หอกแห่งแสงเป็นหนึ่งในอาวุธวิญญาณที่สำคัญที่สุดของศาสนจักรก่อนหน้านี้มันเคยถูกใช้งานโดยสมเด็จพระสันตะปาปาซึ่งได้มอบให้กับออกัสตินในภายหลัง
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอานิสงส์ของหอกเล่มนี้ที่ทำให้ออกัสตินสามารถกวาดผ่านไปทั่วทั้งทวีปเสือและเอาชนะยอดฝีมือนับไม่ถ้วนได้อย่างง่ายดาย
ด้วยหอกแห่งแสงที่อยู่ในมือออกัสตินดูเหมือนดั่งเทพเจ้าแห่งสงคราม ทั่วทั้งร่างกายของเขาปลดปล่อยพลังงานที่รุนแรงออกมาและทะลุทะลวงชั้นฟ้าอย่างไม่น่าเชื่อ กลุ่มคนที่อ่อนแอกว่าในฝูงชนต่างก็หวาดผวาและตัวสั่นเทา
ฉิงเฟิงก็ตกตะลึงด้วยเช่นกันพลังงานอันมหาศาลที่หลั่งไหลออกมาจากหอกแห่งแสงเล่มนี้ไม่ใช่พลังงานที่ถูกปล่อยออกมาจากอุปกรณ์วิญญาณในระดับสูง มันเป็นบางสิ่งที่ทรงพลังยิ่งกว่าและเหนือกว่าไปไกลโข
หะ..หอกแห่งแสงของสมเด็จพระสันตะปาปา ! มันมาอยู่ในมือของออกัสตินได้อย่างไร หลี่ฉิงเฟิงจบสิ้นแล้ว
ใช่แล้วในทวีปเสือ หอกแห่งแสงเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับสูงสุดและมีพลังอย่างน่าเหลือเชื่อที่สามารถเทียบเคียงกับขีปนาวุธลูกเล็กๆได้เลย
ข้าก็เคยได้ยินมาก่อนเคยมีบางประเทศยิงขีปนาวุธขนาดเล็กมา แต่มันถูกทำลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยการแทงเพียงครั้งเดียวของหอกแห่งแสง !
ผู้คนรอบๆต่างมองดูหอกแห่งแสงด้วยสายตาที่ชื่นชมและอิจฉาพวกเขาทุกคนต่างคุ้นเคยกับอาวุธวิญญาณอันทรงพลังชิ้นนี้
ในฐานะที่เป็นเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์ผู้สูงศักดิ์อลิซก็รู้ซึ้งถึงพลังของมันเช่นกัน เธอเริ่มเป็นกังวลและกลัวว่าฉิงเฟิงจะได้รับบาดเจ็บ ฮึ่ม!
ออกัสตินคำรามเสียงต่ำเขาดึงหอกแห่งแสงที่ปักอยู่บนพื้นขึ้นมาด้วยมือขวาและแทงเข้าหาฉิงเฟิงด้วยหลุมลึกในอากาศ
พลังของหอกเล่มนี้รุนแรงเกินไปและทำให้เกิดแรงดันอากาศทั้งหมดในเส้นทางที่หอกพุ่งผ่านอีกทั้งมันยังสร้างวังวนสีดำขึ้นในชั้นบรรยากาศ
เพลิงจันทร์เงิน
!!
ฉิงเฟิงคำรามเสียงต่ำและฟาดฟันกระบวนท่าเพลิงจันทร์เงินออกมามันเป็นหนึ่งในกระบวนท่าการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของกระบี่เพลิงคะนอง
ดวงจันทร์เพลิงสีเงินที่ลุกโหมไปด้วยเปลวไฟขนาดใหญ่ปรากฏตัวขึ้นและปะทะเข้ากับหอกแห่งแสงอย่างรุนแรงจนทำให้ทั่วทั้งโบสถ์สั่นสะเทือน
ปัง
!!
อึ่ก….
!
ฉิงเฟิงรู้สึกได้ถึงพลังงานขนาดมหึมาสายหนึ่งที่แผ่พุ่งออกมาจากหอกแห่งแสงมันราวกับอุกกาบาตที่พุ่งชนโลก ส่งผลให้ร่างกายของเขาลอยกระเด็นออกไปไกล
ไม่เพียงแค่ร่างกายของฉิงเฟิงเท่านั้นแต่กระบี่เพลิงคะนองก็ยังส่งเสียงแหลมออกมา มันได้รับความเสียหายอย่างหนักจนแม้แต่เปลวเพลิงสีแดงที่รายล้อมยังจางหายไป
อาวุธวิญญาณระดับโลกา หอกแห่งแสงของนายเป็นอาวุธวิญญาณระดับโลกางั้นหรือ !? ฉิงเฟิงถามด้วยความตกตะลึง
กระบี่เพลิงคะนองเป็นเพียงอาวุธวิญญาณขั้นสูงแม้จะทลายผนึกกระบี่ชั้นแรกออกไปแล้วอย่างไรก็ตาม หอกแห่งแสงในมือของออกัสตินเป็นอาวุธวิญญาณระดับโลกา กลิ่นอายและพลังของมันเหนือล้ำกว่าอาวุธวิญญาณชั้นสูงทุกชิ้น
หลี่ฉิงเฟิงแกรอบรู้ไม่น้อย ข้าจะบอกให้แกรู้ ข้าคือบุตรแห่งเทพของพระสันตะปาปา ท่านเป็นผู้ที่มอบอาวุธวิญญาณระดับโลกาให้ข้า ในเมื่อข้านำมันออกมาใช้ วันนี้แกต้องตาย !
