ตอนที่ 982 เยือนตำหนักจักรพรรดิเพลิง
หรูหยานผมกลับมาแล้ว ฉิงเฟิงกล่าวกับเธออย่างอ่อนโยน
น้ำตาไหลรินอาบวงหน้าของเธอเมื่อได้พบชายที่เธอโหยหามานานอีกครั้ง
อย่าร้องไห้สิผมกลับมาอย่างปลอดภัยนะ ฉิงเฟิงกล่าวเบาๆในขณะที่เขาเดินไปซับน้ำตาให้หลิวหรูหยาน
หลิวหรูหยานโผเข้าไปในอ้อมแขนของฉิงเฟิงและกอดเขาอย่างแนบแน่นเธอไม่ยอมปล่อยเขาไปเพราะกลัวว่าเขาจะหายไปอีกครั้ง
ชั้นคิดว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอคุณอีกแล้ว หลิวหรูหยานปล่อยโฮออกมาในขณะที่ปลดปล่อยอารมณ์เศร้าโศกทั้งหมดที่เก็บเอาไว้
ฉิงเฟิงรู้สึกตื้นตันใจเขายกมือขึ้นลูบไล้ผมยาวสลวยของเธอเบาๆ หลิวหยางหงุดหงิดมากเมื่อเขาเห็นความสนิทชิดเชื้อของฉิงเฟิงและหลิวหรูหยาน
คุณเป็นใคร คุณกล้าดียังไงถึงมากอดคุณหลิว ? หลิวหยางตะคอกเสียงดัง
ฉิงเฟิงกำลังปลอบโยนหลิวหรูหยานแต่จู่ๆก็มีคนมาชี้หน้าเขา เขาขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจทันทีและถามเธอว่า หรูหยาน หมอนี่เป็นใคร
เขาชื่อหลิวหยางรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งนี้ ช่วงหลายวันมานี่เขาพยายามตามตื๊อชั้น ปฏิเสธเท่าไรก็ไม่ยอมไป ชั้นล่ะรำคาญเขาจริงๆ
หลิวหรูหยานกล่าวด้วยความรังเกียจ
ฉิงเฟิงสังเกตเห็นถึงความไม่พอใจในแววตาของหลิวหรูหยานหลิวหยางคนนี้ต้องตามรังควาญจนเธอไม่พอใจอย่างแน่นอน
บัดซบมันกล้าหลีผู้หญิงของฉันตอนนี้ฉันไม่อยู่
ฉิงเฟิงคิดในใจด้วยความโกรธเคือง การแสดงออกของฉิงเฟิงมืดครึ้มช่วงนี้มีแต่เรื่องที่ทำให้หงุดหงิด เริ่มจากสมาพันธ์เทพนภาลอบยิงขีปนาวุทธในเครื่องบินลำที่เขาโดยสาร จากนั้นก็นิกายแวมไพร์ตามฆ่าหลินเสวี่ย มาวันนี้หลิวหยางก็มาตามตื๊อหลิวหรูหยานอีก เขาเหนื่อยล้าและหงุดหงิดมากจนอยากจะระบายความโกรธกริ้วออกมา
เพี๊ยะ!
ฉิงเฟิงเดินไปหาหลิวหยางและตบหน้าเขาใบหน้าของหลิวหยางบวมขึ้นจนฟันหลุดจากปาก
สารเลว! , แกกล้าดียังไงมาตบหน้าฉันวะ ! ฉันเป็นรองผู้อำนวยการ ฉันจะเตะแกออกจากโรงพยาบาล หลิวหยางกล่าวอย่างดุเดือด
สีหน้าของฉิงเฟิงเย็นลงเขายกขาขึ้นและเตะหลิวหยางลงบนพื้นจนซี่โครงหักไปท่อนหนึ่ง
ปัง! ฉิงเฟิงกระทืบซ้ำลงที่เป้ากางเกงของหลิวหยางจนเกิดเสียงดังโพล๊ะ!
