Chapter 549: รางวัลในการนําจับเจียงลู่ฉี
ข่าวเกี่ยวกับความตายของฮานหยวนได้แพร่กระจายไปทั่วพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิงอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้นี่เอง พวกคนที่มีอํานาจในพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิงต่างสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
บางคนที่ไม่ได้รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ต่างรีบสืบหาข่าวสารกันอย่างรวดเร็ว ผู้คนมากมายต่างคุ้นคิดว่าเจ้าหลุมดําได้สังหารฮานหวนไป หรือไม่ก็สัตว์ประหลาดและซอมบี้ที่อยู่ภายใต้ควบคุมที่สังหารเขาไป ซึ่งไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง
ในเวลานี้ รายละเอียดข้อมูลอยู่ในมือของผู้บังคับบัญชาฮวง รายงานนี้ได้อธิบายอย่างชัดเจนว่าทีมฉี่หยิง และพูดให้ชัดเจนกว่านั้นคือเจียงลู่ฉี เป็นชายที่สังหารฮานหยวน
ผู้บังคับบัญชาฮวงที่กําลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ ได้ปิดตาของเขาลง ตรงข้ามของเขาคือ นายพลจาง ผู้บังคับบัญชาหลัว รวมทั้งคนอีกหลายต่อหลายคน
“ฉันไม่เชื่อเนื้อหาในรายงานนี้หรอก” ผู้บังคับบัญชาหลัวพูด
เขาได้อ่านรายงานมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่เขายังคงรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่ดี การที่เจ้าหลุมดําได้ตายลง หรือความจริงที่ฮานหยวนได้ถูกสังหาร ในขณะที่มีขบวนรถถังป้องกันเขาอยู่ต่างเป็นเรื่องที่น่าตกตะลึงอย่างมาก ทําให้ตกตะลึงไปทั้งพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิง และตามรายงานแล้ว ทั้งสองอย่างต่างถูกทําสําเร็จโดยทีมเพียงทีมเดียว ซึ่งก็คือทีมฉี่หยิ่ง! และยิ่งชัดไปกว่านั้น ก็คือเจียงลู่ฉี! ซึ่งมันเหมือนกับการตบหน้าของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติหลายต่อหลายคน
ผู้บังคับบัญชาทุบลงไปบนโต๊ะและตะโกนออกมา “เขาโอหังมากเกินไป! ภูมิภาคฮั่วเซียจะต้องส่งคนมาสอบถามเกี่ยวกับความตายของฮานหยวนอย่างแน่นอน ผมขอเสนอให้ส่งกองกําลังออกไปไล่จับและนําทีมฉี่หยิงกลับมา พวกเขาจะต้องได้รับการลงโทษจากการทําผิด!”
“ความผิด? ความผิดอะไร? นายไม่เห็นหรือไงว่าทีมฉี่หยิงทําลายเจ้าหลุมดํานั่นไปหน่ะ?” ผู้บังคับบัญชาหลัวพูดออกมาอย่างเย็นชา มันเห็นได้อย่างเด่นชัดเลยว่า พื้นที่ปลอดภัยทั้งหมดต่างนับถือเจียงลู่ฉีว่าเป็นดั่งวีรบุรุษของพวกเขา พวกเขาจะส่งคนออกไปจับเขามาลงโทษได้ยังไงกัน?
“แต่ก็อย่าลืมนะว่า เขาได้ฆ่าฮานหยวน ในขณะที่ถูกปกป้องโดยขบวนรถถัง นายจะส่งใครอ อกไปจับเขา? นายคิดว่า นายจะส่งทีมออกไปจับเขาได้งั้นเหรอ? นายคิดแบบนั้นใช่ไหม? เหอะ! พวกเราจะกลายเป็นตัวตลกต่อทุกคนแทนนะสิ!”
