ตอนที่ 179 ลี่เหมงเหมงมีคนขโมยรองเท้ากระต่ายขาวของคุณ!
การฝึกทหารที่ผ่านมาอาจจะไม่มีครั้งไหนเลยที่เหมือนการฝึกครั้งนี้
ในครั้งนี้โรงเรียนมัธยมอันดับที่59และ60 ซึ่งก่อนหน้านี้ยังคงน้ํานั่นกันแต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็จับพลัดจับพลูอยู่ข้างเดียวกันเสียอย่างนั้น ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่มีคนเพียงจํานวนไม่มากที่รู้ ต้องขอบคุณถึงจิงเสอและเหอบู่ฟงที่สืบจนทราบข้อมูล “การแข่งขันเซอร์ไววอล” อันนี้ทุกคนใน ห้องเรียนแห่งนี้แสดงความตื่นเต้นผ่านทางสีหน้าอย่างชัดเจน
“แล้วกฏของมันมีอะไรบ้าง?” ใครบางคนเอ่ยถามเหอบู่ฟังขึ้นมา
“อืม…การแข่งขันเซอร์ไววอลครั้งนี้แตกต่างจากการประลองกระบี่วิญญาณที่พึ่งผ่านไปนิดหน่อย พื้นที่กว้างขึ้น การใช้กระบี่วิญญาณและของวิญญาณก็ถูกจํากัด พวกเราจะต้องตามหาของวิเศษซึ่งถูกซ่อนไว้ในแผนที่ จากนั้นกําจัดโรงเรียนฝั่งคู่แข่ง” เหอบู่ฟังอธิบาย “แน่นอนว่าระดับของวิเศษที่จะเจอนั้นก็ขึ้นอยู่กับดวงของพวกนาย”
เมื่อเหอบู่ฟังพูดมาถึงตรงนี้ ถังจิงเสอก็ถอนหายใจออกมา “มันเป็นเหมือนการประลองการต่อสู้จริงเสียมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการประลงกระบี่วิญญาณคราวก่อนน่ะนะ มันใช้ไหวพริบและทักษะในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ามากกว่า ดวงก็มีส่วนอยู่นั่นแหละ ถ้าพวกนายเจอกระบี่วิญญาณระดับสูงได้ตั้งแต่ต้นเกมและไล่เก็บฝั่งตรงข้ามก่อน แม้ว่าเราจะอ่อนแอกว่าก็ตาม…”
“ใครเป็นคู่ต่อสู้ของเราในครั้งนี้?” เสี่ยวหัวเฉิงถามขึ้น
“พวกเขาก็มาจากเขตไปหยวนนี่แหละ โรงเรียนมัธยมเลื่อนขั้นชั้นแรกและโรงเรียนมัธยมหญิงเชื่อมั่นหนึ่งทีม ในขณะที่โรงเรียนมัธยมช่างก่อสร้างและโรงเรียนมัธยมเนตรพระเจ้าจับคู่เป็นอีกทีมนึง” ถังจิงเสออธิบาย
เมื่อได้ยินชื่อของโรงเรียนมัธยมเหล่านี้ นัยน์ตาที่ดูตื่นเต้นของเซ็นเฉาก่อนหน้านี้ก็ดูหมองลง “แม้แต่โรงเรียนเนตรพระเจ้าก็เข้าร่วมงั้นหรอ….นั่นเป็นโรงเรียนประจําเขตสร้างขึ้นมาเพื่อเด็กจากตระกูลเสียวนะ
กัวหาวสายหัว “ฉันไม่คิดว่าโรงเรียนเนตรพระเจ้าจะดีอะไรขนาดนั้น ฉันมีลุงที่ทํางานอยู่ในนั้นเล่าให้ฉันฟังว่า เด็กของตระกูลเสี่ยวนั้นก็เป็นแค่ลูกหลานจากตระกูลสาขา โรงเรียนมัธยมเลี่อนขั้นชั้นแรกก็ระดับใกล้เคียงกับเรา ปัญหาคือโรงเรียนมัธยมหญิงเชื่อมั่นและโรงเรียนมัธยมช่างก่อสร้างต่างหาก”
ถุงจิงเสอเลิกคิ้วขึ้น “นายหมายความว่ายังไง?”
