ตอนที่ 1029 เก็บกวาดทีละคน
หลี่ฉิงเฟิงข้าจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย มอบท่วงทำนองจิตวิญญาณสวรรค์มาซะ !
จ้าวอี้เจียนแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็นและกล่าวด้วยความเย็นชา
ไม่ล่ะมีความสามารถก็มาแย่งเอาเอง
เช้ง!
จ้าวอี้เจียนชักกระบี่น้ำแข็งออกมาด้วยมือขวาและยิงมันไปหาฉิงเฟิงพลังงานกระบี่พุ่งทะลุท้องฟ้ากลายเป็นภูเขาน้ำแข็งขนาดยักษ์และระเบิดอากาศโดยรอบ
เพลิงภูเขาไฟระเหย
!
ฉิงเฟิงโบกมือเหวี่ยงกระบี่เพลิงคะนองออกไปและเปลี่ยนมันเป็นมายาภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่กระทบเข้าใส่ภูเขาน้ำแข็งขนาดยักษ์ผลออกมากลายเป็นจ้าวอี้เจียนต้องถอยไปหนึ่งก้าว
เมื่อพูดถึงวิชากระบี่ปัจจุบันนี้จ้าวอี้เจียนยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉิงเฟิง
การที่ได้เห็นจ้าวอี้เจียนถูกบีบให้ต้องถอยอีกคราผู้คนที่อยู่ใกล้เคียงรวมไปถึงเฮยหยาง พานฮง เซวี่ยหยานและเซี่ยตงต่างก็ล้อมรอบฉิงเฟิง
พูดคนต่างกล่าวกันว่าธรรมะและอธรรมไม่อาจอยู่ร่วมกันแต่วันนี้เพื่อให้ได้ท่วงทำนองจิตวิญญาณสวรรค์ที่อยู่ในครอบครองของฉิงเฟิง พวกเขากลับร่วมมือกันทำเรื่องไร้ยางอาย
เหล่าพรรคพวกของฉิงเฟิงที่ได้เห็นว่าเขาถูกล้อมรอบโดยห้าอันดับแรกของยอดฝีมือจิตโลกาพวกเขาต่างก็รีบวิ่งไปยืนหยัดอยู่เคียงข้างฉิงเฟิงในทันที ในขณะนี้พวกเขามีความสามารถพอที่จะรับมือคนเหล่านี้ได้แล้วจากการช่วยเหลือของฉิงเฟิงตามรายทาง จ้าวอี้เจียนยังไม่ยอมแพ้เขากระชับกระบี่มั่น ในขณะที่เฮยหยางถือดาบยาวเอาไว้ พวกเขาทั้งสองเริ่มโจมตีฉิงเฟิงทันที
ส่วนอีกด้านหนึ่งพานฮงสู้กับฮวาเซียนจือ, เซวี่ยหยานปะทะกับฉินเซียนจื่อและเซี่ยตงรับมือลู่ซวนจี๋
ฉิงเฟิงชักกระบี่เพลิงคะนองออกไปโจมตีไปยังเบื้องหน้า พลังกระบี่อันทรงพลังฉีกอากาศแหวกออกเป็นทางและปะทะเข้ากับกระบี่น้ำแข็งของจ้าวอี้เจียนและดาบสีดำของเฮยหยาง
ต้นไม้ทุกต้นที่อยู่รอบพวกเขาไร้การเคลื่อนไหวในขณะที่พลังอันดุเดือดแผ่ขยายออกไปรอบตัวพวกมันและเกิดเสียงระเบิดปริแตกไปทั่วบรรยากาศ
ฉิงเฟิงคงความได้เปรียบไว้ในการต่อสู้กับศัตรูทั้งสองคนอีกทั้งเขายังมีไพ่ตายในมือมากมาย ในตอนแรกเขาต้องการอาศัยสองคนนี้เป็นที่ลับกระบี่และเพิ่มพูนประสบการณ์ในเชิงกระบี่ แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะยุติการต่อสู้โดยเร็วที่สุดและไม่ต้องการเสียเวลากับพวกมันอีกต่อไป เนื่องจากเป้าหมายหลักของเขาคือการครอบครองอุปกรณ์วิญญาณระดับราชันที่อยู่ในชั้นที่สาม
เจตน์กระบี่เพลิง
!
ฉิงเฟิงปล่อยเจตน์กระบี่แห่งไฟออกมาโดยตรงซึ่งทำให้จ้าวอี้เจียนตอบสนองได้ช้าลงและยังทำให้ร่างกายของเขารู้สึกเหมือนถูกไฟคลอกและเคลื่อนไหวช้าลงอีกด้วย
แกร่ก!
