Chapter 539 : ช่วยเหลือคนใกล้ตาย
การปรากฏตัวของรถมินิบัส รวมทั้งมันหายไปต่อหน้าสายตาของผู้ชมอย่างว่องไว มันทําให้พวกเขาต่างคิดกันว่าตาของพวกเขาฝาดกันหรือปล่าว
ดวงตาของเว่ยเฟยเฟยเปิดกว้างอย่างประหลาดใจ รถมินิบัสพึ่งจะขับผ่านเธอไป และความเร็วของมันได้พัดลมมาจนพัดผมเธอปลิวสไวไปมา
“กัปตันเจียง?” เว่ยเฟยเฟยรู้สึกว่ามันไม่น่าเชื่อมาก
ถังคังหยุนก็ตกตะลึงด้วยเช่นกัน แต่เขาก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว “โอ้ พระเจ้า! ไอ้พวกโง่เง่านี่มัน! มันเป็นโอกาสที่ดีในการหนีแท้ๆ เฟยเฟย วิ่งเร็ว!” ถังคังหยุนตะโกนออกมา แต่เว่ยเฟยเฟยยังคยืนนิ่งเฉยจนทําให้เขาประหลาดใจ
“เธอทําอะไรอยู่? วิ่งได้แล้ว! พวกเขากําลังเตรียมตัวที่จะตายแล้ว เธอมัวทําอะไรอยู่? ตั้งแต่ที่ พวกเขาพุ่งเข้าใส่เจ้าหลุมดําด้วยความตั้งใจของพวกเขาเองแล้ว กระดูกของพวกเขาก็คงจะไม่เหลื อแม้แต่ขี้เถ้า! เธอยังต้องการที่จะช่วยพวกเขาอีกเหรอ?” ถังคังหยุนพูดออกมาอย่างดุร้าย
ร่างกายของเว่ยเฟยเฟยสั่นไหว ในขณะที่ใบหน้าของเธอนั้นซีดขาว เธอรู้สึกเศร้าสร้อย เมื่อสิ่งที่ถังคังหยุนพูดมันเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ไม่สําคัญว่ามันเป็นใคร หรืออะไรที่เจ้าหลุมดํากลืนกินไป ทุกอย่างที่มันกลืนกินไปก็จะหายไปตลอดกาล แม้แต่รถมินิบัสคันใหญ่นั่นก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
“คุณมาช่วยฉันอีกแล้ว…” เว่ยเฟยเฟยอดที่จะร้องไห้ออกมาไม่ได้
“มาได้แล้ว!” ถังดังยุนตะโกนออกมาอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อเห็นเว่ยเฟยเฟยไม่ได้ตอบกลับ เขาก็ส่ายหัวและหันไปดูทางชบวนรถ แล้วเดินลากขาออกไป
“เหี้…เอ้ย! ไปตายซะ แม่งเอ้ย!” ถังคังหยุนด่าออกมา
ถึงแม้ว่าความฝันของถังคังหยุนจะแหลกสลายไป เขาก็ไม่ต้องการที่จะเห็นเว่ยเฟยเฟยฆ่าตัวตายอยู่ดี แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็หวงชีวิตตัวเองมากกว่าคนอื่นอยู่ดี
ในรถถังต่อสู้ หวันยี่หลิงอดที่จะฉีกยิ้มกว้างไม่ได้ “ยอดเยี่ยมมาก! แม้ว่าฉันจะรู้สึกแย่ที่พวกเราจะไม่ได้รถมินิบัสนั่นก็เถอะ” หวันยี่หลิงพูดออกมาพร้อมกับส่ายหัวไปด้วย
ฮานหยวนพยักหน้าเห็นด้วย “มันน่าเศร้าจริง” ในความเป็นจริงแล้ว เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะมันก็เป็นแค่รถมินิบัสคันหนึ่งเท่านั้น เมื่อเทียบกับการได้รับเจ้าหลุมดํานั่นแล้ว รถมินิบัสคันนั้นมันก็ไม่ได้มีค่าอะไร
หลังจากที่กลืนกินรถมินิบัสของเจียงลู่ฉีเข้าไป เจ้าหลุมดําก็หยุดชั่วขณะ ก่อนที่ฮานหยวนจะเห็นโอกาสและสั่งการอย่างเยือกเย็น “โจมตีมันซะ!”
