Gate of God – ตอนที่ 489-490

ตอนที่ 489-490

ตอนที่ 489 คำถาม

ร่างทั้งสองร่างยืนอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์
หลังจากกินและดื่มเรียบร้อยฟาง เจิ้งจือ ก็เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่สวมสบายๆ สิ่งที่เขายังไม่ได้ทำตอนนี้คือหลับพักผ่อน
อย่างไรก็ตาม…
เขายังคงเลือกที่จะนั่งพักอยู่กับฉือ กูเหยียน
ไม่มีเหตุผลพิเศษอาจจะเป็นเพราะเขาอยากขอบคุณนางที่ช่วยเขามาตลอด
ตอนนี้ไม่มีอันตรายใดๆแล้วอาจจะมีแค่เพียงเสียงของสัตว์ร้ายที่ดังขึ้นมาบ้างขณะที่พวกเรากำลังกินขนมกันอยู่ พวกเขาสามารถเพลิดเพลินได้ทั้งๆที่มีกองทัพปีศาจล้อมรอบอยู่
มันเป็นค่ำคืนที่ดวงจันทร์สวยเป็นอย่างมาก
เขานอนเอนกายลงบนเก้าอี้และพาดขาไว้บนโต๊ะมือหนึ่งของเขาถือถั่วอยู่เต็มกำมือ
”เจ้ามีแผนอะไรหลังจากกลับไปเมืองหลวง?”ฉือ กูเหยียน แปลกใจที่เห็น ฟาง เจิ้งจือ ผ่อนคลายมาก
”ข้าคงไปที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือก่อน”ฟาง เจิ้งจือ หันไปมอง ฉือ กูเหยียน
ตอนนี้นางสวมชุดกระโปรงสีน้ำเงินพร้อมกับลายดอกไม้ปักอยู่ที่หน้าอกของนาง
ฟางเจิ้งจือ ต้องยอมรับว่านางมีเสน่ห์มาก
เสียที่นางหยิ่งยโสเกินไปหน่อย
”แล้วไงต่อ?”ฉือ กูเหยียน ยังคงกดดัน ฟาง เจิ้งจือ
”ข้าคงจะสร้างบ้านหลังใหญ่ๆ”
”และ?”
”แต่งงาน… เอ่อหาคนใช้สักร้อยคน”
”ร้อย?!”
”ใช่”
”ร้อยพองั้นรึ?”
”ฮ่าฮ่า…แค่นี้ข้าก็ต้องจ่ายค่าจ้างพวกเขามากเกินไปแล้ว”
”อืมมันเป็นเรื่องจริง”ฉือ กูเหยียน พยักหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม
ฟางเจิ้งจือ เองก็เงียบ เขายังกินถั่วต่อไป แต่เขาพบว่ามันไม่อร่อยเหมือนเดิมแล้ว
คืนนี้อากาศหนาวเย็นมาก
มันเกือบจะถึงฤดูหนาวแล้ว
หลังจากนั้นสักครู่…
ฉือกูเหยียน ก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง
”เมื่อเจ้ากลับไปข้าคิดว่าองค์จักรพรรดิคงมอบตำแหน่งรัฐมนตรีกรมพิธีการให้เจ้า เจ้าคิดยังไงกับเรื่องนี้?”
”งั้นข้าก็คงรับละมั้ง”ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับ
”การคัดเลือกผู้เข้าร่วมศาลาเต๋าสวรรจะเริ่มในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าเจ้าจะเข้าร่วมไหม?” เสียงของนางนั้นสงบ แต่สายตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้พูดอะไร
เขารู้ว่าทำไมนางถึงถามและเขาก็ได้สัญญาเอาไว้แล้ว
ปัญหาเดียวคือ…
เขาจะสามารถทำได้หรือไม่?
