Gate of God – ตอนที่ 631 โลกใหม่

ตอนที่ 631 โลกใหม่
มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลินมู่ไป่ หน้าซีดขาวเมื่อเขาเห็นฉากตรงหน้า เขาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขารู้ดีว่า คัง เยว่ แข็งแกร่งมากแค่ไหน
ปิงหยาง?
หลินมู่ไป่ มองหานางในทันที นางยืนอยู่ข้างๆ ฟาง เจิ้งจือ ร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก แต่สีหน้าดูซีดขาว
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ทำไมคัง เยว่ ถึงปรากฎตัวออกมา?
คำถามมากมายปรากฎขึ้นในใจของเขาแม้จะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมก็ตาม นั่นเพราะ คัง เยว่ อยู่ตรงหนา เหยียน เฉียนหลี่ แล้ว
ตูม!เสียงระเบิดดังก้อง
ต่อมาแสงสีแดงเลือดส่องสว่างปกคลุมทุกคนในเมฆหมอกมีร่างที่ส่องสว่างอยู่ภายใน
พวกมันกลายเป็นดางดาวที่รวมตัวกันจนเกิดเป็นทางช้างเผือกขนาดเล็กอยู่ตรงกลางเมฆหมอกดวงดาวนับไม่ถ้วน
เหยียนเฉียนหลี่ กระอักเลือดออกมาคำใหญ่
เขาอ่อนแอลงจากการจ่อสู้กับราชาอสูรการโจมตีที่เข้ารับจาก คัง เยว่ มันหนักหนาเกินไป
ร่างของเขากระเด็นไปด้านหลัง
วู่จวี้เอ๋อ เองก็เช่นกัน นางเอามืออกจากเอวทันทีที่เห็นแสงส่องสว่าง
มันคือแสงของสายฟ้า
สายฟ้านับไม่ถ้วนและพายุฝนตกลงมาจากท้องฟ้าผ่าลงที่ด้านหลังของ วู่ จวี้เอ๋อ แสงสีม่วงส่องประกายที่สุดขอบฟ้า
”มังกร!”เสียงดังขึ้น
มันเป็นเสียงที่เยือกเย็นและหนักแน่นเมื่อเสียงนี้ดังขึ้น จิตสังหารก็พวยพุ่งออกมาที่ด้านหลังของ วู่ จวี้เอ๋อ
”ตาย!”เสียดังขึ้นอีกครั้ง
ร่างของวู่ จวี้เอ๋อ แข็งเกร็ง นางรู้ดีว่าใครเป็นเจ้าของเสียงนั้น ความจริงแล้วใครๆก็รู้เช่นกัน
นั่นคือฟาง เจิ้งจือ
ดาบผ่ามังกร!
เวลาผ่านไปเพียงแค่สามสิบนาทีทั้งเสียงที่โห่ร้องและสายฟ้าแบบเดียวกับที่ใช้ฆ่าราชาอสูร ก็ปรากฎขึ้นอีกครั้ง
ศัตรูในครั้งนี้คือหญิงสาวที่มีสัญลักษณ์หลิงหยุนตรงหน้าอก
แสงสีม่วงพุ่งทะยานลงมาจากขอบฟ้าพุ่งตรงไปที่หญิงสาวผู้นั้นความเร็วที่บ้าคลั่งปะทะเข้ากับทางช้างเผือกที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร
ในคราวนี้ไม่มีการระเบิดเกิดขึ้น
ราวกับว่าเสียงนั้นหายไปจากโลกเสียงของฝนที่โหมกระหน่ำและเสียงฟ้าผ่าหายไปในพริบตา
สิ่งที่เหลืออยู่คือแสงสว่างทั้งสองที่กำลังปะทะกันอยู่
แสงสีม่วงเข้มและทางช้างเผือกที่เต็มไปด้วยดวงดาว
แกร้ก!พื้นดินแตกเป็นเสี่ยง หินกรวดชิ้นเล็กชิ้นน้อยถูกบดขยี้ไม่เหลือชิ้นดี สายฝนดูเหมือนจะหยุดอยู่กลางอากาศ
วู่จวี้เอ๋อ ค่อยๆหันมองร่างที่อยู่ด้านหลัง
ปิงหยาง เองก็เช่นกัน
แววตาของเขาไร้อารมณ์อย่างไรก็ตามพวกเขารู้ดีว่าชายคนนี้กำลังคิดอะไร
อาจเรียกได้ว่าความรับผิดชอบ
ฟางเจิ้งจือ กระอักเลือดออกมา ขณะที่พยายามฝ่าเข้าไปยังใจกลางของทางช้างเผือก เลือดของเขาระเหยเป็นไอหมอกในทันที
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ ไม่คิดจะถอย เขาจ้องไปที่ทางช้างเผือกและกัดฟันแน่น แขนของเขาไม่มีการสั่นไหวแม้แต่น้อย เขาจับดาบไว้อย่างมั่นคง
ร่างของคัง เยว่ กระตุกเล็กน้อยก่อนที่เลือดจะไหลออกมาจากริมฝีปาก นางจ้องไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความตกใจ
นี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับฟาง เจิ้งจือ
แต่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางรู้จักเขาเขาสร้างชื่อไปทั่วโลก และนางไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรนักกับเรื่องนี้
ความมหัศจรรย์ในอาณาจักรเซี่ย
ผู้ที่เป็นอันดับหนึ่งทั้งสองด้านในการทดสอบระดับจักรพรรดิรวมถึงเป็นผู้ที่ทำให้อาณาจักรเซี่ยชนะในสงครามแดนใต้ ความสำเร็จเหล่านี้ล้วนไม่สำคัญสำหรับนาง
แต่ตอนนี้…
นางจะต้องจดจำเขา
ฟางเจิ้งจิอ ที่อายุไม่เกิน 18 ปี สามารถทำให้นางบาดเจ็บระหว่างต่อสู้ได้ รวมถึงอาการบาดเจ็บภายใน
แม้ความจริงอาการบาดเจ็บเหล่านี้ไม่ได้มีความหมายอะไรกับนางเลย
มันเป็นเพียงแค่ความอัปยศฟาง เจิ้งจือ ต้องถูกกำจัดไปจากโลกใบนี้
นางจะออมพลังเอาไว้ทำไม?
”ตาย!”คัง เยว่ สร้างดาวจำนวนมากล้อมร่างกายอีกครั้ง ราวกับทางช้างเผือกขนาดย่อมๆ
ก่อนที่พวกมันทั้งหมดจะพุ่งเข้าหาฟาง เจิ้งจือ ด้วยความเร็วอันสูงสุด
”ไม่!”ปิง หยาง ตัวสั่นสะท้าน จากนั้นแสงก็เปล่งออกมาจากดวงตาของนาง
ก่อนที่นางจะพุ่งเข้าไปหาฟาง เจิ้งจือ.ไอลีนโนเวล.
”อีกแล้ว?!”ริมฝีปากของ ฟาง เจิ้งจือ กระตุก เขามองไปยัง ปิง หยาง ที่ทำอะไรอย่างไรเหตุผล
หากไม่ใช่ว่าตอนนี้สถานการณ์อันตายมากเขาคงเตะนางออกไปอย่างไม่ลังเล แต่เขาไม่มีเวลาทำเช่นนั้น
แน่นอน…
ปิงหยาง ไม่ได้เป็นภาระของเขาในครั้งนี้
นั่นเป็นเพราะฟาง เจิ้งจือ สามารถสัมผัสได้ถึงเหล่าดวงดาวที่พุ่งเข้ามา เขาไม่มีทางป้องกันได้
คังเยว่ จาก หลิง หยุน!
เขาเคยได้ยินสองคำนี้ตั้งแต่อดีตมันคงเป็นโลกใบใหม่ที่ตาเฒ่านั้นพูดถึง
”ฟางเจิ้งจือ เจ้ารู้ไหมว่าโลกข้างนอกอาณาจักรเซี่ยเป็นยังไง?”
เซียนสวรรค์พักพิงถามขึ้นมาถ้าไม่ใช่หน้าตาที่ดูราวกับนักบวชของเขา ฟาง เจิ้งจือ คงไม่ทนนั่งฟัง
”อาณาจักรอื่นดินแดนอื่น?” ฟาง เจิ้งจือ ตอบ
”เจ้าพูดถูก”เซียนสวรรค์พักพิงพยักหน้าด้วยความพอใจ
”ตาเฒ่าท่านไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”
”เจ้าพูดอะไรอยู่ทำไมเจ้าไม่ลองไปถามถึงชื่อเสียงของข้าจากคนอื่นดูล่ะ? แม้ว่าข้าจะไม่ได้แข็งแกร่งที่สุดในแง่ของพลัง แต่ถ้าเป็นเรื่องการปรุงยาข้านั้นเก่งที่สุดในเหล่าเซียนทั้งสี่!”
