Chapter 507: รังผึ้ง
เสียงกรีดร้องอันดังก้องก็ดังขึ้น ซึ่งมันทำให้กัปตันกวนและลูกน้องของเขาที่หลบอยู่ตึกด้านข้างตกตะลึง หลังจากนั้น เสียงปืนก็ดังขึ้นมาในทันทีและเสียงกระพือปีกของนกกลายพันธุ์ก็หยุดลง
ทั่วทั้งพื้นที่ก็ต่างเงียบกริบไปในทันที
อย่างไรก็ตาม เสียงแก้วแตกบนพื้นก็ดังขึ้นรวมทั้งมีรอยร้าวที่แตกลึกอยู่บนกระจก มันก็ทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัว
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง จางเฮาจิงก็ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่เขามีคลานไปยังตึกที่อยู่ใกล้ที่สุด หน้าอกของเขานั้นกระตุกตัวอย่างรุนแรงและใบหน้าของเขาก็ซีดขาวเหมือนกันกับกระดาษ ร่างกายของเขาทั้งร่างก็ปกคุลมไปด้วยเลือดและเศษดิน
“ฉันยังมีชีวิตอยู่…ยังอยู่…”จางเฮาจิงก็กระซิบออกมา
จางเฮาจิงรู้สึกเศร้าเสียใจกับการสูญเสียขาของเขา เขาเข้าร่วมภารกิจนี้เพื่อที่เขาจะได้รับความชื่นชอบและเลื่อนตำแหน่งของเขา แต่ความเป็นจริงของโลกใบนี้มันโหดร้ายเกินกว่าที่เขาจะสามารถจินตนาการออกมาได้
“พวกเราสูญเสียพี่น้องกันไปกี่คนแล้ว?”กัปตันกวนถาม
“เจ็ดคนครับ”ทหารคนหนึ่งตอบกลับมา
ทุกคนก็ตกตะลึงกับผลลัพธ์ที่เลวร้าย ไม่เพียงแต่พวกเขาสูญเสียสหายรักไป แต่รถของพวกเขาก็เสียหายอย่างร้ายแรงด้วยเช่นกัน
“นกพวกนั้นมันไปไหนแล้ว?”ไป๋เจียหยานถามออกมา เมื่อเขายืนอยู่ข้างหน้าต่างและมองออกไป
วิสัยทัศน์ของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติก็ดีกว่าคนธรรมดาทั่วไป ดังนั้นไป๋เจียหยานจึงแค่จ้องไปยังทิศทางนั้น ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็มองเห็นจุดสีดำหลายจุดบินอยู่ห่างออกไป และพวกมันก็มุ่งหน้าเข้าไปในเมือง
นกกลายพันธุ์ก็บินกันว่อนทั่วอากาศ จนกระทั่งพวกมันไปถึงเมืองที่ล่มสลายที่อยู่ห่างไกลออกไป หลังจากนั้น พวกมันก็พุ่งตัวลงไปทีละตัว ทีละตัวและก็ลงบนดาดฟ้าหรือไม่ก็บนเสา
ถึงแม้ว่าพวกมันจะเป็นสัตว์ป่ากระหายเลือด ดวงตาอันนองเลือดก็ทรยศพวกมัน เมื่อพวกมันก็มีสติปัญญาด้วยเช่นกัน พวกมันก็ต่างจ้องไปยังเศษซากปรักหักเบื้องล่าง พื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งที่มีความครึกครื้นภายในเมือง แต่ในตอนนี้มันเหลือแต่ตึกที่ถล่มและถนนที่ถูกทำลาย
ยังไงก็ตาม ท่ามกลางตึกที่ล่มสลายและถนนที่พังทลาย มันก็มีรังผึ้งแปลกๆ ตั้งอยู่บนนั้น มันไม่ได้สร้างมาจากโคลนแต่มันกลับกลายเป็นชิ้นเนื้อที่ผสมรวมเข้าด้วยกัน พร้อมกับเปลือกสีดำที่ดูแข็งปกคลุมมันอยู่ ด้านล่างของเปลือกแข็งก็ดูคล้ายกับปาก มันเป็นภาพเหตุการณ์ที่น่าตื่นตระหนก
ห่างออกไป มันก็เหมือนกับรังแตนขนาดใหญ่ที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ
รังแตนก็ผ่านศพที่สดใหม่อยู่บนพื้นดิน หลังจากที่มันเคลื่อนที่ผ่านไป ซากศพสดๆบนพื้นดินก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือไว้เพียงแต่เศษโครงกระดูกไม่กี่ชิ้นเท่านั้น
ในพื้นที่บริเวณนั้น มันก็มีผู้รอดชีวิตมากมายหลายคนและทหารของพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิง พวกเขาก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของทีมหนึ่งในสองทีมที่รับผิดชอบภารกิจลาดตระเวนที่กัปตันกวนพูดถึงก่อนหน้านี้
“ไม่นะ!”