มันดูเหมือนจะเร็วเกินไป…
ค่ำคืนนี้ช่างเงียบสงบยิ่งนัก
ฟางเจิ้งจือ แหงนหน้าขึ้นและหลับตาลง
ฉือกูเหยียน ไม่ได้กดดันต่อ นางนั่งเงียบๆและมองดวงดาวบนท้องฟ้า
มันเป็นคืนที่เงียบสงบจริงๆ…
ห่างออกไปยังมีร่างหนึ่งยืนเงียบๆ…
นางสวมชุดหนังสีดำตัดกับผิวที่เปล่งประกายของนาง
นางยืนมองร่างทั้งสองที่นั่งอยู่ด้วยกันภายใต้แสงดวงจันทร์
”ฝ่าบาทองค์รัชทายาทและหัวหน้าถิ่นฐานกำลังรอท่านอยู่” ใครบางคนกระซิบข้างๆนางอย่างเคารพ
”ข้าเข้าใจแล้วมีการเคลื่อนไหวจากปีศาจหรือไม่?”
”ยังไม่ขอรับ”
”อืมถ่ายทอดคำสั่งของข้า หน่วยหมาปาเขาเงินจะช่วยป้องกันเนินเขาเหล็กด้วย จะต้องไม่มีจุดไหนที่ปีศาจเล็ดรอดเข้ามาได้! ใครที่ไม่เชื่อฟังให้ลงโทษซะ!”
”รับทราบ!”เสียงตอบกลับดังขึ้น ก่อนที่เขาจะหายไป
นางยังคงมองร่างทั้งสองอยู่อีกสักพักหนึ่งดวงตาของนางเผยความรู้สึกบางอย่างออกมา ก่อนที่นางจะจากไป

ยามรุ่งสางฉือ กูเหยียน ได้จากไปพร้อมกับ ปิง หยาง
กองทัพปีศาจยังคงตั้งทัพอยู่ที่ด้านนอกของเนินเขาเหล็กพวกเขายังคงฝึกซ้อมรบ แต่ไม่มีที่ท่าว่าจะโจมตี
ตอนนี้ฟาง เจิ้งจือ ว่างมาก เขาจึงเดินไปนั่งที่กำแพงเนินเขาเหล็ก
มักจะมีร่างหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าของกระโจมปีศาจเสมอนางสวมชุดสีดำ
สามวันต่อมากองทัพปีศาจก็ได้ถอนทัพไป
สงครามแดนใต้ได้จบลงแล้ว
ในฐานะผู้บัญชาการซิง หยวนกัว ได้ตรงกับไปที่เมืองหลวงทันที ซิง ฉิงซุย และหน่วยเกราะมังกรและกองทัพทลายภูผา รวมถึงทหารทั้งหมดก็เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม…
องค์รัชทาทหลิน เทียนหลง ยังไม่ได้กลับไปทันที
ผู้เข้าสอบทุกคนก็เช่นกันพวกเขายังคงรองานเลี้ยงฉลองอยู่ที่แดนใต้
ในฐานะที่พวกเขามีส่วนร่วมในชัยชนะครั้งยิ่งใหญ๋…
ฟางเจิ้งจือ เองก็อยู่ที่นี่เช่นกัน เขาตามเหล่าทหารของดินแดนภูเขาทางใต้กลับไปที่เมืองภูเขาเซียนเพื่อร่วมฉลอง
ในเวลาเดียวกันที่เมืองหลวงของอาณาจักรเซี่ยก็มีการเฉลิมฉลองเช่นกกัน
ข่าวสงครามได้เดินทางมาถึงเมืองหลวงแล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแดนใต้ทำให้ทุกคนแทบบ้าคลั่ง
”เจ้าได้ยินไหม?ฟาง เจิ้งจือ ต่อสู้กับเซียน!”
”แน่นอนข้าต้องได้ยินอยู่แล้ว ข้ามั่นใจว่าเขาต้องได้รับการตบรางวัลอย่างงาม!”
“มันน่าเสียดาย ที่นี่เป็นจุดจบของเส้นทางผู้ฝึกตนของเขา”
”แล้วยังไง?การมีส่วนร่วมในการต่อสู้นั่นหมายความว่าเขาจะได้รับวางวัลเป็นอย่างมาก! ต่อให้เขาไม่ใช้ผู้ฝึกตนแล้ว เขาก็ยังถือเป็นคนสำคัญของอาณาจักรอยู่ดี! สิ่งที่เขาทำนั้นมีคุณค่าเป็นอย่างมาก!”
