Great Demon King – กำเนิดราชันย์ปีศาจ – ตอนที่ 458

ตอนที่ 458

หานซั่วและปีศาจเฒ่าสตรัทโฮล์มมองหน้ากันไปมา ก่อนจะตระหนักได้ว่า นักบุญ ผู้ที่ทิอาน่าเคยกล่าวถึงนั้น ได้มายืนอยู่เบื้องหน้าของพวกเขาแล้ว

ยอดฝีมือผู้นี้มีความแข็งแกร่งในระดับของเทพ ทันทีที่เธอมาถึง ทั้งหานซั่วและสตรัทโฮล์มก็ดูเหมือนจะถูกห่อหุ้มด้วยพลังงานเฉื่อยบางอย่าง แม้แต่จะกระดิกนิ้วของพวกเขาก็ทำได้ที่ยากเย็นเต็มที

นี่เองคือ เขตแดนแห่งเทพ…

ความตระหนกตกใจอย่างที่สุดปรากฏขึ้นในดวงตาของทั้งหานซั่วและสตรัทโฮล์ม เมื่อพลังบางอย่างทำให้พวกเขาเกิดความปราถนาที่จะคุกเข่าลงและยอมเทิดทูนบูชาจากหัวใจ ความรู้สึกนั้นทำให้ร่างกายแทบขยับไม่ได้เลยตั้งแต่หัวจรดเท้า มีเพียงพลังของเทพเท่านั้นที่สามารถทำเช่นนี้ได้ดังที่ตำนานเล่าไว้ ว่ามันคือพลังที่สามารถทำให้มนุษย์ต้องยอมสยบ และมิอาจเข้าใกล้เมื่อได้เผชิญหน้ากับตัวตนเหล่านี้

“ท่านนักบุญ!”

ผู้ที่มีพลังครึ่งเทพทั้ง 2 แห่งศาสนจักรแห่งแสงสว่างต่างคุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรียง พร้อมด้วยสีหน้าท่าทางที่แสดงความเคารพเทิดทูนจากเบื้องลึกของหัวใจ

“ท่านนักบุญ!”

แม้แต่ทิอาน่าเองก็ยังแสดงความเคารพด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

อย่างไรก็ตาม หานซั่วและสตรัทโฮล์มกลับไม่สามารถมองเห็นผู้ที่เพิ่งมาถึงได้อย่างชัดเจนนัก และออร่าศักดิ์สิทธิ์ที่อบอวลอยู่ไปทั่วทุกหนแห่งนั้นช่างน่าอัศจรรย์ใจเหลือเกิน ราวกับว่ามีท่วงทำนองอันไพเราะของบทเพลงสวดสรรเสริญเทพแห่งแสงสว่างผสมผสานเข้ากับออร่าศักดิ์สิทธิ์ซึ่งก้องกังวานอยู่ในส่วนลึกของจิตวิญญาณของพวกเขา

เสียงนั้นเต็มไปด้วยพลังลึกลับซึ่งสามารถโน้มน้าวทั้งอคติและอารมณ์ของผู้คนขณะที่ท่วงทำนองกำลังบรรเลง ทั้งมือและเท้าของหานซั่วค่อย ๆ สูญเสียเรี่ยวแรงไปทีละนิด ราวกับว่าตัวเขาเองปราถนาที่จะทิ้งตัวเข้าสู่อ้อมกอดของเทพแห่งแสง และรับใช้พระองค์ด้วยความจงรักภักดีอย่างที่สุดนับแต่นี้และตลอดไป

ท่าจะไม่ดีแล้วสิ! จิตใจของเขาสั่นไหวจนได้สติขึ้นมา

ในตอนนี้ หานซั่วมั่นใจแล้วว่าพลังศักดิ์สิทธิ์ที่เขาสัมผัสได้จากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ก่อนหน้านี้ มีต้นกำเนิดมาจากนักบุญแห่งศาสนจักรแห่งแสงสว่างผู้นี้นี่เอง และเป็นเพียงเพราะระยะทางการแผ่กระจายพลังศักดิ์สิทธิ์ของนักบุญนั้นกว้างไกลจนครอบคลุมนครซานโดรได้ทั้งเมือง จึงไม่ได้ทำให้หานซั่วรู้สึกไม่สบายตัวนักเมื่อคราวก่อน

