ตอนที่ 152 คนตาที่มักจะเป็นสัตว์ประหลาด!
สองคิงชูเดินผ่านประตูเข้ามาด้วยความรู้สึกผิด เพราะว่าเขานั้นเคยส่งลูกน้องมาแย่งชิง หน้ากากผีดิบด้วยกําลังหลายครั้ง แต่ในท้ายที่สุดเขาก็รู้สึกตัวว่าบ้านหลังนี้ไม่ใช่อะไรที่เขาจะสามารถต่อกรได้ กางเกงขายาวตัวเดียวสามารถขับไล่ลูกน้องคนสนิทของนายหญิงได้ แล้วผู้ที่สร้างมันขึ้นมาหล่ะจะแข็งแกร่งขนาดไหน?
คุณปู่ของหวังลิ่งรินน้ําใส่แก้วและนํามาวางบนโต๊ะกาแฟยื่นให้สองคิงชู “ว่าไงมีอะไรจะบอกฉันหรือเปล่า?”
คุณปู่ของหวังสิ่งนั้นเป็นคนง่ายๆ เมื่อเขายิ้มนั้นยิ่งทําให้เขาดูเป็นคนใจดี แต่ทว่าสองคิงซูก็ยังไม่วางใจเต็มร้อย แม้ว่าเขาจะจับไอพลังวิญญาณจากชายแก่ตรงหน้าเขาไม่ได้เลย นั่นยิ่งเสริมคําโบราณที่ว่า…คนตาที่มักจะเป็นสัตว์ประหลาด!
“บางที่ผู้อาวุโสกําลังทดสอบเขา”
“และน้ําแก้วนี้”
“เขาจะดื่มมันดีหรือเปล่า ดื่มหรือไม่ดื่ม?”
หรือนี่จะเป็นการทดสอบ?
สองคิงซูจ้องไปยังแก้วน้ําตรงหน้าเขาแล้วหลุดเข้าห้วงความคิดของตนไป..เหตุการณ์แบบนี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อคราวที่เทพมือระเบิดกําลังลังเลว่าจะกินบล็อคโคลี่หรือไม่กินดี
สองคิงซูนั้นรู้สึกอึดอัดตั้งแต่มาถึงบ้านของครอบครัวหวัง ด้วยอะไรก็ไม่ทราบเขารู้สึกว่ามีบางคนกําลังจับตามองเขาอยู่ แวบแรกที่เห็นบ้านหลังนี้ไม่มีอะไรที่แปลกประหลาด แม้แต่เครื่องกําเนิดพลังวิญญาณก็ไม่มี เขาก็ไม่เข้าใจว่าทําไมเขารู้สึกเหมือนวิญญาณของเขาถูกบีบจนรู้สึกอึดอัด
หลังจากผ่านไปสิบนาทีเขาก็ใจเย็นลงและเริ่มที่จะเปิดใจกับชายแก่ตรงหน้า
เพราะว่าเขามีเรื่องราวมากมายที่จะต้องเล่าให้ชายแก่ฟังเขาจึงเลือกที่จะเล่าประเด็นที่สําคัญเท่านั้น ชายแก่ก็ตอบสนองตามประสาคนแก่ที่ผ่านอะไรต่อมิอะไรมาเยอะ หลังจากที่ฟังเรื่องราวทั้งหมดจบชายแก่ก็เริ่มอ้าปากพูด “มี เรื่องก็คือเธออยากจะมาขอซื้อหน้ากากตั้งแต่ต้น แต่เล่ยน้อยได้มันไปก่อน..”
เล่ยน้อย…?
สองคิงซูรู้สึกสะอึกกับสรรพนามที่ชายแก่ใช้เรียก
“จะมีใครสักกี่คนกันที่กล้าเรียกเทพมือระเบิดด้วยสรรพนามแบบนั้นกัน?”