ผู้บังคับบัญชาลังเลใจ แต่เขาก็ยังพูดต่อ “ฉันได้ยินมาว่ามันมีศาสตราจารย์สองคนในพื้นที่ปล อดภัยของพวกเรา ซึ่งเป็นคนรู้จักของเจียงลู่ฉี…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ นายพลจางก็จ้องมาที่เขา “นายกล้าที่จับนักวิทยาศาสตร์ของสถาบันวิจัยทั้งสองคนไปเป็นตัวประกันงั้นเหรอ?” นายพลจางถามอย่างโกรธเคือง
“ไม่ครับ ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ผมแค่ต้องการที่จะไปถามพวกเขาเกี่ยวกับทีมฉี่หยิง” ผู้บังคับบัญชาอธิบายออกมาอย่างระมัดระวัง
ทันใดนั้น นายพลจางก็ยืนขึ้นและทุบโต๊ะลง “ฉันเป็นคนที่ส่งศาสตราจารย์ทั้งสองคนไปยังส ถาบันวิจัย ฉันจะไม่อนุญาตให้ใครก็ตามไปรังแกพวกเขา ถ้านายต้องการที่จะลองแล้วละก็ นายก็ลองดู แต่ฉันแนะนํานะว่า นายควรที่จะล้มเลิกความคิดระยําๆ นั่นทิ้งไปให้หมด ไม่อย่างงั้นแล้ว ฉันกลัวว่าพวกเราจะไม่สามารถปกป้องหัวของนายได้”
เมื่อได้ยินคําเตือนของนายพลจางแล้ว ผู้บังคับบัญชาฮวงขมวดคิ้ว “คุณหมายความอะไร จางเทียนหยู่? คุณกําลังข่มขู่ผมอยู่งั้นเหรอ?”
นายพลจางพูดชื่อของชายคนหนึ่งออกมา “กรรมการฉู่” เขาก็พูดต่อ “นายคิดว่าฉันคุกคามนายงั้นเหรอ? ฉันไม่มีเวลามากพอแบบนั้นนะสิ! นายไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องราวของการตายของกรรมการในเกาะเชนให้ใช่ไหม? ถ้าไม่แล้ว นายควรที่จะไปศึกษามันมาก่อนที่จะทําตัวบ้าระห่ำอย่างนั้นนะ…”
ผู้บังคับบัญชาฮวงหวาดกลัวมาก เมื่อเขาได้ยินมัน แน่นอนว่าเขารู้ว่าใครคือกรรมการณู และเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเขามาก่อน รวมทั้งว่าเขาตายอย่างไร เขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้มานานอยู่แล้วว่าใครคือมือสังหาร แต่เขาไม่รู้ว่ามันคือใคร เมื่อมันดั่งเป็นเรื่องต้องห้ามและแทบจะเป็นเรื่องที่ควรจะเก็บไปเป็นความลับ เมื่อฟังจากน้ําเสียงของนายพลจางแล้ว มือสังหารน่าจะเป็นเจียงลู่ฉีอย่างแน่นอน
เมื่อเทียบกับฉู่ฉงฉานแล้ว ฮานหยวนก็ด้อยกว่าเขามาก นี่เป็นเหตุผลที่ทําให้ผู้บังคับบัญชาหวาดกลัวอย่างมาก ในเวลาเดียวกัน ผู้บังคับบัญชาก็รู้สึกสับสนเหมือนกัน เมื่อเขาไม่อยากยอมรับว่าเขากลัวเจียงลู่ฉี แต่หลังจากที่ได้รับรู้เกี่ยวกับความตายของฉู่ฉงฉานแล้ว เขาก็ยอมรับว่า ทีมฉี่หยิ่งไม่ได้ธรรมดาเลย เขาสงสัยว่าทีมอื่นจะสามารถจัดการเจ้าหลุมดําด้วยตัวเองได้ไหม อย่างเช่นทีมฉี่หยิง
ผู้บังคับบัญชาหลัวพูดเสียงต่ําออกมาและมีน้ําเสียงที่ดูกังวล “เจียงลู่ฉีได้สังหารนายพลไปสองคนแล้ว นั่นแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาทรงพลังมากแค่ไหน”
ในตอนแรก เขาต้องการที่จะชวนเจียงลู่ฉีมาเข้าร่วมทีมของเขา แต่ในตอนนี้ เขาได้ยกเลิก ความคิดที่อันตรายเช่นนั้นไป ในความคิดของผู้บังคับบัญชาหลัวแล้ว ทีมฉี่หยิงได้ทําคุณความดีมามากมายก็ตาม แต่มันควรจะดีกว่าในการร่วมมือกับเขา แทนที่จะพยายามควบคุมเขา
นายพลจางพูดอย่างช้าๆ “ฮานหยวนไม่ใช่คนจากพื้นที่ปลอดภัยของพวกเรา และตามรายงานแล้ว เขาได้ออกคําสั่งแปลกๆออกมามากมาย ในยามต่อสู้ ใครบางคนได้ซื้ออกมาว่า ฮานหยวนรู้เกี่ยวกับเจ้าหลุมดํามากกว่าที่เขาบอกกับพวกเรา เขาได้พากองกําลังออกไปจับเจ้าหลุมดํา แทนที่จะไปทําลายมัน! เขาทําให้ชีวิตของทหารเราตกอยู่ในอันตราย และเมินเฉยความปลอดภัยของพวกเรา!”
ในเวลาเดียวกัน ผู้บังคับบัญชาฮวงกระพริบตา และเขาก็ถามออกมา “นายพลจาง คุณหมายความว่ายังไง?”