บางที ออร่าศักดิ์สิทธิ์นั้นอาจจะปลดปล่อยออกมาโดยธรรมชาติ และไม่ได้มุ่งเป้าไปที่หานซั่วและสตรัทโฮล์มเพียงอย่างเดียว แต่เนื่องจากผู้ที่ทรงพลังทัดเทียมเทพผู้นี้อยู่ใกล้กับพวกเขาเป็นอย่างมาก จึงเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งที่จะต่อต้าน ในขณะที่พวกเขาค่อย ๆ มีความปราถนาที่จะยอมจำนนทั้งจิตใจและวิญญาณมากขึ้นเรื่อย ๆ

[ Please note : หากท่านไม่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้จากบล็อก https://gdk-th.blogspot.com/ แปลว่าท่านกำลังจ่ายเงินให้กับคนที่กำลังสุขสบายกับการหาเงินง่าย ๆ ด้วยการใช้นิ้วคลิกก๊อบผลงานแปลของเพจไปขายอีกต่อหนึ่ง ]

ตลอดระยะเวลาหลายปีในการฝึกฝนเวทย์ปีศาจและหล่อหลอมพลังความตั้งใจของเขา ทำให้หานซั่วมีความหัวแข็งและดื้อรั้นในระดับที่ไม่มีใครเหมือน เขาฝังจิตของตนเองไว้ในจุดเดียวกับคมมีดพิชิตมาร ซึ่งยังคงจำศีลอยู่ในร่าง และกระตุ้นจิตของตัวเองโดยการใช้ความโหดเหี้ยมอำมหิต และความปราถนาที่จะทำลายล้างซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่คมมีดพิชิตมารปลดปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่นนั้นแล้ว จิตของเขาจึงทั้งสติรู้ตัวอย่างสงบนิ่งอยู่ตลอดเวลา และไม่จมจ่อมลงภายใต้เขตแดนแห่งเทพ

ชิ้ง….!!!

ปีศาจเฒ่าสตรัทโฮล์มชักดาบออกจากฝัก ออร่าต่อสู้อันไร้ซึ่งรูปร่างแผ่กระจายออกมาจากดาบส่งเสียงดังน่าประหลาด ขณะที่เขาพยายามต่อต้านอิทธิพลอันแสนหนักอึ้งของพลังศักดิ์สิทธิ์นั้น

สตรัทโฮล์มมีสีหน้าเคร่งขรึมอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน คิ้วของเขาขมวดแน่นเข้าด้วยกัน ลมหายใจของเขาเริ่มผิดปกติ ขณะกำลังใช้พลังทั้งหมดที่มีเพื่อต่อต้าน

หึ่ง… หึ่ง…

ทันใดนั้นเอง เสียงหึ่งดังกึกก้องซึ่งมาจากราชาหกเขาแห่งเผ่าวิญญาณ ก็ราวกับว่าจู่ ๆ ได้ปกคลุมไปทั่วภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ออร่าเย็นเยียบไร้ซึ่งมนุษยธรรมนั้นราวกับทำให้มีใบมีดน้ำแข็งทิ่มแทงอยู่ทั่วทุกหัวระแหง

จากเดิมที่เสียงนั้นเคยเสียดแทงโสตประสาทอย่างที่สุด กลับกลายเป็นความปลาบปลื้มจนยากเกินบรรยายสำหรับหานซั่วและสตรัทโฮล์ม และเป็นเพราะเสียงประหลาดที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันได้ส่งผลให้พลังศักดิ์สิทธิ์ที่แผ่ออกมาจากนักบุญ ราวกับว่าทำให้มันแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ด้วยการฟาดฟันของดาบคม และอันตรธานหายไปสิ้น

“ช่างเป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวจริง ๆ!”

ปีศาจเฒ่าสตรัทโฮล์มร้องขึ้นด้วยความประหลาดใจ ซึ่งแฝงไปด้วยความหวาดกลัวอยู่ลึก ๆ หลังจากถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

ตอนนั้นเอง เสียงนุ่มนวลอ่อนหวานเสียงหนึ่งก็ออกคำสั่งจากด้านนอกของถ้ำที่ถูกขวางกั้นด้วยชั้นหนาของน้ำแข็ง

“สกัดกั้นผู้ที่มาโจมตีก่อน ส่วน 2 คนนี้เราจะจัดการกับพวกเขา หลังจากที่เผ่าวิญญาณจากไปแล้ว!”

“ครับ/ค่ะ ท่านนักบุญ!”

ยอดฝีมือระดับครึ่งเทพทั้ง 3 คน รวมทั้งทิอาน่าตอบอย่างพร้อมเพรียง

ฟิ้ว…!!!

ราชาหกเขาแห่งเผ่าวิญญาณ ซึ่งมีผิวหนังสีเขียวและมีหางราวกับงูเหลือมมาถึงปากถ้ำเป็นตนแรก ก่อนที่พวกห้าเขาทั้ง 4 ตนจะปรากฏตัวขึ้นตามมาที่ด้านหลังราชาของพวกมัน

แล้วเผ่าวิญญาณทั้ง 5 ตนก็พุ่งเข้าโจมตีกลุ่มคนที่ขวางปากทางเข้าถ้ำอยู่โดยไม่พูดพร่ำทำเพลง

เงาร่างของผู้ที่สวมชุดสีขาวราวหิมะปรากฏให้เห็นในทันที เมื่อนักบุญหญิงซึ่งสวมใส่อยู่ในชุดนักบวชขาวหันไปพุ่งเป้าเพื่อขับไล่ราชาหกเขาแห่งเผ่าวิญญาณ ในที่สุด หานซั่วและสตรัทโฮล์มก็ได้เห็นนักบุญ ผู้ที่ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ยินแต่เสียงเท่านั้น

เธอเป็นหญิงสาวเยาว์วัยผู้งดงาม และมีรอยยิ้มแสนอ่อนหวานอยู่บนใบหน้า จากรูปลักษณ์ของเธอ แสดงถึงคุณสมบัติอันเพียบพร้อมไร้ที่ติ บริสุทธิ์ และศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง ผนวกกับออร่าอันศักดิ์สิทธิ์ที่เธอเปล่งออกมาโดยธรรมชาติ เด็กสาวคนนี้ดูราวกับเป็นตัวแทนความศักดิ์สิทธิ์ของเทพแห่งแสงก็ไม่ปาน

งดงาม ศักดิ์สิทธิ์ และสูงส่ง เป็นนิยามที่หานซั่วมีให้กับเธอ ทำให้เขาหลงลืมความรังเกียจเดียดฉันท์ที่เคยมีต่อศาสนจักรแห่งแสงสว่างไปชั่วขณะ เพียงแค่คิดว่าเด็กสาวคนนี้มีสิ่งอันน่าพึงปรารถนาในทุกอย่างที่หญิงสาวคนหนึ่งจะพึงมี และคำว่า “สมบูรณ์แบบ” เท่านั้นที่จะสามารถอธิบายรูปลักษณ์อันไร้ที่ติของเธอได้

เด็กสาวเหาะลงมาอย่างสง่างาม และมาถึงเบื้องหน้าราชาหกเขา เธอถือจอกศักดิ์สิทธิ์ที่เปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์วับวาบพราวระยับ และมีน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์บรรจุอยู่ในนั้น

เธอควงจอกศักดิ์สิทธิ์ในมือ ก่อให้เกิดพลังมหาศาลราวกับภูเขาทั้งลูกที่กลืนกินราชาหกเขาเข้าไป จากที่สังเกตการณ์ ร่างของราชาหกเขากำลังเซไปมาเพราะพลังของจอกศักดิ์สิทธิ์

เสียงประหลาดอันชั่วร้ายเปล่งออกมาจากปากของราชาหกเขานั้นทรงพลังราวกับเทพมังกรที่ทะยานลงมาจากฟากฟ้า ขณะที่หางอันมหึมาของมันฟาดขึ้นไปที่จอกศักดิ์สิทธิ์ด้วยความเร็วสูง

เปรี้ยง !!

เสียงสนั่นหวั่นไหวลั่นดังไปทั่วภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งลูก ก่อนจะปรากฏแรงสั่นสะเทือนที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าพุ่งออกมาเป็นระลอก แม้ว่าจะโดนแรงระเบิดอย่างหนัก แต่กลับมีเพียงก้อนหินขนาดเท่ากำปั้นที่พังทลายลงและร่วงหล่นลงมาจากหน้าผาที่ยื่นออกมาจากภูเขาเท่านั้น

[ Please note : หากท่านไม่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้จากบล็อก https://gdk-th.blogspot.com/ แปลว่าท่านกำลังจ่ายเงินให้กับคนที่กำลังสุขสบายกับการหาเงินง่าย ๆ ด้วยการใช้นิ้วคลิกก๊อบผลงานแปลของเพจไปขายอีกต่อหนึ่ง ]

ภูเขาศักดิ์สิทธิ์สั่นสะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหว โดยมีภูเขาที่มีความสูงกว่า 9,000 เมตรนั้นเองเป็นศูนย์กลาง ในขณะที่หานซั่วและสตรัทโฮล์มซึ่งถูกขังไว้ในถ้ำ ก็ถูกเหวี่ยงไปมาด้วยแรงสั่นสะเทือน

ระหว่างนั้น หัวหน้าเผ่าวิญญาณทั้ง 4 ตนที่ตามมาสมทบกับราชาหกเขาของพวกมัน ก็เพ่งดวงตาสีเขียวไร้ปราณีไปที่ทิอาน่าและยอดฝีมือครึ่งเทพอีก 2 คน พวกมันเริ่มโจมตีคนทั้ง 3 ทันทีที่ราชาหกเขาเริ่มเคลื่อนไหว เขาของพวกมันส่องแสงสีเขียวขึ้นอีกครั้ง หานซั่วซึ่งเคยลิ้มรสความน่ากลัวของมันมาแล้ว ก็ตระหนักได้ในทันทีว่านั่นคือท่าการโจมตีวิญญาณอีกครั้งหนึ่ง

“พวกเราต้องหาทางออกไปจากที่นี่ ถ้ารีบไม่ไปตอนนี้ล่ะก็ เราจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว!”

สตรัทโฮล์มรีบพูดกับหานซั่ว ขณะที่สายตาของเขาจับจ้องไปที่การต่อสู้ที่เขย่าโลกให้สั่นสะเทือนอยู่เบื้องหลังน้ำแข็งหนา

หานซั่วจะไม่รู้ถึงวิกฤติของสถานการณ์นี้ได้อย่างไร? ถ้ำแห่งนี้ถูกป้องกันด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์จากนักบุญผู้นั้น แม้แต่ในผนังหินทั่วทุกด้านก็เต็มไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมีทั้งเขตแดนน้ำแข็งของทิอาน่าและพลังศักดิ์สิทธิ์ของนักบุญรวมกัน แม้แต่หานซั่วเองก็เริ่มจนตรอก

ไม่มีทางเลือกอื่นเลยจริง ๆ คงต้องใช้เจ้าผีดิบธาตุโลหะชั้นยอดแล้วล่ะ! หลังจากที่ตัดสินใจได้ หานซั่วก็อัญเชิญผีดิบธาตุโลหะชั้นยอดออกมา เจ้าผีดิบธาตุโลหะปรากฏตัวจากโลกมิติมืด และเปล่งประกายแสงสีทองเรืองรองตั้งแต่หัวจรดเท้า ด้วยคำสั่งของหานซั่ว มันก็เริ่มใช้พลังพิเศษในการควบคุมโลหะและหินเพื่อขุดเปิดทางออกอย่างรวดเร็ว

ตึง !!! ตึง !!!

เสียงดังลั่นข้างใต้เท้า หานซั่วหันไปมองและพบว่าเจ้าผีดิบธาตุโลหะชั้นยอดทำท่ายักไหล่อย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับส่งกระแสจิตออกมา

“หินในนี้ผสมกับสิ่งแปลกปลอมบางอย่าง คุณสมบัติของมันก็เลยเปลี่ยนไป ข้าขุดเปิดทางออกไปไม่ได้เลย!”

“เพราะยัยบ้าทิอาน่านั่นแน่ ๆ!”