“ฉันมีลุงที่ทํางานเป็นยามอยู่ในโรงเรียนมัธยมหญิงเชื่อมั่นและโรงเรียนมัธยมช่างก่อสร้างพวกเขาเล่าให้ฉันฟังก่อนหน้านี้” กัวหาวถอนหายใจ “โรงเรียนมัธยมหญิงแห่งนั้นอยู่ในระดับสูงกว่ามาตรฐาน อาจารย์ใหญ่เป็นหนึ่งในผู้อาวุโสของสํานักเชื่อมั่น ดังนั้นผู้คนส่วนใหญ่จึงเรียกเธอว่าอาจารย์ใหญ่เชื่อมั่น อาจารย์ใหญ่คนนี้ชํานาญวิชาดินและไม้ สามารถปรับตัวเข้ากับพื้นดินแบบไหนก็ได้”
“แล้วโรงเรียนมัธยมช่างก่อสร้างหล่ะ”
“นั่นโรงเรียนของหลินเสี่ยวคง เป็นโรงเรียนประจําเมืองที่พ่อของเขาหลินสิคงสนับสนุน ลูกหลานของคนตระกูลหลินก็เรียนอยู่ที่นั่น สิ่งที่โดดเด่นของโรงเรียนแห่งนี้คงเป็นความรวยหล่ะมั้ง”
จากคําพูดของก๊วหาว มันช่วยไขความข้องใจให้แก่หลายๆคนในห้อง เมื่อพูดถึงหลินเสี่ยวคงคงไม่มีใครไม่รู้จักเด็กรวยผู้ครอบครองกระบี่ปลาสังหารอันนั้น
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ หลินเสี่ยวคงคนนี้ไม่เพียงแต่มีครอบครัวที่ร่ํารวย แต่เขาก็ฝึกฝนอย่างหนักเช่นกัน…เขาได้อันดับหนึ่งในการสอบจําลองวิชากระบี่วิญญาณในปีนี้
ครั้งนี้พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับลูกหลานตระกูลหลินที่เหลือ มันอาจเดาได้ง่ายๆว่า หลินเสี่ยงคงคงสอนพวกเขาอย่างดีเพื่อการเข้าค่ายฝึกครั้งนี้ นั่นอาจจะเป็นสิ่งท้าทายครั้งใหญ่สําหรับทั้งโรงเรียนมัธยมอันดับที่59และ60
อย่างไรก็ตามโรงเรียนทั้งสองอยู่ในรายชื่อผู้สมัครโรงเรียนประจําเมือง การต่อสู้ในครั้งนี้จึงมีความหมายอย่างมากว่าพวกเขาจะได้รับสิทธิ์นั้นหรือไม่
หวังสิ่งไม่ได้รู้สึกสนใจในการแข่งขันนี้เลย ในทางกลับกันเขารู้สึกโล่งอกที่ไม่สามารถใช้กระบี่วิญญาณในการแข่งขันนี้
ซึ่งเขาไม่อยากให้จิงเกอแผลงฤทธิ์อีกครั้ง
เมื่อหวังลิ่งกลับมาถึงบ้าน เขาพบว่ารองเท้ากระต่ายขาวที่ประตูหน้าบ้านหายไป
“หรือลี่เหมงเหมงมา?”
หวังลิ่งคิดว่ามันแปลกเพราะเขาจับไอพลังวิญญาณของลี่เหมงเหมงในบ้านได้เลย
เขาเงยหน้าขึ้นและเห็นผู้ชายนั่งอยู่บนโซฟากําลังจิบชาและคุยกับพ่อของเขาอยู่ เมื่อเขาเข้าไปในบ้าน เขาเริ่มได้ยินเสียงหัวเราะของคนทั้งสอง และทันทีที่เขาเห็นชายแปลกหน้าชัดๆหัวใจของเขาแทบหยุดเต้น…เพราะคนคนนั้นคือโจวย!
หวังสิ่งตะโกนลั่นในใจ.สี่เหมงเหมงมีคนขโมยรองเท้ากระต่ายขาวของคุณ!
เมื่อโจวยเห็นหวังลิ่ง ตาของเขาก็ลุกวาวหันหลังให้กับพ่อของหวังสิ่งทันที
เมื่อพ่อของหวังสิ่งที่กําลังนั่งอยู่บนโซฟาเห็นว่าหวังลิ่งกลับมาถึงบ้านแล้ว เขาจึงรีบแนะนําตัวแขกของเขา “หลิงหลิงเดี๋ยวพ่อจะแนะนําคนคนนี้ให้รู้จัก คนคนนี้เขาเป็นแฟนตัวยงของหนังสือ เล่มล่าสุดของพ่อเอง เขายังเป็นถึงรุ่นพี่ศิษย์เก่าและผู้อํานวยการที่อายุน้อยที่สุดของสมาคมร้อย โรงเรียน และเขายังเป็นคนที่จับนักฆ่าแหกคุกจากคุกสูงสุดเมืองซ่งไห่ที่ผ่านมา!”
ที่จริงแล้วโจวยอยากจะมาเยี่ยมเยียนบ้านของครอบครัวหวังมานาน แต่เขาก็ไม่กล้าพอ
ดังนั้นในครั้งนี้ที่เขามีโอกาสมา เขาจึงเตรียมตัวมาอย่างดี
ก่อนที่เขามา เขาได้ถามเทพมือระเบิดมาบ้างแล้วว่า อาจารย์น้อยของเขานั้นชอบอะไรนิสัย ของเขาเป็นอย่างไรและจะตีสนิทได้ยังไง
อันที่จริงเมื่อโจวยถามคําถามเหล่านั้น เทพมือระเบิดก็คิดว่ามันค่อนข้างแปลก ในหัวของเขานั้นคิดว่าโจวยี่เป็นถึงศิษย์เอกของหวังสิ่ง ทําไมศิษย์เอกต้องถามคําถามเกี่ยวกับอาจารย์ของเขา?
เขาจึงคิดว่าทั้งสองคนคงมีเรื่องผิดใจกันอยู่อย่างแน่นอน!
ดังนั้นเขาจึงอยากช่วยเหลือทั้งคู่กลับมาคืนดีกัน เขาจึงบอกโจวยไปหลายเรื่อง
โจวยในตอนนี้รู้แล้วว่าหวังสิ่งอยากจะเก็บตัวไม่อยากทําตัวเด่น ซึ่งนั่นคือเหตุผลว่าทําไมเด็กหนุ่มจึงไม่ชอบที่จะโผล่หน้าให้สาธารณะชนรับรู้ ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าหวังลิ่งจะเป็นรุ่นน้องร่วมโรงเรียนของโจวย แต่ความจริงแล้วเด็กหนุ่มนั้นถือว่าเป็นบิ๊กบอสของเขาเลยก็ว่าได้…และไม่ใช่แค่เพียงหวังสิ่ง ทุกคนในบ้านหลังนี้ล้วนเป็นผู้อาวุโสผู้ซึ่งเก็บตัวเงียบไม่มีชื่อเสียงในโลกผู้ฝึกตน
ตอนนี้หวังลิ่งรู้แล้วว่า เขาโดนเทพมือระเบิดทรยศ!
เขาถอนหายใจเงียบๆภายในใจ เขาไม่คิดเลยว่าคนที่ทรยศเขาจะเป็นคนที่เขาไว้ใจมากที่สุด!
เขามองไปยังโจวยี่ค้างไม่ปริปากอะไรออกมาอยู่พักใหญ่ด้วยความปวดหัว
จู่ๆบรรยากาศก็อึมครึ่มโจวยจึงหันไปพูดกับพ่อของหวังสิ่งแทน “น้องหวัง ครั้งนี้ฉันเอาของขวัญมาฝาก”
“ถ้าอยากมาก็มาได้เลย คุณไม่ต้องนําของฝากมาก็ได้” พ่อของหวังลิ่งรู้สึกอายนิดหน่อย
“เอาน่า” โจวยจึงหยิบของออกมาจากกระเป๋า เขาได้เตรียมซิการ์ชั้นดีมาให้พ่อของหวังสิ่งและโลชั่นบํารุงผิวสําหรับแม่ของหวังลิ่ง จากนั้นเขาจึงหยิบบล็อกโคลี่หัวใหญ่ออกมาหัวหนึ่ง
โจวยี่ยื่นไปให้ทั้งสองมือ “ฉันได้ยิงมาว่าคุณปูหวังนั้นชอบบล็อกโคลี่ ดังนั้นฉันจึงใช้เงินจํานวนหนึ่งเพื่อซื้อมันมา”
อย่างสุดท้ายเขาใช้เวลาค้นหาในกระเป๋าอยู่นาน และหยิบขนมบะหมีหลากรสออกมากล่องหนึ่ง
หวังสิ่งเหลือบมองกล่องขนมบะหมีอยู่ครู่นึง
“อืมก็ได้…”
“เขาจะรับคนคนนี้เป็นลูกศิษย์!”