Chapter 527: ความมุ่งมั่น!
รถมินิบัสของเจียงลู่ฉีได้สังหารสัตว์กลายพันธุ์ไปอีกตัวหนึ่ง ในยามนี้ ด้านนอกของรถมินิบัสได้ถูกย้อมไปเป็นสีแดงฉาน โดยเลือดที่สาดกระเด็นมาโดนใส่ ซึ่งทําให้รถมินิบัสกลายเป็นที่ดึงดูดสายตาต่อผู้คนอย่างมาก และทิ้งความรู้สึกให้กับผู้คนที่เห็นมัน ทําให้ผู้รอดชีวิตทั้งหมดที่อยู่ล้อมรอบและทหาร ต่างรู้สึกหวาดกลัว
เจียงลู่ฉีไม่ได้สนใจเลยว่า รูปลักษณ์ภายนอกของรถมินิบัสเป็นยังไง หรือคนอื่นจะคิดยังไงเกี่ยวกับมัน เขาเป็นเหมือนกับพนักงานออฟฟิศที่ตื่นเต้น กับการได้รับเงินเดือนครั้งแรก เมื่อเขาสังเกตเห็นหลอดกระบวนการ มันขึ้นมาถึง 45%แล้ว!
นอกจากเจ้างูและหนูกลายพันธุ์แล้ว สัตว์กลายพันธุ์ตัวอื่นที่มีแสงดําไหลเวียนอยู่ในเส้นเลือดของมัน ค่อนข้างที่จะอ่อนแอกว่าพวกมันทั้งสองมาก มันจึงทําให้เขาได้รับแสงดําน้อยลง เจียงลู่ฉีได้สั่งเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวให้สแกนหาสัตว์ป่ากลายพันธุ์ที่มีแสงดําอีก แต่มันเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง ที่พวกเขาได้ฆ่าพวกมันทิ้งไปทั้งหมดแล้ว
“เฮ้อ ความคิดที่จะฆ่าสัตว์กลายพันธุ์ทั้งหมดทิ้งไปเพื่อดูดซึมแสงดําจนครบ มันไม่น่าเป็นไปได้อีกแล้วละ” เจียงลู่ฉีคิด
เขารออีกสักพักหนึ่ง แต่เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวก็ไม่สามารถที่จะหาสัตว์กลายพันธุ์อื่นได้อีกเลย เจียงลู่ฉีจึงเดาว่าเจ้าหลุมดําน่าจะตระหนักได้ถึงบางอย่างแล้ว มันจึงหยุดส่งสัตว์กลายพันธุ์ออกมา ในเวลาเดียวกัน เจ้าหลุมดํายังคงเข้าใกล้กับพื้นที่ปลอดภัย ยิ่งเจ้าหลุมดําเข้ามาใกล้กับพื้นที่ปลอดภัยมากเท่าไหร่ ความรู้สึกถึงหายนะของเจียงลู่ฉียิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
“เจ้าหลุมดําอาจจะต้องการดูดซึมเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวและฉัน แต่เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวยังจําเป็นต้องรวบรวมแสงดํา จากเจ้าหลุมดําที่กําลังรวบรวมอยู่ ถ้ามันเป็นแบบนี้แล้ว เขาจะจัดการเจ้าหลุมดําทิ้งซะ!” ร่องรอยของความเย็นชาส่องประกายขึ้นในดวงตาของเจียงลู่ฉี
