ตอนที่ 987 มุ่งหน้าสู่ขุนเขาที่เก้า, ตำหนักร้อยบุปผา
ฉิงเฟิงส่ายหัวและแสดงรอยยิ้มจางๆเพื่อตอบสนองต่อคำชมเชยของฉินอ้าวเทียนการสกัดกลั่นยาอายุวัฒนะในระดับจิตวิญญาณนั้นไม่ได้ยากเย็นนักสำหรับเขาในตอนนี้
หลังจากแสดงความชื่นชมอย่างใหญ่หลวง,ฉินอ้าวเทียนก็ฉุดลากฉิงเฟิงไปยังห้องเก็บสมบัติของตำหนักเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ ตำหนักโห่วเย่อหวงตี้มีคลังสมบัติมรดกตกทอดมากมายจากรุ่นก่อนๆที่มีประวัติอันยาวนานและลึกซึ้งหลายพันปี มีสมบัติล้ำค่ามากมายอยู่ในนั้น
ฉิงเฟิงมองไปรอบๆและพบศาสตราวุธประเภทต่างๆมากมายเช่นดาบ, กระบี่, ไม้เท้าโลหะและค้อนทองแดง
นอกเหนือจากอาวุธเหล่านี้แล้วมันยังสมบัติอื่นๆเช่นยา,หยกที่จารึกเคล็ดวิชา, เห็ดหลินจื่อโบราณและโสม ทั้งหลินจือและโสมที่อยู่เบื้องหน้าเขานั้นส่วนใหญ่มีอายุนับสิบหรือหลายร้อยปีพวกมันเป็นสมุนไพรหายากที่มีอายุเก่าแก่และมีบางส่วนหายสาบสูญไปแล้ว ฉิงเฟิงไม่คาดคิดว่าจะมีโอกาสได้เห็นสมุนไพรโบราณเหล่านี้ในตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ แต่ถึงแม้ว่าพวกมันจะหายากและล้ำค่ามาก แต่พวกมันก็ยังไม่เหมาะกับเขาอีกต่อไป ตอนนี้เขามีพลังในระดับจิตวิญญาณแท้จริงขั้นต้นซึ่งต้องการสมุนไพรในระดับที่สูงกว่านี้
ฉินอ้าวเทียนก็รู้เช่นกันว่าสมุนไพรเหล่านี้ไม่ได้มีประโยชน์ใดๆต่อหลี่ฉิงเฟิงเขาเดินเข้าไปที่มุมห้องและหยิบกล่องหินกล่องหนึ่งออกมา มันเป็นกล่องที่ไม่ใหญ่มาก มันยาวเพียงสิบเซนติเมตรกว้างประมาณห้าเซนติเมตรและดูเรียบง่ายแต่มีพื้นผิวสีดำ มันดูเก่าแก่มาก
ฉินอ้าวเทียนเปิดกล่องและเผยให้เห็นหินสีฟ้าที่อยู่ด้านในหินนี้มีขนาดเล็กเท่าไข่ แต่มันกลับปลดปล่อยกลิ่นอายพลังที่เข้มข้นออกมา นี่คือหินวิญญาณแท้มันเป็นของเจ้าแล้ว ฉินอ้าวเทียนหยิบหินสีฟ้าขึ้นมาและกล่าวกับฉิงเฟิง
หินวิญญาณแท้
ฉิงเฟิงรู้สึกสับสนเขาเคยได้ยินแต่เพียงหินพลัง แต่ไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับหินวิญญาณแท้มาก่อน
ฉินอ้าวเทียนยิ้มและอธิบายว่า หินพลังมีไว้สำหรับผู้ฝึกวิทยายุทธ์โบราณ ส่วนหินวิญญาณแท้สำหรับผู้ฝึกตน พวกมันมีพลังงานมากกว่าหินพลังถึงสามเท่า
ฉินเซียนจื่อกล่าวเสริมว่า พี่ใหญ่หลี่ ท่านสามารถหลอมกลั่นและดูดซับหินก้อนนี้ได้ มันจะช่วยให้ท่านทะลวงผ่านขอบเขตปัจจุบัน