เขารู้สึกขอบคุณกับทีมฉี่หยิงมาก สําหรับการเสียสละ จากก้นบึงของหัวใจ ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาแล้ว เขาคงจะไม่มีโอกาสที่ดีในการโจมตีเช่นนี้ ในความเป็นจริง เป้าหมายหลักของหน่วยจู่โจมคือทําให้เจ้าหลุมดํามันอ่อนแรงลง แต่โชคร้ายที่แผนการของเขา มันล้มเหลว เมื่อสมาชิกส่วนใหญ่ต่างหวาดกลัวที่จะสู้กับมันตรงๆ แต่ใครจะไปคิดว่าทีมฉี่หยิงจะแสดงความกล้าหาญเช่นนั้น ในยามคับขันเช่นนี้ แล้วเผชิญหน้ากับภัยอันตรายแทนพวกเขา
“หลังจากที่พวกเรากลับไป พวกเราจะรายงานว่าทีมฉี่หยิงได้ทําหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม สุดท้ายแล้วพวกเขาได้ช่วยเหลือพวกเราไว้มาก โดยเฉพาะกับความกล้าหาญที่พวกเขาแสดงออกมา” ฮานหยวนพูดออกมาอย่างใจเย็น
หวันยี่หลิงไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่เธอกลับหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมา และออกคําสั่งแทน “โจมตีเจ้าหลุมดํานั่นซะ!”
ในเวลาเดียวกันที่เจ้าหลุมดํามันแข็งที่อนั้นเอง เสียงระเบิดดังสนั่นก็ดังขึ้นมาจากภายในร่างกายของมัน! ในชั่วพริบตาต่อมา คลื่นลมก็ฉีกกระชากร่างกายของมันออก
ทุกคนสามารถที่จะเห็นหลุมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนร่างกายของเจ้าหลุมดํา หลังจากนั้น เจ้าหลุมดําก็สั่นกระตุกอย่างรุนแรง และมันเหมือนกับว่าใกล้จะตายลง
“นี่มัน… เกิดอะไรขึ้น?”
ทุกคน รวมทั้งฮานหยวนและหวันยี่หลิงต่างประหลาดใจ คําถามมากมายโผล่ขึ้นบนหัวของพวกเขา รถมินิบัสมันยังอยู่ดีงั้นเหรอ? เจียงลู่ฉีและสหายของเขายังมีชีวิตรอดอยู่อีกงั้นเหรอ?
มันไม่น่าเป็นไปได้! นี่มันเกินกว่าที่ทุกคนจะคาดไว้อีก!
ไป๋เจียหยานเป็นเพียงคนเดียวที่เชื่อ ในสิ่งที่เขาเห็น “เจ้าหลุมดําอาจจะกลืนกินได้ทุกอย่าง แต่ว่า… รถมินิบัสคันนั้นมันต่างออกไป…บางที พวกเขาอาจจะยังรอดอยู่ก็ได้…” เขายอมรับว่ารถมินิบัสของเจียงลู่ฉีมันทําให้เขาตกตะลึงได้อยู่ทุกครั้งไป
หลังจากยิงปืนใหญ่สุญญากาศออกไป เจียงลู่ฉีก็โจมตีต่อโดยการกดปุ่มอีกปุ่มหนึ่ง หลังจากนั้นเปลวเพลิงก็พวยพุ่งออกมาทําลายร่างกายของเจ้าหลุมดํา
ทุกคนสามารถที่จะเห็นสถานการณ์ได้อย่างชัดเจน จากด้านในของเจ้าหลุมดํา ผ่านหลุมดําที่ปืนใหญ่สุญญากาศเปิดออก เปลวเพลิงที่พวยพุ่งออกมาทําให้คนดูต่างตกตะลึงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง พวกเขาก็พอจะเห็นได้ลางๆว่ารถมินิบัสกําลังเคลื่อนไหวอยู่ด้านในนั้น!