“ฉันกําลังอธิบายง่ายๆอยู่เลย ว่าพวกเราควรที่จะรายงานทุกอย่างไป เมื่อมันไม่จําเป็นต้องซ่อนอะไร สําหรับวิธีในการกําจัดกับเรื่องอย่างงี้แล้ว มันขึ้นอยู่กับพวกคนจากภูมิภาคฮัวเซียต่างหากละ” นายพลจางตอบ
ผู้บังคับบัญชาฮวงพยักหน้า แต่เขาก็ยังกังวลอยู่ดี ว่าเขาพลาดอะไรไปหรือเปล่า คนจากภูมิภาคฮัวเซียจะระบายความโกรธลงกับคนจากพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิง ในอีกความหมายหนึ่ง สถานการณ์ของพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิงยังคงไม่ปลอดภัย เมื่อเจ้าหลุมดําได้ดึงดูดซอมบี้และสัตว์ป่ากลายพันธุ์มามากมายจนทําให้พวกเขาโดนคุกคาม และพวกเขาก็ไม่ได้มีกําลังคนมากพอในการไปสู้กับเจียงลู่ฉี
ในตอนสุดท้ายแล้ว ผู้บังคับบัญชาฮวงก็พยักหน้าตกลงกับคําแนะนําของนายพลจาง สําหรับคนอื่นในห้องนี้แล้ว พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่พวกเขารู้อย่างชัดเจนว่า มันเป็นครั้งแรกสําหรับพวกเขาที่ยอมแพ้ต่อคนธรรมดาเช่นนี้
หลังจากนั้น ข่าวอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับทีมฉี่หยิงสังหารฮานหยวนต่างถูกป้องกันไม่ให้แพร่กระจาย แต่รายงานลับก็ยังถูกส่งไปที่ภูมิภาคฮั่วเซีย อีกทั้งข้อความอีกข้อความหนึ่งก็ได้ถูกส่งไปยังพื้นที่ปลอดภัยแห่งอื่น
“ทีมฉี่หยิง? เจียงลู่ฉี?” ชายสูงในเมืองชิงไห่กําลังอ่านจดหมายลับอยู่ ทันใดนั้น เปลวเพลิงก็ปรากฏขึ้นเหนือฝามือของเขา และเผาจดหมายนั่นไปทิ้งไป
“แก่นแท้ของเจ้าหลุมดําได้ถูกเก็บไปโดยเจียงลู่ฉี แย่จริงที่ฉันไม่มีเวลาจัดการกับเรื่องเร่งด่วน ในยามคับขันเช่นนี้ ฉันเดาว่าเจียงลู่ฉีคงเลือกที่จะหลีกเลี่ยงพวกเราไปแล้วละ”
“ตั้งรางวัลและให้ทีมผู้รอดชีวิตด้านนอกไปฆ่าพวกเขาทิ้งซะ พวกเขาจะไม่ได้คาดคิดอย่างแน่นอน ว่าพวกเราจะใช้ทีมผู้รอดชีวิตในการสังหารพวกเขา พวกเราไม่จําเป็นต้องที่จะมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ ตามรายงานแล้ว รถมินิบัสนั่นมันดูยอดเยี่ยมมาก ถ้าพวกเราได้รถมินิบัสนั่นไป มันคงจะเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้วละ”
ภาพแบบนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ปลอดภัยหลายต่อหลายแห่ง
ใครก็ตามที่รับรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ต่างคิดไปว่าทีมฉี่หยิงคงจะชะตาขาดแล้ว และเจียงลู่ฉีจะต้องตายอย่างแน่นอน หลังจากนั้น รถมินิบัสที่ยอดเยี่ยมก็จะกลายเป็นของพวกเขา ด้วยเหตุนี้นี่เอง รางวัลก็จะถูกส่งไปให้กับผู้รอดชีวิตหลายต่อหลายคนอย่างลับๆ
“พวกเขาเป็นใครกันแน่?” ผู้รอดชีวิตบางคนต่างประหลาดใจ
พวกเขาต้องการที่จะรู้ว่าทําไมกลุ่มคนเหล่านี้จึงเสนอรางวัลนําจับระดับสูงเช่นนี้ ในการจัดการกับทีมธรรมดาทั่วไป ถ้าพวกเขาทําภารกิจนี้สําเร็จ พวกเขาก็จะได้รางวัลเป็นอาวุธมากมาย และแม้แต่คริสตัลวิวัฒนาการด้วย ซึ่งมันเป็นดั่งเรื่องปกติธรรมดาทั่วไป ที่มีทีมมากมายต่างต้องการที่จะลองออกล่าทีมฉี่หยิงกัน