เมื่อผู้รอดชีวิตและทหารเห็นรังผึ้งที่กำลังเคลื่อนที่มาทางพวกเขา พวกเขาก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบและตกอยู่ในความสิ้นหวัง พวกเขาพยายามที่จะหนีอย่างสุดกำลัง แต่ร่องรอยแตกก็ปรากฏขึ้นบนผืนดินใต้ฝ่าเท้าของพวกเขาและก็กักขังพวกเขาไว้ในที่ที่พวกเขาอยู่ พวกเขาก็สามารถที่จะทำได้เพียงแค่มองรังผึ้งค่อยๆเข้ามาใกล้พวกเขาอย่างช้าๆ พวกเขาบางคนก็มีปืน แต่กระสุนก็ไม่สามารถที่จะสร้างรอยขีดข่วนบนพื้นผิวภายนอกของมันได้เลย ไม่ต้องพูดถึงจะเจาะทะลุมันได้เลย คนที่มีความสามารถมากที่สุดก็คิดที่จะเล็งยิงไปบนชิ้นเนื้อของมันและเขาก็ทำมันได้สำเร็จ แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรเลย เนื้อที่ได้รับบาดเจ็บก็สามารถที่จะฟื้นฟูได้
“อ๊า! อ๊ากก!”
เมื่อรังผึ้งมาถึงพวกเขา ปากที่เหมือนกับหลุมสีดำก็เปิดขึ้นและลากพวกเขาเข้าไปในครั้งเดียว เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นก็หายไปในพริบตา
รังผึ้งก็เคลื่อนที่ไปด้านหน้าอย่างต่อเนื่อง มันก็บดขยี้รถแบนเป็นแผ่นกระดาษลงไปบนพื้นถนน ในขณะที่มันกำลังเคลื่อนไหวอยู่นั้นเอง ขนาดของมันก็ขยายใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในเวลาเดียวกัน สัตว์ป่ากลายพันธุ์ก็เริ่มปรากฏตัวขึ้นจากทั่วทุกทิศทางจากเมืองปรักหักพัง พวกมันก็ต่างมองไปที่รังผึ้งอย่างเงียบงันเหมือนกับนกกลายพันธุ์
กลุ่มของหนูกลายพันธุ์รวมทั้งแมวป่ากลายพันธุ์ก็ต่างหลบซ่อนตัวอยู่ในเงา พวกมันต่างมีดวงตาที่ส่องประกายและขนของพวกมันก็เหมือนกับเข็มโลหะและมันก็ยังมีสุนัขกลายพันธุ์ที่อยู่รอบข้างอีกด้วย…
มันเหมือนกับว่าสัตว์ป่ากลายพันธุ์ธรรมดาส่วนใหญ่ในเมืองต่างมารวมตัวกันรอบๆรังผึ้ง
หนึ่งในนกกลายพันธุ์ก็อุ้มร่างกายหลายร่างไว้ระหว่างกรงเล็บของมัน มันก็ลงไปบนรังผึ้งอย่างนุ่มนวล หลังจากนั้นมันก็โยนร่างกายเหล่านั้นทิ้งลงไปเหมือนกับการบูชายันเหยื่อ นกกลายพันธุ์ตัวอื่นและสัตว์ป่าตัวอื่นก็ทำแบบเดียวกัน ในเวลาเดียวกัน สัตว์ป่ากลายพันธุ์ก็ปรากฏตัวขึ้นจากเศษซากปรักหักพังมากขึ้นเรื่อยๆ พวกมันก็ต่างลากร่างกายของซอมบี้มาด้วย
รังผึ้งก็กลืนกินเหยื่อเหล่านั้นในทันทีและร่างกายของมันก็ขยายใหญ่โตมากยิ่งขึ้น หลังจากที่มันกลืนกินเสร็จ มันก็เคลื่อนที่ไปทางพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิง
ไม่มีใครที่รับรู้เกี่ยวกับสิ่งที่น่าหวาดกลัวสิ่งนี้ที่กำลังยึดครองส่วนที่ลึกที่สุดในเมืองเลยสักคน คนที่โชคร้ายที่เห็นมันต่างกลายเป็นโครงกระดูกกันนานแล้ว…
“พี่ พี่โอเคไหม?”เจียงจู้อิงถามออกมาอย่างฉับพลัน
เธอก็รู้สึกได้ถึงลางร้ายมาเป็นเวลานานแล้วและเธอก็สังเกตเห็นว่าพี่ชายของเธอทำตัวแปลกไป พวกเธอต่างอาศัยมาด้วยกันนานกว่ายี่สิบปี ดังนั้นเธอจึงสามารถบอกได้ว่าพี่ชายของเธอมีบางสิ่งบางอย่างอยู่ในหัวของเขา ถึงแม้ว่าเจียงลู่ฉีจะดูใจเย็นอยู่ตลอดเวลา เธอก็เข้าใจเขาดีกว่าทุกคน
“ฉันสบายดี”เจียงลู่ฉีตอบกลับ แต่หลังจากที่คิดไปสักพักหนึ่ง เขาก็พูดเพิ่มเติม “จู้อิง อย่าดูอนิเมตลอดเวลาเลย เธอควรที่จะทำให้สภาพร่างกายของเธอพร้อมมากที่สุดจะดีกว่านะ”สุดท้ายแล้ว น้องสาวของเขาก็เป็นคนที่ทรงพลังมากที่สุดในทีมของเขา
เจียงจู้อิงมึนงง แต่เพียงเวลาไม่นาน เธอก็ยิ้มและพูดออกมา “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ พี่ชาย ฉันจะเตรียมพร้อมและดูแลหลัวหลัวเอง…”
“หลัวหลัว….?”เจียงลู่ฉีถาม
หลัวหลัวก็ยังทำตัวขี้กลัวและซ่อนตัวอยู่ในรถมินิบัสอยู่ทุกวัน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่พิเศษ มันก็ยังไม่ได้แสดงคุณค่าของมันออกมาเลย ยังไงก็ตาม เจียงลู่ฉีก็ไม่มีเวลามากพอที่จะไปสนใจมัน เขาเชื่อว่านกกลายพันธุ์มันดูประหลาด เมื่อพวกมันดูเหมือนตั้งใจโจมตีใส่เขา
หลี่ยู่ซินก็หยิบแผนที่และพูดออกมา “พี่เจียงคะ พวกเราถึงแล้วค่ะ”
บนแผนที่มันก็มีรายละเอียดคร่าวๆเกี่ยวกับจุดตก แต่มันก็ไม่ได้ระบุไว้ชัดเจน ซึ่งมันทำให้พวกเขาจำเป็นต้องค้นหาเฮลิคอปเตอร์เหล่านั้นด้วยตัวของพวกเขาเอง
เจียงลู่ฉีก็มองไปรอบๆจากห้องยิงปืน จนกระทั่งเขาสังเกตเห็นซากตึกปรักหักพัง เขาก็ชี้ไปที่ตึกและพูดออกมา “มันอยู่นั่น”
หนึ่งในเฮลิคอปเตอร์ก็ติดอยู่ในตึก ในขณะที่อีกลำอยู่บนพื้นดิน ปีกหมุนของมันก็บิดเบี้ยวและพวกเขาก็ไม่พบใครที่อยู่ด้านใน ภาพอันน่าอนาถนี้ก็ไม่สามารถที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้เลย
“จางไฮ่และซุนคุน ลงไปจัดการซอมบี้ที่อยู่รอบข้างซะ จู้อิงและหลิงไปจัดการอีกด้านหนึ่ง ซิหยู่ เธอมีหน้าที่รับผิดชอบความปลอดภัยของพวกเขา”เจียงลู่ฉีก็สั่งการออกมาอย่างรวดเร็ว
พวกเขาก็จอดรถบนถนน เพียงเวลาไม่นานที่พวกเขาจอดรถ ฝูงซอมบี้จำนวนมากก็พุ่งเข้าใส่พวกเขา พวกมันก็ต่างอ้าปากกว้างที่เต็มไปด้วยเลือดออกมาและกดใบหน้าทีน่าหวาดกลัวของพวกมันลงไปบนกระจก
