ตอนที่ 137 เทียนเหอใต้
ในแพลนการดำเนินชีวิตของหวังลิ่งนั้น สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดก็คือการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและไม่วุ่นวาย แต่เขาก็รู้ตัวดีมาตลอดว่าสิ่งที่เขาหวังนั้นมักจะได้ตรงกันข้ามเสมอ ชีวิตแบบคนธรรมดามันคงไม่มีทางเป็นไปได้สำหรับเขา…
วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม ในสัปดาห์ที่ 5 ของภาคเรียนที่ 1
ในตอนเช้าวันนั้นเองเสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น เพราะ “เพลิงความรักของหวังสิถู” เมื่อสองวันก่อนทำให้ช่วงนี้มักจะมีกริ่งหน้าบ้านดังค่อนข้างบ่อย พ่อของหวังลิ่งนั้นปั่นต้นฉบับนิยายของเขาทั้งคืนและพึ่งจะได้นอนเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เอง หวังลิ่งจึงเป็นคนไปเปิดประตูแทน
เมื่อเปิดประตูออกไป หวังลิ่งก็พบกับเทพมือระเบิดนั้นยืนรออยู่หน้าประตูในมือของเขาถือถุงมาใบหนึ่ง
เมื่อเทพมือระเบิดเห็นว่าหวังลิ่งเป็นคนเปิดประตู เขาจึงรีบกล่าวทักทาย “อรุณสวัสดิ์น้องลิ่ง”
“…” หวังลิ่งตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย
บางครั้งเทพมือระเบิดก็รู้สึกเหนื่อยกับการพยายามที่จะเข้าใจหวังลิ่ง เขาได้เรียนรู้การอ่านสีหน้าของหวังลิ่งมาบ้าง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่เข้าใจสิ่งที่เด็กหนุ่มคนนี้สื่อเลย
หวังลิ่งกำลังส่งสายตาแบบ “ปลาที่ตายแล้ว” (สายตาแบบเหมือนมองอากาศธาตุ dead fish eyes) แต่ด้วยความที่เขาเป็นเพื่อนเขาหวังลิ่งมานานเขาจึงรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังสื่อว่าอะไร
‘ด้วยสายตาแบบนี้น่าจะเป็น “นายมาทำอะไรที่นี่” สินะ’
เทพมือระเบิดนั้นยกถุงขึ้นมา “ฉันปลูกบล็อกโคลี่ที่ท่านผู้อาวุโสมอบให้คราวก่อนในดินวิเศษ เฝ้าฟูมฟักรดน้ำมันทุกเช้า และดูเหมือนว่ามันจะเจริญเติบโตแข็งแรงดี อันนี้พึ่งจะเก็บเกี่ยวมาเมื่อเช้าดูสิมันสดมาก ฉันอยากจะให้ท่านส่วนหนึ่งเลยเอามันใส่ถุงมา”
เมื่อฟังจบหวังลิ่งก้าวถอยหลังและเอื้อมมือจะไปปิดประตูใส่หน้าเทพมือระเบิดโดยไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำ…
เทพมือระเบิดรีบสอดมือเข้าไปขั้นตรงช่องหว่างประตูและขอบประตู “เดี๋ยวก่อนน้องลิ่ง ฉันมาเพราะมีธุระอื่นด้วย จำนักบุญลำดับสามคราวก่อนได้ไหม เขาส่งกระเป๋าใบหนึ่งมาให้ฉันจึงอยากให้นายช่วยดูให้หน่อย”
หวังลิ่งหยุดคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะปล่อยมือจากประตูให้เทพมือระเบิดเข้ามาในบ้าน
ระหว่างที่เขากำลังเปลี่ยนรองเท้าสำหรับใส่เดินภายในบ้าน ในใจเขาคิดว่ามันช่างเป็นเกียรติในการที่จะเข้ามายังพื้นที่อันศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าปรมาจารย์ทั้งหลาย
เทพมือระเบิดรู้สึกว่าบรรยากาศภายในบ้านดูเงียบแปลกๆวันนี้ เขาจึงถามออกไป “หือ…วันนี้ทำไมฉันไม่เห็นผู้อาวุโสเลย”
หวังลิ่งขี้เกียจอธิบายเขาจึงชี้นิ้วไปยังนิตยสารท่องเที่ยวที่วางอยู่บนโต๊ะกาแฟ
แม่และปู่ของเขาได้อ่านนิตยสารพวกนั้นก่อนที่พวกเขาจะออกจากบ้านไป
เทพมือระเบิดถึงบางอ้อว่าบรรดาผู้อาวุโสคงไปเที่ยวกัน
แต่จุดหมายปลายทางนั้นค่อนข้างจะแปลก…
เหอหนาน?