แน่นอนว่าทุกคนย่อมต้องพูดถึงฟาง เจิ้งจือ …

ในห้องบัลลังก์…
เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝั่งรวมถึงองค์จักรพรรดิที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ ตอนนี้พวกเขากำลังยินดีเป็นอย่างมาก
มันเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก
อย่างไรก็ตาม…
มันเป็นไปในทางที่ดีกว่าที่เขาคิดมากแม้ว่าพวกเขาจะพบกับความสูญเสียไปบ้าง แต่ผลตอบแทนที่ได้รับนั้นกลับคุ้มค่าเป็นอย่างมาก องค์จักรพรรดิทรงยินดีเป็นอย่างมาก
”ฝ่าบาทองค์รัชทายาทเป็นกุญแจสำคัญของชัยชนะในครั้งนี้ ตอนนี้เขาได้เจรจากับแดนใต้อยู่ ในความเห็นของข้า… ”
”คาดว่าซิง เฮ่า จะเดินทางมาถึงเมื่อไร?” องค์จักรพรรดิถามขึ้นมา พร้อมกับโบกมือให้เจ้าหน้าที่คนนั้นหยุดพูด
”ฝ่าบาทมีรายงานว่าเขาได้เดินทางออกมาจากดินแดนภูเขาทางใต้แล้ว เขาน่าจะมาถึงอีกห้าวันข้างหน้า” เจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งก้าวขึ้นมาข้างหน้า ก่อนจะยิ้มเยาะเจ้าหน้าที่คนก่อนหน้า
องค์รัชทายาท?
แน่นอนว่าเขาต้องมีส่วนร่วมในสงครามแดนใต้ในฐานหัวหน้าผู้คุมสอบ เขาก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของชัยชนะ
แต่เมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ… การมีส่วนร่วมของเขานั้นเล็กน้อยมาก
”ตกลงคำสั่งของข้ามีดังนี้ บอก ซิง หยวนกัว ว่าไม่ต้องรีบ ให้เขาดูแลตัวเองด้วย ทุกเมืองจะจัดการต้อนรับเขา แล้วอย่าลืมให้รางวัลกับกองทัพด้วย” องค์จักรพรรดิพยักหน้า
”รับทราบฝ่าบาท!”
”ใช่แล้วฟาง เจิ้งจือ ยังอยู่ที่แดนใต้ใช่ไหม?” องค์จักรพรรดิเหมือนจะนึกเรื่องบางอย่างได้
”ฝ่าบาทฟาง เจิ้งจือ กำลังเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองของดินแดนภูเขาทางใต้อยู่ เขาหน้าจะอยู่ที่นั่นอีกหนึ่งอาทิตย์ เขาน่าจะกลับมาพร้อมกับองค์รัชทายาท..” เจ้าหน้าที่ตอบ
เจ้าหน้าที่คนอื่นๆต่างมองหน้ากันพวกเขารู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น…
พูดถึงฟาง เจิ้งจือ หลังจาก ซิง หยวนกัว…
นั่นหมายความว่าคุณค่าของเขาตอนนี้มากกว่าเจ้าหน้าที่ระดับสี่แล้ว
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้คัดค้านอะไร
อายุสิบหกปี…
เขาเป็นชายรุ่นเยาว์ที่น่าเชื่อถือที่สุดในตอนนี้แล้วและเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สงครามครั้งนี้ชนะ
การต่อสู้กับคังหยางในกลืนกินโลก
เรื่องนี้จะทำให้เขาโด่งดังไปทั่วอาณาจักร…
แม้เขาอาจจะไม่ถูกเรียกว่าอัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์หรืออะไรก็ตามอีกต่อไป…มันก็ไม่สำคัญแล้ว
”ตกลงนี่คือคำสั่งของข้า ฟาง เจิ้งจือ จะถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยของรัฐมนตรีกรมพิธีการ เขาจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสามชั่วคราว รวมถึงเป็นตัวแทนของรัฐมนตรีกรมพิธีการและช่วยเรื่องการเจรจากับดินแดนภูเขาทางใต้” องค์จักรพรรดิออกคำสั่ง
”รับทราบฝ่าบาท!” เจ้าหน้าที่ทั้งหมดตอบทันที
ไม่มีใครกล้ายกความจริงเรื่องที่พลังของฟาง เจิ้งจือ ถูกทำลายไปจนหมดแล้วมาพูด แม้แต่รัฐมนตรีฝ่ายซ้ายยู่ ยี่ปิง ยังทำได้แค่หลับตา และพยายามรักษาความสงบเอาไว้
พวกเขาทั้งหมดได้ยินคำว่า”ชั่วคราว”
เจ้าหน้าที่ระดับสาม?ชั่วคราว?