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง หลิงและเจียงจู้อิงก็กระโดดลงไปจากรถมินิบัส กระแสไฟฟ้าก็สว่างวาบขึ้นมาในชั่วพริบตาและช็อตสายฟ้าใส่ซอมบี้จนมันด้านชา หลิงก็พุ่งผ่านพวกซอมบี้ที่มึนงงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเก็บเกี่ยวชีวิตของพวกมันไปด้วยคมมีดอันเย็นกริบ
จางไฮ่ก็สตาร์ทรถoff-roadของเขา ในขณะที่ซุนคุนก็เริ่มยิงด้วยปืนกลของเขาออกมา
เมื่อเห็นเจียงจู้อิงและคนอื่นแยกซอมบี้ออกมาแล้ว เจียงลู่ฉีก็ออกคำสั่ง “ไปกันเถอะ!”
“ไป!”
เฮลิคอปเตอร์ที่ติดอยู่บนตึกก็ไม่ได้สูงสักเท่าไหร่ สิ่งที่เจียงลู่ฉีจะต้องทำก็คือการจัดมุมของแขนกลและพาเฮลิคอปเตอร์ลงมาข้างกัน
‘บึ้ม!’
ท่ามกลางเสียงปืนที่ดังกึกก้อง ฝุ่นผงจำนวนมากก็ฟุ้งกระจายไปทั่ว
เจียงลู่ฉีก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข หลังจากนั้นเขาก็ขับรถมินิบัสของเขาไปด้านข้างเฮลิคอปเตอร์สองลำ ใบพัดของเฮลิคอปเตอร์เบาขนาดสองตันก็สร้างขึ้นมาจากวัตถุดิบผสม ถึงแม้ว่าเฮลิคอปเตอร์ทั้งสองลำเกือบจะถูกทำลายไปแล้วก็ตามที เจียงลู่ฉีก็ยังรู้สึกตื่นเต้น
‘โชคดีที่สภาพของเฮลิคอปเตอร์ทั้งสองลำยังอยู่ดี ฉันสามารถที่จะเก็บวัตถุดิบได้มากจากมันแน่ๆ’เจียงลู่ฉีคิด
‘เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว เริ่มต้นกระบวนการดูดซึมอัตโนมัติ’เจียงลู่ฉีพูดออกมาในความคิด
รถมินิบัสก็สามารถที่จะดูดซึมวัตถุดิบได้อย่างอัตโนมัติผ่านลำแสงอนุภาค ตราบเท่าที่กระบวนการดูดซึมอัตโนมัติได้ถูกเริ่มต้นขึ้น สิ่งที่เจียงลู่ฉีจำเป็นต้องทำก็คือรอเพียงเท่านั้น
เพียงเวลาไม่นานเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวก็แสดงภาพของรูปภาพเป้าหมายที่สามารถดูดซึมได้ในความคิดของเขา ในตอนนี้ รถและเฮลิคอปเตอร์รอบๆรถมินิบัสต่างอยู่ในระยะที่สามารถดูดซึมได้
เจียงลู่ฉีก็เลือกเฮลิคอปเตอร์ทั้งสองลำในทันที แสงสีขาวก็สว่างวาบและหลังจากนั้นเฮลิคอปเตอร์ก็หายไปลำหนึ่ง ในวินาทีต่อมา เจียงลู่ฉีก็เห็นวัตถุดิบที่ถูกแยกไว้ในคลังเก็บของ วัตถุดิบเหล่านั้นก็ต่างถูกวางไว้อย่างเรียบร้อย
ในชั่วพริบตา เฮลิคอปเตอร์ก็หายไปอีกลำ จุดเดิมก็เหลือทิ้งไว้เพียงแค่ฝุ่น เหมือนกับว่าเฮลิคอปเตอร์ทั้งสองลำไม่เคยมีตัวตนอยู่มาก่อนเลยด้วยซ้ำไป