…เทียนเหอใต้?
ที่แห่งนั้นอาจจะเป็นที่ที่สวยงามสำหรับคนธรรมดาทั่วไป และสำหรับเหล่าผู้ฝึกตนนั้นเขาคิดว่าที่แห่งนั้นไม่ดีพอ
เทียนเหอใต้นั้นไม่เพียงแค่มีพลังวิญญาณธรรมชาติน้อย มันยังไม่มีสถานที่ที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกต่างหาก สถานที่จุดชมวิวที่น่าสนใจในปัจจุบันมักจะมีกิมมิคอะไรเล็กๆน้อยๆ ให้บรรกาเหล่าผู้ฝึกตนได้ร่วมสนุกก่อนที่จะได้ชมวิว ตอนนี้สถานที่ที่กำลังเป็นที่นิยมคือ เมืองขุมทรัพย์วัวดำซึ่งเป็นเมืองบ้านเกิดของหานลี่
เทพมือระเบิดจ้องนิตยาสารท่องเที่ยวอยู่ครู่หนึ่งและจากนั้นจึงถอนหายใจออกมา “ไว้เดี๋ยวฉันค่อยไปซื้อนิตยสารพวกนี้ทีหลัง ฉันอยากรู้ว่าที่แห่งนั้นมันมีอะไรดีทำไมผูอาวุโสทั้งสองจึงเลือกที่จะไปเที่ยวที่นั่น”
“…” หวังลิ่งยังคงส่งสายตาปลาตายไปให้
“เท่าที่ฉันจำได้เทียนเหอใต้นั้นไม่มีอะไรที่เป็นเอกลักษณ์สักเท่าไร…ถ้าไม่นับฝาท่ออะนะ” [ที่เหอหนานมีการขโมยฝาท่อเกิดขึ้นบ่อยครั้ง…ผู้แปล]
“…” หวังลิ่งไม่ได้แสดงความเห็นใดกลับไป
“ว่าแต่ว่า น้องลิ่ง! เรามาเปิดดูกระเป๋าที่นักบุญลำดับสามส่งมากันเถอะ” เมื่อการสนทนาเริ่มจะออกทะเลไปไกล ในที่สุดเทพมือระเบิดก็พากลับเข้าเรื่องหลักได้เสียที
หวังลิ่งพยักหน้าให้ หลังจากนั้นก็เกิดแสงขึ้นบนมือของเทพมือระเบิด ปรากฏเป็นกระเป๋าเดินทางใบหนึ่งซึ่งมีล็อคอยู่ “ดูเหมือนว่าล็อคตัวนี้จะล็อครหัสไว้…”
หวังลิ่งใช้ตาสวรรค์ของเขาตรวจสอบอย่างระมัดระวังและพบว่ากระเป๋าใบนี้นั้นไม่มีกับดักอะไรซ่อนอยู่ ก่อนหน้านี้เขาได้ปล่อยให้นักบุญลำดับสามกลับไป และเขาก็ไม่รู้ที่อยู่ของอีกฝ่ายด้วย แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะรักษาสัญญาที่จะหยุดทำงานให้กับปราสาทตระกูลโม่ และถอนตัวออกมาจากกลุ่มสิบนักบุญ หวังลิ่งคิดว่ากระเป๋าใบนี้คงจะมีข้อมูลสำคัญที่นักบุญลำดับสามได้ไปสืบมา
หวังลิ่งนำมือแตะลงไปที่ล็อคกุญแจ มันทำมาจากหยกบรอนซ์ แม้ว่ามันจะไม่ใช่วัตถุดิบที่แข็งแรงที่สุดแต่มันก็อยู่ในระดับที่สูง แต่ทว่านั่นไม่ใช่ปัญหาสำคัญ ปัญหาอยู่ตรงที่ล็อคกุญแจตัวนี้ถูกตั้งรหัสโดยนักบุญลำดับสาม
“ตัวล็อคนั้นถูกออกแบบมาได้ดีมาก มันไม่มีที่ให้สอดลูกกุญแจ แต่มันถูกเข้ารหัสไว้ด้วย 64 bits ถ้าหากจะปลดล็อคต้องทำการถอดรหัสตัวนี้ ฉันค้นหาข้อมูลมาตลอดสองวันที่ผ่านมา แต่จนถึงตอนนี้ฉันกลับไม่ได้อะไรคืบหน้าเลย จึงอยากจะมาขอปรึกษาน้องลิ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้…”
เมื่อเทพมือระเบิดพูดจบ หวังลิ่งยื่นมือออกไปและบิดล็อคตัวนั้น…
*แกร๊ก!!*
ทันใดนั้นเองหยกบรอนซ์ก็สลายกลายเป็นผงและกระเป๋าใบนั้นถูกเปิดออก
“…”
หลังจากนั้นหวังลิ่งดันกระเป๋าใบนั้นกลับไปให้เทพมือระเบิด
“…” ‘มันง่ายดายขนาดนี้เลยเรอะ!’