สองคิงซูเริ่มรู้สึกสงสัยในตัวของชายแก่ตรงหน้า! เขาถึงขั้นตรวจเช็คพลังวิญญาณอย่างละเอียดอีกครั้งแต่ก็ไม่สามารถจับอะไรได้เลย เขาเริ่มที่จะนับถือชายแก่คนนี้เป็นหนึ่งในผู้อาวุโสของเขาไปเรียบร้อยแล้ว เขาไม่สงสัยเลยแม้แต่ว่าถ้าหากมีใครบอกว่าชายแก่คนนี้เป็นอดีตผู้ฝึกตนในตํานานคนไหนสักคน!
“เพราะว่าเธอไม่สามารถจัดการซื้อหน้ากากใบนั้นให้เจ้านายของเธอได้ เจ้านายของเธอจึงออกตามล่าอย่างงั้นรึ?” คุณปู่ของหวังลิ่งถอนหายใจ “คนหนุ่มทุกวันนี้ เพียงแค่หน้ากากเก่าๆใบเดียวนี้ถึงจะต้องฆ่าจะต้องแกงกันเลยหรือยังไง”
คุณปู่รู้ตัวว่าเขานั้นไม่มีพลังมากพอที่จะช่วยผู้ชายคนนี้ได้ หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพักเขาก็ยืดขาไปสะกิดบั้นท้ายของสองสีเพื่อให้ไปตามหวังสิ่งลงมาข้างล่าง
เจ้าสุนัขสองสีรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่ถูกขัดจังหวะการนอน
สองคิงซูมองไปยังสุนัขพันธุ์อกิตะขนสีแปลกประหลาด เขาคิดว่ามันก็คงเป็นแค่สัตว์วิญญาณตัวหนึ่ง หลังจากที่มันโดนชายแก่สะกิดมันก็หันมามองทางสองคิงชูด้วยท่าทางหงุดหงิดเล็กน้อย
สองคิงซูรู้สึกเหมือนเขาเคยเจอสายตาแบบนั้นมาก่อน
สุนัขตัวนั้นต้องไม่ใช่สุนัขธรรมดาอย่างแน่นอน ด้วยอะไรบางอย่าง เมื่อเขาสบสายตากับเจ้าสุนัขตัวนั้น เหมือนเขาเห็นราชาปีศาจยืนอยู่บนยอดหน้าผาและกําลังสั่งการเหล่าสมุนปีศาจตัวอื่น มันมีสายตาที่ดุดันและเด็ดขาดเพียงแค่โบกมือมันก็สามารถทําลายโลกทั้งใบได้สองคิงซูนิ่งไป
“ภาพหลอดงั้นหรือ?”
“หวังสิ่งหลานของฉันนําเจ้าหมาน้อยตัวนี้มาจากโรงเรียน ในช่วงที่คนใหญ่คนโตเข้าตรวจโรงเรียนทําให้มันไม่สามารถอาศัยอยู่ที่โรงเรียนได้ แต่เจ้าหมาน้อยตัวนั้นมันชื่อสัตว์และเลี้ยงง่ายมากเลยนะ”
“อย่างงั้นหรอครับ…” สองคิงชูรับฟังคําอธิบายของคุณปู่หวัง “อ่าคุณปู่ผมเสียมารยาทถามหน่อยได้ไหมครับ หวังสิ่งคือใครหรอครับ”
“หวังสิ่งเป็นหลานชายของฉันเอง เขายังเรียนอยู่ชั้นมัธยมอยู่เลย”
เรียนอยู่ชั้นมัธยม..?