ด้วยหอกแห่งแสงที่อยู่ในของเขาออกัสตินดูเปล่งประกายศักดิ์สิทธิ์ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
บ้าชิบ
,
มันครอบครองอาวุธวิญญาณระดับโลกาจริงๆ
ฉิงเฟิงพึมพำในใจเขารู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก ตอนนี้ฉิงเฟิงอยู่ในขอบเขตจิตวิญญาณแท้จริงขั้นต้นซึ่งมีพลังเทียบเท่ากับออกัสตินหากวัดกันด้วยพลังลุ่นๆ ไม่มีทางที่ออกัสตินจะเอาชนะเขาได้
แต่ออกัสตินที่รู้เรื่องนี้ดีก็ไม่ใช่คนโง่เขาไม่เสี่ยงเอาตัวเข้าแลกกับฉิงเฟิง เขาจึงใช้การโจมตีด้วยหอกแห่งแสงซึ่งเป็นอาวุธที่มีระดับเหนือกว่ากระบี่เพลิงคะนองแทน
นอกจากออกัสตินแล้วในที่นี้ไม่มีใครมีอาวุธวิญญาณระดับโลกา สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าตนเองไร้เทียมทาน
ไอ้หนูให้ช่วยมั้ย
เสียงมังกรอัคคีดังขึ้นอีกครั้งในใจของฉิงเฟิง
ท่านจะช่วยผมยังไงหรือ
ฉิงเฟิงตอบกลับด้วยความสงสัย
หากข้าเดาไม่ผิดเจ้าเพียงแค่ทลายผนึกแรกจากทั้งสามผนึกของกระบี่ในมือเจ้า ถ้าหากเจ้าสามารถทลายผนึกที่สอง
,
กระบี่เล่มนี้จะพัฒนาเป็นกระบี่วิญญาณระดับโลกาเหมือนเจ้าหนูผมทองคนนั้นเช่นกัน
ฉิงเฟิงเขกหัวตัวเองและรู้สึกยินดีกับคำพูดของมังกรอัคคีเขานึกขึ้นได้ว่ากระบี่เพลิงคะนองของเขายังคงถูกผนึกเอาไว้ ตราบใดที่เขาเข้าขอบเขตจิตวิญญาณแท้จริงขั้นต้น เขาก็จะสามารถทลายผนึกชั้นที่สองของมันและเปลี่ยนเป็นอาวุธวิญญาณระดับโลกา
เมื่อคิดได้เช่นนี้ฉิงเฟิงก็มีรอยยิ้มที่มุมปาก
แกขำอะไร ใกล้จะตายอยู่แล้วยังทำหน้าระรื่น ออกัสตินมองไปที่ฉิงเฟิงที่กำลังแย้มยิ้มด้วยความหงุดหงิดเพราะเขารู้สึกว่ากำลังถูกเย้ย
ออกัสติน นายคิดว่าอาศัยหอกเล่มนั้นแล้วจะฆ่าฉันได้งั้นหรือ นายมันไร้เดียงสาเกินไปแล้ว ฉิงเฟิงส่ายหัว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดูถูก
ฉิงเฟิงละความสนใจจากออกัสตินไปชั่วครู่และถ่ายเทพลังวิญญาณทั้งหมดของเขาไปยังกระบี่เพลิงคะนองเพื่อปลดผนึกชั้นที่สอง
ภายในตัวกระบี่เพลิงคะนองนั้นมีชั้นมิติลึกลับที่ถูกปกคลุมไปด้วยผนึกอักขระทั้งหมดสามชั้นก่อนหน้านี้ฉิงเฟิงได้ทำลายผนึกแรกไปแล้ว ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้คือทำลายผนึกที่สอง
หลังจากฉิงเฟิงเข้าถึงขอบเขตจิตวิญญาณแท้จริงขั้นต้นพลังวิญญาณของเขาก็เพิ่มพูนขึ้นเช่นเดียวกัน
พลังวิญญาณของเขาแทรกซึมเข้าสู่ส่วนลึกของกระบี่เพลิงคะนองภายในนั้นเขาได้พบกับลวดลายของภูเขาไฟสีแดง ลวดลายภูเขาไฟนี้ไม่ใช่อะไรนอกเสียจากผนึกชั้นที่สองของกระบี่เล่มนี้นั่นเอง
ฉิงเฟิงโจมตีเข้าใส่ผนึกภูเขาไฟชั้นที่สองอย่างไม่ลดละโดยใช้พลังวิญญาณของเขามันเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ ในที่สุดผนึกภูเขาไฟก็ปริแตก
การโจมตีอย่างไม่ลดละรอยปริแตกเริ่มขยายตัวขึ้นและเพิ่มเป็นทวีคูณ ในที่สุดก็เกิดรอยร้าวไปทั่วทั้งผนึก
ตูม
!!!
ด้วยเสียงตูมที่ดังสนั่นผนึกที่สองของกระบี่เพลิงคะนองเริ่มเปิดเผยออกและแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย รังสีกระบี่ที่ยาวนับยี่สิบเมตรพุ่งทะลุผ่านท้องฟ้า ทะลวงไปถึงสรวงสวรรค์
อุปกรณ์วิญญาณระดับสูงมีออร่าของพลังกระบี่ที่ยาวสิบเมตรแต่อุปกรณ์วิญญาณระดับโลกานั้นออร่าของมันจะยาวถึงยี่สิบเมตร ยิ่งระสูงเท่าไหร่ พลังของมันก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
นอกเหนือไปจากการเปิดผนึกที่สอง,ตำราวิชากระบี่ก็ปรากฏขึ้นในจิตของฉิงเฟิงด้วยเช่นกัน ชื่อของมันคือ [วิชากระบี่เพลิงภูเขาไฟ] 火山 (โฮวซาน) (Volcanic) และเป็นเคล็ดวิชาบ่มเพาะพลังในระดับโลกา !
เช่นเดียวกับชื่อวิชากระบี่โฮวซานเป็นเคล็ดวิชาธาตุดินที่มีระดับสูงกว่าวิชากระบี่เพลิงคะนอง อีกทั้งยังทรงพลังกว่าอย่างทาบไม่ติด
เคล็ดวิชากระบี่โฮวซานนี้บรรจุไปด้วย4 กระบวนท่า
-ภูเขาไฟควบแน่น[Volcanic Condensation]
-ภูเขาไฟพินาศ[Volcanic Tumble]
-ภูเขาไฟระเบิด[Volcanic Explosion]
-ภูเขาไฟระเหย[Volcanic Evaporation] *ชื่อลิเกแท้….แต่ต้นฉบับมาแบบนี้ผมก็ไม่รู้จะแปลยังไงให้มันฟังดูเท่ห์ เอาเถอะ เดวมันทำลายผนึกสามคงมีวิชาใหม่ ทนเลี่ยนไปก่อนนะครับ*
ฉิงเฟิงเป็นชายหนุ่มที่ชาญฉลาดและมากด้วยพรสวรรค์ด้วยพื้นฐานเดิมของเคล็ดวิชากระบี่เพลิงคะนอง เขาใช้เวลาเพียงไม่นานก็เข้าถึงกระบวนท่าแรก [การควบแน่นของภูเขาไฟ] ได้แล้ว แต่มันก็เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น เขาจำต้องฝึกฝนและใช้งานมันในสถานการณ์จริง
บัดซบนี่แกกำลังเรียนรู้เคล็ดวิชากระบี่ในระหว่างสู้กับข้างั้นหรือ โอหังเกินไปแล้ว หลี่ฉิงเฟิง ! ตอนนี้ออกัสตินโกรธแค้นมาก ดวงตาของเขาแทบจะพ่นไฟออกมาได้
ในระหว่างการปะทะกันในรอบแรกฉิงเฟิงกลืนกินสายเลือดมังกรดำของหัวหน้ากลุ่มมังกรดำเข้าไปจนทะลวงผ่านมาถึงขอบเขตจิตวิญญาณแท้จริงขั้นต้น และตอนนี้เขายังเรียนรู้เคล็ดวิชากระบี่ในระหว่างสู้อีก นี่คือความอัปยศอดสูที่สุดฉิงเฟิงทำเหมือนออกัสตินเป็นเป้าซ้อมมือ ปอดของออกัสตินแทบจะระเบิดไปด้วยความโกรธ
ออกัสตินรู้สึกว่าตนเองถูกเยาะเย้ยอย่างสมบูรณ์การต่อสู้นั้นเต็มไปด้วยความเสี่ยงถึงตาย ยอดฝีมือควรจะตั้งสมาธิไปที่คู่ต่อสู้ เพราะหากก้าวพลาดเพียงนิดเดียวก็หมายถึงความตาย แต่ฉิงเฟิงกลับใช้ช่วงเวลาคับขันเป็นตายเหล่านี้ในการพัฒนาตัวเอง !
หอกแห่งแสง
,
แสงทะลวงขวากหนาม
!
ออกัสตินปลดปล่อยเคล็ดวิชาอันร้ายแรงของหอกแห่งแสงออกมาปลายหอกที่แหลมคมของมันแทงทะลุผ่านอากาศและอุปสรรคตลอดเส้นทาง มุ่งตรงเข้าหาหัวใจของฉิงเฟิง เขาต้องการให้ตัวบัดซบคนนี้ตกตายอย่างอนาถ