หวังลิ่งได้ทำการแอบมองเอกสารภายในเมื่อตอนที่กระเป๋าถูกเปิดออก เมื่อพวกเขาได้อ่านข้อมูลทั้งหมดแล้ว เทพมือระเบิดก็เข้าใจขึ้นมาทันทีว่าเอกสารเหล่านี้คือข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจนอกกฎหมายของแลนด์สเคปเมเนอร์และปราสาทตระกูลโม่ ถ้าพวกเขาอยากจะฟ้องร้องปราสาทตระกูลโม่ในอนาคต ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นหลักฐานชั้นดี
“ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่า นักบุญลำดับสามจะสามารถเข้าถึงข้อมูลพวกนี้ได้ นี่มันเป็นหลักฐานสำคัญเลยนะ ในตอนแรกพวกเรากังวลว่าเขาจะหาอะไรไม่ได้เลย”
ในขณะที่เทพมือระเบิดกำลังพอใจกับข้อมูลที่ได้รับ แต่เขาก็ยังคงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย หลักฐานพวกนี้อาจจะไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อพวกเขาในตอนนี้ มันแค่สามารถบอกได้ว่า ปราสาทตระกูลโม่ที่เป็นศูนย์ติวเตอร์ชั้นนำนั้นมีเบื้องหลังอย่างไร
แต่เจ้าของปราสาทนั้นก็ค่อนข้างจะระมัดระวังตัวพอสมควร เป็นไปได้ว่าข้อมูลเหล่านี้เขาจะเป็นคนจงใจปล่อยให้นักบุญลำดับสามเอง สำหรับคนประเภทนี้การฟอกเงินนั้นมันคงจะง่ายเหมือนกับดื่มน้ำ
หวังลิ่งจ้องไปที่กระเป๋าใบนั้นอยู่พักหนึ่งก่อนที่เขาจะยกเอกสารออกมาทั้งหมด และที่ก้นกระเป๋าเขาก็พบช่องเก็บของลับ
ช่องเก็บของลับนี้ถูกขยายด้วยวิชาขยายมิติ ภายนอกนั้นอาจจะดูเหมือนรูเข็มเล็กๆ แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาของหวังลิ่งไปได้
พวกเขาคิดว่านักบุญลำดับสามคงวางแผนการป้องกันไว้อีกชั้นเพื่อป้องกันข้อมูลเหล่านี้ตกไปอยู่ในมือคนอื่น ข้อมูลเหล่านั้นเป็นแค่เพียงข้อมูลบังหน้าส่วนข้อมูลที่แท้จริงนั้นถูกซ่อนไว้ในนี้ต่างหาก
“นี่สิสมกับเป็นน้องลิ่ง แม้แต่รายละเอียดเพียงเล็กน้อยก็ยังหาเจอ…” เทพมือระเบิดกล่าวชื่นชม
หวังลิ่งใช้พลังวิญญาณ ดึงเอาสิ่งที่อยู่ในช่องเก็บของลับออกมา
ในที่สุดกระเป๋าผ้าสีแดงหนึ่งใบก็มาอยู่ต่อหน้าพวกเขา