“น่ามหัศจรรย์มาก!” ไป๋เจียหยานหายใจเข้าลึกๆ
เว่ยเฟยเฟยตกตะลึงอย่างมาก แต่หลังจากนั้นเธอก็ยิ้มออกมา
“เกิดอะไรขึ้น?” หวันยี่หลิงหงุดหงิดใจ เธออุตส่าห์คิดว่าทีมฉี่หยิงจะไม่อยู่ในโลกใบนี้อีกแล้ว ในความคิดของเธอ รถมินิบัสนั่นจะต้องถูกกลืนกินไปแล้ว มันควรที่จะถูกบดขยี้และเปลี่ยนไปเป็นสารอาหารให้กับเจ้าหลุมดํา แต่ความคิดของเธอนั้นกลับผิดพลาดไป
สิ่งที่หวันยี่หลิงไม่รู้ คือเจียงลู่ฉีมีเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวอยู่ในครอบครอง รถมินิบัสของเขาไม่ใช่รถมินิบัสที่ปรับแต่งธรรมดาทั่วไป
เมื่อเจียงลู่ฉีสังเกตการต่อสู้ก่อนหน้านี้ เขาก็เข้าใจได้ว่าเจ้าหลุมดําไม่ใช่สิ่งมีชีวิต ร่างกายของมันไม่ได้สร้างขึ้นมาด้วยเลือดและเนื้อ แต่มันเป็นการรวมตัวของพลังงานแสงดํา พลังงานของมันสามารถที่จะเลียนแบบสิ่งมีชีวิตอื่นและสิ่งของได้ จนเปลี่ยนพวกมันกลายเป็นแสงดําใหม่ และสร้างพวกมันขึ้นมา
เมื่อพวกเขาพุ่งเข้าใส่เจ้าหลุมดํา เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวก็ส่งข้อความแจ้งเตือนขึ้นมาอย่างไม่หยุดหย่อนว่า เกราะของรถมินิบัสได้รับความเสียหาย ในทางกลับกัน เจียงลู่ฉีกลับใจเย็นลงและเขาก็มีการตัดสินใจที่ดูบ้าคลั่ง การตัดสินใจของเขาคือการยิงปืนใหญ่สุญญากาศออกมาและใช้ปืนไฟด้านในเจ้าหลุมดํา ในเวลาเดียวกัน เขาก็ได้สั่งให้หลันซิหยู่สร้างชั้นพลังจิตขึ้นมาล้อมรอบรถมินิบัสเพื่อป้องกันการโจมตีจากพลังจิตของมัน
“จู้อิง!” เจียงลู่นี่ตะโกนออกมา
เจียงจู้อิงได้เตรียมตัวไว้นานแล้ว เธอแผ่มือออกมาอย่างไม่ลังเล และปลดปล่อยพลังของเธอออกมาอย่างเต็มกําลัง หลังจากนั้น กระแสไฟฟ้าทําลายล้างก็พุ่งกระจายไปด้านในเจ้าหลุมดําอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อมองดูจากด้านนอก เจ้าหลุมดํามันเหมือนกับเมฆหมอกดําขนาดใหญ่ที่มีงูไฟฟ้านับไม่ถ้วนกําลังเลื้อยผ่านด้านใน คนที่ดูอยู่ต่างรู้สึกเหมือนกับดูหนังไซไฟยังไงยังงั้น สิ่งที่พวกเขาตกตะลึงไปมากกว่านั้นคือ เจ้าหลุมดํามันหดตัวอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับว่ามันกําลังบาดเจ็บอยู่ พวกเขาต่างรู้สึกว่าเจ้าหลุมดําก่อนหน้านี้ เหมือนกับเป็นของปลอมกับพวกเขา
ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าพวกเขาจะใช้วิธีไหน มันก็เป็นเรื่องที่ง่ายดาย สําหรับเจ้าหลุมดําในการป้องกันพวกเขา และคอยกลืนกินคนของพวกเขาไป ทุกคนต่างรู้สึกสิ้นหวังและรู้สึกว่าตัวเองไร้ประโยชน์ แม้แต่ฮานหยวนก็ยังเริ่มคิดหาทางในการหลบหนีไป แต่ช่วงเวลาที่เปลี่ยนไป คือช่วงเวลาที่รถมินิบัสปรากฏตัวขึ้น พุ่งเข้าไปด้านในเจ้าหลุมดําเหมือนกับสายฟ้าฟาด และพลังทําลายล้างของมัน ผู้ชมที่อยู่ด้านนอกต่างเริ่มมีกําลังใจในการต่อสู้ และพวกเขาอดที่จะชื่นชมทีมฉี่หยิงเสียมิได้ ทําไมพวกเขาจะไม่ชื่นชมกันละ? ในเมื่อเจ้าหลุมดําแทบจะผลักพวกเขาไปถึงปากขอบเหวแล้ว และพื้นที่เจียงหมิงจะตกอยู่ในอันตราย อันใหญ่หลวง เนื่องจากตัวตนของมัน