เจ้าหลุมดําอาจจะเป็นภัยอันตรายต่อชีวิตของเจียงลู่ฉี แต่มันไม่ได้หมายความว่าเขาจะวิ่งหนีไปให้ใกล้ที่สุดเท่าที่เขาจะทําได้ ถ้ามันเป็นแบบนั้นแล้ว เขาอาจจะหลบหนีไปในทันทีที่พวกเขารู้เกี่ยวกับตัวตนของเจ้าหลุมดํา เมื่อคิดถึงความเร็วของเจ้าหลุมดําแล้ว มันไม่ได้เป็นเรื่องยากของรถมินิบัส ในการหลบหนีจากเงื้อมมือของมัน
เจียงลู่ฉีเลือกที่จะอยู่ด้วยเหตุผลของตัวเอง หนึ่งในเหตุผลของเขา ก็เป็นเพราะว่าครอบครัวของหลี่ยู่ซินอยู่ที่นี่ ในเวลาเดียวกัน การวิ่งหนีไป โดยที่ไม่ได้ทดลองสู้กับมันก่อน เขาคิดว่ามันเป็นวิธีจัดการกับปัญหาที่ปัญญาอ่อนมาก นอกจากนี้แล้ว ตั้งแต่ที่เขาพบกับตัวตนของเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวแล้ว นี่มันเป็นครั้งแรกสําหรับเจียงลู่ฉีที่รู้สึกถูกคุกคามมากเท่านี้ ด้วยเหตุผลนี้แล้ว เขาตัดสินใจที่จะกําจัดวัชพืชและรากทิ้งไป ดังนั้นเขาจะได้ไม่รู้สึกถูกคุมคามอีก ถ้าเขาหนีไปและปล่อยให้มันเติบโตขึ้นไป เจียงลู่ฉีอาจจะต้องระมัดระวังตัวให้มากยิ่งขึ้น ไม่สามารถที่จะนอนหลับได้อย่างปลอดภัยอีกต่อไป
ตั้งแต่ที่แกเป็นที่คุกคามกับฉัน ฉันจะทําลายแกทิ้งไปซะ แล้วทําให้แกกลายเป็นปุ๋ยให้กับเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวและรถของฉันซะ! แกไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ทุกคนคิดหรอก!” ดวงตาของเจียงลู่ฉีส่องประกายออกมา ซึ่งเต็มไปด้วยเจตนาต่อสู้
หลังจากนั้น เขาก็ตัดสินใจได้ “มุ่งตรงไปยังสํานักงาน!”
การต่อสู้ในพื้นที่ปลอดภัยยังคงดําเนินต่อไป แต่ด้วยการสนับสนุนของกองทัพ การต่อสู้ที่เลวร้ายได้ผ่านไป เมื่อเผชิญหน้ากับอาวุธร้อน สัตว์กลายพันธุ์ก็ไม่มีค่าอะไร และล่าถอยไป ในเวลาเดียวกัน หลังจากที่เจียงลู่ฉีได้ฆ่าสัตว์กลายพันธุ์ที่มีแสงดําทิ้งไปทั้งหมด สัตว์ป่ากลายพันธุ์ที่เหลืออยู่ ต่างดุร้ายน้อยลง
“ทําไมมีคนอยู่แถวนี้มากขนาดนี้ละ?”
“นายก็ได้รับคําสั่งให้รวมตัวเหมือนกันเหรอ?”
ในตึกสํานักงาน มีผู้มีพลังเหนือธรรมชาติมากมายกําลังรวมตัวอยู่ในห้องประชุม เมื่อการโจมตีจากสัตว์ป่ากลายพันธุ์ได้อ่อนแอลง พวกเขาต่างได้รับคําสั่งจากกองทัพว่าให้มารวมตัวกันที่นี่ คนที่มาที่นี่ต่างเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติกันทั้งหมด ซึ่งต่างเป็นคนที่ผ่านการทดสอบและเข้าร่วมกับทีมจู่โจมที่พึ่งก่อตั้งขึ้นมาใหม่!