เขาได้รับการเลื่อนขั้นทันทีทั้งๆที่ยังไม่ได้กลับมาที่เมืองหลวงแล้วรางวัลที่เขาจะได้รับหลังจากกลับมาที่เมืองหลวงละ? ไม่มีใครคาดเดาได้แม้แต่น้อย
เพจหลัก: Gate of god TH
ตอนที่ 490 ความไว้วางใจระหว่างผู้คนอยู่ที่ไหน
ขณะที่ผู้เข้าสอบกำลังคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่นั้นองค์หญิง ฉาน ยู่ ก็ลุกขึ้นและมองไปที่ผู้เข้าสอบทุกคน จากนั้นก็มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ
นางเดินไปที่กองไฟ
มีดสั้นทั้งสองเล่มอยู่ในมือของนาง
จากนั้น…
ผู้เข้าร่วมทั้งหมดต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น
องค์หญิงฉาน ยู่ เริ่มฆ่าแกะ… การเคลื่อนไหวของนางคล่องแคล่วราวกับทำสิ่งนั้นมาทั้งชีวิต
เนื้อแกะถูกจัดเตรียมในเวลาไม่นาน
องค์หญิงฉาน ยู่ วางเนื้อแกะบนกองไฟและเก็บมีดของนาง
ทุกๆการเคลื่อนไหวช่างพลิ้วไหวและงดงาม
อย่างไรก็ตามผู้เข้าร่วมทั้งหมดยังคงสับสนพวกเขาคิดไม่ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้น
”พวกเรามีประเพณีของดินแดนภูเขาทางใต้เป็นของตัวเองนักรบที่กลับจากการศึกจะได้เพลิดเพลินไปกับอาหารชั้นเลิศแลพพวกเขาสามารถสามารถสร้างสัมพันธ์หญิงสาวได้หากพวกนางยินดี!”ราชาหัวเราะเบาๆ ขณะอธิบาย
ผู้เข้าร่วมต่างหันมองหน้ากันเมื่อได้ยินเช่นนั้น
พวกเขาเกือบจะเข้าใจในทันที
มันง่ายมาก!
นี่เป็นประเพณีที่ยอดเยี่ยมของดินแดนภูเขาทางใต้
นักรบต่างเพลิดเพลินไปกับทุกสิ่งถูกจัดเตรียมไว้ให้เหล่าหญิงสาวมีสิทธิที่จะยินยอมหรือปฏิเสธพวกเขา
มีอิสระในการเลือก
มันง่ายมาก
ไม่มีใครถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่พวกเขาไม่เต็มใจในเวลาเดียวกันพวกเขาก็สามารถเผยแผ่เรื่องวัฒนธรรมการกินได้ด้วย
เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักรบหญิงสาวในดินแดนภูเขาทางใต้เรียนรู้การทำอาหารตั้งแต่ยังเด็ก นั่นคือวิธีการสนับสนุนครอบครัว
เมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้…
ฟางเจิ้งจือ อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ประเพณีอันยิ่งใหญ่!”่

เนื้อแกะวางอยู่บนกองไฟและคนรับใช้สองสามคนยืมรายล้อมเขา ตอนนั้นเอง องค์หญิง ฉาน ยู่ ก็เคลื่อนไหว
ลวดลายเมฆสีแดงปรากฏบนขึ้นร่างกายของนาง
นางกางแขนออกแววตาของนางเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ราวกับมีลูกบอลเพลิงกับมอดไหม้อยู่ในแววตาคู่นั้น
ผู้เข้าร่วมทั้งหมดต่างส่งเสียงร้องและให้กำลังใจ
”สุดยอดที่สุดฝ่าบาท!่
”งดงามอะไรเช่นนี้!ข้าไม่เคยเห็นสีแดงที่ส่องสว่างเช่นนี้มาก่อนในรอบ 20 ปี!”
”ข้าเห็นด้วยนางราวกับเป็นดวงอาทิตย์ แววตาของนางช่างงดงาม … ”
ผู้เข้าร่วมทุกคนต่างชื่นชมสรรเสริญและพยายามหาคำพูดเพื่อแสดงความรู้สึก
ฟางเจิ้งจือ มองดูเหล่าผู้เข้าสอบอย่างเอือมระอา
งดงาม?
ดวงอาทิตย์?
นั่นใช่แล้วงั้นเหรอ?
ครั้งแรกที่เขาเห็นองค์หญิงฉาน ยู่ เขาเข้าใจผิดนึกว่าเป็นผีด้วยซ้ำ
เขาต้องยอมรับว่านางมีกลิ่นอายของสัตว์ร้ายที่มีสเน่ห์
แต่ก็สงสัยอยู่อย่างหนึ่ง…
ลวดลายเมฆนั้นคืออะไรกัน?
ไม่มีใครสนใจคำถามของฟาง เจิ้งจือ ไม่มีใครคิดจะตอบ พวกเขาทุกคนต่างจดจ้องอยู่กับสิ่งที่องค์หญิง ฉาน ยู่ กำลังทำ
องค์หญิงฉาน ยู่ กำลังเต้นรำ
ขาเรียวยาวของนางพร้อมทั้งแขนสองข้าง ประกายไฟที่งดงามกำลังเริงระบำ ในขณะที่นางหมุนตัวประกายไฟก็ร่วงโรยลงสู่เนื้อแกะ
หลังจากเต้นรำไปสักพักนางก็หยิบเครื่องเทศออกมาสามชนิด
โปรยลงสู่เนื้อแกะ…
องค์หญิงฉาน ยู่ เต้นรำอยู่รอบกองไฟ พร้อมทั้งปรุงรสชาติของเนื้อแกะ กลิ่นหอมหวลลอยโชยเข้าจมูกของทุกๆคน
”เจ้าย่างเนื้อด้วยวิธีนี้หรือ?””ฟางเจิ้งจือ ตกใจเล็กน้อย เขาเคยได้ยินมาว่าสามารถย่างเนื้อโดยการใช้สมุนไพรทุกชนิดได้
อย่างไรก็ตามมันเป็นวิธีที่ยากมาก
เป็นเพราะว่า…
อัตราส่วนต้องเหมาะสมหากใช้เครื่องเทศมากเกินไป จะทำให้กลิ่นของเนื้อถูกกลบไปหมด
หากใช้น้อยเกินไปอาจทำให้รสชาติของอาหารหรือผิวสัมผัสของเนื้อสัตว์ถูกทำลายลงได้
เราทำได้เพียงแต่ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ
แน่นอนว่าองค์หญิงฉาน ยู่ แห่งแดนใต้…
ฟางเจิ้งจือ รู้ดีว่านางเข้าใจในเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย ความจริงแล้ว เมื่อได้กลิ่นที่หอมของเนื้อย่างนั้น …
เขารู้ทันทีว่าพื้นฐานของนางดีกว่าที่เขาคิดเอาไว้!
กลิ่นของสมุนไพรไม่ฉุนมากจนเกินไป!
ความจริงแล้วมันดีเยี่ยมไปเลย
นางทำได้อย่างไร
หรือว่า…
นางใช้กลิ่นของเนื้อกลบกลิ่นสมุนไพรงั้นหรือ?