ในปัจจุบันนี้ เจียงลู่ฉีและเพื่อนร่วมทีมของเขาต่างทําสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถทําได้ ฮานหยวนก็สูญเสียความใจเย็นลง แม้ว่าจะเป็นผู้ที่มีตําแหน่งสูงด้านในพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิง ได้เห็นการต่อสู้ที่น่าตื่นตาใจเช่นนี้
หลังจากที่หน่วยจู่โจมได้ออกเดินทางออกมา ผู้บังคับบัญชาฮวง หลัว และนายพลจาง รวมทั้งผู้นําคนอื่นในพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิง ต่างรวมตัวกันด้านบนกําแพงเมือง พวกเขาต่างมองทุกสิ่งทุกอย่างผ่านกล้องส่องทางไกล หรือด้วยตาเปล่าของพวกเขา เช่นผู้บังคับบัญชาหลัว ดวงตาของเขาเปรียบดั่งกับเหยี่ยว ดังนั้นเขาสามารถที่จะจ้องไปที่เจ้าหลุมดําได้จากระยะไกล เขายังเห็นอีกด้วยว่า เจ้าหลุมดําได้รวมตัวกลับ หลังจากที่โดนระเบิดไป ซึ่งมันทําให้เขาหวาดกลัวมาก ที่จริงแล้ว พวกเขาทุกคนต่างเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านกล้องส่องทางไกล แต่มันส่งผลกระทบรุนแรงมากที่สุดกับผู้บังคับบัญชาหลัว
ผู้บังคับบัญชาฮวงไม่สามารถที่จะทนดูได้อีกต่อไป เขาวางกล้องส่องทางไกลลง พร้อมกับถอนหายใจออกมา นายพลจางรู้สึกเจ็บปวดหัวใจอย่างมาก ในขณะที่ผู้บังคับบัญชาปิดตาของเขาลงพร้อมกับส่ายหัวไปด้วย
ความล้มเหลวของหน่วยจู่โจมมันส่งผลกระทบใหญ่หลวงกับพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิง รวมทั้งกําลังใจของชาวบ้าน จากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ เจ้าหลุมดํามันมีสติปัญญาของมัน เมื่อการลอบโจมตีนี้ล้มเหลว มันก็จะเตรียมตัวป้องกันการโจมตีครั้งต่อไปอย่างแน่นอน มันจะไม่เข้าไปใกล้กับพื้นที่ปลอดภัยง่ายๆอีกแล้ว บางทีมันอาจจะส่งฝูงซอมบี้กลายพันธุ์และสัตว์ป่าออกมาโจมตี ใส่พื้นที่ต่อไปครั้งแล้วครั้งเล่าแทน การต่อสู้ที่ต่อเนื่องเช่นนี้มันเปรียบดั่งกับฝันร้ายของพวกเขา
“เอาละ พวกเราควรที่จะเริ่มเตรียมตัวกันก่อน พวกเราจะทําทุกอย่างที่เราทําได้ เพื่อหยุดเจ้าหลุมดํานรกนั่น” นายพลพูดออกมา ความเศร้าสร้อยในน้ำเสียงของเขาถูกเปิดเผยออกมา
ทันใดนั้น คําพูดคําต่อไปของนายพลจางติดอยู่ในลําคอ ในขณะที่ความประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันเหี่ยวย่นของเขา หลังจากนั้น มือของเขาก็เริ่มที่จะสั่นไหวไปด้วยความตื่นเต้น