อะ…อ้ากกกกกกกก ไข่… ไข่ของฉัน ! หลิวหยางกรีดร้องโหยหวนอย่างน่าสงสาร เขาจ้องมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความกลัวก่อนจะหมดสติไป
เขาไม่คาดคิดเลยว่าเพียงแค่จีบผู้หญิงคนนี้จะถูกฉิงเฟิงทำลายกล่องดวงใจด้วยความเจ็บปวดเช่นนี้ย่อมแน่ใจได้ว่าเขาคงไม่กล้าจีบสาวมั่วซั่วอีกแล้วในอนาคต…
หึนี่เป็นการลงโทษที่มาจีบหญิงฉัน ฉิงเฟิงกล่าวอย่างเยือกเย็น
ฉิงเฟิงหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาลั่วหนี่ชิงเขาเรียกให้เธอมาที่นี่เพื่อให้คนแบกร่างของหลิวหยางออกไป
อุแว๊
~
เสียงอึกทึกวุ่นวายของฉิงเฟิงทำให้ทารกตื่นขึ้นมาเธอร้องไห้จ้าไม่หยุด คุณอย่าเสียงดังนักสิคะลูกตื่นเลยเห็นมั้ย ! หลิวหรูหยานบ่นฉิงเฟิงทันที
ฉิงเฟิงยิ้มแห้งๆและกล่าวว่า ผมขอโทษนะ ลืมไปเลยว่าลูกหลับอยู่ คราวหน้าถ้าหลิวหยางมาก่อกวนอีกผมจะลากมันไปสั่งสอนข้างนอก
โอ๋ๆที่รักของแม่อย่าร้องไห้เลยนะ มาๆเดี๋ยวแม่ป้อนนมให้หนูเอง
หลิวหรูหยานกล่าวเบาๆขณะที่อุ้มลูกออกจากเตียง
มันง่ายที่จะเอาใจทารกเธอหยุดร้องไห้ทันทีเมื่อเธอกินอิ่ม หลังจากดูดนมแม่ไปแล้วทารกก็ของเริ่มหัวเราะคิกคัก เห็นได้ชัดว่าเธอมีความสุขมาก
แอปเปิ้ลน้อยมามะๆให้ป๋ะป๋าอุ้มหน่อย ฉิงเฟิงกล่าวกับลูกน้อยด้วยรอยยิ้ม
~ย้า ย้า
แอปเปิ้ลน้อยหัวเราะอย่างมีความสุขฉิงเฟิงก็มีความสุขเช่นกันที่เห็นว่าลูกจดจำได้ว่าเขาเป็นพ่อ
แอปเปิ้ลน้อยเดี๋ยวปะป๊าร้องเพลง <ที่รักของฉัน>ให้ฟังนะ ~
จูบลูกน้อยของฉันฉันจะปีนขึ้นไปบนเขาสูงชันเพื่อหาดวงอาทิตย์ที่หายไป…
~
ฉิงเฟิงเริ่มร้องเพลงกล่อมลูก
แอปเปิ้ลน้อยทำเสียงอ้อแอ้ที่มีความสุขและปรบมือเล็กๆของเธอเข้าด้วยกัน
ลูกสาวของป๊าเก่งที่สุดเลย! ลูกเข้าใจเพลงของป๊ะป๋าแม้แต่ตอนเด็กขนาดนี้ โตขึ้นหนูต้องเป็นดาราดังแน่นอน ! ฉิงเฟิงกล่าวชมเชยด้วยความเห่อลูก
หลิวหรูหยานพูดว่า ไม่ได้นะคะ ชั้นจะไม่ยอมให้ลูกเอาดีทางด้านวงการบันเทิงหรอก วงการนี้มันลึกเกินไป ชั้นจะให้ลูกเรียนรู้ธุรกิจและกลายเป็นนักธุรกิจที่เก่งกาจ
ฉิงเฟิงพยักหน้าคล้อยตามเขาฉุกคิดขึ้นและเห็นด้วยกับคำพูดของหลิวหรูหยานอุตสาหกรรมบันเทิงของหัวเซี่ยนั้นมีความซับซ้อนเกินไป
กะกรี๊ดดดด ผีหลอก !
ในขณะที่ฉิงเฟิงกับหลิวหรูหยานกำลังคุยกันพวกเขาได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาจากด้านหลังทำให้พวกเขาสะดุ้งตกใจ
ฉิงเฟิงมองไปข้างหลังและเห็นว่าเป็นหลิวเจียวเจียวเขาขมวดคิ้วและกล่าวอย่างไม่พอใจว่า เจียวเจียว อยู่ดีๆทำไมกรี๊ดแบบนั้นเดี๋ยวหลานก็ตกใจหรอก
ผี! ผี ! คะ คะ คุณยังไม่ตายเหรอ ใบหน้าของหลิวเจียวเจียวซีดเผือด เธอชี้นิ้วไปมาที่ฉิงเฟิงด้วยความหวาดกลัว
หลิวเจียวเจียวเห็นจากข่าวว่าพี่เขยของเธอตายแล้วดังนั้นคนที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ก็คือผี !
