ตอนที่ 200 สวนไปเฉาสู่และห้องสมุดซานเว่ย…
ข้อมูลที่เจียงหลิวเย่บอกให้แก่กัวผีนั่นเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์อย่างมาก
สาหรับวิธีต้องห้ามที่ใช้สร้างอวัยวะเลือดเนื้อนั้นมีข้อจํากัดมากมาย นอกเหนือไปจากพลังชีวิตกว่าหมื่นชีวิตยังมีเงื่อนไขอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือเวลา ทันทีที่เริ่มขั้นตอนสร้างเลือดเนื้อพลังชีวิตทั้งหมื่นชีวิตจะต้องพร้อมใช้งาน
เพราะเหตุนี้จากข้อมูลของเจียงหลิวเย่ นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สุด
ปัญหาที่ทําให้จอมมารกัวผีปวดหัวหาวิธีแก้มานานก็หมดไป
เจียงหลิวเย่เม้มปากก่อนจะพูดออกมา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะดีกว่าหากท่านจอมมารระวังตัวไว้บ้างก็ดี เพราะปรมาจารย์นักฆ่าก็ยังมีวิชากายเซียน…
กายเซียน? แล้วไง?! ในอดีตฉันก็เกือบจะสําเร็จวิชากายเซียนอยู่แล้ว ถ้าหากฉันสามารถฟื้นคืนร่างกลับมาได้ เสริมแกร่งอีกนิดหน่อยมันก็เป็นกายเซียนแล้ว ถ้าถึงตอนนั้นจะมีใครสามารถต่อกรกับฉันได้อีก?
ก่อนหน้านี้ไอเจ้านั่นมันแค่ได้เปรียบนิดหน่อย แต่นั่นมันไม่สําคัญหรอก ทุกอย่างยังอยู่ภายใต้การควบคุมของฉัน…ว่าแต่ว่าเรื่องของที่ฉันวานให้หาหล่ะ ได้เรื่องอะไรบ้างไหม?
ตอนนี้เรายังไม่มีข้อมูลของเชือกทองคํา เจียงหลิวเย่ส่ายหัว แต่เรามีข่าวลือว่ากระบี่เจ็ดดาวนั้นอยู่ในการครอบครองของเทพมือระเบิด ย้อนกลับไปตอนที่เราปะทะกันที่ร้านสะดวกซื้อ ที่นั่นมีหมอยานักเล่นแร่แปรธาตุคนหนึ่งที่มาเก็บดวงวิญญาณของเหล่าคนส่งอาหาร เจ้าคนนั้นเป็นลูกน้องของมัน
หืม…เห็นที่พวกเราจะต้องระวังตัวไว้หน่อยแล้ว จอมมารพยักหน้าหลังจากฟังข้อมูลที่เจียงหลิวเย่รายงาน
ในหัวของเขาตอนนี้คิดแค่เพียงการเก็บรวบรวมของวิเศษแห่งความโชคดีของเทพเจิ้นหยวน แต่ก็ไม่มีใครสามารถครอบครองของวิเศษทั้งสามได้สําเร็จ
น้ําเต้าม่วงทองนั้นอยู่กับจอมมารกัวผีมานานแล้ว ถ้าหากเขาสามารถเก็บรวบรวมอีกสองชิ้นที่เหลือได้ เขาจะสามารถพบเทพเจิ้นหยวนแบบตัวต่อตัว
ตัวตนที่แท้จริงของเทพเจิ้นหยวนนั้นหน้าตาเป็นยังไง? นี่คือสิ่งที่จอมมารเฒ่าสงสัย
หลังจากที่โจรปีศาจได้รับคําสั่งจากอาจารย์ดังให้ตามหาศิษย์พี่เมื่อหลายวันก่อน เขาไม่รู้เลยว่ารูปร่างหน้าตาของศิษย์พี่ของเขาเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน แต่เขารู้สึกว่าศิษย์พี่ของเขานั้นท่าตัวลึกลับในช่วงนี้ ทันทีที่เขาเอากางเกงบอกเซอตัวนี้ไปต่างแดด ศิษย์พี่ของเขาจะต้องเขียนจดหมายตอบกลับภายในเวลาไม่กี่วัน แต่สำหรับตอนนี้โจรปีศาจคิดว่ากางเกงบอกเซอลายดอกไม้คงไม่ใช่จุดอ่อนของศิษย์พี่เขาอีกแล้ว
นั่นก็เพราะว่าพิกัดของปรมาจารย์นักฆ่าของเขานั้นไม่ค่อยแน่นอน มันกินเวลาค้นหาไปหลายวัน
บนถนนเส้นเก่าแกเส้นหนึ่งในเมืองจึงหัวซึ่งก่อสร้างมาตั้งแต่ยุคก่อตั้งประเทศ และที่พักอาศัยเป็นตึกที่มีห้องที่มีระเบียงยาวทุกห้อง (Tube-Shape Apartment) ในวันนี้เองมีเด็กหนุ่มสวมเสื้อแขนยาวสีดําและกางเกงยีนส์ สวมหมวกทหารบนผมสีขาวโพลนของเขา ปรากฏตัวอยู่ข้างหน้าตึกแห่งหนึ่ง
มีคําพูดที่ว่าคนเก่งมักจะหลบซ่อนอยู่ในคราบคนธรรมดา
เด็กหนุ่มยืนมองตึกด้วยความรู้สึกคิดถึง เขาและศิษย์พี่ของเขาเติบโตขึ้นในที่แห่งนี้ก่อนที่จะตามอาจารย์ของเขาไปเพื่อฝึกวิชา พวกเขาทั้งคู่ล้วนเป็นเด็กกําพร้า ไม่ทันไรก็ผ่านไปหลายปีแล้ว…
หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกต่างๆเมื่อยืนอยู่หน้าตึกนี้
เมื่อเขาเดินเข้าไปในตัวตึก เขาเห็นชีวิตความเป็นอยู่ของผู้พักอาศัย ทุกคนที่นี่ล้วนแต่มีสถานะยากจนเป็นคนธรรมดาไม่ใช่ผู้ฝึกตนแต่อย่างใด แต่จากการสํารวจประชากรของประเทศจีน ปรากฏว่าพวกเขานั้นมีความสุขมากกว่าบรรดาผู้ฝึกตนในอพาร์ทเม้นหรูเสียอีก
อย่างที่ทุกคนรู้ ผู้ฝึกตนหลายคนใช้เงินเหมือนน้ําเปล่า ตัวอย่างเช่นโทยะจอมอมตะและนักบุญลําดับสามผู้ซึ่งซื้อห้องและซื้อตึกก่อนหน้านี้ เพียงแค่สะบัดนิ้วเงินกว่าหลายล้านหยวนก็ถูกใช้ อย่างไรก็ตามเหมือนบรรดาผู้ฝึกตนกลับถูกกัดกินด้วยความรู้สึกเครียดและว่างเปล่า เมื่อพลังของพวกเขามาถึงจุดที่เป็นคอขวดซึ่งก้าวต่อไป ไม่ได้ ความตึงเครียดของพวกเขาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
เด็กหนุ่มได้ใช้พลังวิญญาณของเขาสํารวจทั่วทั้งตึกและบริเวณรอบๆ และเขาก็รับรู้ได้ถึงพลังวิญญาณของบุคคลที่คุ้นเคยอยู่ในสวนไปเฉาซึ่งอยู่ข้างหลังตึกแห่งนี้
เด็กหนุ่มแสดงสีหน้าดีใจอยากปิดไม่มิดในขณะที่กําลังเดินเข้าใกล้พลังวิญญาณของคนที่เขาคิดว่าเขารู้จักจากจุดที่เขาอยู่เขามองเห็นบ้านไม้เก่าแก่อยู่ที่สุดทางเดินของสวนไป่เฉา ป้ายไม้ที่แขวนไว้อยู่ข้างหน้าบ้านไม้เก่านั้นเขียนว่า ห้องสมุดซานเว่ย ซึ่งเขียนด้วยหมึกสีเขียวห้องสมุดสาธารณะแห่งนี้ก่อตั้งเพื่อให้คนในพื้นที่ยืมไปอ่านกัน
มีชายวัยกลางคนผมสั้นและมีรอยแผลเป็นอยู่บนศีรษะหลายแผลนั่งอยู่หน้าประตูของห้องสมุดซานเว่ย เขากําลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนเก้าอี้ไม้ไผ่ เมื่อเด็กหนุ่มเริ่มเดินเข้าใกล้ชายคนนั้น เด็กหนุ่มสังเกตเห็นว่าชายคนนั้นเริ่มขยับตัวยกเท้าขึ้นมาจากพื้น…
เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว เด็กหนุ่มก้มตัวลงและปกปิดพลังวิญญาณของเขา
ชั่วพริบตาเกิดเสียง วูบ ลําแสงสีเงินพุ่งออกไปจากนิ้วของเด็กหนุ่มไปยังชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้คนนั้น
ไม่กี่วินาทีต่อมาชายวัยกลางคนก็ลดหนังสือพิมพ์ลงเผยให้เห็นเข็มส์เงินคาบไว้ที่ปาก
ศิษย์น้องไม่เจอกันนานนะ..พละกําลังของนายดูลดลงไปหรือเปล่า? มีเสียงดังออกมาจากชายคนนั้นซึ่ง เขาไม่ได้ขยับปากเลย
เด็กหนุ่มชี้ไปที่เท้าของเขา ดูเหมือนชายวัยกลางคนจะรู้สึกตัวว่ามีสิ่งผิดปกติ เมื่อเขาก้มลงไปมองผลปรากฏว่ารองเท้าแตะของเขานั้นได้หายไปและเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นก็พบว่ารองเท้าแตะของเขานั้นอยู่ในมือของเด็กหนุ่มเรียบร้อยแล้ว
ทันใดนั้นทั้งคู่ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
ศิษย์น้อง พลังนิ้วของนายมันลดลงไปนิดหน่อยนะ แต่ดูเหมือนสกิลการขโมยจะเพิ่มขึ้นมาแทน ชายวัยกลางคนลุกขึ้นยืนด้วยเท้าเปล่าและมองไปทางเด็กหนุ่ม นายมาหาฉันมีอะไรงั้นเหรอ?
อาจารย์ของเรามอบหมายภารกิจมาให้ และฉันก็ตามหาพี่มาหลายวันแล้ว..ฉันไม่คิดว่าพี่จะมานั่งอ่านหนังสืออยู่ที่นี่
ก็แหล่งข่าวของฉันเขาทํางานเป็นผู้จัดการอยู่ที่ห้องสมุดซานเว่ย เขาออกไปทาภารกิจหาข่าวมาให้ฉันอยู่ ตอนนี้ฉันจึงต้องมาช่วยเขาทํางานแทนสองวันน่ะ
ข่าวอะไร?
ฉันพบว่ามีใครบางคนพยายามปลอมตัวเป็นฉันอยู่ในช่วงนี้!
อันที่จริงฉันก็รู้มานานแล้ว แต่ดูเหมือนไอเจ้าคนนั้นมันจะค่อนข้างเก่ง…ฉันไม่เคยหาอะไรพบเลย มีข่าวลือว่าตัวปลอมคนนั้นได้ออกไปสืบข่าวการหายตัวไปของพนักงานส่งอาหารเมื่อสองวันก่อน…อย่าหวังว่าฉันจะปล่อยให้ลอยนวล!
ทางเด็กหนุ่มส่ายหัว ว่าแต่ว่าพี่…พี่ไม่กลัวเจ้ากางเกงบอกเซอลายดอกนี่แล้วเหรอ? ก่อนหน้าที่จะโผล่ออกมาทุกครั้งที่พวกเราแขวนกางเกงบอกเซอร์ลายดอกนี้
เฮ้ เฮ้ อาจารย์คิดว่าเขาจะใช้กางเกงบอกเซอร์ลายดอกนี่ขู่ฉันได้ตลอดไปงั้นเรอะ? ด้วยการที่เป็นถึงนักฆ่าเก่งที่สุดในโลก ฉันเอาชนะมันมาได้ตั้งนานแล้ว!
ชายวัยกลางคนหัวเราะเหมือนคนบ้าจากนั้นจึงถกกางเกงลง ฮึๆ..ฉันเลือกที่จะไม่ใส่มันแล้วต่างหาก!
เด็กหนุ่มยกมือขึ้นมาปิดตา … เขาคิดว่าไอศิษย์พี่ของเขามันเสียสติไปแล้วแน่นอน
Next