“ดูเจ้าหลุมดํานั่น! เร็วเข้า!” นายพลจางตะโกน
“อะไร? ดูมันกลืนกินสหายของเรางั้นเหรอ? ไม่รู้ว่าสมาชิกของหน่วยจู่โจมมากเท่าไหร่จะกลับมาได้อย่างปลอดภัยเนี่ย” ผู้บังคับบัญชาหลัวตอบกลับ
ในตอนแรก เขาคิดว่าสถานการณ์ที่เลวร้ายทําให้นายพลจางสนใจมัน แต่เพียงเวลาไม่นานเขาก็ตระหนักว่าเขาคิดผิด เมื่อนายพลจางหัวเราะออกมาอย่างกับคนบ้า
ผู้บังคับบัญชาหลัวเปิดตาและมองไปยังทางของเจ้าหลุมดํา หลังจากนั้นเขาก็เห็นเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ รวมทั้งกระแสไฟฟ้าที่ระเบิดขึ้นด้านในร่างกายของเจ้าหลุมดํา เจ้าหลุมดํากําลังจะโดนระเบิดจนกลายเป็นเถ้าถ่านแล้ว “นั่นระเบิดเหรอ? ยอดเยี่ยมมาก!”
“เยี่ยม! เยี่ยม! เยี่ยมมาก!” ผู้บังคับบัญชาหลัวยังคงชื่นชมอย่างต่อเนื่อง
ผู้บังคับบัญชาฮวงอดที่จะมองไปยังเจ้าหลุมดําเสียมิได้ “ให้ฉันดูด้วย!” เขายกกล้องส่องทางไกลขึ้นและหัวเราะออกมา “นายพลฮานนี่ช่างยอดเยี่ยมจังเลย! ไม่สงสัยเลยว่าทําไมคนจากภูมิภาคฮัวเซียถึงส่งเขามาช่วยพวกเรา พวกเราได้ส่งทีมไปหลายต่อหลายทีม แต่พวกเขาต่างล้มเหลวกันทั้งหมด…”
เมื่อได้ยินคําพูดของเขา ผู้บังคับบัญชาหลัวและนายพลจางต่างพยักหน้าเห็นด้วย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่เชื่อใจในฮานหยวนอย่างเต็มร้อยเปอร์เซนต์ พวกเขาก็ยังคงชื่นชมในความสามารถของพวกเขามากอยู่ดี การต่อสู้ด้วยพลังเป็นเรื่องที่สําคัญที่สุด ในโลกที่ดุร้ายเช่นนี้ การรวมตัวและต่อสู้กับศัตรูคนเดียวกัน เป็นเรื่องที่สําคัญยิ่งกว่าสิ่งใด
“พวกเรารอที่นี่กันเถอะ และรอต้อนรับนายพลฮานกลับมาอย่างกับวีรบุรุษ!” ผู้บังคับบัญชาฮวงพูดออกมาเสียงดัง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าภาพที่เกิดขึ้นมันเพิ่มกําลังใจให้กับทุกคน
ทันใดนั้น คนนับไม่ถ้วนต่างมองไปยังเจ้าเงาดําที่อยู่ห่างไกลออกไป ก่อนหน้านี้พวกเขาต่างกังวลมากเกินไป จนไม่กล้าที่จะดูมัน แต่ในเวลานี้ เสียงชื่นชมและคําพูดปลุกใจมากมายต่างดังขึ้นมาทั่วทุกแห่ง
ในตอนนี้ ท่ามกลางสนามหญ้าที่แทบจะถูกทําลายไปแล้ว สมาชิกของหน่วยจู่โจมต่างจ้องไปที่เจ้าหลุมดําอย่างไม่กระพริบตา พวกเขาต่างจ้องไปยังรถมินิบัสที่น่าหวาดหวั่นนั่น ซึ่งหยุดอยู่ท่ามกลางของเจ้าหลุมดํา ที่กําลังระเบิดไฟฟ้าและจุดไฟอย่างลุกโชน
การตัดสินใจของเจียงลู่ฉีสามารถที่จะพูดได้เลยว่ามันเป็นการพนันที่แสนอันตราย อย่างไรก็ตาม เขาพยายามอย่างดีที่สุดในการพนันเกี่ยวกับเรื่องนี้ ด้วยการโจมตีที่ต่อเนื่องและการป้องกันที่แน่นหนาของรถมินิบัส สุดท้ายแล้ว มันกลายเป็นก้าวที่สําคัญ ซึ่งตัดสินว่าฝั่งไหนจะเป็นฝั่งที่ชนะ