หานซั่วสบทถสาปแช่งด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว

ราวกับไม่ว่าเมื่อใด เขาก็ไม่มีทางแสดงไพ่ตายออกมาได้เลย คราวก่อนที่พวกเขาหนีรอดจากราชาแห่งเผ่าวิญญาณ ทิอาน่าก็คงเห็นแล้วว่าหานซั่วใช้ประโยชน์จากเจ้าผีดิบธาตุดินเพื่อช่วยขุดเปิดทางหนีให้ ในครั้งนี้ ทิอาน่าคงบอกเรื่องนี้กับศาสนจักรแห่งแสงสว่างถึงพลังอันน่ามหัศจรรย์ของหานซั่ว จึงทำให้นักบุญใส่พลังศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในก้อนหินด้วย

เมื่อหนทางหนีถูกปิดกั้น พวกเขาก็คงไม่เปิดโอกาสให้ทั้ง 2 หนีไปด้วยม้วนคาถาห้วงมิติอย่างแน่นอน ภายใต้เขตแดนแห่งเทพ แม้แต่จอมขมังเวทย์ห้วงมิติศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถหนีออกไปโดยใช้กฏแห่งห้วงมิติได้ นับประสาอะไรกับหานซั่วและสตรัทโฮล์มที่มีแค่ม้วนคาถาห้วงมิติอยู่กับตัวบ้างเท่านั้น

“เจ้าทำได้รึเปล่าน่ะ?”

เมื่อสตรัทโฮล์มเห็นว่าผีดิบของหานซั่วไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ และได้ยินหานซั่วสบถสาปแช่งทิอาน่า สตรัทโฮล์มก็เข้าใจสถานการณ์ในทันที หัวใจของเขาจมดิ่งลงสู่ความสิ้นหวัง

หานซั่วส่ายหน้าและตอบอย่างขมขื่น

“ทิอาน่าหักหลังพวกเรา แม้แต่ไพ่ตายของข้ายังถูกขัดขวางทุกทางเลย!”

ขณะที่เขาพูด ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายไปด้วยความ เขาคิดที่จะใช้วิชา “สลายโลหิตปีศาจ” เพื่อหนีเอาตัวรอด แต่การทำเช่นนั้นจะทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสมาก แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นทางเดียวที่เขาเหลืออยู่ตอนนี้

“ท่านพ่อ ท่านต้องการจะเปิดทางออกไปจากถ้ำนี้ใช่มั้ย?”

เจ้าผีดิบธาตุโลหะส่งกระแสจิตสื่อสารมาทันที

“ใช่ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะไม่มีหวังซะแล้วล่ะ!”

หานซั่วตอบโดยไม่คิด ขณะกำลังใคร่ครวญอยู่ว่าเขาจะใช้เวทย์ปีศาจเพื่อหนีออกไปได้อย่างไร

เมี่อหานซั่วพูดจบ เจ้าผีดิบธาตุโลหะชั้นยอดก็หยิบกระบองสีทอง — ขุมพลังธาตุโลหะที่ได้มาจากแดนโลหะสัมบูรณ์ออกมา ขณะที่หานซั่วไม่ทันได้สนใจ ขุมพลังล้ำค่านั้นก็ค่อย ๆ ยืดยาวออกอย่างน่าเหลือเชื่อ จนกลายเป็นเสาขนาดมหึมาที่เปล่งประกายด้วยแสงสีทองอร่าม!

*****************************

Great Demon King – กำเนิดราชันย์ปีศาจ

Great Demon King – กำเนิดราชันย์ปีศาจ

Status: Ongoing

“ถ้าเรายังไม่ตาย… ขอสาบานว่าจะทำเรื่องชั่วร้ายทุกอย่างที่เรานึกออก…”

นี่ไม่ใช่ความคิดวูบสุดท้ายของคนทั่วไปที่มักจะผุดขึ้นมาก่อนตาย ชายหนุ่มผู้ขี้ขลาดตาขาวจะทำอย่างไร หากเขาได้จุติใหม่อีกครั้งพร้อมกับพลังปีศาจที่สามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเขาเองไปตลอดกาล ความดีในตัวเขาจะมีชัยเหนือความชั่วร้ายนั้นหรือไม่? เขาจะกลายเป็นราชันย์ปีศาจผู้เลือดเย็นในตำนาน หรือจะเลือกทางเดินของตัวเองพร้อมซัดสาดความน่าสะพรึงกลัวใส่ทุกอย่างที่ขวางหน้า !?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท