ตอนที่ 969 พี่สาวใหญ่…อย่าอายไปเลย
ฉันช่างเป็นสุภาพบุรุษที่ดียิ่งนัก
!
หากเป็นผู้ชายคนอื่นคงซั่มนังปีศาจยั่วสวาทคนนี้ไปแล้วแน่ๆ
ฉิงเฟิงคิดชื่นชมตัวเองในใจเมื่อเขามองดูใบหน้าสลบไสลของราชินีอสูรเพลิงที่เต็มไปด้วยความเซ็กซี่และเรือนร่างทรงนาฬิกาทรายอันเพอร์เฟคของเธอ
เมื่อพูดถึงลักษณะนิสัยของเขาฉิงเฟิงภาคภูมิใจอยู่เสมอ เขาเชื่อมั่นว่าตนเองเป็นคนดี และดีอย่างไม่ธรรมดาด้วย ! โดยการช่วยเหลือคนที่มีปัญหาอยู่บ่อยๆ
ฉิงเฟิงทำร้ายคนก็จริงแต่ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกอันธพาลหรือศัตรูคู่แค้น และก็มักจะเป็นพวกมันที่มาหาเรื่องเขาอยู่เสมอ
เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ราชินีอสูรเพลิงหมดสติอยู่และไม่ได้ยินสิ่งที่ฉิงเฟิงพูดถ้าเธอได้ยินมัน เธอคงจะโกรธจนอยากจะฆ่าเขาด้วยหมัดเดียว
สำหรับราชินีอสูรเพลิง,หลี่ฉิงเฟิงไม่ใช่ ‘คนดี’อย่างที่เขาคิด เธอไร้ซึ่งความประทับใจที่ดีต่อชายหนุ่มคนนี้ ที่จริงเขาเป็น ‘ตัวเลวร้าย’ คนหนึ่งเลยทีเดียว
อืม…เธอหมดสติไป ฉันจะรักษาเธอยังไงล่ะนี่ ฉิงเฟิงเริ่มครุ่นคิด
ในเมื่อราชินีอสูรเพลิงได้รับบาดเจ็บตกลงไปในสระน้ำแถมยังหมดสติไปเพราะกลืนน้ำเข้าไปมากเกินไป อันดับแรกควรจะให้เธอสำลักน้ำออกมาก่อน
ฉิงเฟิงคิดได้เช่นนั้นก็ลงมือทันทีเขาโคจรพลังแท้เพื่อดูดน้ำให้ออกมาจากปากของเธอ
หลังจากสิบห้านาทีผ่านไปฉิงเฟิงก็ทำให้ราชินีอสูรเพลิงคายน้ำที่กลืนลงไปออกมาจนหมด ส่วนตัวเขาเองก็เหนื่อยล้าไม่น้อย
เฮ้อ….เป็นคนดีนี่เหนื่อยชิบ ฉิงเฟิงคิดในใจแต่ตราบเท่าที่สามารถช่วยเธอได้ เขาก็รู้สึกภูมิใจ
ราชินีอสูรเพลิงเริ่มรู้สึกตัวและค่อยๆเปิดตาขึ้นใบหน้าของฉิงเฟิงเป็นสิ่งแรกที่เธอได้เห็น
อะ….เจ้า ! เจ้าคนสารเลว ! เจ้าคนลามก ! ราชินีอสูรเพลิงรีบถอยหนีจากฉิงเฟิงและส่งเสียงกรีดร้องออกมา
เธอคิดว่าเธอกำลังฝันแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่ ทุกอย่างเป็นความจริง จูบแรกของเธอถูกขโมยไปโดยชายผู้น่ารังเกียจคนนี้เพราะเธอคิดว่าเขาช่วยชีวิตเธอจากการจมน้ำด้วยการผายปอด
ราชินีอสูรเพลิงเป็นสาวงามที่หาได้ยากยิ่งที่จริงแล้วถึงเธอจะอายุสามสิบแต่เธอก็ไม่เคยมีคนรักมาก่อน ยิ่งการสัมผัสกับเพศตรงข้ามยิ่งไม่เคยมี เธอโกรธเคืองกับการล่วงเกินของฉิงเฟิงเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นว่าราชินีอสูรเพลิงฟื้นแล้วฉิงเฟิงก็ตกใจเช่นกัน เขารีบผละจากเธออย่างรวดเร็ว
เดี๋ยวๆพี่สาวคนสวยฉันไม่ใช่คนลามกนะอย่าเข้าใจฉันผิด ฉิงเฟิงพยายามแก้ตัว แต่คำอธิบายของเขากลับทำให้ดูน่าสงสัยเข้าไปใหญ่
ถ้าเจ้าไม่ใช่คนลามกทำไมเจ้าทำ ‘สิ่งนั้น’กับข้า
ก็คุณตกลงไปในสระน้ำและกลืนน้ำเข้าไปเยอะจนหมดสติไปดังนั้นฉันจำเป็นต้องช่วยคุณเอาน้ำออกจากร่างกาย ฉันเป็นคนดีนะ !