เจียงลู่ฉีเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาทําให้เจ้าหลุมดํากระจัดกระจายออกไป และมันอ่อนแอลง มันก็ยังสามารถที่จะรวมตัวกลับมาได้ เมื่อพวกเขาหยุดโจมตี เจ้าหลุมดําจะไม่ยอมตายด้วยการโจมตีระดับนี้
ที่จริงแล้ว ฮานหยวนก็รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน เพียงเวลาไม่นาน เขาก็ฟื้นตัวจากอาการตกตะลึง “ว้าว รถมินิบัสของเจียงลู่ฉีมันทรงพลังมากจริงด้วย แต่มันน่าเศร้าที่พวกเขาไม่รู้ถึงความน่ากลัวของเจ้าหลุมดํานั่น” ฮานหยวนพูดออกมา พร้อมกับส่ายหัวไปด้วย
ในความเป็นจริงแล้ว พลังโจมตีและป้องกันของรถมินิบัสเจียงลู่นี่สามารถเทียบได้กับปราสาทสงครามระดับย่อมๆ แต่มันสามารถที่จะทําให้เจ้าหลุมดํามันได้เพียงแค่อ่อนแอลง แต่ไม่สามารถกําจัดมันได้ ฮานหยวนอดที่จะฝันถึงและรอคอยโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการจัดการมันเสียมิได้
“น่าประหลาดใจเสียจริง! ฉันรู้สึกขอบคุณนายมากเลยนะ ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นคนที่ได้รับผลงานก็เถอะ ฉันจะสลักชื่อของนายและทีมของนายไว้ในหัวของฉันตลอดไปเอง” ฮานหยวนกระซิบ
หลังจากนั้น เขาก็ยกวิทยุสื่อสารขึ้นและออกคําสั่งเสียงดังก้อง “ทีมฉี่หยิงได้ทําตามแผนการที่เราวางไว้ พวกเขาได้เสียสละตัวเองอย่างมาก! ซึ่ง พวกเราอย่าพลาดโอกาสนี้ไว้ละ และอย่าปล่อยการเสียสละของพวกเขาสูญเปล่า! ยิงเจ้าหลุมดําซะ”!
“อะไรนะ?”
ทหารบางนายต่างรู้สึกซับซ้อนกับคําสั่งนี้ พวกเขาต่างรู้ว่ารถมินิบัสคันนี้ได้ช่วยพวกเขาไว้ และทีมฉี่หยิงกําลังต่อสู้กับเจ้าหลุมดําอยู่ ดังนั้นทําไมพวกเขาถึงจะต้องยิงมันด้วยละ? ถ้าพวกเขายิงออกไปในช่วงเวลาที่สําคัญเช่นนี้ มันอาจจะทําให้เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นกับทีมฉี่หยิงก็เป็นได้
“ยิ่ง!” ฮานหยวนคําราม
ฮานหยวนเป็นผู้บังคับบัญชาชั่วคราวของพวกเขา หลังจากที่เขาทวนคําสั่ง ทหารบางนายต่างรู้สึกซับซ้อน ถึงแม้ว่าความรู้สึกของพวกเขาจะบอกว่า พวกเขาอย่ายิงก็ตาม พวกเขาก็ยังไม่สามารถที่จะกําจัดเจ้าหลุมดําได้อยู่ดี
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ฮานหยวนก็ยืนขึ้นจากบนรถถังและเล็งไปที่เจ้าหลุมดําด้วยปืนกล หลังจากนั้นเขาก็ลั่นไกปืน และลั่นห่ากระสุนออกมา
“ภายนอกรถมินิบัสได้รับความเสียหาย! พี่เจียง พวกเขายิงใส่พวกเราละ!” หลิงพูดออกมา ในยามที่มองออกไปด้านนอก
ใบหน้าของเจียงลู่ฉีบิดเบี้ยวอย่างมาก แต่เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา เขากลับตะโกนออกมาแทน “เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว ฉันต้องการที่จะรู้รายงานเกี่ยวกับสถานะของรถ!”