ใครบางคนก็ยังรู้สึกสงสารทีมฉี่หยิงด้วยเช่นกัน ไม่ว่าที่ไหนก็ตามที่พวกเขาปรากฏตัว พวกเขาก็จะตกอยู่ในวงล้อม ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าพวกเขาตกอยู่ในก้นบึงของนรก แน่นอนว่าเจียงลู่ฉีไม่มีทางรู้เกี่ยวกับแผนที่ชั่วร้ายเช่นนี้เลย
ในตอนนี้ เจียงลู่ฉีก็ยืนอยู่ด้านบนของตึก ภายในพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิง เขากําลังมองออกไป ยังสถาบันวิจัยที่อยู่ด้านนอก หลันซิหยู่ก็ยังยืนอยู่ข้างเขาด้วยเช่นกัน “ศาสตราจารย์สองคนยังโอเคดีอยู่ค่ะ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงค่ะ” หลันซิหญ่พูด พวกเธอต่างยืนอยู่ตรงนี้มาทั้งวันแล้ว และกําลังคอยสอดส่องศาสตราจารย์อยู่
“มันเหมือนกับว่านายพลจางยังรักษาสัญญาของเขาอยู่นะ เขาจะคอยดูแลปกป้องศาสตราจารย์ทั้งสองอยู่ เยี่ยมเลย!” เจียงลู่ฉีพูด
ศาสตราจารย์ทั้งสองคนยังปลอดภัยดี แต่เจียงลู่ฉีหวังว่าการกระทําของเขาจะไม่ส่งผลกระทบกับพวกเขา ถ้ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับพวกเขาแล้วละก็ เจียงลู่ฉีก็ยินดีที่จะเชือดไก่ให้ลิงดู
“ไปกันเถอะ” เจียงลู่ฉีก้มหัวลงและกระโดดลงไปพร้อมกับหลันซิหยู่ และหายไปบนถนนอย่างรวดเร็ว มันมีคนมากมายเต็มไปหมดบนถนน แม้แต่ยามที่คอยปกป้องเมืองก็เดินผ่านเป็นครั้งเป็นคราวด้วยเช่นกัน แต่ไม่มีใครเห็นพวกเขาเลย ซึ่งอยู่ภายใต้การปกป้องของหลันซิหยู่ มันค่อนข้างง่ายมากในการลอบเข้าไปในพื้นที่ปลอดภัย นอกจากนี้แล้ว คนส่วนใหญ่บนถนนต่างเป็นคนธรรมดาทั่วไป ดังนั้น แม้แต่หลันซิหยู่ก็ยังเดินผ่านพวกเขาไป พวกเขาก็จะไม่รู้สึกแปลกประหลาดอะไร
เมื่อพวกเขามาถึงกําแพงเมือง เจียงลู่ฉีก็ดึงสัตว์ที่คล้ายกับแมวออกมา ซึ่งมันก็คือหลัวหลัว
“หลัวหลัว” เจียงลู่ฉีเรียกมันและขว้างมันลงไปบนพื้น หลัวหลัวก็ตัวพองขึ้นในทันที และมันก็ขยายใหญ่เหมือนกับลูกโปงในชั่วพริบตา
เจียงลู่ฉีก็รวบเอวของหลันซิหยู่และพวกเขาก็กระโดดขึ้นไปบนลูกโปง และขึ้นมาถึงบนกําแพงในชั่วพริบตา หลังจากนั้น หลัวหลัวก็ปล่อยลมออก และส่งแรงกระโดดข้ามกําแพง หลังจากนั้นมันก็กระโดดขึ้นมาบนไหล่ของเจียงลู่ฉี
“สุดท้ายแล้ว นายก็มีประโยชน์สักที! ไปกันเถอะ!” เจียงลู่ฉีก็หยิบก้อนคริสตัลวิวัฒนาการออกมาจากกระเป๋าเสื้อ และแสดงให้หลัวหลัวเห็น
ดวงตาที่เหมือนกับมรกตของรูนี้ก็ส่องประกายออกมา เมื่อมันเห็น และหลังจากนั้นมันก็กระโดดออกจากไหล่ของเจียงลู่ฉี หลังจากนั้น ร่างกายของมันก็แบนเหมือนกับกระดาษ แต่หางและหูของมันยังคงกระดิกไปมาอยู่
เจียงลู่ฉีกระโดดขึ้นไปพร้อมกับหลันซิหยู่และจับหางที่สะบัดไปมาด้วยมือข้างหนึ่ง พวกเขาก็ลงบนพื้นอย่างเงียบงัน เหมือนกันกับการกระโดดร่ม