ไอ้บ้า! ถ้าเจ้าเป็นคนดีโลกนี้คงไม่มีผู้ชายเลว เจ้ามันชั่วช้าลามก พวกฉวยโอกาส ! ราชินีอสูรเพลิงหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธและตะโกนด่าทอใส่ฉิงเฟิง
เธอโกรธมากจูบแรกที่เธอรักษามานานถูกฉิงเฟิงพรากเอาไป
เธอต้องกระทืบฉิงเฟิงอย่างมากเพราะการชกหน้าเขาให้ตายคงไม่เพียงพอแต่เนื่องจากเธอได้รับบาดเจ็บและฉิงเฟิงในตอนนี้แข็งแกร่งกว่าเธอมาก เธอสู้เขาไม่ได้อย่างแน่นอน เธอทำได้เพียงจินตนาการในหัว
แล้วราชินีอสูรเพลิงจะปล่อยฉิงเฟิงไปหรือไม่ ไม่มีทางแน่นอน !
เธอตัดสินใจแล้วว่าเมื่อใดที่เธอหายจากอาการบาดเจ็บเธอจะสั่งสอนฉิงเฟิงอย่างหนักหน่วง เธอจะตบหน้าเขาจนกว่าหน้าเขาจะบวมเหมือนหมู !
เดี๋ยวก่อนๆพี่สาวคนสวยคุณลองคิดดูสิ คุณไปล้างแผลของคุณเองและตกน้ำจมน้ำเอง ฉันเนี่ยโดดลงไปช่วยคุณนะ ถ้าฉันไม่ช่วยคุณก็จมน้ำตายไปแล้ว ทำไมต้องด่าทอกันแบบนี้ด้วย ฉิงเฟิงกล่าวด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
ราชินีอสูรเพลิงเริ่มคิดและในที่สุดก็จำได้นั่นคือสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นกับเธอ
แต่ถึงแม้ว่าฉิงเฟิงจะเป็นคนช่วยชีวิตเธอไว้แต่ราชินีอสูรเพลิงก็ยังคงโกรธใส่เขาอยู่ดี ผู้หญิงไม่เคยมีเหตุผลยามพวกเธอโกรธฉิงเฟิงช่วยเธอไว้แต่เธอกลับไม่พอใจเขา
โอ๊ย!
ทันใดนั้นเองราชินีอสูรเพลิงก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดใบหน้าของเธอเริ่มซีดและมีเหงื่อหยดลงบนหน้าผากของเธอ
เธอเจ็บปวดอย่างที่สุดและใบหน้าที่เคยเป็นสีแดงกุหลาบก็หายไปจากใบหน้าอันงดงามของเธอมันกลับกลายเป็นซีดขาวอย่างน่าหวาดกลัวและไม่มีสีสัน เธอขดตัวด้วยความเจ็บปวดและหายใจลำบาก
คุณตกลงไปในบ่อน้ำบาดแผลถึงได้ติดเชื้อ ถ้าคุณไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม คุณจะต้องตายในไม่ช้า ฉิงเฟิงมองเธอด้วยความกระวนกระวายใจในสายตาของเขา
แผลบริเวณรอบๆท้องของราชินีอสูรเพลิงกลายเป็นสีดำและในบางพื้นที่ก็ไม่มีสีเลือดเลยกล้ามเนื้อของเธอหดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด สีหน้าของราชินีอสูรเพลิงเปลี่ยนไปเมื่อเธอได้ยินสิ่งที่ฉิงเฟิงพูดเธอรู้ว่าเขาพูดถูก อาวุธวิญญาณระดับโลกาของจูฮัวแทงทะลุท้องของเธออย่างแรง อีกทั้งเธอก็ตกน้ำอีก รอยแผลสดที่ยังมีเลือดไหลได้สัมผัสกับแบคทีเรียในน้ำ ผลที่ออกมาจึงทำให้เธอมีแผลติดเชื้อ
ฉิงเฟิงเดินไปข้างหน้าและพร้อมที่จะช่วยรักษาให้เธอ
อะ…ไอ้คนชั่วช้า เจ้ากำลังคิดจะทำอะไรอีก
คุณคิดว่าฉันจะทำอะไร ถามมาได้ ก็รักษาคุณไง
แต่….ไม่ …