หลัวหลิวก็ตกตะลึงกับสิ่งที่มันมองออกไปนอกหน้าต่าง แม้แต่หูของมันก็ตั้งขึ้น ในขณะที่หางอันปุกปุยของมันก็กระดิกไปมาอย่างบ้าคลั่ง
“เยี่ยม ไปกันเถอะ”เจียงลู่ฉีพูดออกมาอย่างพึงพอใจ
หลังจากสแกนวัตถุดิบในคลังของเขาแล้ว เจียงลู่ฉีก็รู้ว่าเขาต้องการเพียงแค่วัตถุดิบที่เขาเขียนไว้ให้กับเฮอจุนฮงให้หามันมาให้เขาเพียงเท่านั้น เขาเชื่อว่าชายคนนั้นจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง
“เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?”ทั้งหลันซิหยู่และหลี่ยู่ซินต่างตกตะลึง
เมื่อเฮลิคอปเตอร์ถูกยกลงมา พวกเธอก็ไม่ได้สนใจพวกมัน เนื่องจากว่ามันจะต้องใช้เวลานานในการแยกส่วนประกอบ
ทุกสิ่งทุกอย่างมันโอเคแล้วจริงๆเหรอ? เจียงลู่ฉีได้สั่งพวกเธอทำทุกอย่างให้ว่องไว แต่มันก็เร็วเกินไปอยู่ดี
“แล้วเฮลิคอปเตอร์พวกนั้นละ? พวกเราไม่ต้องการมันแล้วเหรอ?”หลันซิหยู่ถามและหันกลับไป ยังไงก็ตาม เมื่อเธอหันกลับไป เธอก็พบว่าเฮลิคอปเตอร์ทั้งสองลำได้หายไปแล้ว
“ความสามารถพิเศษ?”หลันซิหยู่มองไปที่เจียงลู่ฉี
ที่จริงแล้ว ไม่เพียงแต่ความสามารถพิเศษของเจียงลู่ฉีแล้ว แม้แต่รถมินิบัสของเขาก็ลึกลับด้วยเช่นกัน ยังไงก็ตาม หลันซิหยู่และหลี่ยู่ซินก็ไม่ได้ถามสิ่งเหล่านั้นออกมา
เจียงลู่ฉีก็ขับรถมินิบัสของเขาไปด้านข้างเจียงจู้อิงและหลิงอย่างรวดเร็ว หลิงก็อยู่ที่นั่นคอยช่วยเหลือด้วยเช่นกัน เธอก็สามารถที่จะสู้ได้อย่างงายดายโดยใช้ดาบปลายปืนสามคมของเธอ เธอและหลิงก็เหมือนกับเครื่องจักรสังหารอันรวดเร็วฉับไว สำหรับเจียงจู้อิงแล้ว เธอก็เพียงแค่ปล่อยการโจมตีด้วยกระแสไฟฟ้าออกมาอย่างต่อเนื่องเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ซอมบี้จำนวนมากก็พุ่งเข้าใส่พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดที่พวกเธอแทบจะโดนฆ่า ถ้ามีประชากรจำนวนสิบล้านคนอาศัยอยู่ มันจะมีซอมบี้มากมายขนาดไหนกันที่อยู่ใจกลางเมือง? จำนวนของมันก็ไม่สามารถที่จะจินตนาการออกมาได้เลย
เจียงลู่ฉีก็เหยียบไปบนคันเร่งและตะโกนออกมา “รีบขึ้นมาและไปกันได้แล้ว!”
ประตูก็เปิดออกมา เจียงจู้อิงและคนอื่นก็ต่างสังหารซอมบี้ที่อยู่ใกล้พวกเธออย่างว่องไว หลังจากนั้นพวกเธอก็กระโดดขึ้นรถมินิบัส
‘บึ้ม!’
ทันทีที่พวกเขาปิดประตูลง ซอมบี้ที่อยู่ด้านหลังก็พุ่งเข้าชนใส่ประตูทันที
เจียงลู่ฉีก็ยิ้มจางๆออกมา “ไป!”