กระบี่เพลิงคะนองในมือของฉิงเฟิงที่หอบหุ้มไปด้วยเจตน์กระบี่แห่งเปลวไฟพุ่งเข้าฟาดฟันใส่กระบี่น้ำแข็งของจ้าวอี้เจียนและตัดมันเป็นสองส่วนจนตกลงกับพื้น
ถึงแม้ว่าทั้งกระบี่น้ำแข็งและกระบี่เพลิงคะนองจะเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับโลกาขั้นสูงแต่เมื่อฉาบไว้ด้วยเจตน์กระบี่ อุปกรณ์วิญญาณใดๆในระดับโลกาจึงไม่ใช่คู่มือของมันอีกต่อไป
หลังจากแยกกระบี่น้ำแข็งของจ้าวอี้เจียนเป็นสองส่วนแล้วฉิงเฟิงก็ยังโจมตีต่อไปโดยสะบัดกระบี่จากล่างขึ้นบนเฉือนมือขวาของอีกฝ่ายออกโดยตรงจนเลือดสาดกระเซ็นและเผยให้เห็นกระดูกสีขาวที่น่ากลัว
อ้ากกกกกกก
!
จ้าวอี้เจียนกุมมือที่ถูกทำลายและกรีดร้องอย่างน่าสังเวชใบหน้าของเขาซีดจางลง เหงื่อเม็ดโป้งไหลออกมาจากหน้าผากของเขา กล้ามเนื้อบนใบหน้าบิดเบี้ยวซึ่งบ่งบอกถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรงในใจของเขา
ทุกคนที่อยู่รอบๆต่างตกใจด้วยปากที่เปิดกว้างท้ายที่สุดแล้ว จ้าวอี้เจียนก็ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับต้นๆของยอดฝีมือรุ่นเยาว์ระดับจิตโลกา แต่ตอนนี้เขาไม่เพียงแค่พ่ายแพ้หลี่ฉิงเฟิงผู้ไร้ชื่อเท่านั้น แต่ยังสูญเสียแขนอีกด้วย พวกเขาจะไม่ตกใจกับความจริงที่เห็นได้อย่างไร
ทันใดนั้นเองดาบสีดำของเฮยหยางก็มาถึงเบื้องหน้าของฉิงเฟิงเขามีปฏิกิริยาในทันทีและตอบโต้ด้วยวิชาหมัดแทน
หมัดที่สาม
–
สวรรค์พินาศโลกาสลาย
!
ฉิงเฟิงใช้หมัดที่ของวิชาหมัดทลายนรกานต์ออกมามันก่อตัวเป็นกำปั้นขนาดยักษ์ที่มีขนาดถึงห้าร้อยฟุต มันเปิดรอยปริแตกขนาดใหญ่จากสรวงสวรรค์และโลก กระแทกเข้าอย่างแรงบนดาบยาวของเฮยหยาง
ด้วยเสียงแกร่กที่ดังสนั่นดาบสีดำของเฮยหยาง, อาวุธวิญญาณระดับโลกาถูกทำลายลงด้วยสวรรค์พินาศโลกาสลาย และแตกเป็นเสี่ยงๆร่วงลงสู่พื้นราวกับเศษฝุ่น
ยังไม่จบเท่านั้นหลังจากที่ป่นสลายดาบสีดำไปแล้ว พลังหมัดก็ยังคงพุ่งต่อไปและเจาะรูบนหน้าอกของเฮยหยางอย่างหนักจนเกิดรูโหว่สีดำขนาดใหญ่
เฮยหยางยอดฝีมือจิตโลกาอันดับสอง – ตายแล้ว
พูดอย่างไม่ต้องสงสัยสวรรค์พินาศโลกาสลายของฉิงเฟิงทรงพลังยิ่งกว่าเจตน์กระบี่แห่งไฟ เพราะมันสามารถทำลายอาวุธและสังหารเฮยหยางได้ในหมัดเดียว !
ในเวลานี้ทุกคนต่างก็ตกใจจนไม่รู้จะตกใจได้อย่างไรอีกวิชาหมัดของหลี่ฉิงเฟิงดุดันทรงพลังมหาศาลเกินจินตนาการและไม่อาจต้านทานได้ ไม่ว่าใครก็ตามที่ทานรับมันย่อมต้องตกตายในพริบตาแน่นอน
การต่อสู้ในอีกด้านหนึ่งก็ดุเดือดเช่นกันพานฮงเหวี่ยงศิลายักษ์ในมือที่มีน้ำหนักมากกว่าสองหมื่นกิโลกรัมและทุบกระแทกเข้าใส่ฮวาเซียนจือ ในฐานะยอดฝีมือขอบเขตจิตโลกาอันดับสามพานฮงแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อเทียบกับฮวาเซียนจือที่งดงามอย่างน่าหลงใหล ทุกคนรอบๆเริ่มกังวลเกี่ยวกับเธอ
ฝ่ามือบัวขาว
!
ฮวาเซียนจือซัดฝ่ามือขวาออกไปสร้างเป็นดอกบัวสีขาวขนาดใหญ่ที่มีพลังอันแข็งแกร่งตบไปที่ศิลายักษ์
ตูม!!
ด้วยเสียงที่ดังลั่นศิลายักษ์ที่หนักอึ้งของพานฮงแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและลอยขึ้นไปในอากาศ
นังบ้า! เจ้ากล้าทำลายอาวุธของข้า ! พานฮงใบหน้าบิดเบี้ยวและคำรามด้วยความโกรธ
ในนิกายศิลาอาวุธของศิษย์ทุกคนเป็นอาวุธวิญญาณที่มีพลังโจมตีอันรุนแรงซึ่งทำมาจากหินสะเก็ดดาวพิเศษ
ส่วนศิลายักษ์ของพานฮงนั้นนับได้ว่าเป็นเกรดสูงสุดในบรรดาศิษย์สาวกทุกคนมันเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับโลกาชั้นสูงสายป้องกัน แต่มันกลับถูกฝ่ามือของฮวาเซียนจือซัดทำลายสิ้นจนแหลกเป็นชิ้นๆอย่างไม่คาดคิด เขาคิดในใจว่าทำไมจู่ๆสตรีนางนี้ถึงแข็งแกร่งขึ้นได้ขนาดนี้
เมื่อได้ยินพานฮงสบถคำหยาบใส่เธอฮวาเซียนจือก็ขุ่นเคือง ดวงตาเป็นประกายเย็นเฉียบ
ฮวาเซียนจือกางฝ่ามือและใช้ฝ่ามือบัวขาวที่รุนแรงยิ่งกว่าครั้งที่แล้วออกมามันฟาดเข้าใส่หน้าอกของพานฮงจนหัวใจแหลกสลาย เขาฟุบลงกับพื้นและกลายเป็นร่างไร้วิญญาณในที่สุด
พานฮองยอดฝีมือรุ่นเยาว์ในขอบเขตจิตโลกา, อันดับที่สามของการจัดอันดับ – ตายแล้ว ส่วนทางด้านขวาฉินเซียนจื่อกำลังต่อสู้อย่างดุเดือดกับเซวี่ยหยานซึ่งเป็นอันดับสี่ เขาเชี่ยวชาญในวิชามารและไม่ง่ายที่จะจัดการเขา
เซวี่ยหยานดึงธงสีแดงซึ่งสลักไว้ด้วยสัญลักษณ์แปลกๆสีแดงเลือดซึ่งมอบจิตวิญญาณมารโลหิตอันทรงพลัง
กรงเล็บอสูรโลหิต
!
เซวี่ยหยานโบกธงสีแดงในมือของเขาและเปลี่ยนวิญญาณมารโลหิตให้กลายเป็นกรงเล็บสีแดงยักษ์และเหวี่ยงเข้าใส่ฉินเซียนจื่อ
ตลอดเส้นทางที่กรงเล็บอสูรโลหิตกรีดผ่านจะปรากฏรอยนิ้วมือสีแดงเถือกขึ้นในอากาศตามมาด้วยเสียงที่แหลมคมแสบแก้วหู กรงเล็บกรีดตรงเข้าหาร่างฉินเซียนจื่อในทันที
ดรรชนีจักรพรรดิเพลิง
!
ฉินเซียนจื่อโคจรพลังภายในร่างไปรวมกันที่นิ้วชี้ขวาของเธอและก่อตัวเป็นลำแสงสีเหลืองที่หอบเอาพลังงานที่สามารถเจาะทะลวงทุกสิ่งได้
ตูม!
กรงเล็บอสูรโลหิตถูกทำลายโดยดรรชนีจักรพรรดิเพลิงมันกลายเป็นแสงสีแดงและเลือนหายไปในอากาศ ในขณะที่พลังลำแสงของดรรชนียังไม่หมดสิ้น มันพุ่งต่อไปยังธงสีแดงของเซวี่ยหยานจนทิ้งรูโหว่ขนาดใหญ่ไว้
หลังจากทำลายการวิชากรงเล็บไปแล้วฉินเซียนจื่อโคจรพลังและใช้ดรรชนีจักรพรรดิเพลิงซ้ำอีกครั้ง แสงสีเหลืองพุ่งทะลุศีรษะของเซวี่ยหยานโดยที่อีกฝ่ายยังไม่ทันตั้งตัว ปรากฏรูสีแดงขนาดใหญ่บนหน้าผากของเขาตามมาด้วยโลหิตที่ฉีดพุ่ง
ร่างกายของเขากระตุกเล็กน้อยและล้มลงกับพื้นหมดลมหายใจ