ฉิงเฟิงพยักหน้าอย่างมีความสุขเขารับหินวิญญาณแท้ไปที่ห้องข้างๆ ด้วยการคุ้มกันของฉินเซียนจื่อและฉินอ้าวเทียน ฉิงเฟิงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกรบกวนระหว่างการดูดซับพลัง เพราะฉินอ้าวเทียนเป็นจ้าวตำหนักที่แข็งแกร่ง ฉิงเฟิงนั่งไขว้ขาและยกมือขึ้นรวมกันเป็นสัญลักษณ์แปลกๆจากนั้นก็มีแสงสีเขียวพุ่งออกมาจากร่างของเขา มันส่องประกายและปกคลุมไปที่หินวิญญาณแท้
หินระเบิดพลังงานที่รุนแรงออกมามันเป็นพลังงานที่รุนแรงดั่งคลื่นสึนามิและรวดเร็วราวกับพายุทอร์นาโด หลังจากมันถูกดูดซับโดยฉิงเฟิง พลังงานมหาศาลก็เริ่มไหลผ่านเส้นชีพจรไปยังจุดตันเถียนของเขา
ตันเถียนของฉิงเฟิงมีสีเขียวมรกตด้วยแก่นวิญญาณขนาดเท่าไข่อยู่ภายใน แก่นวิญญาณหมุนวนอย่างรวดเร็วและก่อให้เกิดวังวนสีดำที่ดูดซับพลังงานจากหินวิญญาณแท้
หลังจากได้รับพลังงานจำนวนมากแก่นวิญญาณของเขาก็เริ่มเปลี่ยนแปลง ก่อนหน้านี้มีเพียงแก่นวิญญาณก้อนเดียว แต่ตอนนี้มันปรากฏก้อนที่สองขึ้น
ตูม!!
พลังงานที่แข็งแกร่งระเบิดกระจายออกจากร่างกายของหลี่ฉิงเฟิงเขาทะลวงผ่านจากขอบเขตจิตวิญญาณแท้จริงขั้นต้นไปสู่ขั้นกลางแล้ว
ฉิงเฟิงลุกยืนขึ้นและออกหมัดมันก่อให้เกิดวังวนสีดำสิบแปดหลุมในอากาศ สิ่งนี้หมายถึงพละกำลังหนึ่งหมื่นแปดพันกิโลกรัมทีเดียว
พี่ใหญ่หลี่ขอแสดงความยินดีด้วย ท่านตัดผ่านเข้าสู่ขั้นกลางแล้ว ฉินเซียนจื่อเผยอริมฝีปากสีแดงและกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ฉิงเฟิงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากหลังจากการทะลวงระดับพลังในครั้งนี้
หินวิญญาณแท้นั้นน่าประทับใจทีเดียวด้วยพลังงานที่น่าเหลือเชื่อ ฉิงเฟิงรู้สึกกระฉับกระเฉงและกระโดดปราดขึ้น
กริ๊งกริ๊ง …
โทรศัพท์ดังขึ้นอย่างกระทันหันเมื่อฉิงเฟิงยังคงลุ่มหลงมัวเมากับอาการตื่นเต้น
สายเรียกเข้าเป็นของฮวาเซียนจือนั่นเอง
ฉิงเฟิงมีความรู้สึกที่ซับซ้อนต่อฮวาเซียนจือก่อนหน้านี้เพื่อช่วยชีวิตหลิวหรูหยานจากคำสาปปีศาจร้าย ระดับพลังของเธอตกลงไปสู่ขอบเขตเหนือสวรรค์
ฉิงเฟิงเป็นหนี้บุญคุณฮวาเซียนจืออย่างใหญ่หลวงสำหรับความช่วยเหลือในครั้งนั้นเขายังไม่มีโอกาสได้ตอบแทนเธอ
ฮวาเซียนจือ,มีอะไรหรือ ฉิงเฟิงรีบรับสายและถามทันที
โดยไม่คาดคิด,ปลายสายกลับไม่ใช่ฮวาเซียนจือแต่เป็นเสียงของผู้หญิงอีกคนหนึ่ง เธอตอบว่า สวัสดี ข้าคือชุ่ยน้อย สาวใช้ของคุณหนูเซียนจื่อ ตอนนี้คุณหนูกำลังตกอยู่ในอันตราย ท่านต้องรีบช่วยเธอ !
อะไรนะ
ฮวาเซียนจื่อตกอยู่ในอันตราย
เมื่อได้ยินเรื่องนี้ฉิงเฟิงก็ตกใจและถามกลับทันทีว่า ชุ่ยน้อย เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเธอ
หลี่ฉิงเฟิงตอนนี้คุณหนูถูกจำกัดบริเวณอยู่ในบ้านโดยคำสั่งของจ้าวตำหนักร้อยบุปผา เนื่องจากระดับพลังของเธอลดลง ท่านจ้าวต้องการตัดชื่อเธอออกจากตำแหน่งนักบุญหญิง หากคุณหนูไม่ได้เป็นนักบุญ เธอจะต้องตายแน่นอน ชุ่ยน้อยกล่าวด้วยความหวาดกลัว
ในฐานสาวใช้ชุ่ยน้อยสนิทสนมใกล้ชิดกับฮวาเซียนจื่อมาก แน่นอนว่าเธอย่อมต้องการให้ฮวาเซียนจื่อคงสถานะนักบุญหญิงต่อไป ดังนั้นเธอจึงนึกถึงหลี่ฉิงเฟิงและรีบโทรแจ้งข่าวต่อเขา
ชุ่ยน้อยเคยพบกับหลี่ฉิงเฟิงมาก่อนที่เกาะทมิฬพร้อมกับฮวาเซียนจื่อและเธอก็รู้ด้วยว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่มากด้วยฝีมือ
ชุ่ยน้อยเธอบอกฉันมาว่าตำหนักร้อยบุปผาตั้งอยู่ที่ไหน ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้ !
ฉิงเฟิงถามอย่างใจจดใจจ่อ
ตำหนักร้อยบุปผาตั้งอยู่ตรงกลางยอดเขาสูงสุดลูกที่เก้าในจังหวัดกวางโจว ชุ่ยน้อยรีบบอกตำแหน่งที่ตั้งต่อฉิงเฟิงอย่างรวดเร็ว ชุ่ยน้อยรีบวางสายไปทันทีหลังจากกล่าวจบเธอไม่อาจถือสายนานเกินไปเพราะเธออยู่ในตำหนักร้อยบุปผา มิเช่นนั้นคนอื่นอาจจะมาเห็นเข้า
เมื่อได้ยินเสียงบี๊บทางโทรศัพท์ฉิงเฟิงก็วิตกกังวลมาก
คุณหนูฉินฉันต้องไปแล้ว ฉิงเฟิงกล่าว
ฉินเซียนจื่อพยักหน้าเธอได้ยินสิ่งที่ชุ่ยน้อยพูดกับเขาทางโทรศัพท์ เธอรู้จักฮวาเซียนจื่อเช่นกันและเคยร่วมเดินทางด้วยกันมา
พี่ใหญ่หลี่นี่คือชุดเกราะจักรพรรดิเพลิงซึ่งเป็นอุปกรณ์วิญญาณสายป้องกันระดับโลกา ท่านสวมมันไว้สิ ฉินเซียนจื่อเดินไปหยิบชุดเกราะอ่อนสีเหลืองออกมาและกล่าวกับฉิงเฟิง
ชุดเกราะจักรพรรดิเพลิงชุดนี้ล้ำค่ายิ่งมันเป็นหนึ่งในสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ มันล้ำค่ายิ่งกว่าหินวิญญาณแท้ด้วยซ้ำ แต่ฉินเซียนจื่อก็ยังนำมันมามอบให้แก่ฉิงเฟิงเพราะเธอรู้ว่าผู้คนของตำหนักร้อยบุปผานั้นแข็งแกร่งเพียงใด
ขอบคุณมากไว้พบกันใหม่ ลาก่อน ฉิงเฟิงตอบรับและกล่าวขอบคุณเธอสำหรับชุดเกราะก่อนจะรีบออกเดินทางอย่างรวดเร็ว
จังหวัดกวางโจวนั้นอยู่ไกลออกไปมากดังนั้นฉิงเฟิงจึงซื้อตั๋วและรีบขึ้นเครื่องบิน
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นระยะทางที่ค่อนข้างไกลแต่ฉิงเฟิงก็มาถึงจังหวัดกวางโจวภายในเวลาสามชั่วโมง
จังหวัดกวางโจวเป็นหนึ่งในจังหวัดใหญ่ของหัวเซี่ยที่มีประชากรหลายสิบล้านคนมีประชากรหลายคนเข้าทำงานในบริษัทที่มีนับไม่ถ้วนของจังหวัดนี้ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีภูเขาและแม่น้ำอันงดงามหลายสาย
เบลล์มองต์เป็นภูเขาที่สูงที่สุดและสง่างามที่สุดในจังหวัดกวางโจวมันประกอบไปด้วยยอดเขามากกว่าสิบลูก ฉิงเฟิงเร่งรีบเดินทางอย่างมากและปีนป่ายขึ้นสู่ขุนเขาที่เก้าในทันที