หลังจากได้รับคําสั่ง แสงสว่างก็พุ่งวาบผ่านพื้นผิวของรถมินิบัส และหลังจากนั้นภาพสามมิติได้ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของเจียงลู่ฉี เขามองเห็นได้อย่างชัดเจนและเหมือนกับปากขนาดใหญ่ มันเหมือนกับการกลืนกินกระแสน้ำที่รุนแรงอย่างมาก
“50%! 60%! 70%!” พลังงานแสงดําที่เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวกําลังดูดกลืนนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง!
การดูดซึมมหาศาลมากมายของมันทําให้รถมินิบัสดูเหมือนจะรับไว้ไม่ไหว เสียงปริแตกก็ดังขึ้นมาจากเกราะรอบนอกของมัน แต่เจียงลู่ฉีรู้ดีว่ารถมินิบัสกําลังกรีดร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น ในเวลาเดียวกัน เจ้าหลุมดําได้คํารามออกมาอย่างเจ็บปวด ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิต มันก็ไม่ได้เป็นพลังงานธรรมดาทั่วไปด้วยเช่นกัน
เจียงลู่ฉีคาดการณ์ว่าเจ้าหลุมดํามันเหมือนกับเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว ซึ่งไม่มีใครค้นพบมันมาก่อนหน้านี้ มันเหมือนกับว่าทั้งสองมันมีตัวตนมาก่อนวันโลกาวินาศ แต่พวกมันพึ่งจะปรากฏตัวขึ้นก่อนหน้าไวรัสจะระบาดออกมาเล็กน้อย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของพื้นโลก
สุดท้ายแล้ว สถานะของมันต่างพลิกกลับและเจ้าหลุมดํารู้สึกว่าเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวกําลังดูดซึมด้วยความเร็วที่น่าตื่นตระหนก จนคุกคามถึงตัวตนของมัน เมื่อมันเป็นการสวนกลับและโอกาสครั้งสุดท้ายของมันแล้ว มันก็ใส่แสงดําไปให้กับรถมินิบัสอีกมากมายนับไม่ถ้วน ตราบเท่าที่เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวไม่สามารถที่จะดูดซึมพลังงานได้แล้ว เจ้าหลุมดําก็จะดูดกลืนเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวได้ ไม่เพียงแต่มันจะไม่สูญเสียอะไรเลย แต่มันยังได้รับพลังงานเพิ่มอีกจํานวนมาก หลังจากนั้น มันก็จะไม่มีอะไรที่สามารถหยุดยั้งมันได้อีกแล้ว
ปกติแล้ว ตั้งแต่ที่เจียงลู่ฉีกล้าที่จะโจมตี เขาก็ได้คาดการณ์สถานการณ์แบบนี้ไว้แล้ว
“ซิหยู่ ร่วมมือกับฉัน!” เจียงลู่ฉีพูดออกมา ในขณะที่ยกปืนสไนเปอร์ของเขาขึ้น
ในชั่วพริบตา วิสัยทัศน์ของเจียงลู่ฉีก็มองทะลุผ่านเงาดําทั้งหมด และกําลังสํารวจภายในของเจ้าหลุมดํา ต่อหน้าเขา มันเป็นกระแสพลังงานอันรุนแรง กระแสไฟฟ้าที่วูบวาบไปมา และเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ แม้ว่าจะอยู่ในพื้นที่แบบนี้ มีเพียงแค่สายตาของเจียงลู่ฉีและปากกระบอกปืนสไนเปอร์เท่านั้นที่กําลังเคลื่อนไหวไปมาอยู่