เขายังไม่สามารถทลายผนึกที่สองของกระบี่เพลิงคะนองได้
ยอดยุทธ์ระดับครึ่งก้าวจิตวิญญาณแท้จริงทั้งสามคนหลี่ฉิงเฟิง, ชาวเฟิ่งอู่และฮวาเซียนจือต่างก็ล้อมรอบกุ้ยเทียนคง
กลิ่นอายอันทรงพลังที่ปลดปล่อยออกมาจากทั้งสามคนนั้นรุนแรงมากจนแม้แต่กุ้ยเทียนคงผู้ซึ่งเป็นยอดฝีมือระดับจิตวิญญาณแท้จริงยังต้องรู้สึกกดดันไม่น้อย
หมัดทลายนรกานต์
!!
ฉิงเฟิงเริ่มลงมือก่อนเขาคำรามด้วยเสียงต่ำและทุบกำปั้นที่เต็มไปพลังมหาศาลเข้าใส่กุ้ยเทียนคง
หมัดฟีซิกซ์ร่ายรำ
!
ชาวเฟิ่งอู่ตามติดในทันทีด้วยหมัดที่กลายเป็นเงาร่างนกฟีนิกซ์และกระแทกเข้าใส่กุ้ยเทียนคง
หัตถ์ร้อยบุบผา
!
มือที่เพรียวบางของฮวาเซียนจือกลายเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่ที่มีลวดลายดอกโบตั๋นลอยอยู่บนนั้นมันพุ่งเข้าใส่กุ้ยเทียนคงอย่างเกรี้ยวกราด การโจมตีที่ทรงพลังจากยอดฝีมือทั้งสามระเบิดบรรยากาศทั่วพื้นที่และทำให้เกิดหลุมดำขนาดใหญ่ถึงสามจุด
เมื่อสัมผัสได้ถึงการโจมตีผสานอันทรงพลังใบหน้าของกุ้ยเทียนคงก็เปลี่ยนเป็นจริงจังอย่างมาก เขาเหวี่ยงฝ่ามือออกไปในทันทีและปรากฏเงาร่างของทหารภูติอสูรขึ้น พวกมันพุ่งเข้าปะทะกับการโจมตีของทั้งสามคน
ตึงตึง !!
ในการปะทะครั้งนี้ฉิงเฟิงและสหายทั้งสองของเขายืนหยัดอยู่ที่เดิมส่วนกุ้ยเทียนคงต้องถอยหลังไปถึงสองก้าวด้วยใบหน้าซีดเซียว
ถึงแม้ว่าเขาจะมีพลังในระดับจิตวิญญาณแท้จริงขั้นต้นและแข็งแกร่งกว่าทุกคนในที่นี้แต่การรวมพลังของยอดฝีมือทั้งสามคนและวิชาที่รุนแรงก็บีบให้เขาต้องถอยหลัง
ผู้อำนวยการชาว,ฮวาเซียนจือ หรูหยานกับลูกของฉันถูกกุ้ยเทียนคงวางคำสาปเอาไว้ เราต้องฆ่ามันให้ได้ภายในหนึ่งชั่วโมง ไม่งั้นหรูหยานกับลูกของฉันจะต้องตาย ฉันขอร้องให้พวกคุณทำให้ดีที่สุด ถือว่าฉันติดหนี้บุญคุณพวกคุณทั้งสองครั้งใหญ่
ฉิงเฟิงรู้ว่าผู้หญิงทั้งสองคนนี้เป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งและมีอุปกรณ์จิตวิญญาณระดับสูงเขาต้องการความช่วยเหลือจากพวกเธอในการฆ่ากุ้ยเทียนคง เพราะลำพังเขาเพียงคนเดียวไม่สามารถต่อกรกับปีศาจเฒ่าผู้นี้ได้ แถมยังถูกบีบด้วยเวลา