“มันเหมือนกับว่าพวกเขาจะให้ภารกิจกับพวกเราละ” ถังคังหยุนพูดออกมาอย่างตื่นเต้นในขณะที่กําลังจัดผมและยืดหลังตนเองขึ้นมา ด้านหลังเขาเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติอีกสองคนรวมทั้งเว่ยเฟยเฟยและพีช
“มันมีผู้มีพลังเหนือธรรมชาติจํานวนมากที่นี่ แม้ว่าพวกเขาจะให้ภารกิจกับพวกเรา มันก็ยังคงไม่ถึงตาของเราหรอก นอกจากนี้แล้ว นายกพูดมาก่อนหน้านี้แล้วนี่ ว่ากองทัพจะไม่ให้ภารกิจที่สําคัญกับพวกเรา” พีชพูด ในขณะที่ส่ายหัวไปด้วย
พีชรู้สึกแย่เล็กน้อย หลังจากที่เห็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติจํานวนมาก ซึ่งมันมีคนเป็นจํานวนมาก อย่างน้อยก็ 300 คนได้ ประเมินได้เลยว่าพวกเขาทั้งต่างเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่ทรงพลัง เธอรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องที่ท้าทายสําหรับถังคังหยุน ที่จะทําให้ความฝันของเขาเป็นจริงได้จากจํานวนคนที่อยู่ตรงนี้
“พวกเราพึ่งจะเข้าร่วมกับกองทัพ ดังนั้นพวกเราจึงไม่ใช่ทีมผู้รอดชีวิตอีกแล้วเถอะ มันแตกต่างไปแล้วนะ พีช เธอไม่รู้จักฉันเลยด้วยซ้ำไป ถ้าผลงานของเราดีมากพอ แล้วเธอจะชดใช้กับฉันยังไงดีนะ?” ถังคังหยุนถามออกมาด้วยรอยยิ้มอันชั่วร้าย
ดวงตาของเขามันได้ทรยศเขา ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงเจตนาชั่วร้ายออกมา จนทําให้พี่ชถอยหลังอย่างตื่นตระหนก หลังจากนั้น เธอก็ถามออกมา “ทําไมฉันต้องชดใช้นายด้วย?”
เนื่องจากพลังจิตของเธอ พีชจึงรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่า สายตาที่ยังคงหยุนมองเธอ มันเหมือนกับเป็นหมาป่าที่กําลังจ้องกระต่ายน้อยอยู่
“ถังคังหยุน นายมันโอหังไปแล้ว! สภาพจิตใจของนายมันส่งผลร้ายกับทีมมาก จําไว้ว่า พวกเราตัดสินใจที่จะร่วมมือกับนาย เพราะว่าทีมดั้งเดิมของเราทั้งคู่ ต่างได้รับการสูญเสียที่ใหญ่หลวงมา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านายจะกลายเป็นผู้นําของพวกเรา! ถ้ากัปตันเจียงเข้าร่วมทีมจู่โจม แล้วละก็เรื่องนี้มันคงจะดีกว่านี้แล้วละ!” เว่ยเฟยเฟยพูดออกมา
เว่ยเฟยเฟยเดินขึ้นมายืนด้านหน้าของพีช เมื่อเธอเห็นเขากําลังยั่วยุพิชอยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะเด็กกว่าพีช แต่เธอก็เป็นผู้ปกป้องของพีช อารมณ์ของเธอมันทําให้ผู้คนส่วนใหญ่ลืมไปเลยว่าเธอมันก็เป็นแค่วัยรุ่นคนหนึ่ง
เมื่อพวกเธอพบกับถังคังหยุนครั้งแรก เว่ยเฟยเฟยคิดว่าการร่วมมือกับเขามันจะไม่ได้ส่งผลร้ายอะไร แต่ในตอนนี้เธอรู้สึกเสียใจ ถังคังหยุนอาจจะเป็นคนที่มีความสามารถ แต่เขาหยิ่งยโสมากเกินไป และมัวแต่คิดว่าเขานั้นจะกลายเป็นหัวหน้าของพวกเธอ เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เว่ยเฟยเฟยรู้สึกหงุดหงิดไปด้วย สุดท้ายแล้ว เธอมันก็เป็นเพียงแค่นักเรียนมัธยมปลายเท่านั้น ซึ่งแทบจะไม่ได้รับรู้อะไรเกี่ยวกับโลกใบนี้ และพีชก็เป็นแค่หญิงสาวธรรมดาๆคนหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ มันจึงทําให้พวกเธอถูกหลอกโดยคําพูดของถังคังหยุน
“ใช่! ถูกต้องเลย!” พีชก็พูดออกมา พร้อมกับพยักหน้าเห็นด้วยกับเว่ยเฟยเฟย
“เฟยเฟย เธอนี่ไม่ตลกเลยนะ” ถังคังหยุนรู้สึกหงุดหงิด ในความคิดของเขาแล้ว ความหมายของเว่ยเฟยเฟยนั้นทําให้เขาดูต่ำต้อยกว่าเจียงลู่ฉี
เขายังไม่เคยเจอเจียงลู่ฉีเลยด้วยซ้ำ แต่เขาเสียหน้าไปแล้วสองครั้ง เพราะเจ้าเจียงลู่ฉีนั่น คนอย่างเขาจะยอมรับได้ยังไง?
“ใครคือเจ้าเจียงลู่ฉีกัน? ทําไมฉันถึงไม่เคยได้ยินชื่อของเขา ก่อนภัยพิบัตินี้เลยละ?”
ในเวลาเดียวกัน พีชกระซิบออกมา ในขณะที่มองไปทางประตู “โอ้ อาจารย์ฉีมาแล้ว”
หลังจากนั้น ทหารหลายคนก็เดินออกมาจากประตู หนึ่งในพวกเขาเป็นชายสูง ที่สวมชุดทหารที่แทบจะปูดออกมาด้วยมัดกล้าม การแสดงออกของเขาดูเยือกเย็นมาก ชายคนนี้คืออาจารย์ฉี ผู้เป็นรองผู้อํานวยการ ที่รับหน้าที่ในการทดสอบ ในการเข้าร่วมกับทีมจู่โจม
“เฮ้ อาจารย์ฉี คุณให้พวกเรารวมตัวกันที่นี่เพื่อที่จะรับคําสั่งใช่ไหมครับ?” ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติคนหนึ่งถามออกมา
อาจารย์ฉีเป็นเขาไป และกวาดตามองไปรอบๆ “เงียบซะ! อดทนรอไป จนกว่านายพลฮานจะมา!”
“นายพลฮาน? เขามาจริงเหรอ?”
มันเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด เมื่อฮานหยวนจะมาที่นี่ ผู้คนแทบทั้งหมดที่รวมตัวกันอยู่ตรงนี้ ต่างเคยได้ยินเกี่ยวกับฮานหยวนมาก่อน ซึ่งเป็นนายพลที่มาจากภูมิภาคฮัวเซีย ซึ่งสําหรับผู้รอดชีวิตเหล่านี้ ที่ติดอยู่ในเจียงหนิงแล้ว ต่างมีความปรารถนาในการออกไปสู่โลกภายนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับภูมิภาคฮัวเซีย ที่ซึ่งเป็นดั่งตัวแทนของความหวังของพวกเขา
ทันใดนั้น เสียงของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติก็เริ่มเงียบลง และทั่วทั้งห้องประชุมต่างเงียบสงัดอาจารย์ฉียังคงยืนอย่างนิ่งเฉย จนแทบเหมือนกับประตู
“นายพล ฮานหยวน! ถังคังหยุนกําหมัดแน่น เขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่จะได้พบกับนายพล
ถังคังหยุนได้ลืมเกี่ยวกับตัวตนของเจียงลู่ฉีไปแล้ว ในความคิดของเขาแล้ว ต่อหน้านายพลฮาน คนอื่นต่างเป็นเพียงแค่ตัวประกอบเท่านั้น ถ้าเขาสามารถที่จะทําให้นายพลฮานสนใจในตัวเขาได้แล้ว อาชีพการงานในกองทัพของเขาก็จะพัฒนาอย่างก้าวกระโดดอย่างแน่นอน หลังจากนั้น หญิงสาวทั้งสองจะต้องฟังคําสั่งของเขาทุกคํา
ในขณะที่ถังคุงหยุนมัวแต่จมอยู่กับความคิดเพ้อฝัน รถ off-road คันหนึ่งก็ได้ขับมาถึง…