”โอ้นั้นคือสิ่งที่ท่านต้องการจะบอกข้า?”
”แค่ส่วนหนึ่งเจ้ารู้ไหมว่าอาณาจักรไหนบ้างที่อยู่นอกอาณาจักรเซี่ย?”
”จักรวรรดินักรบศักดิ์สิทธิ์อาณาจักรจันทรา แล้วก็อาณาจักรเทพสงคราม แค่นั้น”
”อืมทั้งถูกและผิด แต่ช่างมันก่อน แล้วเจ้ารู้ไหมว่านิกายเงาเป็นของอาณาจักรไหน?”
”ไม่มี”
”ใช่แล้ว!”
”ท่านจะเรียกข้ามาเพื่อบอกว่าท่านเป็นเซียนที่เก่งในการปรุงยาที่สุดรวมถึงนิกายเงาของท่านก็แข็งแกร่งจนแทรกซึมไปยังอาณาจักรทั้งสี่ได้ แค่นั้นรึ?”
”แน่นอน!”
”ข้าขอสบถหน่อยได้ไหม?”
”แน่นอนแต่เจ้าควรทำมันตอนที่ข้าไม่เห็น ไม่ได้ยินจะดีกว่านะ”
”เชี่ยเอ้ยตาเฒ่าแก่ ท่านว่างมากหรือไงกัน?!”
”เจ้าเด็กเหลือขอข้าเป็นคนช่วยชีวิตเจ้าเอาไว้นะ ถ้าเจ้ายังทำแบบนี้อีก ชีวิตของเจ้าอาจจะไม่เหลืออะไร”
”ลาก่อนข้าจะไปแล้ว”
”เดี๋ยวก่อนเจ้าเด็กเหลือขอ แม้นิกายเงาจะมีอำนาจเหนืออาณาจักรทั้งสี่ แต่มีอีกขุมกำลังหนึ่งที่เจ้าควรระวังเอาไว้”
”ระวังอะไร?”
”เจ้าอาจจะเคยได้ยินชื่อศาลาเต๋าสวรรค์เจ้าควรจะรู้ถึงผู้ที่มีอักษรสองตัวอยู่ที่หน้าอกของเขา เทียน เต๋า นอกจากนั้นยังมีอีกจำนวนหนึ่งที่เจ้าควรจำไว้
”พวกเขาคือใคร?”
”หลิงหยุน,หยินหยาง,ฟู่อี้, จิวติง!!
”ได้!”
”เฮ้อย่าพึ่งรีบ เจ้าต้องจำพวกนั้นเอาไว้ หนึ่งในพวกนั้นที่เจ้าต้องระวังมากที่สุด…เฮ้ข้ายังพูดไม่จบ! มันเกี่ยวกับเส้นทางไปยังประตูใบใหม่ของเจ้า!”
”ประตูบานใหม่?”ฟางเจิ้งจือ ยิ้มเยาะในขณะที่ตอบกลับ เขาผ่านการล้างสมองพวกนี้มามากมายแล้ว
ในความเป็นจริงตั้งแต่ที่เขาถูกพามาที่นิกายเงาเขาก็พบกับการแสดงพลัง พูดชื่นชมเกี่ยวกับนกายเงาต่างมากมาย
เขาจะโอ้อวดเกี่ยวกับความมั่งคั่งพลังอำนาจ สายข่าว
แรงจูงใจของเขาชัดเจน
เขาต้องการให้ฟาง เจิ้งจือ เข้านิกายเงา
ฟางเจิ้งจือ ไม่สามารถเข้าใจได้ นับตั้งแต่เขาเข้ามาในเงานิกาย เขาได้ช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จด้านธุรกิจเหนือทุกอาณาจักรเป็นอย่างมาก
แต่ชายชรายังคงไม่พอใจ
ที่สำคัญกว่านั้นเขาไม่มีทางเปิดเผยสิ่งที่อยู่ด้านหลังประตูบานใหม่
นอกจากนี้เขายังคอยบ่นจู้จี้ทุกวัน
”เข้าร่วมนิกายเงาเจ้าเด็กน้อย ตราบใดที่เจ้าร่วมกับพวกเรา ประตูใบใหม่กำลังรอเจ้าอยู่ เจ้าจะได้สัมผัสกับโลกใบใหม่ที่มีสีสันและน่าตื่นเต้น เจ้าจะสามารถเห็นปลาที่บินได้ หรือแม้แต่สุนัขที่นอนอยู่ก้นทะเล…”