พี่สาวคนสวยหยุดพูดคำว่า ‘แต่’ ได้แล้ว ขืนปล่อยไว้แบบนี้คุณจะตายในไม่ช้า หรือต่อให้ไม่ตายก็จะมีแผลเป็นน่าเกลียดหลงเหลือบนร่างกายอันงดงามของคุณ เอามั้ย
ถึงแม้ว่าราชินีอสูรเพลิงคนนี้จะเรื่องมากและงอแงจนทำให้ฉิงเฟิงเริ่มหงุดหงิดแต่เขาก็รู้ดีว่าเขาต้องช่วยเธอเพราะเธอเป็นหนึ่งในสิบอสูรที่จะกลายเป็นมือเท้าที่สำคัญให้เขาในอนาคต
เมื่อได้ยินว่าร่างกายของเธออาจจะมีรอยแผลเป็นใบหน้าของราชินีอสูรเพลิงก็เปลี่ยนไป เธอหยุดพูดในทันที ผู้หญิงทุกคนใส่ใจในรูปร่างหน้าตาของพวกเธอยิ่งกว่าชีวิต แม้แต่ราชินีอสูรเพลิงผู้แข็งแกร่งเช่นเธอก็ไม่มีข้อยกเว้น เธอไม่ต้องการให้มีรอยแผลเป็นบนร่างอย่างแน่นอน
เมื่อฉิงเฟิงสังเกตเห็นว่าราชินีอสูรเพลิงหยุดพูดเขาก็เข้าใจว่าเธอยอมรับคำขอของเขาแล้ว
พี่สาวคนสวยงั้นฉันจะเริ่มรักษาล่ะนะ หลังจากฉิงเฟิงปลอบโยนเธอเขาก็เริ่มทำการรักษา
ที่จริงแล้วถ้าหากฉิงเฟิงรักษาเลยตอนเธอเงียบมันคงจะดีกว่านี้แต่การที่เขาพูดคำเหล่านั้นออกมามันเหมือนเป็นการบอกกรายๆว่า ‘ฉันจะลวนลามเธอล่ะนะ’ ซี่งมันทำให้เธอหน้าแดงก่ำเหมือนลูกแอปเปิ้ล เธอกระพริบตาและหัวใจเริ่มเต้นแรง
มีหลุมขนาดใหญ่บนร่างของราชินีอสูรเพลิงที่หลงเหลือจากการถูกดาบแทงทะลุแผลมีลักษณะกลมและเนื้อเยื่อสีดำที่ดูน่ากลัวอยู่รอบๆ
ฉิงเฟิงดูจริงจังเขาเริ่มทำความสะอาดเลือดและสิ่งสกปรกให้หลุดออกอย่างระมัดระวัง หลังจากทำความสะอาดแล้วฉิงเฟิงก็เอาสมุนไพรออกมา เขาเคี้ยวมันให้ละเอียดและนำมันไปวางบนบาดแผลของเธอ
ในขณะที่ฉิงเฟิงกำลังจะโปะแผลเขาชำเลืองมองเธออย่างไม่ตั้งใจซึ่งทำให้ใบหน้าของเธอแดงยิ่งขึ้นไปอีก
ราชินีอสูรเพลิงอยากจะแสดงความโกรธแต่เธอก็จำได้ว่าเขากำลังรักษาแผลให้เธออยู่ ดังนั้นเธอทำได้เพียงต้องข่มความโกรธเอาไว้
เมื่อคิดถึงว่าฉิงเฟิงเคี้ยวสมุนไพรแล้วนำมาโปะแผลเธอก็เริ่มมีความรู้สึกบางอย่างผสมปนเปกันไป
ราชินีอสูรเพลิงเคยรู้จักกับชายหนุ่มมาแล้วหลายคนแต่หลี่ฉิงเฟิงเป็นผู้ชายที่พิเศษและโดดเด่นที่สุด เขาทำให้เธอมีความรู้สึกที่ซับซ้อนเกิดขึ้นได้
หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไปฉิงเฟิงทำความสะอาดและรักษาบาดแผลของเธอจนเสร็จ เมื่อเขาได้สังเกตเห็นว่าเธอกำลังมองเขาด้วยสายตาที่งุนงง หัวใจของเขาก็หยุดเต้น
พี่สาวคนสวยคุณตกหลุมรักฉันใช่ไหม จ้องตาเป็นมันเชียว ฉิงเฟิงกล่าวหยอกเธอ
เพ้ย! ไอ้บ้า ไม่ใช่ ! ราชินีอสูรเพลิงรีบปฏิเสธและใบหน้าแดงระเรื่อ
เธอรู้สึกขอบคุณฉิงเฟิงมากที่รักษาแผลให้เธออย่างดีแต่ตอนนี้เขากลับมาหยอกล้อเธออีกครั้งทำให้ความรู้สึกซาบซึ้งของเธอหายไปและเหลือเพียงความโกรธ