”มหัศจรรย์!”ฟาง เจิ้งจือ รักในการกินอยู่เสมอ สำหรับเขาแล้วการกินเป็นหนึ่งในความเพลิดเพลินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต
อึก…
ฟางเจิ้งจือ กลืนน้ำลายเต็มคำ
องค์หญิงฉาน ยู่ ได้ยินเข้า แววตาของนางสว่างขึ้นเมื่อนางได้ยินสีหน้าของนางกลายเป็นแดงเล็กน้อย
ผู้เข้าสอบคนอื่นๆถูกสะกดเมื่อได้กลิ่นนั้น
จากนั้นองค์หญิง ฉาน ยู่ ก็หยุดทำ
แกะถูกย่างอยู่บนกองไฟไม่มีรอยไหม้แม้แต่น้อย เนื้อแกะทั้งหมดเป็นสีเหลืองทอง
ผู้เข้าร่วมทุกคนต่างกลืนน้ำลายเต็มปากเต็มคำ
แม้แต่หลิน เทียนหลง ก็ยังถูกกลิ่นล่อลวงไปด้วย…
”ความสามารถขององค์หญิง… แม้แต่ข้า… ” องค์รัชทายาท หลิน เทียนหลง อยากจะพูดว่าเขาต้องการลิ้มรสชาตินั้น แต่เขาก็ต้องอดกลั้นเอาไว้
”ฮ่าฮ่าฮ่าถ้าพูดถึงเนื้อแกะแล้ว ข้าต้องบอกเลยว่าลูกสาวของข้านั้นเป็นสุดยอดฝีมือ”องค์ราชาหัวเราะเบา ๆ
เขารู้ว่าองค์รัชทายาทจะพูดอะไร
ในฐานะที่เป็นองค์รัชทายาทของอาณาจักรเขาไม่สามารถขอชิมได้ องค์ราชาต้องเป็นคนมอบให้
อย่างไรก็ตาม…
องค์ราชาจงใจไม่ให้องค์รัชทายาทได้ลิ้มรสนี่คือประเพณีของดินแดนภูเขาทางใต้!ผู้ที่หญิงสาวเป็นคนเลือกเท่านั้น ที่จะได้ลิ้มรสของมัน
คนอื่น…
จะถือเป็นการดูถูกประเพณีของพวกเขา!
เมื่อเห็นว่าองค์ราชาไม่ได้พูดอะไรอื่นหลิน เทียนหลง ก็กลืนน้ำลายนี้เป็นการบอกให้ผู้เข้าร่วมเริ่มชิมได้
ผู้เข้าร่วมทุกคนต่างรอโอกาส
”ฝ่าบาทให้ข้าได้กัดสักคำได้หรือไม่?”เด็กหนุ่มในชุดสีเขียวยืนขึ้น เขามีท่าทางสุภาพ
”เจ้าเคยให้สัญญากับใครไว้แล้วหรือไม่?”องค์หญิงมองผู้เข้าสอบคนนั้น
”เอ่อ… ข้าเคยให้สัญญา แต่ข้าสามารถอยู่ข้างฝ่าบาท … ” เด็กหนุ่มที่ติดอ่าง
”สวะ!”องค์หญิงฉาน ยู่ ออกคำสั่ง
”เอ่อ… ” เด็กหนุ่มไม่คิดว่าผลจะออกมาเป็นเช่นนี้ …
องค์ราชาบอกว่าพวกเขาสามารอลิ้มรองอาหารได้ถ้าองค์หญิงสนใจในตัวของพวกเขา
แต่สิ่งต่างๆไมได้ออกมาแบบที่พวกเขาคิด
เขาไม่ได้อยากกลับไปที่นั่งเดิม…
อย่างไรก็ตามทหารสวมชุดเกราะหนักจำนวนหนึ่งได้เอาหอกไปจ่อไว้ที่คอของเขา
”ฮ่าฮ่าฮ่า… นางเมตตามากแล้ว… ” ราชาแห่งภาคใต้หัวเราะเบา ๆ
เมื่อผู้เข้าสอบคนอื่นๆได้ยินพวกเขาก็เข้าใจ..
