ตอนที่ 176 เงาสายธารโดนจัดการแล้ว
การปรากฏตัวของกล่องหินนี้ช่วยไขข้อข้องใจหลายอย่างของเทพมือระเบิด อย่างเช่นที่มันตกไปอยู่ในมือขององค์กรนักฆ่าเงาสายธาร อันที่จริงแล้วมันก็เป็นอะไรที่คาดเคาได้ไม่ยาก หากใครครอบครองหน้ากากผีดิบ พวกเขาอาจจะได้รับพลังมหาศาลทําให้พวกเขาโด่งดังภายในระยะเวลาอันสั้น
มันไม่ใช่แค่เพียงปราสาทตระกูลโม่ที่ตามหามัน เหล่าสํานักอธรรมที่กําลังออกตามหาเจ้าสิ่งนี้อยู่เช่นกัน
แต่การบุกทําลายฐานทัพของเงาสายธารครั้งนี้เป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ทําให้พวกนักฆ่าที่เหลือไม่อาจรวมกลุ่มตั้งขึ้นมาได้อีกครั้ง เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์สําคัญที่ทําให้บรรดาสำนักอธรรมเริ่มต้นหวั่นวิตก เพราะว่าจากการที่มีกลุ่มคนนิรนามบุกทําลายองค์กรเงาสายธาร นั่นแปลว่าทางรัฐบาลจะต้องมีกลุ่มคนที่มีฝีมือคอยทํางานให้
ยิ่งไปกว่านั้นวิชาควบคุมห้วงมิติ ที่แม้แต่หอสังเกตการณ์ยังไม่สามารถตรวจจับได้เป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดา
หลังจากที่เทพมือระเบิดจากไปพร้อมกับกล่องหินแล้ว หวังสิ่งซึ่งไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับปัญหานี้มาตั้งแต่ต้น เขาจึงผลักหน้าที่นี้ให้แก่เทพมือระเบิด…ก่อนที่เทพมือระเบิดจะกลับไป คุณปูหวังชมเทพมือระเบิดเรื่องที่บล็อกโคลี่มีคุณภาพดีมาก
จากหน้าต่างชั้นสองหวังสิ่งเห็นคนบ้าคนหนึ่งซึ่งกําลังตัวลอยเหมือนได้รับคําชมจากครูประจําชั้น
ทันทีที่ออกมาจากบ้านของหวังลิ่ง เทพมือระเบิดรีบมุ่งหน้าไปยังห้องอาหารยามเที่ยงคืนก่อนเที่ยงคืนนิดหน่อย ร้านอาหารโทรมๆเล็กๆแห่งนี้ก็เงียบกริบไม่ลูกค้าตามปกติ เจ้าของร้านทานซิมมิ่งนั้นกําลังล้างจานอยู่ในครัว เมื่อเขาเห็นเทพมือระเบิด เขานิ่งไปครู่นึงก่อนจะเอ่ยถามออกไป “ว่าไง มากินบะหมี่งั้นเหรอ?”
พูดกันตามตรงเทพมือระเบิดคิดว่าบะหมีของทานซิมมิ่งนั้นไม่มีอะไรเด่นเป็นพิเศษเลย แต่วันนี้เขาจะมาสอบถามข้อมูล ตามมารยาทแล้วเขาก็ควรจะต้องสั่งอาหารสักนิดหน่อย
เทพมือระเบิดนิ่งคิดไปครู่ใหญ่จากนั้นจึงเอ่ยขึ้น “มีอาหารอย่างอื่นอีกไหม?”
“อืม…ก็มีนะ ฉันเรียนวิธีการทําอาหารชนิดนี้มาจากอาจารย์ มันชื่อว่าเขากวางและซุปสลัดแมงกะพรุน สนใจลองชิมไหม? มันทําจากวัตถุดิบนําเข้าดังนั้นราคาจึงแพงนิดหน่อย แต่มันรสชาติดีมาก” เจ้าของร้านตอบกลับ
เทพมือระเบิดนิ่งไปครู่หนึ่ง “ทีมไม่ใช่ว่าทั้งของทั้งสองอย่างนั้นหาได้ภายในประเทศหรอครับ?”
ทานซิมมิ่งยืดแขนขึ้นหลังจากล้างจานเสร็จก่อนจะพูดว่า “พวกมันเคยหาได้ภายในประเทศแต่ประเทศอี้ชิวพึ่งจะประกาศว่าวัตถุดิบที่ใช้ทําซุปตัวนี้เป็นมรดรทางวัฒนธรรมของประเทศพวกเขา พวกเขาทําตัวน่าอายเหมือนประเทศหนานหานเลย ที่ชอบเอาแต่บอกว่าสิ่งโน้นสิ่งนี้มีจุดเริ่มต้นที่ประเทศของพวกเขา”
เทพมือระเบิด: “ถ้างั้นผมเอาหนึ่งที่”
อย่างไรก็ตามถ้าหากมันไม่อร่อยเขาก็จะไม่จ่าย
พบเจอกันครั้งแรกยังคงเป็นคนแปลกหน้า พบเจอกันครั้งที่สองก็เป็นเพื่อนกันเรียบร้อยแล้ว ทานซิมมิ่งรู้ว่านี่เป็นการสั่งอาหารตามมารยาท
เทพมือระเบิดไม่พูดจาอ้อมค้อม ไม่นานก็เกิดแสงสว่างขึ้นบนมือ เทพมือระเบิดวางกล่องหินลงบนโต๊ะ ด้วยน้ําหนักของมันพอวางลงบนโต๊ะจึงเกิดเสียง “ตึง!” “สิ่งนี้คุณเจ้าของร้านเคยเห็นมันมาก่อนไหม?”
เจ้าของร้านไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาทําแค่เพียงก้มหน้าลงและนั่นเขากวางและแมงกะพรุนสน จากนั้นจึงเอาไปใส่ในกระชอนล้างด้วยน้ําและใส่ลงหม้อดินเผา เขาใส่เครื่องเทศนิดหน่อยก่อนที่จะปิดฝาหม้อ เมื่อทําทุกอย่างเสร็จแล้วเขาเงยหน้าขึ้นมองไปทางเทพมือระเบิด “คุณจะว่าอะไรไหมถ้าหากฉันจะขอสูบบุหรี่หน่อย?”
เทพมือระเบิดส่ายหัวเป็นเชิงว่าตามสบาย แต่เขาแอบใช้พลังวิญญาณควบคุมขนจมูกปรับแต่งมันให้เป็นเสมือนเครื่องกรองอากาศ คงไม่มีใครคิดว่าเทพมือระเบิดจะไม่สูบบุหรี่ เขาได้ฝึกวิชาควบคุมขนจมูกด้วยตัวของเขาเอง มันเป็นวิชาที่มีประโยชน์และช่วยป้องกันผลกระทบจากควันบุหรี่ได้ดี
ทานซิมมิ่งเคาะบุหรี่ออกมาหนึ่งมวนจากซอง “ที่จริงแล้วกล่องหินนั่นถูกสร้างโดยเพื่อนของฉันคนนึ่ง”
นัยน์ตาของเทพมือระเบิดส่องเป็นประกายอย่างตื่นเต้น “นี่มันข้อมูลสําคัญเลยนะเนี่ย!?
อันที่จริงแล้วทานซิมมิ่งนั้นเพิ่งจะรู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับหน้ากากผีดิบ แม้ว่าเขาจะเลือกเดินออกมาจากเส้นทางนั้นแล้ว แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าหน้ากากที่เขาบังเอิญช่วยกันทํามันขึ้นมากับเด็กหญิงปริศนา มันได้สร้างผลกระทบมหาศาลต่อมวลมนุษย์ ทางรัฐบาลและสํานักฝ่ายธรรมะตามหาหน้ากากสองอันนี้เพื่อทําการผนึกพวกมัน ในขณะที่ฝ่ายอธรรมนั้นต้องการที่จะใช้พลังจากพวกมัน
“ในตอนนั้น พวกเราพวกไม่ได้ตั้งใจที่จะสร้างมันขึ้นมา” ทานซิมมิ่งถอนหายใจ “เสียใจด้วยนะที่ฉันต้องบอกว่า คนสร้างเจ้ากล่องนี่เสียชีวิตไปแล้ว”
เทพมือระเบิดแสดงท่าทางเสียใจ ถึงแม้ว่าเขาอยากจะถามว่าคนคนนั้นเสียชีวิตได้อย่างไร แต่มันค่อนข้างที่จะเป็นการเสียมารยาท
เขารู้มานานแล้วว่าเจ้าของร้านอาหารคนนี้จะต้องมีประวัติที่ลึกลับและซับซ้อน เพราะด้วยพลังวิญญาณที่นิ่งและหมุนเวียนอย่างเป็นระเบียบ เสมือนดั่งผู้อาวุโสที่มีชื่อเสียงซึ่งเขาไม่สามารถจะเทียบเคียงได้เลย
แน่นอนว่ามันเป็นแค่เพียงการคาดเดาเท่านั้น
แต่เทพมือระเบิดก็เชื่อในสัมผัสที่หกของเขาว่าไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาดไปจากที่เขาคิด
เจ้าของร้านทานซิมมิ่งมองไปยังกล่องหินเป็นระยะเวลานานพอสมควร ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะไม่อยากเล่าเหตุผลว่าเพื่อนของเขาเสียชีวิตเพราะเหตุใด จากนั้นเขาจึงหันไปพูดเตือนเทพมือระเบิด “ฉันแนะนําว่าคุณควรจะล้มเลิกการสืบเจ้าของสิ่งนี้ ถ้าหากคุณยังคงดื้อดึง ไม่ว่าจะเป็นคุณหรือเพื่อนที่เขียนเพลงของคุณ มันอาจจะจบลงไม่สวยเท่าไร พวกคุณไม่ควรยุ่งกับของสิ่งนี้”
ทานซิมมิ่งแตะไปที่รอยบากบนหน้าของเขา “คุณเห็นรอยแผลเป็นบนหน้าฉันไหม?”
เทพมือระเบิดขมวดคิ้ว “จากรอยแผลเป็น คุณคงได้รับบาดเจ็บมาจากอาวุธวิเศษใช่ไหม?”
“มันง่ายที่จะเข้าร่วมสํานัก แต่การออกจากสํานักนั้นยากยิ่งกว่า บางครั้งถ้าหากคุณตกลงในบ่อโคลน มันก็ยากที่จะตะเกียกตะกายขึ้นมาจากมันรอยแผลเป็นนี้ฉันได้รับมันเมื่อตอนที่ฉันออกจากสํานัก มีการต่อสู้เกิดขึ้นและนั่นทําให้ฉันได้แผลเป็นอันนี้มา…”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้เจิ้งทานรู้สึกเหมือนใจสลาย “รอยแผลนี่เป็นแผลจากการโดนอาวุธศักดิ์สิทธิ์พลังของฉันในตอนนั้นแม้ว่าฉันจะรักษาร่างกายให้หายดีได้ แต่ก็ไม่สามารถรักษารอยบากบนใบหน้าได้ ฉันได้ลองใช้เครื่องสําอางหลากหลายชนิดเป็นระยะเวลาหลายปี แต่มันก็ไม่เป็นผล…ฉันเคยเป็นหนุ่มรูปงามประจําสํานัก มีบรรดาศิษย์น้องมากมายที่ชอบฉัน ฉันเคยเป็นไอดอล(Idol)มาก่อน! ฉันใช้ใบหน้าทํามาหากิน!”
เทพมือระเบิด:
นั่นเป็นรอยแผลจากกระบี่หรือ?”
“อันที่จริงก็ไม่ใช่…”
ทานซิมมิ่งส่ายหัว “ขณะที่ฉันกําลังหนีออกมาจากสํานัก ฉันบังเอิญสะดุดล้มลงบนพื้นและใบหน้าโดนมีดซึ่งตกอยู่บนพื้นบาดเอา…”
เทพมือระเบิด: “…”