สองคิงซูรู้สึกว่าเขาเริ่มปะติดปะต่อเรื่องได้
“ไม่ทราบว่าหลานชายของคุณปู่เรียนอยู่โรงเรียนอะไรหรอครับ”
“โรงเรียนประจําเมืองอันดับที่60”
ปกติแล้วชายแก่ก็มักจะพูดถึงหลานชายอยู่บ่อยๆ เมื่อพูดถึงหลานชายสุดที่รักเขาก็รู้สึกภาคภูมิใจในตัวหลานของเขา แต่เขาก็ไม่ค่อยสมควรที่จะพูดถึงเรื่องราวพวกนี้มากนัก เขาไม่อยากที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโลกของผู้ฝึกตน ที่เขายอมนั่งฟังเรื่องราวของสองคิงชูนั้นก็เพราะเขาเห็นแก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
ถ้าหากมันเป็นเรื่องรักๆใคร่ๆ เขาก็พอจะช่วยอะไรได้อยู่ แต่ถ้าหากมันเกี่ยวกับเรื่องราวของโลกผู้ฝึกตน ครอบครัวหวังของเขาก็คงต้องนึกถึงหวังลิ่งเพียงคนเดียว
หวังสิ่งถึงแม้จะอยู่บนชั้นสองเขาก็ได้ยินสิ่งที่สองคิงชูเล่าให้คุณปู่ของเขาฟัง
ผู้ชายคนนั้นกําลังโดนโดนปราสาทตระกูลโม่ไล่ล่า และถึงแม้จะหนีไปต่างประเทศก็ไม่ปลอดภัย ดังนั้นเขาจึงมาขอความช่วยเหลือจากครอบครัวของเขา
ที่จริงแล้วหวังสิ่งมีความตั้งใจว่าจะไม่ช่วย แต่เมื่อเขาตัดสินใจที่จะแอบฟัง หนังตาเจ้ากรรมก็ดันกระตุกหนักขึ้นมาเสียอย่างนั้น
มันเป็นเวลานานมากที่หนังตาแจ้งเตือนของเขาไม่กระตุกแบบนี้ถ้าหากเขาไม่ช่วยมันอาจจะเกิดอะไรที่เลวร้ายยิ่งกว่า
หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน หวังลิ่งก็ค่อยๆเดินลงไปชั้นล่าง เขาอยู่ในชุดนอนกระต่ายสีขาว ที่ทั้งน่ารักน่าฟัดขัดกับหน้าตายๆของเขา
เมื่อหวังสิ่งลงมาถึงชั้นล่าง คุณปู่ของเขาก็หลีกทางให้ไปนั่งดื่มสุราของเขา ปล่อยให้สองคิงซู พูดคุยธุระของเขาเอง
สองคิงซูนั้นงุนงงเล็กน้อย..เขาสงสัยว่าทําไมผู้อาวุโสจึงปล่อยให้หลานชายของเขาจัดการ
เมื่อเด็กหนุ่มในชุดนอนเดินเข้ามาในระยะสายตาก็ทําให้เขาถึงกับตกใจจนแทบหยุดหายใจ!
แม้ว่าบุคคลตรงหน้าจะกลายเป็นฝุ่นไปแล้วก็ตาม..เขาก็ไม่มีวันลืม!
เขามั่นใจว่าเขาเคยเห็นเด็กหนุ่มในชุดนอนสีขาวคนนี้อยู่ในบ้านของเทพมือระเบิด และ ทําให้นักบุญลําดับที่หนึ่ง สองตายจากการสะท้อน และนักบุญลําดับสามทรยศ…และที่สําคัญเลย ก็คือเด็กหนุ่มคนนี้มีความสัมพันธ์กับเทพมือระเบิด
ไม่ว่าเพราะเหตุผลใดก็ตาม เขาตกต่ำจนถึงขั้นต้องขอความช่วยเหลือจากเด็กมัธยม?
สองคิงไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะต้องมาขอความช่วยเหลือจากเด็กกะโปโลแบบนี้!
เขารู้สึกโมโหมากจริงๆ!
แต่ทว่าเขาไม่มีทางอื่นแล้ว คงไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้นอกจากเด็กคนนี้
ทางด้านสองสีเหลือบมามองสองคิงซู มันส่ายหัวเบาๆและเดินมาทางผู้ชายที่สติแตกไปแล้ว มันกางอุ้งมือของมันและแตะไปที่ขาของผู้ชายคนนั้นเพื่อหวังละปลอบใจ
“ไม่ว่านายจะโมโหสักแค่ไหน นายจะต้องดิ้นรนเพื่อรักษารอยยิ้มของตัวเองไว้ไม่ต้องห่วงฉันเองก็เข้าใจความรู้สึกนี้ดี…ดีเสียยิ่งกว่าใคร” สองสีได้กล่าวเอาไว้ในใจ