ฉิงเฟิงเขกหัวหลิวเจียวเจียวและกล่าวว่า ผีเผอบ้าอะไร ดูสิฉันยังมีร่างกาย
หลิวเจียวเจียวกุมศีรษะด้วยความเจ็บแต่แล้วความตกใจกลัวก็หายไปจากใจเธอ เมื่อเธอรู้สึกและสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันคุ้นเคยของฉิงเฟิง ซึ่งก็หมายความว่าเขาไม่ใช่ผี
พี่เขยคุณไม่ใช่ผี คุณรอดมาได้ไงเนี่ย !?
แน่นอนว่าฉันไม่ใช่ผีฉันยังไม่ตาย
สุดยอด! พี่เขย คุณทรงพลังเหลือเกิน ! แม้แต่เครื่องบินระเบิดคุณก็ยังไม่ตาย คุณเป็นซูเปอร์ฮีโร่เหรอ
หลิวเจียวเจียวกล่าวด้วยความชื่นชมพร้อมกับดวงตาที่เป็นประกาย
ฉิงเฟิงพูดไม่ออกกับความไร้เดียงสาของหลิวเจียวเจียวเขาเขกหัวเธออีกครั้ง
จากนั้นฉิงเฟิงก็ใช้เวลาทั้งวันอยู่กับหลิวหรูหยาน,หลิวเจียวเจียวและลูกน้อยของเขาก่อนที่จะออกมาในตอนเย็น
ความจริงแล้วฉิงเฟิงยังไม่อยากจากพวกเธอไปเขาอยากใช้เวลากับพวกเธอให้มากขึ้นแต่เขาก็ยังมีเรื่องที่ต้องจัดการอีกมากมาย ฉิงเฟิงได้ให้สัญญากับฉินเซียนจื่อไว้ว่าจะช่วยรักษาพ่อของเธอในตอนนี้เขามีผลเพลิงอยู่กับตัวแล้วและก็กินหญ้ามังกรเข้าไป ซึ่งพลังของหญ้ามังกรยังคงวนเวียนอยู่ในเลือดของเขา อีกทั้งเขายังมีดอกไม้แห่งสรวงสวรรค์อีกด้วย
ฉิงเฟิงมีความสัมพันธ์พิเศษกับฉินเซียนจื่อนายหญิงน้อยแห่งตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ เธอช่วยเหลือเขามามากแล้วดังนั้นนี่เป็นเวลาที่เขาสมควรจะต้องตอบแทนบุญคุณของเธอ
ฉินเซียนจื่อเคยบอกเขาถึงที่ตั้งของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้มาก่อนแล้วดังนั้นฉิงเฟิงเพียงแค่บอกเส้นทางกับคนขับแท๊กซี่ให้ขับพาไป
ตำหนักหลักของโห่วเย่อหวงตี้นั้นตั้งอยู่ที่ภูเขามังกรซึ่งภูเขามังกรเป็นหนึ่งในสิบภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดของหัวเซี่ยและมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันๆปี
มันไม่ใช่ภูเขาสูงเพียงลูกเดียวแต่เป็นหุบเขาใหญ่ที่ประกอบไปด้วยภูเขาสูงนับ 10ลูก พื้นที่ปกคลุมไปด้วยลาวา ต้นไม้โบราณ เถาวัลย์และพืชเต็มไปทั่วหุบเขา
ฉิงเฟิงเดินไปตามทางที่ฉินเซียนจื่อเคยบอกกล่าวเอาไว้ทำให้ในที่สุดเขาก็มาถึงตำหนักโห่วเย่อหวงตี้โดยไม่หลงทางอย่างไรก็ตาม จู่ๆเขาก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติทันทีที่มาถึงจุดหมาย
หืม ทำไมถึงมีคราบเลือดสดที่นี่กันนะ ฉิงเฟิงขมวดคิ้วด้วยความงุนงง