นี่เป็นประเพณีของดินแดนภูเขาทางใต้
อย่างไรก็ตามฉาน ยู๋ เป็นองค์หญิง
นางไม่คิดจะให้ใครมาลองชิมอาหารของนางมั่วๆ
ความตั้งใจของนาง…
นั้นแสดงออกมาชัดเจน
เด็กหนุ่มในชุดสีเขียวเดินกลับมาจุดเดิมด้วยความเศร้าศร้อยอย่างไรก็ตามเขาไม่กล้าพูดอะไร
ทันใดนั้นผู้เข้าสอบอีกคนก้าวเท้าไปด้านหน้า
เขาแต่งตัวด้วยชุดสีดำ
เขาถือกระดาษและปากกา
”ฝ่าบาทข้ามีกลอนสั้นๆแต่งให้ท่าน ท่านอยากลองดูมันหน่อยไหม?” ผู้เข้าสอบเตรียมนำเสนอผลงานของเขา
”สวะ!”เสียงของอค์หญิงดังขึ้นอีกครั้ง
”เอ่อท่านข้ายังไม่ได้…”
”เจ้าน่าเกลียดเกินไป!”
”…” ผู้เขาสอบถอนตัวออกมาด้วยความอับอายพร้มกำหยาดน้ำตา รูปร่างหน้าตาของเขาไม่ใช่ความผิด ทำไมนางไม่คิดจะดูผลงานของเขาหน่อยล่ะ?
หลังจากผู้เข้าสอบสองคนล้มเหลว…
ทุกคนต่างรู้ว่าองค์หญิงนั้นจงใจถ้านาไม่ชอบ นางก็จะไล่คนคนนั้นออกไปเหมือนหมูเหมือนหมาทันที
อย่างไรก็ตามผู้เข้าสอบไม่ได้ยอมแพ้
งั้น…
พวกเขาจะลองเสี่ยงโชค!
”สวะ!”
”ขยะ!”
”…”
”ฝ่าบาทข้าต้องการประลองกับท่าน!”
มีคนหนึ่งกล้าท้าทายนางต่อสู้
สุดท้าย…
เขาพ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว
ริมฝีปากของฟาง เจิ้งจือ กระตุกเล็กน้อยหลังจากเห็นร่างที่จมกองเลือดอยู่ เขาถอนหายใจกับตัวเอง “ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่จะได้มาง่ายๆ!”
”สวะ!”
”สวะ!”
”…”
จากนั้นผู้เข้าสอบจำนวนมากก็เดินคอตกกลับมาบางคนก็คลานกลับมา
พวกเขาไม่สามารถเอาชนะหรือจัดการนางได้!
พวกเขาควรทำอะไร?
บางคนเตี้ยเกินไป… บางคนสูงเกินไป …
บางคนถูกนางไล่กลับมาเพราะดวงตาของเขาเล็กเกินไป…
มันเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถควบคุมได้!
หัวใจของผู้เข้าสอบแทบทุกคนถูกองค์หญิงฉาน ยู่ ทำให้แตกสลาย
นิทานทุกเรื่องโกหกพวกเขา…
ความจริงใจไม่ใช่ว่าจะเอาชนะใจใครได้
ชีวิตจริงไม่ได้สวยหรูเหมือนในนิทานเลยแม้แต่น้อย?
”องค์หญิงองค์หญิงของข้า!”
ผู้เข้าสอบทุกคนต่างกรีดร้องในใจ
อย่างไรก็ตามมันก็ไม่มีประโยชน์
เป็นเพราะว่า…
องค์หญิงฉาน ยู่ ไม่มีความตั้งใจที่จะยอมแพ้
ลูกแกะยังคงถูกย่างอยุ่บนไม้ส่งกลิ่นหอมลอยอบอวลออกมา
อย่างไรก็ตามนั่นคือทั้งหมดที่พวกเขาสามารถทำได้
ผู้เข้าสอบทุกคนถูกไล่กลับมา
ยกเว้นคนคนหนึ่ง…
ชายคนนั้นคือฟาง เจิ้งจือ

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท